บทที่ 10 ความทรงจำ 1
หลังจากที่ความเจ็บปวดเหมือนกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้จางหายไปจากร่างกายของไบรท์ เด็กหนุ่มรู้สึกเย็นสบายอย่างประหลาด เขาค่อยๆ ปรือตาอย่างช้า ๆ ในความมือที่มองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือของตน ต่อให้ไบรท์จะกวาดตามองไปรอบ ๆ เขาก็ไม่สามารถเห็นอะไรทั้งสิ้น
“ที่นี่มันที่ไหน หรือว่าเราตายไปแล้ว บ้าน่า นี่เราจะตายง่าย ๆ แบบนี้น่ะหรอ’
ระหว่างที่ไบรท์กำลังสงสัยอยู่นั้นจจู่ๆ เขากลับรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาสารที่กำลังตรงมาทางที่ไบรท์อยู่ ความมือที่มีค่อยๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ เพียงไม่นานเบื้องหน้าของไบรท์ก็กายมีแสงสีแดงสว่างสไสว ไบรท์หลับตาเพื่อหลบแสงสว่างนั้นก่อนที่จะพบว่าตอนนี้ร่างกายที่เคยไร้ความเจ็บปวดกลับค่อยๆ เกิดความเจ็บปวด
“ในที่สุดเจ้าก็สามารถมาที่นี่ได้ ตัวข้านั้นรอเจ้ามานานแสนนานแล้ว”
เสียงปริศนาได้ดังขึ้น แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับไม่สามารถเห็นถึงต้นตอของเสียง สิ่งที่ไบรท์สามารถรับรู้ได้ก็คือเสียงนั้นมันช่างคลายคึงกับเสียงที่เขาเคยได้ยิน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้าคือใคร ไม่จำเป็นที่จะต้องสงสัย หากถามว่าเพราะเหตุใด นั่นก็เพราะว่าในโลกนี้คนที่จะทำลายเจ้านั้นคงไม่ใช่ข้า”
“พูดเฮี่ยอะไรไม่เห็ฯรู้เรื่อง”
“สิ้งที่ข้าต้องการจะบอกก็คือ ในโลกนี้ข้านั้นไว้ใจได้ ในโลกนี้มีเพียงข้าที่จะไม่มีทางคิดสังหารเจ้ายังไงล่ะ เจ้าโง่ แค่นี้ก็ไม่เขาใจยังงั้นหรือ ว่าแต่ตอนนี้พลังของเจ้าคงอยู่แค่นักเวทขั้นต่ำ คงยังมื่ถึงขั้นนักรบ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปอนาคตของเจ้าคงจะต้องซ้ำเช่นเดิม ดังนั้นข้าจะมอบของขวัญให้เจ้า ก่อนที่เจ้าจะตื่นไปเจอกับเจ้าพวกนั้น”
“ของขวัญอะไร”
ทันใดนั้นเอง ไบรท์พลันรู้สึกว่ามีบางสิ่งเขามาสู่หัวของตนเอง มันเป็นข้อมูลมหาสารที่ไบรท์ใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงไม่สามารถศึกษาจนแตกฉาน ถึงแม้ว่าเด็กน้อยจะมีความทรงจำมหาสารทว่าข้อมูลที่ได้มานั้นก็ทำให้ไบรท์รู้สึกราวกับว่าหัวของตนกำลังจะแตกออกมา
“อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆ นี่มันบ้าอะไรกัน”
ชายหนุ่มยิ้มกับเสียงร้องโหยหวนของไบรท์ ถึงแม้ว่าไบรท์จะไม่สามารถเห็นเขา ทว่าสำหรับเขานั้นหาใช่เรื่องยากเย็นอันใดไม่ อย่างไรก็ตามชายหนุ่มจะไม่ยอมให้ไบรท์มีอนาคตซ้ำรอยเดิมเป็นอันขาด
“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่สามารถไปยังโลกนั้นได้ แต่ว่าหากนำดวงวิญญาณของเจ้ามายังที่นี่ก็หาใช่เรื่องยากเย็นอันใดไม่ ข้าได้ให้ทุก ๆ อย่างของข้าแล้ว เจ้าจงใช้สิ่งที่ข้าให้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเสียเถอะ หากเจ้ายังไม่สามารถใช้มันได้ชำนาญข้าก็ถึง อีกไม่นานหรอก”เกรงว่าโลกของพวกเราคงจะต้องถึงคราวพังทลายเสียแล้ว”
