บทที่ 12...3/3
เสียงปลุกจากนาฬิกาที่มีนาตั้งเตือนไว้ทำให้หญิงสาวลืมตาตื่นเช้ากว่าปกติที่อยู่คนเดียว หญิงสาวรีบมาเข้าห้องน้ำพลางมองประตูห้องของเขมินท์ที่ยังปิดสนิท เธอรีบอาบน้ำแล้วกลับมาที่ห้องเพื่อแต่งตัว ภายนอกห้องเงียบกริบไม่มีเสียงเปิดประตูจากฝั่งห้องของเขมินท์ เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงไปเคาะห้องของเขา แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบ ทำให้ขอถือวิสาสะหมุนลูกบิดเปิดประตูห้อง เพื่อที่จะได้คำตอบว่าเขาไม่ได้อยู่ในนั้น แล้วเขาไปไหน
มีนาเดินมาที่ห้องครัวเล็กๆ บนเคาน์เตอร์มีขนมปังปิ้ง ไข่ดาวกับกาแฟที่ยังอุ่นๆ วางรออยู่พร้อมกับโพสต์อิท
‘พี่มีงานด่วน ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปส่งที่บริษัท ชดเชยด้วยอาหารเช้าแทนนะ’
เขมินท์ไม่ได้ขุดหลุมไว้รอเธอตกลงไปใช่ไหม มีนาส่ายหน้าในความคิดเพ้อเจ้อของตัวเอง ตอนที่เขาทำอาหารเช้า เธอกลับกำลังหลับอุตุอยู่นอนเพลินจนไม่รู้เรื่องอะไรเลย หญิงสาวหัวเราะขำตัวเอง มีอาหารเช้ารอแบบนี้เธอจะกินไม่ให้เหลือเลยเชียว
หลังจากล้างจานและถ้วยเรียบร้อยแล้ว มีนาเดินกลับมาที่ห้องเพื่อหยิบกระเป๋าแล้วมานั่งใส่รองเท้าอยู่ที่ประตู พอจะเปิดประตูออกไปโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี
“มีอะไรหรือเปล่าคิน โทรมาแต่เช้า”
“คินรออยู่ที่ล็อบบี้ของคอนโด ถ้ามีนแต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบลงมา เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ภาคินบอกแล้วตัดสายไปเลย
มีนาจับน้ำเสียงได้ว่าภาคินกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง หญิงสาวรีบออกจากห้องพลางเดินแกมวิ่งไปที่ลิฟต์ ถ้าภาคินกำลังโกรธเธอเรื่องเบญญาล่ะแย่แน่ๆ แต่เธอมีเหตุผลถึงไม่ได้บอกนี่นา
ภาคินจับมือมีนาให้เดินมาด้วยกันทันทีที่เพื่อนออกมาจากลิฟต์ มีนายอมเดินตามเพื่อนมาที่รถแล้วปักหลักคุยกันตรงนี้แหละ เธอไม่สะดวกไปไหนเพราะต้องรีบไปทำงาน
“เบญทำแบบนั้นกับมีน ทำไมมีนไม่บอกคิน หนำซ้ำ มีนกับพี่เขมเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมคินไม่เคยรู้มาก่อน นี่มีนยังเห็นคินเป็นเพื่อนคนสนิทอยู่หรือเปล่า” ภาคินแกล้งโวยวายเพราะอยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่
“มีนอธิบายได้ คินใจเย็นๆ ก่อนนะ” มีนาคิดไว้อยู่แล้วว่าคงเป็นเรื่องนี้ที่ทำให้ภาคินไม่พอใจ “ที่มีนไม่ได้บอกคินเรื่องที่เบญทำก็เพราะไม่อยากให้คินโทษว่าเป็นต้นเหตุไง ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามกฎหมายแล้ว คินไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะ”
“จะไม่ให้คินกังวลได้ยังไง มีนเป็นเพื่อนสนิทของคินนะ เป็นยิ่งกว่าน้องยิ่งกว่าพี่ยิ่งกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ”
มีนายกมือขึ้นมาตบไหล่เพื่อนทั้งปลอบและขอโทษไปในตัว เธอไม่ได้ลืมคิดเรื่องพวกนี้ไปหรอก แค่ไม่คิดว่านอกจากเขาโทษตัวเองแล้ว ภาคินจะโมโหเธอขนาดนี้
“เอาเป็นว่ามีนเป็นห่วงคิน คินก็เป็นห่วงมีน เราหายกันแล้วเนอะ”
ภาคินพยักหน้าเมื่อได้คำตอบบางส่วนที่เขาต้องการแล้ว มีนายอมรับทุกอย่างไว้เพราะเป็นห่วงเขา แต่เขาสิแทนที่จะแก้ปัญหาเองกลับต้องมาห่วงมีนาในตอนนี้หากจะโกรธใครสักคน ภาคินคิดว่าเขาควรโกรธตัวเองที่สุด
“แล้วทำไมมีนกับพี่เขมคบกันถึงไม่บอกคินสักคำ” นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ภาคินอยากรู้ว่าตัวเองคิดถูกไหม
มีนาเลื่อนแขนลงพลางกอดอกมองภาคิน วันนี้เขาช่างขี้สงสัยเหลือเกิน จริงๆ แล้วเขาน่าจะรู้คำตอบก่อนถามเธอด้วยซ้ำ คนสมบูรณ์แบบอย่างเขมินท์จะมาเป็นแฟนจริงๆ กับเธอทำไม
“พี่เขมแค่ช่วยมีนเลยบอกใครๆ ไปแบบนั้น ไม่อย่างนั้นมีนอาจได้ข้อหามือที่สามมาแทนน่ะสิ อีกไม่กี่วัน มีนกับพี่เขมก็เลิกเป็นแฟนหลอกๆ แล้วล่ะน่า มีนไม่ลืมหรอกว่าคินเคยขอมีนไว้”
ภาคินยิ้มกว้างเพราะนึกอยู่แล้วว่าเรื่องคงเป็นแบบนี้ ว่าแต่เขาเคยขออะไรมีนาไว้อย่างนั้นหรือ ถึงทำให้เธอคิดว่าเป็นแฟนกับพี่ชายของเขาไม่ได้ หรือว่าเป็นตอนนั้นที่เขาทะเลาะกับพี่ชาย...
