48 สงครามอาร์คแลนด์ ⑤ ผู้พิทักษ์ประตูเมือง
48 สงครามอาร์คแลนด์ ⑤ ผู้พิทักษ์ประตูเมือง
【—มุมมอง ทหารม้า—】
ด้วยเสียงที่เหมือนฟ้าผ่าหมุดถูกทำลายและประตูเมืองเปิด
「ทับมัน!!!」
ทหารม้าหอกยาวได้เตรียมตัว พุ่งเข้าตีไปที่ประตูเมือง
ให้เมืองของตัวเองกลายเป็นฐานทัพของศัตรู และพวกไพร่แค่ยืนดู พวกแกทั้งหมดเป็นคนทรยศ! ข้าจะฆ่าพวกแกทั้งหมด
เหมือนกบฏมากมายที่ถูกปราบในอดีต ชาวเมืองเป็นพวกขี้ขลาดและเล่ห์เหลี่ยมเยอะ เมื่อลอร์ดศักดินาได้ถูกปลดยามเมืองและเหลืออยู่โดยไม่มีการปกป้อง ถ้าคนในเมืองนี้กล้าพอที่จะซัดเขาให้ตายด้วยความคิดแบบฝูงชน อย่างไรก็ตาม เมื่อศัตรูมากความสามารถมากพวกเขาจะออกมาเพื่อร้องขอชีวิต
ไม่จำเป็นต้องพูด ข้าจะไม่ฟังคำของของพวกเขา
การต่อสู้ต้องกลางวันนั้นผลไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่เพื่อจะแก้มันฉันจะอาละวาดในการต้อสู้นี้ให้สุดหัวใจ มาสรุปนี่โดยเร็วเถอะ ข้อรอคอยการทำลายฐานของศัตรูและทำภารกิจของข้าให้สำเร็จ
「บางอย่างแปลกไป」
ทิวทัศน์ได้หมุนเห็นแนวตั้งจากนั้นสิ่งต่างๆเปลี่ยนเป็นสีดำ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำจนถึงท้ายที่สุดว่าหัวเขาได้บินอยู่ในอากาศ
—————————————————————
【—มุมมอง เอเกอร์—】
「นั่นสองคนแล้ว!」
สองคนที่ผ่านม่าได้ถูกฟันหัวขณะที่พวกเขายืนอยู่บนทาง ตามสิ่งนั้นไป ผมแทงม้าของพวกเขาด้วยการแทงบัลดิชและลากมันไปกับพื้น ทหารที่หล่นไปที่พื้นหนีไม่ทันเวลาและถูกขยี้หัว ระหว่างที่ผมจบชีวิตม้าโดยการเฉือนคอมัน
ผมรู้สึกเสียใจกับม้าแต่ผมทิ้งศพไว้ข้างหน้าประตู เพื่อที่พวกเขาจะวิ่งมาระหว่างอยู่บนหลังม้าไม่ได้ ผมไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาจะกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางที่สูงขนาดนี้
「ใครน่ะ?!」
「เคลียร์ทาง」
หนึ่งในทหารม้าศัครูได้เสียงดัง ผมเลยโยนหอกของทหารที่ตายเพื่อปิดปากของเขา คำพูดนั้นไม่จำเป็น ผมจะฆ่าพวกนาย ดังนั้น พวกนายทั้งหมดควรจะพยายามฆ่าผม มันเรียบง่าย ใช่มั้ยล่ะ?
ผมฟันทหารที่พยายามจะข้ามประตูเมืองตาย ที่มาระหว่าที่ยังขี่ม้าได้อย่างไรก็ไม่รู้ ทหารม้าได้ลงม้าอย่างรวดเร็วและเตรียมหอก พยายามจะแทงผมให้ตาย แต่ผมใช้แอ่งคู่พพื่อตัดหัวหอก หัวของทหารที่ตะลึงได้นั่นถูกฟันขาดครึ่งอย่างสะอาดทันที
—————————————————————
ผมทำทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ เหวี่ยงบัลดิชของผม ฟันด้วยดาบ และโยนอาวุธที่ตกกลับไปหาพวกเขา
เมื่อประมาณ 30 คนได้เปลี่ยนเป็นศพลูกปืนธนูได้โดนกับไหล่ผม มันดูเหมือนบางคนได้เล็งผมด้วยปืนธนูข้างหน้าประตู ความเจ็บที่คมวิ่งผ่านตัวผม แต่ผมยังสู้ได้
ผมดึงลูกปืนธนูที่ยื่นออกมาจากแผล และขยี้หน้าของทหารที่วิ่งมาหาผมเพราะคิดว่ามีช่องเปิด แต่อีกครั้ง ลูกปืนธนูได้มาทีละลูกหลังจากนั้น แต่ผมจะไม่กินนั่นง่ายๆเป็นครั้งที่สอง ผมจับผ้าคลุมของผมและนำมันมาที่หน้าตัวผม แม้ผ้าจะไม่สามารถป้องกันลูกธนูจากปืนธนู นี่เป็นผ้าพิเศษที่ป้องกันอาวุธยิงได้ เหมือนลูกธนู จากการทะลุผ่านมา
