ในความดำมืดอันไร้จุดจบนั้น

-A A +A

ในความดำมืดอันไร้จุดจบนั้น

          “ตื่นได้แล้วครับ!!”   เสียงประกาศของนิโคลัสทำให้วิลเลี่ยมสะดุ้งหลุดจากฝันก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนด้วยอาการสะลึมสะลือ   เดินไปห้องอาบน้ำด้วยทรงผมกระเซอะกระเซิงและดวงตาที่ยังใช้งานได้ไม่เต็มร้อย   เขาเดินตรงไปที่อ่างน้ำโดยไม่ได้สังเกตอะไรพร้อมปลดเปลื้องเครื่องนุ่งห่มทว่า   ดวงตาที่กำลังคืนการมองเห็นอย่างช้าๆ   เห็นร่างของชายผู้หนึ่งผู้กำลังนั่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำก่อนหน้าอย่างเงียบสงบ   โดยไม่มีการกล่าวทักทายใดๆ   วิลเลี่ยมหันหลังและเดินออกจากห้องน้ำไปโดยที่ยังเปลือยเปล่า   ซาคาเรียสยืนมองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเกิดความสงสัยในพฤติกรรมของเขาคนนั้น   “วิลเลี่ยม!   ไม่อาบน้ำหรือครับ?”   ถามคนอื่นแบบนั้นแต่ตัวซาคาเรียสเองก็ยังสวมชุดนอนอยู่เลยและถือชุดนักเรียน   หยดน้ำที่คืนลงสู่ผืนน้ำอย่างต่อเนื่องดังขึ้นพร้อมกับร่างที่ลุกขึ้นยืนของโทมัส   “พี่เองก็มาอาบน้ำได้แล้วครับ”   น้ำตามร่างกายเพรียวผอมแต่ปรากฏมัดกล้ามเด่นชัดระเหิดอย่างรวดเร็ว

 

          “เนื่องจากเมืองนี้มีกฎพิเศษดังนั้นพวกคุณจึงไม่มีอิสระในการเยี่ยมชมเมืองตามอัธยาศัยแต่จะต้องอยู่ในการดูแลของผมที่จะเป็นผู้พาชมเมืองครับ   ที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง....เอ....ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจเลยนะครับนอกจากปราสาทตระกูลไททาเนียน....งั้นเอาปราสาทไททาเนียนเป็นจุดหมายของวันนี้ก็แล้วกันนะครับ!!”  

          โทมัสและเพื่อนเดินเกาะกลุ่มอยู่ในแถวมนุษย์ที่กำลังเคลื่อนตรงไปข้างหน้าผ่านถนนแคบที่ห้อมล้อมด้วยอาคารบ้านเรือน   นิโคลัสนั่งคุมบังเหียนรถม้าอย่างสบายใจเป็นผู้นำแถว   พื้นที่ในเมืองลอว์เนอร์ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ   มันก็เหมือนกับเมืองอื่นที่ผ่านมาเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก   ผู้คนเมืองนี้ไม่แสดงออกถึงความเป็นมิตรเพราะแม้แต่รอยยิ้มก็ไม่มีปรากฏให้เห็นบนใบหน้าขมึงตึง   อีกทั้งสายตาที่พวกเขามองผู้มาเยือนทั้งเย็นชาและหยิ่งยโส   ทั้งที่การแต่งกายไม่ได้แสดงถึงอำนาจหรือความมั่งคั่งให้อวดเบ่ง  

          โทมัสมองสำรวจบ้านเรือนและพื้นถนน   เขารับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ   พวกมันมีสภาพใหม่และไม่ดูเก่าเหมือนเมืองที่ผ่านมา   ไร้ซึ่งร่องรอยของการแตกหักตามกาลเวลาทั้งที่เมืองน่าจะถูกสร้างขึ้นพร้อมกับเมืองอื่น   “มีอะไรหรือครับ?”   ซาคาเรียสกล่าวขึ้นหลังเห็นพฤติกรรมของอีกฝ่าย   “ไม่มีอะไรครับ”  