ชายหนุ่มเคลื่อนร่างดุจภูตพรายเพียงไม่นานร่างของเขาก็โผล่ตรงร่างที่ไร้การขยับเขยื้อน เขาหรี่ตามองร่างที่กำลังนอนสลบสลายอยู่บนพื้นหญ้า เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ยกมือแล้วค่อย ๆ ไปสัมผัสร่างของไบรท์ แสงสีเหลืองพลันปรากฏขึ้น
“แล้วเราจะไดเจอกันอีก เมื่อวันแห่งราชัญมา
ไบรท์รู้สึกถึงกลิ่นคลาวเลือดในคอ ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ทว่าหนังตาที่หนักราวกับว่ามีบางสิ่งมาถ่วงไว้ทำให้ไบรท์รู้สึกแปลกใจ เสียงร้องให้ของเด็กน้อยทำให้ไบรท์อยากจะลืมตาแล้วนำมือไปรูปศีรษะ เด็กน้อยไม่ต้องขบคิดไบรท์ก็รู้ดีว่าคนที่ร่ำให้นั้นคือน้องสาวของตนเอง
ตอนนี้เวลาคงจะดึกสงัด อากาศที่เย็นยะเยือกทำให้ไบรท์รู้ได้ดี เสียงแมลงที่ร้องรับกันเป็นทอดยิ่งตอกย้ำ ไบรท์พยายามขยับร่างทว่าไบรท์ก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้ดังใจ
“ไบรท์เสียเลือดมากขนาดไหนกกันหรอ” เสียงของอาสึนะทำให้ไบรท์หยุดความพยายาม เด็กหนุ่มตั้งใจฟังบทสนทนาของพวกอาสึนะ
“เรื่องนี้ คงต้องรอให้ย่าแออนากลับมาเสียก่อน หรือไม่ก็คงต้องรอให้รูรุมาที่นี่ แต่ว่าสิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนี้ก็คือต้องใช้เวทเยียวยาร่างกายกับชีพจรเวทมนตร์ของไบรท์ไปก่อน”
สิ้นเสียงของคาเสะ ไอยราก็กล่าวเสริม “เลือดที่อออกจากทวานทั้งเจ็ดต่อให้จะใช้เวทมนตร์ของพี่ก็คงไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ง่าย ๆ แน่นอน ยังไงพี่ก็ไม่ถนัดเวทมนตร์ประเภทรักษา”
“พี่ไบรท์จะเลือดไหลหมดตัวตายไหมคะ”
ไอมองหน้าขอฝงน้องสาวคนสุดท้องของตน ก่อนที่จะตัดสินใจเสหน้าไปมองทางอื่น “ไม่หรอกจ้า มีพี่ที่เป็นนักเวทอันดับหนึ่งของอาณาจักรนี้อยู่ทั้งคน ไม่ต้องห่วงน้า”
หลังจากที่ไอกล่าวกับน้องสาวของตนจบ หญิงสาวก็หันไปมองร่างกายของไบรท์ ถึงแม้ว่าไบรท์จะสูญเสียโลหิตจำนวญมาก ทว่าร่างกายของไบรท์เหมือนกลับกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ หญิงสาวไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้มันทำไมถึงเกิดได้ ทว่าหากเธอหยุดการรักษาหญิงสาวก็เกรงว่าไบรท์จะเสียเลือดจนตาเสียก่อน ถึงแม้ว่าพลังที่สส่งเขาไปจะไม่สามารถทดแทนเลือดได้ ทว่ามันก็สามารถหยุดยั้งการไหลของโลหิต หรือไม่ก็ช่วยให้โลหิตของไบรท์ไหลช้าลง
พวกไอยราไม่รู้เลยว่าตอนนี้ร่างกายของไบรท์ ไม่ร่างกายที่สูญเสียโลหิตเพียงเล็กน้อยแล้วจะเป็นอันตราย แต่ถึงอย่างนั้นการกระทำของพวกไอก็ทำให้ร่างกายของไบรท์ไม่ต้องใช้การฟื้นตัวสูงสุด ร่างกายที่มีความใกล้เคียงเทพนี้ค่อย ๆ พัฒนาอย่างช้า ๆ หากโลหิตกลายเป็นสีเงินก็นับว่าร่างกายของไบรท์ได้ยกรับดับเป็นเทพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากพระเจ้าแห่งจุตเริ่มต้น พระเจ้าแห่งจุดจบ และเทพแห่งการรักษา
