ตอนที่28:ตัวสำรอง
ลูเบลล่ารู้สึกราวกับ กำลังจะถูกท้องฟ้าถล่มลงมาทับตัว
ขาทั้งสองข้างของเธอเสียเรี่ยวแรงไปแบบกระทันหัน แต่จิตใจที่เข็มแข็งมันยังพยุงเธอให้ยืดหยัดเอาไว้ถึงจะรู้สึกสิ้นหวัง แต่มันไม่สามารถห้ามไม่ให้ร่างกายสั่น
“ ทำไม? อำนาจของพิธีกรรมควรจะลดลงไปแล้ว ก็ฉันเห็นจำนวนอันเดตมันน้อยและอ่อนแอ ”
“ แล้วถ้าไม่ทำแบบนั้นพวกท่านจะเข้ามาหาหรือครับ ก็อำนาจของพิธีกรรมมันอยู่ในการควบคุมของข้ามาแต่แรก การทำให้มันดูอ่อนลงก็เช่นกัน ” " มันเป็นอย่างไร? ข้าทำออกมาได้ไม่งั้นดีเหรอ? ”
“ คุณใช้ประโยชน์จากหนังสือเวทย์เล่มนั่น…! ”
“ ใช่ ใช้เวลาไม่นานข้าก็ฟื้นฟูมันได้แล้ว ”
กรอทิมขยิบตาให้ลูเบลล่า
“ เมื่อพิธีกรรมใกล้จะสมบูรณ์ทำให้ข้าสามารถควบคุมอันเดดได้มหาศาล ในตอนนี้ก็เหลือเพียงเริ่มการส่งมอบทั้งเมืองแด่ท่านเบลู มันเป็นผลงานชิ้นเอกในชีวิตข้าคนนี่เลย "
" ซึ่งข้าก็คิดหนักอยู่เหมือนกัน ว่าจะหลอกพวกเจ้าทั้งสองอย่างไรให้เข้าใจว่าอำนาจพิธีกรรมกำลังค่อยๆอ่อนแอลง พอเห็นว่าสิ่งที่ทำไปได้ผล มันช่าง…น่าเฉลิมฉลอง ”
แป๊ก! กรอทิมดีดนิ้ว
วู้หมมม ครืกก!
สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตเริ่มทะยานออกมาจากจุดที่คฤหาสน์พังลงจนกลายเป็นทะเลมืด พวกมันเคลื่อนตัวมาล้อมทั้งซีคและลูเบลล่า ในบรรดาสัตว์อสูรและอันเดดมีหลายตัวมากมีระดับสูงและทรงพลัง ลูเบลล่าจะเปิดปากพูดแต่ไม่มีเสียง
“ เห็นมั้ย ข้าสามารถอัญเชิญพวกอันเดดและสัตว์อสูรระดับสูงได้โดยไม่มีปัญหา”
มีพวกมันบางตัวเคลืื่อนที่กระจายไป
ลูเบล่าเห็นแล้วจึงร้องตะโกนอย่่างตกใจ “ ห้ามทำร้ายชาวเมืองที่ไม่เกี่ยวข้อง!…! ”
“ หืม ข้ายังไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นตอนนี้ แค่ส่งพวกเขาไปปิดพื้นที่โดยรอบ เป็นเพราะตัวเจ้าหลุดจากมือข้าไปแล้วถึงสองครั้งข้าเลยต้องระวังเป็นพิเศษ ”
กรอทิมลูบคางของเขา
“ แต่ถ้าเจ้าทั้งสองดื้อด้านเกินไป ก็อย่าโทษถ้าเด็กๆเหล่าทำอะไรที่รุนแรงเพราะมันกำลังตื่นเต้น ”