ผมดูรูในตัวผม มันลึก เลือดไหลออกมา แต่มันไม่ใช่อวัยวะสำคัญ มันไม่เหมือนว่าเลือดได้พุ่งออกมาด้วย ดังนั้นผมสามารถจะยื้อต่อได้อีกซักพัก
เพราะผมดูเหมือนจะเงียบ พวกเขาคิดว่ามันเป็นโอกาสที่จะพุ่งเข้ามา ผมเหวี่ยงบัลดิชและดาบเพื่อพบกลับคลื่นคนที่ถาโถมมา
เปิดผ้าคลุมผมออกออกและกวัดแกว่งบัลดิช มันมีเสียงของบางอย่างระเบิดและเสียงของสี่คนตกไปที่กองของศพ จากนั้นบางอย่างได้ระเบิดและสามเสียงตก
ขาดไปคนหนึ่ง? เมื่อผมตรวจดู ผมเห็นว่ามีไขมันจากกายคนอยู่ที่หอก ดังนั้น มันทำให้บัลดิชของผมเสียความคมไป ทำให้คนสุดท้ายฟันไปแค่ครึ่งเดียว มันขยะแขยงมากเกินไปดังนั้นผมใช้มือผมเพื่อฉีกมันออก
「ชั้นยังไม่ตายนะรู้มั้ย? พวกนายจะทำยังไงเกี่ยวกับมันล่ะ?」
ผมหัวเราะระหว่างที่กวัดแกว่งหัวที่ผมบิดออกด้วยมือเดียว
「ปืนธนู! ไปข้างหน้าและฆ่าสัตว์ประหลาดนั่นซะ!」
ช่างขี้ขลาด ผมโยนหัว และอีกครั้งที่ผมใช้ผ้าเพื่อกันกระสุนปืนธนู
ฉากที่เหงื่อและความตายเต้นรำ แต่การอยู่ตรงกลางมันนั้นไม่ได้รู้สึกแย่
หอกได้แทงขาผม ตอบสิ่งนั้น ผมใช้ดาบเพื่อแทงหัวเขา
บางคนแทงดาบเข้ามาในช่องว่างของเกราะที่ถูกขยี้ ตอบสิ่งนั้น ผมฟันเขาขาดครึ่ง
แผลของผมเพิ่มมาทีละแผลทีละแผล แต่ให้ใจผมสงบนิ่งเมื่อเทียบกับจำนวนเลือดที่ไหลออก ผมตรวจร่างกายของผมอย่างสงบ ผมมีแผลไปทั้งตัวแล้ว แต่ผมยังไม่มีแผลถึงตาย ผมสู้ต่อได้
ทหารคนหนึ่งได้มาข้างหน้าและบอกชื่อตัวเองว่าเป็นอัศวินบางคน แต่ผมไม่ได้ยินอะไร ผมเหวี่ยงบัลดิชไปที่เขา แต่หลังจากที่ได้สู้และปะทะมาหลายปี มันก็ได้ถึงขีดจำกัดและบัลดิชของผมพัง หัวใจผมยังสงบ แต่ผมเศร้าเพราะหนึ่งในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับลูซี่พัง
อัศวินดูเหมือนจะร่าเริงกับความสำเร็จเขา แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกเขารู้สึกเหมือนว่าชนะแล้ว เขาได้ทำหูผมเจ็บ ดังนั้นใส่ความแค้นที่บัลดิชหัก ผมแทงขวานด้ามยาวที่หักและเขาได้เงียบ การบังคับเหล็กหักให้เข้าไปในตัวเขาดูเหมือนจะเจ็บ
ผมใส่พลังเข้าไปในขาของผมและดึงแอ่งคู่ขึ้นมาและถือมันในตำแหน่งเหนือหัว ศัตรูได้เข้ามาใกล้ขณะที่ผมฟันพวกเขาตายต่อเนื่อง 1 2 3 4 5…ตลอดทางจนถึงประมาณ 20
ผมได้หมดลมหายใจและวิสัยทัศน์เริ่มมืด ผมอาจจะเสียเลือดมากเกินไป
ผมยังตายไม่ได้ ผมยังไม่ได้เติมเต็มสัญญาที่ให้ไว้กับลูซี่เลย มีผู้หญิงในคฤหาสน์ที่รักผม และยอมให้ผมทำตามใจปรารถนา มันจะสูญเปล่าที่ตายที่นี่
「พว-พวกนายทำอะไรน่ะ?! ทหารม้าหอกเหล็กได้ถูกกดไว้ด้วยคนคนเดียว!」
「แต่กัปตัน! เค้าได้ฟันตายไป 100 คนแล้ว…」
「นายควรจะไป! ไปข้างหน้าแล้วฟันเค้า! รายวัลจะเป็นอะไรก็ได้ที่นายต้องการ」
「ไม่มีทาง! ผมไม่สามารถจะทำให้มันเป็นไปได้!」
นั่น 100 คนเหรอ? มีแต่ 1400 ที่เหลือแต่มันรู้สึกไกล
ทหารที่น่าสงสารที่หัวหน้าได้บอกให้พุ่งเข้าตีได้ถูกฟันขาดครึ่ง