“เดี๋ยวก่อนนะ คินขอเคลียร์ทีละเรื่อง”
ภาคินเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้ามีนาไม่พูดขึ้นมาเขาคงลืมไปแล้ว มีนาคิดเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้เลยหรือ
“เรื่องแรก ถ้าวันหนึ่งมีนกับพี่เขมเป็นแฟนกัน คินจะไปว่าอะไรได้ ชีวิตของมีน คินจะไปกะเกณฑ์แบบนั้นได้ยังไง ตอนนั้นคินก็แค่ทั้งโกรธทั้งเสียใจว่าทำไมพี่เขมดีกว่าคินไปทุกอย่าง เลยบอกมีนว่าห้ามเป็นแฟนกับพี่เขม มันเป็นความคิดเด็กๆ ของคินที่เห็นแก่ตัวมากๆ คินขอโทษ คินไม่คิดว่ามีนจะทำเพื่อคินจนจำฝังใจขนาดนี้”
อะไรนะ! มีนาอยากจะพูดแต่ยังพูดไม่ออก ที่ผ่านเธอมาพยายามห้ามใจตัวเองไว้เพราะเห็นแก่เพื่อนสนิท พอภาคินมาคลายล็อคเธอก็รู้สึกโล่งอก แม้ว่าเรื่องราวระหว่างเธอกับเขมินท์จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม หญิงสาวยิ้มราวกับอยากขอบใจภาคินที่พูดความในใจเมื่อครู่ออกมา แต่ว่ามันไม่ได้เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปในตอนนี้หรอก
“แต่มีนกับพี่เขมไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ นะ”
ภาคินพยักหน้าไม่สงสัยในคำพูดของมีนา “คินเชื่อมีน แต่ปกติแล้วพี่เขมไม่ใช่คนที่เอาแต่เองไปผูกมัดกับใครง่ายๆ การที่พี่เขมบอกว่าเป็นแฟนกับมีน นอกจากอยากช่วยมีนแล้ว คินว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น”
มีนาขมวดคิ้วไม่เห็นเหตุผลอื่นใดที่เขมินท์จะทำแบบนั้น นอกจากอยากช่วยเธอในเวลาคับขันแค่นั้นเอง
“ไม่มีหรอก พี่เขมก็แค่อยากช่วยมีนนั่นแหละ”
“แต่คินว่าแปลกๆ” เขาเป็นน้องชายของเขมินท์ แม้จะไม่ได้สนิทชิดเชื้อเหมือนพี่น้องบ้านอื่น แต่มีหรือที่เขาจะไม่รู้นิสัยของเขมินท์
“ไม่แปลกหรอก ตอนนี้คินเคลียร์ทุกอย่างแล้วนะ มีนจะได้ไปทำงาน ถ้าช้ากว่านี้ มีนไปสายแน่”
มีนาขยับจะเดิน แต่ภาคินคว้าแขนไว้พลางปลดล็อครถแล้วเปิดประตูให้
“ไม่สายหรอก คินไปส่งมีนเอง”
มีนายิ้มกว้างเขย่าไหล่เพื่อนที่ใจดีจะไปส่ง แต่พอนึกได้ว่ามีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกภาคินก็ชักยิ้มไม่ออก เธอไม่ควรมีความลับกับเขาอีกแล้ว รถกำลังเคลื่อนไปสู่ถนน มีนาตัดสินใจว่าต้องบอกภาคินเรื่องห้องที่เธอพัก
“คิน...”
ภาคินกดรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพอดีจึงไม่ได้ยินที่มีนาเรียก เขาคุยงานผ่านแอร์พอด (AirPod)ไปตลอดทางทำให้มีนาไม่มีโอกาสได้เล่า จนกระทั่งมาถึงบริษัทรักษ์บ้าน ภาคินก็ยังคุยงานไม่เสร็จ เธอบอกขอบใจเบาๆ เสียงจะได้ไม่เข้าไปในสาย เธอปิดประตูรถแล้วเดินเข้ามาในบริษัทพลางถอนใจ เอาน่า เดี๋ยวเธอจะเล่าให้ภาคินฟังวันอาทิตย์นี้แล้วกัน เขาต้องมาช่วยเมษาซ่อมร้านซึ่งเหลืองานอีกนิดหน่อยอยู่แล้ว
ตอนนี้ เพราะคุณคือรักแรก วางจำหน่ายใน MEB แล้วนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ลงให้อ่าน 60% ของเนื้อหาทั้งหมดนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 304
แสดงความคิดเห็น