ทันทีที่เขาพูด เสียงร้องคำรามและขู่ร้องก็ดังกระหึ่มตอบรับจากทั้งสัตว์อสูรและอันเดดที่กระจายตัวออกไป อย่างน้อยที่กรอทิมบอกมาก็เป็นจริง
ลูเบลล่าถอนหายใจที่ว่าชาวบ้านยังปลอดภัยไปสักพัก แต่อย่างไรก็ตามเธอรู้ว่าเหตุการณ์มันเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ
และตรงหน้าเธอตอนนี้ก็ไม่รู้จะรอดไปได้ไหมวันนี้ รอบตัวเธอที่มีแต่สัตว์อสูรและอันเดดแข็งแกร่ง เธอมองดูพวกมันก่อนจะเปลี่ยนความสนใจมายังซีคที่กำลังถือดาบพร้อมสู้
" …มัน เป็นแบบนี้เพราะอะไร "
“ ??? ”
“ ก็นายบอกฉันว่าเราสามารถทำให้พิธีกรรมอ่อนแอลงได้! ”
“ อ่า เรื่องนั้นให้ข้าเป็นผู้ตอบก็ได้ ”
กรอทิมพูดแทรก “ ที่ข้าเฝ้ามองมาตลอด พวกเจ้าตั้งใจขัดขวางพิธีกรรมโดยการวาดอะไรแปลกๆไปบนรูปปั้น โดยคิดว่าพลังของเธอจะไหลลงไปเพื่อลดทอนพลังของพิธีกรรม ผู้ชายที่ยืนข้างๆเธอได้แนะนำอะไรที่มันไร้สาระ ”
“ ข้าในฐานะสาวกผู้ซื่อสัตย์ของท่านเบลลูผู้ยิ่งใหญ่ ขอพูดยืนยันว่ามันไม่ได้ผล ”
คำพูดของกรอทิมทำลายความหวังของลูเบลล่าไปอย่างสมบูรณ์
“ อ่อนอกจากนี้ เขาบอกเจ้าด้วยสินะว่ารู้วิธีคืนพลังชีวิตให้กับคนที่ถูกสังเวยไปแล้ว? ท่านเป็นถึงว่าที่นักบุญของคารุวิมานควรจะรู้สิว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าเอาคำพูดไร้สาระของเด็กคนนี่มาเชื่อจริงๆจังๆ ”
ตามที่กรอทิมพูด การรักษาน้องชายของทิมมี่เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้น ลูเบลล่าพอได้ยินยิ่งท้อแท้เมื่อนึกย้อนไปตอนที่เห็นเด็กน้อยกำลังนอนบนเตียง ร่างกายที่แทบจะเหลือแต่โครงกระดูก
“ รู้ไหมว่าข้าหัวเราะมากแค่ไหนตอนเห็นวงเวทย์พิลึกๆที่รูปปั้น เป็นบ้ารึไงที่ของแบบนั้นจะเป็นวงเวทย์ที่เยี่ยมยอดอะไรขนาดนั้น ”" แต่ข้าก็เข้าใจท่านยึดติดกับความหวังเดียวตรงหน้าจนมองข้ามความเป็นจริง ข้าละสงสาร "
กรอทิมภูมิใจอย่างเหลือล้นเมื่อมองไปทางซีคอย่างผู้ชนะ ส่วนซีคก็ไม่ตอบสนองต่อเขาเลยเหมือนอยู่ในห้วงความคิด
“…พิธีกรรมสมบูรณ์… "
" ใช่ ทุกอย่างพร้อมแล้ว "
“ ทำไมคุณต้อง! ต้องหลอกให้พวกเราคิดว่าเราขัดขวางพิธีกรรมได้สำเร็จ!”