「นั่น…101?」
เมื่อผมหัวเราะ อัศวินของศัตรูและผู้ติดตามได้ถอยหลังไปเล็กน้อย
—————————————————————
【—มุมมอง อีริช—】
ที่ตั้งแคมป์กองทัพกลาง ผู้บัญชาการกองทัพ กองกำลังหลัก
「ปล่อย ปล่อย ปล่อย ปล่อย!!!!!!」
สาวที่อารมณ์ไม่มั่นคงได้ถูกกดลงโดยอากอร์ ผู้ช่วย ถ้าเขาปล่อยมือของเขา เธอจะมุ่งหน้าไปที่เมืองอย่างรวดเร็ว
พวกนั่นในกองพลที่สามกองพันผสม ได้เข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังหลัก ถ้าพวกเขาได้ออกไปจากสนามรบ พวกเขายังมีหน้าที่สำคัญที่จะต้องเติมเต็ม แต่ผู้ติดตามของเขา แม้ว่าเธอยังเล็กมาก เธอยังเป็นคนรักของเขาด้วย การระเบิดอารมณ์ของเธออยู่ในสภาพที่ย่ำแย่
—————————————————————
การต่อสู้ตอนกลางคืนเริ่มแรกได้ดันเราถอยเพราะผลของการโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ตอนนี้ มันได้พัฒนาไปเป็นความได้เปรียบของฝ่ายเรา ศัตรู ด้วยกันกับ พวกของเรา ได้เหนื่อยหลังจากการต่อสู้ในเวลากลางวัน ดังนั้นความต่างระหว่างกองทัพของเรา ที่พักเล็กน้อย และศัตรูที่เตรียมเพื่อโจมตีตอนกลางคืน ได้แสดงออกมา
ชัดเจนว่า ทหารของศัตรูหายใจไม่ทันเนื่องจากความล้า นี่ไม่สมควรจะอยู่นอกเหนือความขาดหวังของเขา ศัตรูหวังที่จะเผาเมืองและให้ทหารม้าหอกเหล็กพุ่งเข้าตีเราจากข้างหลัง
ด้วยเมืองที่ลุกไหม้ กลุ่มทหารที่สับสนจะถูกรีบเข้าหาโดยทหารม้า มันควรจะเป็นผลกระทบที่มากพอที่จะจบสิ่งต่างๆ
สำหรับตอนนี้ ทีมหอกยาวจะยื้อพวกเขาไว้ แต่กับทหารม้าหนัก 1500 คนพวกเขาจะไม่ใช่อะไรนอกจากกระดาษ
แต่พวกเขาไม่มา ถ้าเมืองได้ถูกยึดแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็จะเผาและเชิดธงอาร์คแลนด์ที่กำแพงเมือง
มันไม่ใช่บางอย่างที่ชายคนเดียวหวังว่าจะหยุดได้ ด้วยเวลาที่เขาซื้อให้เรา เราได้เข้าใกล้ศัตรูอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าช่วยเขาไม่ได้แล้ว นั่นธรรมชาติ ถ้าเขารอดตัวคนเดียวต่อทหารม้า 1500 คน นั่นจะทำให้เขาเป็นการเกิดใหม่ของพระเจ้าแห่งการต่อสู้หรือเจ้าปีศาจ การเสียสละของเขาจะไม่สูญเปล่า ถ้าเราขยี้กองกำลังหลักของศัตรูได้ก่อน พวกเขาจะไม่สามารถเผาเมืองได้และผู้ชนะจะถูกตัดสิน
「เราจะเริ่มจากปีกขวา เน้นไปที่ยิงธนู! พวกมันควรจะเป็นธนูไฟ เผาศัตรูระหว่างที่ทำให้ที่นี่สว่างขึ้น」
「เร็วเข้า! ถ้าชั้นไม่รีบไปโดยเร็วเค้าจะตาย! เอเกอร์-ซามะจะตาย!」
การต่อสู้ดำเนินต่อไป เสียงกรีดร้องของซีเลียได้ร้องอยู่ในท้องฟ้าที่มืดมิด
—————————————————————
【—มุมมอง เอเกอร์—】
「15…2? หรือมัน 153?」
มันยากที่จะนับประหว่างที่สู้ ผมตอบโต้ระหว่างที่จับหอกที่แทงผมจากด้านข้าง แต่ผมดึงมันไม่ออก และตัวของผมได้ถูกแทงด้วยกระสุนปืนธนูหลายลูก ขาขวาของผมได้ถูกฟันและขยับตามที่ต้องการไม่ได้
ถ้าพวกเขามาเพื่อโจมตีผมทีเดียวผมจะทนป้องกันมันไม่ได้ทั้งหมด แต่ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น บริเวณรอบประตูเมืองได้มีศพกองกันถึงเอวแล้ว มันกลายเป็นที่ที่จะวิ่งไม่ได้