          การเดินทางดำเนินต่อไปโดยไร้เสียงสนทนากระทั่งออกจากเขตชุมชนและเข้าสู่ทุ่งหญ้ากว้าง   เดินต่ออีกสักพักก็พบกับป่าทึบที่ดูวังเวงและน่ากลัว   สิ่งที่ปรากฏเหนือผืนป่าคือปลายแหลมของสิ่งก่อสร้างที่มีสีดำสะดุดตาและคาดว่าน่าจะเป็นยอดแหลมของปราสาทที่นิโคลัสเกริ่นไว้ก่อนเดินทาง   ภายในป่าที่ปกคลุมโดยชั้นหิมะบาง   ไม่มีทางเดินที่ชัดเจน   ไม่มีป้ายบอกทาง   และเป็นไปไม่ได้ที่นิโคลัสจะขับรถม้าเข้าไปก็เลยจำใจเดินเท้าฝ่ากำแพงป่าพร้อมนักเรียนคนอื่น   “ทางเดินในป่าก็ไม่มีแบบนี้พวกที่อาศัยในปราสาทถ้าไม่ใช่สุนัขที่จำกลิ่นได้ดี   ก็คงไม่ใช่คนปกติแล้วล่ะมั้งครับเนี่ย”   วิลเลี่ยมวิจารณ์อย่างติดตลก   “คุณวิลเลี่ยมเหมือนกำลังว่าคุณนิโคลัสเลยนะครับ   ฮ่าๆๆ”   ซาคาเรียสเสริม   นักเรียนโรงเรียนมัธยมฟรานซิสโก้ต่างถูกมองว่าเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลผู้ดี   พอต้องมาเดินเท้าในป่าทึบยิ่งทำให้มีแต่อุปสรรคและความทุลักทุเลแต่จนแล้วจนเล่าก็สามารถหลุดพ้นออกมาจนได้   แสงจ้าทำให้หลายคนหรี่ตาลง   ส่วนตาที่ยังปรับสภาพกับสภาวะที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันมองเห็นลานกว้างที่เต็มไปด้วยกองหิมะหนาและปราสาทที่ถูกทาด้วยสีดำ   ดูเก่าแก่และน่าเกรงขามแม้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนคฤหาสน์ตระกูลโฮเวิร์ด   “ปราสาทไททาเนียน   มรดกแห่งอดีตที่ยังมีชีวิต”   โทมัส   ซาคาเรียสและวิลเลี่ยมต่างหันไปมองรูบี้เป็นตาเดียว  

          นิโคลัสเคาะประตูไม้   เงียบฉี่   เขาประกาศชื่อเสียงเรียงนามของตนออกไปแต่ก็ยังไม่มีการตอบรับที่น่าพึงพอใจ   “ให้องครักษ์ของเจ้าชายใช้ไฟสีม่วงเผาประตูเลยสิครับ!”   เสียงตะโกนจากนักเรียนคนหนึ่งกระตุ้นเสียงสนับสนุนของกลุ่มผู้เห็นด้วยให้ดังขึ้นตาม   และน่าสนใจที่เสียงเหล่านี้มันดังมาจากกลุ่มนักเรียนที่อยู่ในสังกัดหมูป่าและอินทรี   โทมัสได้แต่รับฟังถ้อยคำจิกกัดอย่างใจเย็น   นี่ก็ครั้งที่   2   แล้วที่เรื่องนี้มันถูกยกขึ้นมาพูด   ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอย่างที่ว่าได้จริงหรือไม่   “ถ้าเขาทำแบบนั้นแล้วพวกคุณทุกคนคงไหม้เป็นจุณภายใน   1   นาทีเห็นจะได้นะครับ”   นิโคลัสเปิดนาฬิกาพ็อกเก็ตพร้อมแสยะยิ้มที่ทำให้กลุ่มนักเรียนปากพล่อยหุบปากในทันใด