“ นั่นเป็นเพราะเธอ ท่านหญิงลูเบลล่า ไอเนะ ”
"…เพราะฉัน? "
“ ตัวเจ้าเป็นถึงว่าที่นักบุญหญิงศักดิ์สิทธิ์ เป็นดั่งสมบัติล้ำค่า—ไม่ เป็นของเสียที่ไม่ธรรมของโลกใบนี้ จะให้ข้านิ่งเฉยได้อย่างไรเมื่อครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้ามาที่คฤหาสน์ ตัวเจ้ามันมีประโยชน์มากกว่าจะถูกสังเวยไปพร้อมกับทั้งเมือง ”
กรอทิมไขว้แขนของเขาโอบกอดตัวเอง แสดงออกมาอย่างบิดเบี้ยว
“ และข้าคิดว่าต้องเป็นเจตจำนงของท่านเบลลูที่ประทานมา ”" แต่มันเจ็บปวดที่สองครั้งก่อนข้าปล่อยให้สาวกสกปรกของเทพการุณาหลบหนีไปจากมือซะได้ "
ตั้งแต่กรอทิมป่าวประกาศความสำเร็จของตัวเอง มีครั้งนี้ที่น้ำเสียงเขาแสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน
“ เมื่อครั้งแรกข้าต้องล้มเหลวจากความดื้อด้านของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ครั้งที่สองก็เพราะไอ้อันธพาลข้างๆเธอทำให้หนังสือเวทย์เสียหาย “” ข้าเกือบจะหมดหวังตอนที่ไอ้อันธพาลนี่บอกจะพาตัวเจ้าหนีหายไป แต่มันก็ทำเรื่องตลกๆออกมาให้ข้าชมภายหลังโดยแท้ "
สิ่งที่ซีคทำ ไม่เพียงทำให้กรอทิมหัวเราะแต่มันคือความหวังอีกครั้งที่จะได้ตัวลูเบลล่ามา
“ ตอนนั้นแหละที่เขาบอกว่าสามารถลดทอนพลังของพิธีกรรมได้ และจะกลับมาทำลายพิธีกรรม ”
“ ไม่เอะใจหน่อยหรือว่าทำไมเจอรูปปั้นได้เร็วและง่ายดาย ทั้งที่แต่ก่อนนี่ไม่มีเบาะแสใดๆ ”
ลูเบลล่าก็ยังคิดว่ามันแปลก แต่เธอให้เหตุผลตัวเองว่าเป็นเพราะความสามารถของซีคที่ยอดเยี่ยม พอได้ยินคำพูดของกรอทิมทำให้เธอคิดได้จริงๆว่าพวกเขาเจอรูปปั้นได้ในเวลาไม่นานทั้งที่ไม่รู้ตำแหน่งรูปปั้นมาก่อน
" ข้าจ้างวานทหารจำนวนมากก็เพื่อให้พวกเจ้าสังเหตุเห็น ถ้าพูดตรงๆก็คอยชี้นำทางพวกเจ้าไปด้วย "
“…คุณไม่ได้ตั้งใจจะหยุดพวกเราแต่แรก ”
“ ถึงข้าสั่งให้พวกทหารค้นหาตัวเจ้าไปก็ไม่เจอสักที แล้วทำไมต้องเสียเวลาในเมื่อจุดหมายพวกเจ้าก็คือที่นี่ แล้วข้าก็ควบคุมเรื่องนี้ได้ทำไมจะไม่ทำ เหมือนภาพประกาศจับไอ้อันธพาลข้างๆเธอที่มันไม่ชัดก็เพราะอย่างน้อยให้ตัวมันเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ”
มันเหมือนกับว่าทั้งสองเดินเล่นที่ฝ่ามือของกรอทิมตลอดเวลา
“ เธอก็ไม่ควรเศร้าเกินไป เพราะท่านเลยนะข้าเลยยังไม่เริ่มสังเวยคนทั้งเมือง เธอทำได้ดีที่สุดแล้วจากการยืดอายุชาวเมืองไปได้สองสามวัน ”
“ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราไม่มา ”
“ งั้นก็ช่วยไม่ได้ พิธีกรรมก็ต้องเริ่มแม้ท่านจะถูกทำลายไปด้วย พวกเรากำลังเสี่ยงถ้าราชอาณาจักรเกิดไหวตัว ไม่งั้นแม้แต่คารุวิมานจะโอกาสเข้ามาแทรกแซง "
กรอทิมยิ้มกว้างหลังจากเขาพูดจบ
“ ข้าตอบคำถามมาพอหรือยัง ดีใจไว้เถอะทุกคนในปอร์ติจะกลายเป็นทหารที่ซื่อสัตย์ของเราในไม่ช้า เหลืออะไรให้ทำอีกไม่มากแล้ว ”