「อืม…! พวกเราด้วย!」
ข้างหลังผม ชาวเมืองได้รวมตัวกัน ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาจะแทงผมจากข้างหลังหรืออะไรบางอย่าง แต่เห็นว่าถ้าทหารม้าหอกเหล็กเข้ามาพวกเขาจะถูกฆ่าด้วย พวกเขาอยากจะให้ความร่วมมือกับผม
แต่ผมปฏิเสธพวกเขา มันไม่มีอะไรที่พวกเขาทำได้ ถ้าผมถอยและให้พวกเขาปกป้องประตูเมือง มันจะถูกฝ่าอย่างง่ายดาย
เพื่อที่จะหยุดทหารม้า 1500 คนคุณจำเป็นต้องทำมันในที่แคบ ถ้าพวกเขาออกมาและขยายวงกว้าง งั้นไม่มีอะไรที่คุณจะทำได้อีก
ผมเรียกผู้หญิงที่หยิบไม้และดูเหมือนกำลังจะร้องไห้
「เธอไม่ต้องกังวล กลับบ้านไปแล้วนอนเถอะ เมื่อแผลของชั้นหาย ชั้นจะไปหาเธอตอนกลางคืน」
ระหว่างที่ไม่เสียจังหวะที่จะจีบ ผมหันไปเผชิญหน้ากับศัตรูที่เข้ามาหาผม
「ขยับขาไม่ได้นั้นไม่สะดวกเลย」
ผมจับดาบของผม และให้เขาแทงคอตัวของเขาเองกับมัน ดำเนินต่อไปกับคนที่สองและคนที่สาม ผมฟันเขาไป
「เอ่อ…156 ใช่มะ? มันยังมีอีกเยอะเลย」
เมื่อผมมองขึ้น พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น ถ้าผมได้มองจากข้างบนกำแพงเมือง มันจะสวยโดยไม่ต้องสงสัยแน่นอน
—————————————————————
【—มุมมองบุคคลที่สาม อีริช—】
กองทัพกลาง
「ส่งเสียงแห่งชัยชนะ!!」
「โออออออออออออ้!!」
ทหารอาร์คแลนด์วิ่งและกระจายออกไป ทหารที่สู้แม้ว่าจะล้าในที่สุดก็ถึงขีดจำกัดแล้ว
มันเป็นการทรุดเล็กๆ แม้ว่ามันแพร่ผ่านทั้งกองทัพไม่ในพริบตา ศัตรูได้ยอมแพ้ในการควบคุมเมืองและเลือกที่จะถอยเป็นระบบ
แต่อีริชไม่ได้ไร้เดียงสาและไร้ความสามารถ ดังนั้นเขาไม่ปล่อยให้พวกเขาไปฟรี กองทัพกลางเคลื่อนไหวในทุกทิศทาง และโจมทีศัตรูทุกที่ เอาชนะพวกเขา ไล่พวกเขา และทำให้พวกเขาบาดเจ็บอย่างหนัก
เขาอยากจะไล่ศัตรูที่หนีแล้ว แต่การไล่ศัตรูที่หนีอาจจะนำไปสู่การโจมตีสวนจากแคมป์ของศัตรู ซึ่งอันตราย ยังมีเป้ามูลค่าสูงเหลืออยู่
ได้ทำลายพวกศัตรูด้วยกำลัง เขาได้คิดเกี่ยวกับจะจัดการจากเรื่องที่หลืออย่างไร และอยากจะกำจัดทหารม้าหอกเหล็กตอนนี้
เขาออกคำสั่งเมืองสั่งให้แต่ละทีมไปที่เมืองแต่เมื่อเขาทำอย่างนั้น ซีเลียละอากอร์กระโดดขึ้นไปบนหลังม้าและเตะมันเพื่อควบไป
「ตามมา! ชั้นจะไปช่วยผู้บัญชาการกองพัน!」
ไม่มีใครที่เชื่อจริงๆว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แต่แบบนั้น ซีเลียเป็นคนเดียวที่จะพุ่งเข้าไปที่นั่น
ซีเลียเป็นตัวนำโชคของกองพลที่หนึ่งกองร้อยทหารม้า มีหลายคนที่คิดว่าเธอชอบที่จะจู้จี้ และเธอพยายามจะสูงขึ้นโดยการเขย่ง แต่เขาก็ยังเห็นว่าเธอน่ารัก ถ้าเขาปล่อยให้เธอตายใต้จมูกเขา งั้นมันจะมีผลกับความภาคภูมิใจของเขาในฐานะลูกผู้ชาย
ตามสาวนั้นไป ทั้งกองทัพได้เคลื่อนไหว ชัยชนะนั้นสำเร็จแล้วที่เหลือนั่นคืออาบความรุ่งโรจน์ในชัยชนะ
—————————————————————
「นั่นหมายความว่ายังไง?」
ข้างหน้ากำแพงเมือง กำแพงของศพที่สร้างจากทหารม้าหอกเหล็กได้กองกันที่ประตูเมืองอยู่