พลังอันมหาสารที่กำลังตีกันอยู่ภายในร่างกายทำให้ไบรท์ต้องหลับตาลงเพื่อควบคุมมันอีกครั้ง เขาควบคุมเปลวเพลิงที่อยู่ในร่าง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ควบคุมธาตุลมที่ปั่นป่วน พอไบรท์สามารถควบคุมธาติทั้งสองได้แล้ว เด็กหนึ่มจึงไปสัมผัสกับธาตุที่ไบรท์ไม่ค่อยชำนาญ ทว่าทุกครั้งที่ใช้พลังไบรท์กลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกออกไปมันราวกับว่ามีบางสิ่งที่กำลังอยู่ในความทรงจำที่เพิ่งได้รับมาใหม่ ไม่สิหากบอกให้ถูกมันเหมือนกับเขาเคยใช้วิธีนี้มาแล้ว
ไบรท์ค่อยๆ ปล่อยให้ตนเองไหลไปกลับสายธารแห่งความทรงจำ ไม่นานพลังเวทที่กำลังปั่นป่วนก็สงบลง เด็กหนุ่มค่อยๆ สูดหายใจเข้าให้เต็มปอด ความรู้สึกถึงความสงบค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ เลือดที่ค่อยทื ๆ ไหลออกจากร่างกายค่อย ๆ หยุดลงอย่างช้าๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนั้นสร้างความแปลกใจให้กับผู้คน ไม่เว้นแม้แต่พวกคาเสะ แต่พวกรูรุที่กำลังเดินตรงมาเมื่อพบว่าตอนนี้บาดแผลของไบรท์นั้นค่อยๆ สมานตัวกันอย่างช้าๆ ๆ ก็ทำให้พวกเขาตนกตกใจขึ้นน
ผู้มาใหม่อันได้แก่ โมโมะ รูรุ เนกิ นากิ จอนห์ มองภาพเบื้องหน้าที่เกิดขึ้นอย่างตลึงงั้น ระหว่างที่ทุกคนกำลังจะกล่าวอันใดนั้นเอง จู่ๆ พวกเขากลับสัมผัสถึงผู้ที่มีพลังระดับนักรบเวทจำนวญหนึ่งร้อยคนที่กำลังพุ่งตรงมาทางนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ต้องคบกันให้เสียเวลาก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ท้องฟ้าที่มีรอยแยกเมื่อบ่ายนี้เป็นสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ทั้ง 3 อาณาจักรกำลังทำบางสิ่งบางอย่าง ถึงแม้ว่าพวกพ้องไอยราจะไม่รู้พวกเขาต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่รู้แน่ๆคือถ้าจะบอกให้ถูกก็คงเป็น 2 อาณาจักรกับผู้ทรยศที่ต้องการความสามารถพิเศษของพวกเขา
ถึงไม่นานผู้คนจำนวน 100 คนก็ปรากฏขึ้นเครื่องได้พวกมันสวมชุดขาวใบหน้ามีผ้าคลุมหน้าเอาไว้ พวกของไอยรามองผู้ที่มาใหม่ด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ก่อนที่หญิงสาวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มจะกล่าว
“พวกแกเป็นคนของใคร
“ยินดีที่ได้รู้จักไอย”
“มันไม่ใช่ความกล้า แต่นี่เป็นคำสั่งของสุภาภรณ์มั่นคงเราจำเป็นที่จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับน้องชายของเธอ พวกเราขอสัญญาว่าพวกเราจะไม่ฆ่าหรือทำร้ายเขาเพียงแต่ว่า พวกเราจำเป็นต้องทำลายพลังเวทของเขาให้สิ้น ก่อนที่เจ้านั่นจะมาถึง”
“พวกแกมาที่นี่แล้วยังมาข่มขู่พวกฉัน ฉันจะพูดให้ชัดใครจะยอมส่งน้องชายฉันให้กับคนแปลกหน้าอย่างพวกแก”
“น้องชายอย่างนั้นเหรอ ! ท่านรู้ทั้งรู้แต่ก็ยังเรียกหมอนี่ว่าน้องชาย ถ้าอย่างนั้นพวกผมจะบอกให้ท่านรู้ท่านนักเวทย์ยิงผู้มีความอัจฉริยะที่สุดในโรงเรียนเวทย์มนต์”
“หุบปาก
ก่อนที่หญิงสาวจะกล่าวจบเธอพลันรู้สึกถึงจิตสังหารที่พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของไบรท์ เปลือกกล้วยที่เคยมีนักเว้ยกับค**พุ่งขึ้นไปอย่างมหาศาล จิตสังหารหอยแปรเปลี่ยนเป็นออร่าสีดำ
“ไอ้พวกเวร พวกแกกล้ามารบกวนการพักผ่อนของฉัน พวกแกจะต้องโดนอัด”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 236
แสดงความคิดเห็น