ลูเบลล่าหลับตาลงครู่หนึ่ง อารมณ์เศร้าและความเสียใจทุกประเภทผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้งแม้แต่กรอทิมยังประทับใจกับแววตาคู่นั้นของเธอ
“ เหมาะสมยิ่งนัก นี่แหละว่าที่นักบุญหญิงของคารุวิมานตัวจริง เพียงเวลาสั้นๆก็สงบอารมณ์ตัวเองได้ ”
“ มันเกิดจากที่ฉันประหลาดใจ คุณได้วางแผนไว้มากมายสำหรับฉัน ”
“ ต้องขอบคุณคุณ การเดินทางของฉันก็เพื่อเรียนรู้และฉันได้รับมันจากคุณอย่างเต็มเปี่ยม ”
“ อืมยอดเยี่ยม มีคนมากมายที่ พวกเขาไม่ว่าจะได้รับประสบการณ์เพียงใดก็ไม่เติบโตขึ้นทั้งใจและกาย ” แต่กับท่านนั่นแตกต่าง เธอเหมาะสมกับการเป็นนักบุญคนต่อไปแน่นอน " ในครั้งนี้กรอทิมพูดออกอย่างจริงจัง
“ ทั้งหมดที่เจ้าได้รับกำลังสูญเปล่า และมันก็ดีสำหรับพวกเรามากเช่นกัน ”
“ คุณไม่มีวันรู้ จนกว่าจะถึงตอนจบ! ” ลูเบลล่านำคฑาของเธอออกมา
กรอทิมมองเธอด้วยความเย้ยหยัน
“ ข้าขอแสดงความนับถือในตัวเจ้าที่กล้าหาญ ข้าจะไม่เอาชาวเมืองมาเป็นตัวประกัน อีกอย่างพวกเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพเราอยู่ดี ดังนั้นแสดงความพยายามของท่านให้เต็มที่ ”
แป็กก!
กรอทิมดีดนิ้วเป็นครั้งที่สอง
หึมมมม!
สัตว์อสูรและเหล่าอันเดดเริ่มเคลื่อนที่เข้าหาลูเบลล่าและซีค การรวมตัวของพวกมันเต็มไปด้วยความโหดร้ายคุกคามทั้งจำนวนและความอันตราย ลูเบลล่าพบว่าเธอตั้งใจแนวแน่พร้อมจะสู้จนตัวตายแต่ก็มีก้าวถอยเพื่อตั้งหลัก
" นาย..ซีค ”
“ มีอะไร? ”
ซีคไม่พูดอะไรออกมาเลยตั้งแต่กรอทิมปรากฏตัว ลูเบลล่าคิดว่าซีคกำลังรู้สึกผิดอยู่เพราะเหตุการณ์ที่จนมุม อย่างไรก็ตามลูเบลล่าไม่ได้โทษซีคแม้เธอรู้ว่าหลังจากนี้ต้องเจอความเจ็บปวดและสิ่งเลวทราม เมื่อต้องโดนจับไป
แต่เธอก็ต้องการพูดแบบนี้กับซีค : “ ฉันไม่โทษนาย ”
เธออยากให้ซีครู้ แม้อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายนี้ เธอก็ยิ้มให้ซีค
“ ฉันขอบคุณนาย ถึงผลลัพธ์ที่ออกมามันไม่ดี แต่ความจริงที่ว่านายพยายามช่วยฉันมันไม่เปลี่ยนไป ”
“ ที่จริงชีวิตของฉันอาจจะจบลงไปก่อนแล้ว ถ้านายไม่เจอและช่วยฉันเอาไว้ที่ตรอกมืด ”
“ เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ ”
กรอทิมเยาะเย้ยคำพูดของลูเบลล่า แต่เธอไม่สนใจเขาเลย
“ นายดูงุ่มง่ามเลยนะตอนเจอกันครั้งแรก แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่านายตั้งใจ นายพยายามทำความดีเหมือนที่นายพูด ซึ่งฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและชื่นชมเป็นที่สุด ”
“ ฟังฉันนะ ถึงมันจะยากแต่นายต้องหนีไปจากตรงนี้ให้ได้ และตั้งใจทำมันต่อไปทำสิ่งดีๆ ตรงนี้ฉันจะหยุดพวกเขาไว้เอง ฉันแค่หวังว่านายจะได้ไปทำความฝันต่อ ”