น่าจะมีมากกว่า 1000 คนเหลืออยู่ พวกเขาควรจะเข้าไปในเมืองแล้วในหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ แต่พวกเขายังติดอยู่ข้างนอก
「พวกเค้ายังเข้าไปในเมืองไม่ได้…นั่นหมายถึงเค้ายังมีชีวิตอยู่!」
กองพลทหารม้าที่มาจากข้างหลังก็รู้นั่นด้วย และเริ่มเร่งความเร็ว
พวกเราได้รับความสูญเสียไปบ้างที่น้องกว่า 100 แต่มันยังมากพอที่จะเห็นได้ มันหมายถึงกองทัพของอาร์คแลนด์ได้ถูกกำจัดแล้ว และกำลังเสริมทำให้ทหารม้าหอกเล็กอยู่ในความตื่นตกใจ ไม่นาน ทหารราบไม่กีพันคนได้ปรากฏมาด้วยกันกับกองพลทหารม้าที่หนึ่ง มันเปลี่ยนเป็นการทะเลาะวิวาทเต็มกำลัง เพราะมีการ
เพราะมีการงัดขนาดใหญ่ตรงหน้าประตูเมือง พวกเขาไม่สามารถจะจัดแถวต่อสู้ได้อย่างถูกต้องด้วยแต่ละคนพยามจะเป็นคนแรก พวกเขาได้เริ่มที่จะถอย หอกได้แทงจากด้านข้าง และทหารราบได้กวาดขาม้าทำให้มันล้ม
โดยไม่แม้แต่ชำเลือกมองภาพตรงหน้าเธอ ซีเลียได้รีบไปที่ประตูเมือง ทั้งหมดรอบประตูเมืองมีศพนับไม่ท่วงกองกัน แบบนั้น มันกันวิสัยทัศน์อะไรที่อยู่ข้างหลังมัน ม้าของเธอเสียสมดุลย์และล้มลง
เหมือนเธอไม่เจ็บเมื่อเธอตกม้า เธอไต่ภูเขาของศพและเข้าไปที่เมือง
และเธอเจอเขา ด้วยทั้งตัวของเขาชุ่มไปด้วยเลือด เขาใช้หอกของศัตรูเป็นไม้ค้ำเพื่อหนุนตัวเขาเอง ดาบที่จับอยู่ในมือเป็นดาบล้ำค่า แองคู่ มันเป็นดาบที่เขาได้อยู่ด้วยกันครั้งหนึ่ง
「เอ-เอเกอร์-ซามะ?」
เขายืนอยู่แต่ไม่เปิดตา กลัวสิ่งที่แย่ที่สุด เธอรีบไปหาเขา แต่เขาได้ถูก้นของซีเลียเมื่อเธอมาเพื่อกอดเขา
「เธอเป็นผู้หญิงมากขึ้นทุกที…บางทีมันได้เวลากินเธอแล้ว」
「พูดแบบนั้นในเวลาแบบนี้…หนูพร้อมมาตลอด…」
ระหว่างที่ยังกอดและมีความสุขไปกับความสู้สึกที่นุ่มของสาวที่ร้องไห้ เอเกอร์หมดสติ
—————————————————————
เรื่องพิเศษ ชีวิตประจำวันของมาเรีย ④ ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อยก่อนจะมีคำสั่งบุกเข้าไปในเขตศัตรู
【—มุมมอง มิทตี้—】
「อ้า…มิทตี้ ชั้นขอโทษ! ชั้นทำชาหก…เธอเช็ดมันให้หน่อยได้มั้ย?」
เช็ดเองซี่! และมากกว่านั้น คุณเป็นคนที่ทำมันหกบนพรม!
「มิทตี้ น้ำตาลเราหมด ออกไปซื้อมาหน่อยได้มั้ย?」
อย่ามาบอกนั่นกับหนูตอนที่หนูเพิ่งกลับมาจากการช้อปปิ้งซี่!
「มิทตี้ ชั้นอยากจะลองเสื้อผ้าใหม่เธอหนุนหน้าอกชั้นหน่อยได้มั้ย?」
มันใหญ่ไปแล้ว! แม้ว่าใช้สองมือ มันหนักเกินไป! คุณไปกินอะไรมาที่ให้มันกลายเป็นแบบนี้?!
—————————————————————
【—มุมมอง มาเรีย—】
ในตอนเย็น เมื่อการเตรียมอาหารเย็นเสร็จ มิทตี้ก็เสร็จการทำความสะอาดและพักอยู่ในครัว
มิทตี้ได้ส่งเสียงบ่นเกี่ยวกับนนน่า-ซังด้วยหน้าที่สลดใจ
「นนน่า-ซัง… เธอเกลียดหนูจริงๆ ไม่ใช่เหรอ? แต่หนูจำไม่ได้ว่าทำอะไรแย่ๆกับเธอไว้เลยนะ」
ไม่ มันเหมือนกับนนน่า-ซังได้ทำแบบนั้นกับทุกคน ยกเว้นเอเกอร์-ซังมากกว่า
「มันโอเค~ ไม่มีใครเกลียดเธอมิทตี้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเด็กดี~」
「ออุ~ หนูรักคุณมาเรีย-ซัง แต่หนูไม่เก่งกับนนน่า-ซัง หรือแทนที่จะอย่างนั้น หนูไม่ชอบเธอ เธอใจร้ายเกินไป~」