          “อะแฮ่ม~   ข้าโบนกิน นิโคลัส ผู้บัญชาการกองกำลังแคปิตอล คอป สังกัดทิศใต้ขอเข้าพบกับท่านไฮลอร์ดไททาเนียน แบล็ก เกเลียน!!”   ประตูถูกเปิดออกจากด้านใน   นิโคลัสหันไปส่งรอยยิ้มอย่างผู้มีชัยให้นักเรียนด้านล่าง   ไฮลอร์ด   วิลเลี่ยมขมวดคิ้ว   “สงสัยสินะครับ”   ซาคาเรียสยิ้ม   “ไฮลอร์ดคือชื่อตำแหน่งในสมัยโบราณที่จะถูกมอบให้แก่นักรบผู้แสดงความจงรักภักดีสูงสุดต่อกษัตริย์และสมาชิกในราชวงศ์ครับ   ตำแหน่งไฮลอร์ดในปัจจุบันถูกเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นแกรนด์ดยุคซึ่งเป็นผลมาจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและไม่มีการทำสงครามเกิดขึ้นครับ”   ซาคาเรียสอธิบาย   “ถ้างั้นแล้วทำไมคุณนิโคลัสถึงเรียกคำนำหน้าชื่อว่าไฮลอร์ดแทนที่จะเรียกว่าแกรนด์ดยุคล่ะครับ?”   วิลเลี่ยมไม่เลิกสงสัยง่ายๆ  

          หน้าประตูมีร่างของหญิงสาวผู้แต่งกายในชุดเดรสสีดำ   เรือนร่างที่สมส่วนเมื่อรวมเข้ากับใบหน้าสวยหากแต่ไร้รอยยิ้มจึงทำให้ดูเป็นอิสตรีหน้าดุ   “คุณโบนกิน นิโคลัสและนักเรียนโรงเรียนมัธยมฟรานซิสโก้ทุกคน   ขอต้อนรับสู่ปราสาทไททาเนียน”   เสียงกล่าวที่แสนเย็นยะเยือกของหล่อนทำให้ผู้ฟังขนลุกอย่างน่าประหลาด   “สวัสดีครับ   คุณผู้หญิง   ผมกำลังคิดอยู่เลยว่าจะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเพื่อที่จะได้สลับกันเข้าชมปราสาทได้ครบถ้วนครับ”   นิโคลัสกล่าว   “เรื่องนั้นดิฉันได้เตรียมการไว้แล้วแต่ก่อนอื่นดิฉันอยากจะขอพระมหากรุณาธิคุณจากเจ้าชายฟรานซิสโก้ อเล็กซิน โทมัสและองครักษ์ส่วนพระองค์มาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติคนแรกในการเข้าชมปราสาทแห่งนี้เพคะฝ่าบาท”   ซิการ์โค้งตัวทำความเคารพ

          ทั้งซาคาเรียสและโทมัสต่างสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากสายตาของนักเรียนที่มองมา    แหวกทางออกให้พวกเขาเดินผ่านไปอย่างสะดวกจนเมื่อถึงที่ด้านหน้าของผู้ใหญ่   2   คน   “เชิญเพคะฝ่าบาท”   ซิการ์เปิดประตู   เบื้องหลังคือห้องโถงกว้าง   เครื่องประดับและสิ่งของหรูหรามากมาย   การออกแบบมีสีดำเป็นองค์ประกอบหลัก   ซาคาเรียสก้าวขาเข้าไปในพื้นปราสาท   ความรู้สึกไม่สบอารมณ์บังเกิดทันใด   ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่เป็นมิตรกับจมูก