“ จำเอาไว้คนอื่นจะหัวเราะเยาะก็ช่าง แต่ฉันก็เป็นกำลังใจให้นายเสมอ :) ”
“ เฮ้ เฮ้ ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยไอ้หนูนี่ไป ท่านอย่าพยายามทำเลยสำหรับคนอย่างเขามันมากไป”
หลังจากตัดกำลังใจลูเบลล่าแล้ว กรอทิมก็เปลี่ยนความสนใจไปที่ซีค
“ และแกควรรับผิดชอบด้วย ให้ความหวังกับเธอหิ้วเธอไปที่นู้นที่นั่น ถ้ามีความเป็นผู้ชายก็รับผิดชอบด้วยชีวิตแกซะนั่นแหละที่แกยังทำได้ “ ” ทั้งที่ตัวแกมันไม่รู้อะไรเลย…”
“ อะไรละที่ข้าไม่รู้ ”
ในที่สุดซีคก็เริ่มพูด กรอทิมถูกทำให้ต้องคิดทบทวน ซีคนิ่งเกินไปเขาพูดราวกับว่าเรื่องตรงหน้าไม่เกินกำลังตัวเอง
' หรือไอ้เด็กเวรนี่ไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เหรอ? '
หรือซีคจะเป็นคนสติไม่ดีป่วยทางจิต เพราะเขายังวาดอะไรแปลกๆแล้วอ้างว่าเป็นวงเวทย์ที่รูปปั้นอยู่เลย
“ รูปวาดแปลกๆที่แกเป็นคนทำกับรูปปั้น—ข้าไม่รู้มันบ้าบออะไรเจ้าถึงเชื่อว่ามันมีผลต่อพิธีกรรม มันไม่มีประโยชน์แทนที่จะแก้ปัญหาแต่มันเป็นการดิ้นรนบนมือข้ามากกว่า สุดท้ายด็ต้อนตัวเองเข้ามุม ”
“ เอ๊ะ อ่อนั่น? ”
เสียงของซีคยังคงสงบ และราวกับว่าไม่มีอะไรให้ร้อนรน จนถึงตอนที่เขาก็ทิ้งระเบิดลง
“ เรื่องนั้นข้ารู้ก่อนแล้ว "
" เจ้าหมายถึงอะไร? "
“ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็แค่รู้ว่าเจ้าพยายามชักนำลูเบลล่าให้กลับมาที่นี่ ก็เลยทำให้เจอรูปปั้นแต่ละแห่งได้ง่ายขึ้น "
" ถึงจะทำเหมือนว่าวางตัวหลอกไว้บ้างแค่นั้น ”
“…!”
“…!”
กรอทิมและลูเบลล่า ทั้งสองต่างเป็นแสงกับความมืิดท่ีขัดแย้งกันทุกด้าน แต่เวลานี้พวกเขาแสดงออกร่วมกันว่ากำลังตกใจ ดวงตาที่เบิกกว้างจ้องไปทางซีค แม้แต่สัตว์อสูรและอัดเดดก็นิ่งชะงักไปด้วยเพราะผู้ควบคุมอย่างกรอทิมนิ่งค้างไป
“…เฮ้อ นั่นไม่จริงหรอกเพราะแกได้พาตัวเธอมาให้ถึงมือ ข้าไม่มีเวลาให้ไร้สาระมาก ”
“ แน่นอนว่าที่มา เพราะต้องมาจบเรื่องนี่ ”
ซีคชี้ดาบไปทางนู้นทีทางนี้ทีเหมือนต้องการชี้ว่านี้แหละคือปัญหาที่เขาต้องมาจบ และ กรอทิมก็เย้ยหยันคำพูดของเขา
“ ฮาฮาจะจบเรื่องย้งไงละ อ้อนวอนพวกข้าใช่มั้ย หรือยังคิดว่าเอาชนะได้อยู่อีก ”
สัตว์อสูรและอันเดดกำลังล้อมพวกเขาทุกทาง แม้ซีคจะแข็งแกร่งพอตัวแต่ด้วยจำนวนศัตรูแค่การหลบหนีออกไปยังไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด
“ ถูกแล้วละ พวกเราสองคนทำไม่ได้ ”
สิ่งนี้น่ารำคาญที่ต้องยอมรับ แต่มันเป็นเรื่องจริง ถ้าตัวซีคตอนสมัยเป็นจอมมารเขาสามารถทำลายเรื่องยุ่งยากตรงหน้าได้ในเสี้ยววินาที แต่ตัวเขาปัจจุบันนั้นไม่ไหวเพราะเขารู้ทั้งหมดจึงยอมเดินเข้าหาแผนการของกรอทิม
“ นี่แกเอาจริงใช่ไหมเนี่ย ที่ข้าขีดเขียนไปมาที่รูปปั้นพวกนั้น เพราะคิดว่ามันมีผลต่อพิธีกรรม ”
“…!”