ยังไงซะ นนน่า-ซังไม่ใช่คนไม่ดีด้วย แต่บางทีเธอแค่ไม่เสียท่าทีขุนนางของเธอไป ฉันจะให้เธอรู้เรื่องนี้ตรงๆ แต่อย่างแรก ฉันต้องลบความขัดแย้งภายในระหว่างพวกเธอก่อน
「มิทตี้ เธอโอเคคืนนี้มั้ย? เธอจะมาที่ห้องชั้นระหว่างที่ทุกคนหลับมั้ย?」
「คะ? หนูจะโอเค แต่มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?」
ฉันหัวเราะคิกคักระหว่างที่ทำให้เธอมั่นใจและบอกเธอว่ามันโอเค เธอจะตกใจอย่างแน่นอน
—————————————————————
【—มุมมอง มาเรีย—】
ภายหลังคืนนั้น
「สวัสดีตอนเย็น~ ขอโทษที่มารบกวนดึกๆ」
「เพราะทั้งหมดชั้นเป็นคนเรียกเธอมา ยังไงซะ ไปเถอะ」
มิทตี้สงสัยว่าเธอจะไปไหนขณะที่เธอเอียงหัวของเธอ; ฉันดึงมือของเธอไปและมุ่งหน้าไปที่ห้องของนนน่า
「เอออ๋! ถ้าเราไปในเวลานี้ เธอจะบอกหนูหลายอย่าง…」
「ไม่ต้องกังวล เพราะมันเป็นตานนน่า-ซังวันนี้ เอาหูไปพิงประตูแล้วฟังซิ」
มิทตี้ได้วางหูของเธอไปที่ประตูอย่างขลาดๆ มือเธอได้มาที่ปากและเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง
「มาเรีย-ซัง! ข้างในคือ?!」
วันนี้ นนน่า-ซังได้รับความเสน่หา ถ้าอยู่เงียบๆ แม้ว่าโดยไม่ต้องแนบหูกับมัน คุณก็จะสามารถได้ยินเสียงคราญของนนน่า-ซังได้
「ชั้นคิดว่าตัวของนนน่า-ซังได้อยู่ช่วงการเล้าโลม ถ้าพวกเขาเอาจริงเสียงของเธอจะไม่เป็นแบบนั้น」
เสียงของเธอดังอย่างหน้าตกใจ แพ้แค่คาร์ล่า-ซัง
「ทำไมคุณบอกสิ่งนี้กับหนูล่ะ?」
「อุฟุ มิทตี้แอบมองเมื่อมันเป็นตาชั้น ใช่มั้ยล่ะ?」
มิทตี้ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
「ไม่มีทะ-! บางอย่างแบบนั้น!!」
「ถ้าเธอทำเสียงดังขนาดนั้นพวกเค้าจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่~ เธอควรจะดูมันอย่างตั้งใจว่านนน่ามีฝั่งดีๆด้วย~」
เธอปฏิเสธมัน แต่เธอได้คุ้นเคยกับการเปิดประตูโดยไม่มีเสียงแล้ว มันดูเหมือนเธอค่อนข้างมีประสบการณ์กับเรื่องนี้
เมื่อประตูเปิด เสียงของนนน่าดังขึ้น
「ดู ตอนนี้พวกเธอได้เป็นหนึ่งเดียวกัน~」
「น่าทึ่งเธอเอนไปข้างหลังและกรีดร้องมากมาย…」
「นนน่าได้ขึ้นไปอยู่ข้างบน~」
「หน้าอกที่น่ารำคาญของเธอเด้งอยู่ อ๊ะ เธอนั่งลงแล้ว」
จริงๆแล้ว ตั้งแต่ซักพักที่แล้ว ตาของฉันได้สบกับเอเกอร์-ซังแล้ว ฉันชี้ไปที่มิทตี้และยิ้มและแสยะยิ้ม แน่นอนว่าเขาโชว์ให้มิทตี้ดู
「อ่ะร้าร้า เธอถูกยกแล้ว」
「เขาจะทำบางอย่างแบบนั้นด้วย!? นนน่า-ซังไม่ได้พูดซักคำเลย」
เธอส่งแค่เสียงของเธอ และถ้านั่นเสร็จงั้นมันจะได้เวลาแล้วฉันคิดว่า
「ดูให้ดี นนน่าจะน่ารักไม่นานนี้ 」
「เอ๋? อะไรจะ…อ๊ะ!」
นนน่า-ซังกรีดร้องและกระตุก เธอหมดพลังของเธอและกลายเป็นเหมือนหุ่นกระบอก
「นั่นคือ นั่นใช่มั้ย?」
「ใช่ เธอถึงจุดสุดยอด แต่มันจะไม่จบจนกว่าเอเกอร์-ซังจะพอใจ~」
เขาใส่นนน่า-ซังที่ห้อยเหมือนหุ่นกระบอกแรงขึ้น นนน่าซังยังถูกเย็ดอยู่แต่ไม่ว่ามันเป็นสัญชาติญานหรือไม่ แขนและขาเธอยังเกี่ยวอยู่
「ให้หนู ลูก เด็ก..」