          เมื่อประตูถูกปิดลงอีกครั้ง   ซิการ์เอื้อมมือไปแตะที่บานประตูไม้   อักขระสีดำรอบบานประตูปรากฏขึ้นและขยับไปมาจนกลายเป็นประโยคใหม่และหายไปก่อนที่เธอจะเปิดประตูอีกครั้ง   คราวนี้เป็นตาของนักเรียนที่เหลือ   น่าแปลกที่แถวนักเรียนไม่มีทีท่าว่าจะเกิดการชะลอเพราะการจราจรภายในปราสาทจนเหลือแค่นิโคลัสและซิการ์เพียงลำพัง   “ผมเข้าได้รึยังครับ?”   นิโคลัสยิ้ม   “คุณโบนกิน   ตามดิฉันมา”   ใบหน้าเรียบนิ่งปราศจากซึ่งการตอบสนองต่อความเป็นมิตรทำให้เขารู้สึกประหม่า

 

          ภายในห้องแห่งหนึ่ง   โต๊ะไม้ยาวมีลวดลายสลักสีดำสลับทองตั้งอยู่ที่กึ่งกลางห้อง   บุรุษ   3   คนนั่งประจำหัวโต๊ะและ   ด้านขวาและท้ายโต๊ะ   วินเซนต์   โทมัสและซาคาเรียส   เป็นเขาคนนี้นี่เองที่ให้กำเนิดบรรยากาศอันน่าขยะแขยงในตอนที่เดินเข้ามา   “นี่รึองครักษ์ของพระองค์ที่สามารถเอาชนะหมูป่าจอมพยศได้?”   วินเซนต์เหลือบตามองโทมัส   “ด้วยอัคคีสีม่วง   ข้าได้ยินไม่ผิดใช่รึไม่?”   โทมัสและซาคาเรียสต่างไม่ตอบโต้อะไร   “หากองครักษ์ของพระองค์มีฝีมือขนาดนี้แล้วตัวพระองค์เองจะแข็งแกร่งมากกว่าเพียงใด   กระผมชักอยากจะลองดูสักหน่อย”   วินเซนต์ค่อยๆ แสยะยิ้มออกมา   “มีธุระอะไรกับผมหรือครับ?”   สีหน้าและแววตาของซาคาเรียสบ่งบอกถึงความไม่เป็นมิตร   “กระผมหรือขอรับ?   กระผมไม่กล้าที่จะมีธุระกับพระองค์....”   เสียงเดินที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้น   “ชั่งประจวบเหมาะอะไรเยี่ยงนี้   ชายผู้มีธุระกับพระองค์ได้มาถึงแล้วขอรับฝ่าบาท”   วินเซนต์ลุกขึ้นยืนและเดินไปนั่งที่มุมซ้าย   ฝั่งตรงข้ามกับโทมัส  

          เพียงอึดใจประตูก็ได้เปิดออก   บุรุษปริศนาผู้ใบหน้าไม่คุ้นตาเดินเข้ามา   เครื่องแต่งกายสีดำ   มีสายโซ่และเครื่องประดับอื่นๆ   ที่กระเป๋าเสื้อปรากฏสัญลักษณ์ตราประจำตระกูลซึ่งเป็นรูปหมาป่าสีดำกับดาบและมีด   เสื้อและกางเกงมีลวดลายสีขาวคล้ายเขี้ยวและยังมีสายสะพายที่ทำมาจากกระดูกยาวสีขาว   เส้นผมสีดำเรียบตรง   ใบหน้าเคร่งขรึม   เดินตรงมาที่เก้าอี้ตัวที่วินเซนต์เคยนั่ง   ทำความเคารพซาคาเรียสก่อนจะนั่งลง   ความอึดอัดที่เคยก่อตัวในตอนที่นั่งประจันหน้ากับวินเซนต์ทวีความเข้มข้นและแผ่กระจายปกคลุมทุกมุมห้อง   ยิ่งเมื่อต้องนั่งจ้องหน้าของชายผู้มีนัยน์ตาสีเหลืองผู้นี้

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.