“…!”
หัวใจของกรอทิมและลูเบลล่าถูกจับทุมอีกครั้ง
“…แกเดินไปรอบๆเมือง วาดวงกลมเวทย์มนตร์ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีอะไร? ”
" ใช่ "
" เพื่ออะไร? "
จนถึงตอนนี้กรอทิมคิดว่าซีคและลูเบลล่ากำลังเดินอยู่บนฝามือตัวเอง และเขาก็เฝ้ามองทั้งสองอย่างตลกขบขัน แต่ทำไมกันละ หากที่ซีคพูดจริงเขารู้สึกเหมือนว่าชัยชนะตนเองเป็นแค่ภาพลวงตา และสถานการณ์ของพวกเขาจะพลิกผันโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้ที่ซีคเริ่มพูดเรื่องราวออกมาอย่างใจเย็น การขมวดคิ้วของกรอทิมก็เริ่มลึกขึ้น
“ เหตุผลแรกที่ต้องเดินเข้ามา ก็เพื่อตบไอ้ตัวโง่เง่าอย่างแกให้คว่ำ ”
" โค่นข้าลง? "
“ ใช่ เพื่อไม่ให้แกหลบหนีไป แล้วหลงเหลือความไม่สบายใจทิ้งเอาไว้ ”
มีอีกส่วนที่ซีคไม่ได้พูด คือเขาไม่อยากเสียโอกาสที่จะขยี้จิตวิญญาณและความเชื่อมั่นของกรอทิมไปด้วย กรอทิมเงียบ แต่สักพักหนึ่งก็หัวเราะออกมา
" ฮ่าๆๆๆ! แกจำไม่ได้หรือไงว่าพึ่งพูดอะไรออกมา? ที่แท้ตอนนี้ก็เปลี่ยนใจแล้วอยากปลุกความเชื่อมั่นอยู่หรอ ฮ่าๆๆๆ!”
เพราะตัวเขาหัวเราะมากเกิน กรอทิมจึงต้องกุมมือที่ท้องและมีน้ำตาไหล ก่อนจะปาดออกและพูดต่อว่า
“ คิดไว้แล้วว่าจิตใจไอ้หนูนี่ต้องไม่ปกติ โอเคๆ สมมติว่าเป็นตามที่แกพูด ” “ แล้วหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปละ เจ้าพูดออกมาแล้วว่าตอนนี้สู้ข้าไม่ได้ หรือพูดเล่น? ”
“ ไม่ เรื่องนั่นพูดจริง เราสองคนก็ไม่มีโอกาสต่อต้านแล้ว ”
ซีคยักไหล่และรอยยิ้มไม่ได้หายไปจากใบหน้า
“ ก็อย่างที่บอก ถ้ามีแค่เราสองคน ”
“ หมายความว่าไง จะบอกข้าว่าแกมีกำลังเสริมใช่ไหม มันสายเกินไปแล้วที่กองกำลังจากราชอาณาจักรหรือจากคารุวิมานจะมาถึง ”
“ แกลืมคิดไปบางอย่าง พวกเรายังมีตัวสำรอง”
" ว่าอะไรนะ? "
“ แกพูดถูกแล้ว ว่าที่พวกเราเดินไปมารอบๆเมืองทำนู้นทำนี่แล้วไม่เห็นมีผลอะไรต่อพิธีกรรม ” “ พวกเราก็ไม่ต่างจากแกหรอก เวลาไงเวลา ”
ใบหน้าของกรอทิมซึ่งเคยยิ้มเมื่อสักครู่นี้ กำลังแข็งกระด้าง
“ ครั้งนั้นข้าไม่ได้พูดโดยไร้เหตุผลสักหน่อยว่าอยากทำลายรูปปั้น แค่อยากให้แกเข้าใจและเชื่อว่าพวกเราต้องกลับมาหาแกอย่างแน่นอน ”