เธอได้พึมพำจับใจความไม่ได้ และพูดมันซ้ำๆ เธออยากได้ลูกของเขาจริงๆ ไม่ใช่เหรอ
「มันจะได้เวลาแล้ว」
「.....」
มิทตี้กลืนน้ำลาย เธอละสายตาไปไม่ได้ เอเกอร์-ซังก็ทำมันให้ทุกอย่างถูกเห็นจากที่นี่ด้วย การเคลื่อนไหวของเขาหยุด อาา ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างการเทเมล็ดพันธุ์เข้าไปในเธอ
「มาเรีย-ซัง มันเป็นสิ่งนั้น ใช่มั้ย?」
「ใช่ ตอนนี้ เค้าได้ฝังเมล็ดพันธุ์ของเขา~」
เพราะเอเกอร์-ซามะนั่นน่าทึ่ง มันจะใช้เวลา 30 วินาที
「นนน่า-ซัง เธอโอเคมั้ย?」
「ใช่ จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่มีความสุขที่สุดตอนนี้」
หลังจากทุกอย่างจบ เอเกอร์-ซังได้นอนกางแขนการขาเหมือนตัวอักษร 大 นนน่ากลับมามีสติและทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีค่าของเขา
「ดูซิ ไม่ใช่ว่านนน่า-ซังน่ารักเมื่อเธอพยายามจะบริการเค้าเหรอ? ปรกติแล้วเธอมีฝั่งที่ประชดประชัน แต่ถ้าเธอดูนนน่าแบบนี้ เธอเป็นแค่ผู้หญิง」
มิทตี้กระซิบอย่างเงียบๆ
「นั่นเป็นเพียงแค่ตรงหน้าชายที่เธอรักเพราะเธอประจบเค้า ไม่ใช่ว่านั่นมันไม่สม่ำเสมอเหรอ?」
「เธอพูดอะไรเหรอ?」
「ไม่ มันไม่มีอะไรค่ะ! เอาเรื่องนั้นไว้ก่อน สำหรับหนู หนูกลัวของของผู้ชาย…ไม่ว่าหนูจะคิดยังไง มันเป็นไปไม่ได้! ตัวอย่างคือรูของหนูมันจะระเบิดแน่นอน!」
「อ้าาา~ นั่นเป็นเพราะของของเอเกอร์-ซังมันค่อนข้างพิเศษ คนปรกติมีของที่ประมานครึ่งหรือสามเท่าของขนาดนั้น」
นั่นจากเมลิสซ่า-ซัง ฉันเทียบไม่ได้เพราะฉันไม่ได้เห็นของชายคนอื่น
「อ-อย่างนั้นเหรอ!?」
「ใช่ แล้วก็จำนวนของเมล็ดพันธุ์ที่ออกมาจากชายปรกติ จะไม่ขยายท้องของเธอมากขนาดนั้นด้วย ในฐานะผู้ชาย เค้าเป็นคนที่ค่อนข้างน่าทึ่ง~」
ถ้าคนแรกที่เจอคือเอเกอร์-ซัง จากนั้นไปเห็นผู้ชายคนอื่นคุณน่าจะผิดหวัง หรือบางทีเธออาจจะเขาร่วมกับเราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเราทั้งแบบนั้น
「เฮ้มิทตี้~? เธอได้คิดเกี่ยวกับการเป็นผู้หญิงของเอเกอร์-ซังมั้ย」
ในจุดนี้ ทำไมไม่ถามเธอชัดๆล่ะ
「เอออ๋! หนูไม่รู้อะไรบางอย่างแบบนั้น มันน่ากลัวนิดหน่อย」
แต่มันไม่เหมือนว่าเธอเกลียดมัน ถ้าเธอเป็นแบบนี้ เธออาจจะพร้อมกินพรุ่งนี้ เอเกอร์-ซามะ ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะชอบผู้หญิงเด็กๆมากกว่า แต่เพราะมิทตี้ที่มาได้โตอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในพวกเขาแล้ว
มิทตี้ได้กระสับกระส่าย และดูเหมือนจะไม่พอใจ เหมือนบางอย่างได้ขาดไป มันเป็นเพราะฉันอยู่ที่นี่ เธอเลยทำบางอย่างที่สำคัญไม่ได้ล่ะสิ?
「ยังไงซะ ชั้นจะกลับไปที่ห้องของชั้น อย่าอยู่นานไปล่ะ」
「คะ-ค่ะ มาดาม」
「แล้วก็อีกอย่างนั้น ชั้นจะให้บางอย่างที่เธอใช้กับนนน่า-ซังได้」
ฉันได้นำหูของมิทตี้เข้ามาใกล้
「ไม่มีทางน่า! เธอจะทำบางอย่างแบบนั้นเหรอ!? คาร์ล่า-ซังจะหัวเราะเธอ ถ้าเธอรู้!?」
「อุฟุฟุ ฝันดีนะ」
แม้ว่า ฉันคิดว่าเธอจะรอจนกว่าฉันจะไปที่ห้องก่อนเธอจะลดกางเกงในของเธอ…..