น้ำเสียงของซีคมีชีวิตชีวาและแฝงความสนุกสนาน ในทางตรงกันข้าม ใบหน้าของกรอทิมเริ่มแย่ลงอย่างช้าๆ
“ คนโง่ๆตัวประกอบแบบแกเข็ดหลาบไม่เป็นอยู่แล้ว ถ้าข้ามองไม่ออกว่าแกอยากได้ตัวยัยนี้แค่ไหนก็ตาบอดแล้วละ ”
“ หะนาย…นายพูดเหมือนว่านาย รู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้วว่าเขาวางแผนจะทำอะไร ไม่สินายตั้งใจให้เกิดขึ้น?”
“ ใช่ ไม่งั้นจะเหนื่อยวนไปมารอบเมืองทำไมกันละ ยัยบ๊องนี่ ”
“ อะไรของนายกันเนี่ยย! ”
ใบหน้าของลูเบลล่าไม่ได้แตกต่างจากของกรอทิมมากนัก ไม่สิ หน้าเธอดูตกใจมากกว่าเขาด้วยจากที่เห็น
“ งั้นนายก็หลอกฉันเหมือนกัน วงเวทย์นั่นอีก…นายมัน”
“ ก็ไม่คิดว่าเธอจะแสดงละครตบตาได้ นอกจากนี้ แผนแบบนี้มันอ่อนไหวมากเกินไป เกิดอีกฝ่ายเอ๊ะใจสักหน่อยพวกเราได้เป็นปุ๋ยกันไปแล้ว ”
คำตอบที่มั่นใจและตรงๆของซีค ทำให้ลูเบลล่าไม่รู้จะโต้เถียงอย่างไร
“ ก่อนหน้าก็บอกเธอไปแล้ว ”
“ นายบอกอะไรฉัน? ”
“ ตอนเธอขอโทษที่สงสัยกัน แล้วข้าก็บอกไปว่าไม่จำเป็นต้องเสียใจ ”
“ …แล้วนั่นไม่ใช่การถ่อมตัวเหรอ?”
" ไม่ มันไม่ใช่นะ อะไรคือการถ่อมตัว?"
ทั้งที่เธอต้องพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่ แต่พอยิ่งฟังคำพูดซีคเธอยิ่งรู้สึกหมดแรง
“ อ-อย่าทำให้ข้าเป็นตัวตลก! ”
ในที่สุดกรอทิมก็รู้สึกแล้วว่าเขากำลังกลายเป็นของเล่น ใบหน้าของเขาก็แดงสด
“ ตัวสำรอง!? ต้องการจะเล่นบ้าอะไร ก็เห็นอยูู่ว่าตอนนี้มีแค่พวกแกสองคน? ”
“ ไม่ได้โกหกแกจริงๆ”
“ แล้วมันหมายความว่ายังไง! เสี่ยงชีวิต ซื้อเวลาแค่นี้ไปเพื่ออะไร! ”
“ เอ่อ อยากรู้แล้วเหรอ”
และในช่วงเวลาวินาทีนั่นเอง
บูมมมม!
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ใกล้กับที่คฤหาสน์ถล่ม ซีคยิ้มอย่างสดใส
“ แกรู้จักตาแก่ที่ชื่อ เบลรี่ เวกค์คนนั่นไหม”
‘ หรือแกควรรู้จักเขาในฐานะ เครื่องจักรสังหารแห่งแทสเนีย ดีละ ’
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 527
ความคิดเห็น
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น