—————————————————————
【—มุมมองของ มิทตี้—】
「มิทตี้! ใบชาหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าชั้นบอกเธอให้ไปซื้อนี่เหรอ?」
คุณไม่ได้พูดนั่นเลย และความจริงที่ว่าจำนวนมันลดเร็วเพราะคุณได้ดื่มมันเหมือนน้ำ แต่วันนี้หนูจะไม่กระทืบเท้าในความโกรธ เพราะหนูมีอาวุธที่ทรงพลัง
「หนูขอโทษ เมื่อวานนี้ หนูได้ทำความสะอาดบริเวณคฤหาสน์และมันใช้เวลาของหนู」
「ทำความสะอาดคือหน้าที่ประจำของเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมอ้างแบบนี้」 「ขอโทษ แต่มันดูเหมือนว่ามีบางคนที่มี ‘อุบัติเหตุ’!」
นนน่าได้แข็งไปกระทันหัน
「มันได้กระจายไปทั่วมากเกินไป บางทีหนูคิดว่ามันอาจจะเป็นน้ำจากหน้าต่าง มันยังไม่อยู่ที่นั่นเมื่อหนูทำความสะอาด ‘ตอนเย็น’」
นนน่าได้แดงไปถึงคอและจับแก้วที่ว่างเปล่าของเธอและแกล้งทำเป็นจิบมันโดนการใส่มันเข้าไปที่ปาก
「ชั้นหวังพึ่งเธอให้ไปซื้อมันพรุ่งนี้เมื่อเธอไปช้อปปิ้งนะ ชั้นยุ่ง ชั้นเลยจะไปแล้ว!」
นนน่ารีบลนลานออกจากห้องของเธอเอง
—————————————————————
【—มุมมองของ มิทตี้—】
「เหมือนที่ชั้นพูด มันมากจนคนเห็นได้! มันเป็นเอเกอร์-ซามะที่ทำมัน! การถูกโอบกอดโดยเค้าไม่มีอะไรเกี่ยวกับมันเลย」
「เธอพูดถึงเรื่องอะไรกัน พึมพำอย่างนั้นมันน่าขยะแขยง มันไปถึงจุดที่ว่าสมองของเธอถูกควบคุมโดยหน้าอกเหรอ?」
เมินความเห็นที่เยาะเย้ยของคาร์ล่า นนน่าจากไป
หนูชนะ ในที่สุดหนูก็ชนะ! ผู้หญิงร้ายนั่นถูกทำลายแล้ว หนูได้ตากผ้าในอารมที่ดีที่สุดวันนี้ ระหว่างที่หมุนตะกร้าที่เต็มไปด้วยผ้า หนูออกจากสวนมา พระอาทิตย์สวยวันนี้; มาเพิ่มจำนวนของการเวียนเถอะ
「โอ้ย!」
หนูชนกับบางอย่างและเซไปทั่ว ตระกร้าลงพื้นอย่างมั่นคง และอย่างไรก็ไม่รู้ผ้าไม่หก…เลอะ…
ตรงหน้าของหนูเป็นซีเซียที่หมุนข้างบนเป็นข้างล่างอยู่
ต่อจากเธอเป็นมาสเตอร์ที่ยิ้มอย่างขมขื่น; พวกเขาได้ฝึกวิชาดาบกันในสวน มันดูเหมือนเธอล้มเพราะหนูไปชนเธอจากข้างหลัง
「โอ้ววี่…ระวังหน่อยสิ!」
ซีเลีย-ซังตะโกน แตะเธอยังไม่รู้สถานการณ์ของเธอเอง
「ก้นที่หน้ารักของเธอโผล่ออกมาแล้วน่ะ」
มาสเตอร์ได้ชี้ระหว่างที่หัวเราะ
ใช่แล้ว เพราะหนูได้จับปลายผ้าของกางเกงขาสั้น แม้แต่กางเกงในเธอก็ถูกดึงลงมา; ไม่ใช่เพียงแต่ตูดที่เรียบรื่นและเงาน้อยๆของเธอได้โผล่ แต่แม้แต่อวัยวะเพศของเธอก็ถูกเปิดเผยด้วย
「อออุ!!!」
ซีเลีย-ซังปิดตัวเธออย่างเร็วและเปลี่ยนเป็นสีแดง แน่นอนว่า หลังจากนั้น…
「เธอกล้าดียังไง…เธอกล้าดียังไงมาทำให้ชั้นอับอายต่อหน้าเอเกอร์-ซามะ…ชั้นจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย…」
บางที่เพราะมาสเตอร์อยู่ที่นั่น เสียงที่โกรธของเธอถูกระงับ แต่มันยังเป็นเสียงที่โกรธที่สุดที่หนูเคยได้ยินมาจากเธอเลย
แม้ว่าหนูเพิ่งออกมาจากอะไรอย่างหนึ่งปัญหาได้ผุดขึ้นมาเพิ่ม ดังนั้นมันดูเหมือนว่าวันแห่งความสงบสุขยังไกลจากการได้ใช้
—————————————————————
เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19ปี ฤดูใบไม้ร่วง
ชนชั้น: กองทัพกลางผู้บัญชากองพลที่ 3 กองพันผสม
ทีม: กองพลที่ 1 กองร้อยหทารม้า ทหารม้าหนัก 120 หน่วย, ทหารม้าเบา 20 หน่วย (พร้อมความเสียหาย)
กองร้อยทหารราบ 3 กอง 150 คน, 130 คน, 100คน
เหล่าทหารช่าง 200 คน
ทหารอาสา 250 คน
รวม 830 คน
ลูกน้องกองทัพ: ซีเลีย (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (ผู้ติดตาม-และ-นักยุทธศาสตร์), อากอร์ (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), แม็ก (ผู้บัญชาการเหล่าทหารช่าง), คริสตอฟ (พลทหาร), ย้อกลี่ย์ (ผู้จัดการทหารอาสา)
อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบยาว)
อุปกรณ์: ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป)
สถานที่ปัจจุบัน: ดินแดนของอาร์คแลนด์ส่วนเหนือ เมืองดาโทรห์น
ความสำเร็จ: ปราบแนวหน้าของศัตรู (ร่วม)
ยึดหมู่บ้าน x8 , ยึดเมืองดาโทรห์น , ขับไล่ทหารม้าหอกเหล็ก
ป้องกันดาโทรห์นคนเดียว ฆ่า 200 คน
ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท
ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท
เป้าหมายเดือน 3/66
ค่าเน็ต 200/200
ค่าไฟ 0/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: "wayuwayu แปล"
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 141
แสดงความคิดเห็น