ตอนที่20:หรือนายจะเคยเป็นโจร

-A A +A

ตอนที่20:หรือนายจะเคยเป็นโจร

หมวดหนังสือ: 

หลังจากเมื่อคืนที่ซีคตัดสินใจให้เธอยืมพลังเพื่อหยุด'พิธีกรรมสังเวยเมือง'  ทั้งวันลูเบลลล่าจึงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพักผ่อน ตั้งแต่ที่เธอเริ่มหลบหนีไม่มีวันไหนที่เธอรู้สึกปลอดภัย เมื่อมีโอกาสเธอจึงต้องการพักผ่อนให้มากที่สุด

ยามพระอาทิตย์ตกดินจึงเป็นเวลาที่ซีคพาลูเบลลล่าออกจากที่พัก เขาอุ้มลูเบลล่าออกทางหน้าต่างวางตังเธอลงก่อนจะกลับมาออกทางประตูหน้าใหม่อีกครั้ง 

โชคดีที่วันนี้ดวงจันทร์และแสงดาวถูกเมฆปกคลุมเหมือนเดิม ทำให้พวกเดินทางในเมืองโดยไม่มีใครเห็นได้โดยง่าย ซีคคอยจูงมือลูเบลล่าในคืนมืดมุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์เจ้าเมือง 

“ หลังนั้นค่ะ ” ลูเบลล่ากระซิบขณะชี้ไปที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง

ไม่ผิดจากที่คิดไว้คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตมาก มันมีโครงสร้างสามชั้น รอบคฤหาสน์เต็มไปด้วยต้นไม้ราคาแพงบางต้นดูแปลกตา ตกแต่งหรูหรางดงามเพื่อแสดงความมั่งคั่งของตัวเจ้าของมัน

ซีคมองไปที่คฤหาสน์ ตอนที่เขาเดินสำรวจเมืองก็เคยเห็นคฤหาสน์หลังนี้มาก่อนเช่นกัน

“ เธอรออยู่นี่ก่อน ”

ซีคแยกตัวจากลูเบลล่า เขากระโดดขึ้นไปบนหลังคาใกล้ๆ แล้วมองไปรอบคฤหาสน์ก่อนที่ดวงตาเขาจะหรี่ลงด้วยความสงสัย

มีโคมไฟแขวนไว้รอบบ้าน มีกระทั่งตะเกียงเวทมนต์ คฤหาสน์จึงดูสว่างไสวเป็นพิเศษในเวลากลางคืน ซีคมองเห็นแม้แต่ทหารยามที่เฝ้าคฤหาสน์ทั้งหมด เรื่องนี้เขาไม่แปลกใจ เพราะเหตุการณ์ที่ลูเบลล่าถูกวางกับดักก็พึ่งเกิดได้ไม่นานที่คฤหาสน์หลังนี้ แต่

‘ จำนวนเวรยามน้อยเกินไปรึเปล่า ดูแล้วไม่มีคนไหนที่มีความสามารถควบคุมมานา ’

ช่วงกลางวันที่เขามาสำรวจก็รู้สึกสงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน ซีคลงมาจากหลังคาแล้วบอกสิ่งที่เขาเห็น ก่อนเขาจะถามเธอ “ ตั้งแต่ตอนนั้นทหารยามก็มีน้อยแบบนี้รึเปล่า ”

“ ฉ..ฉันจำไม่ค่อยได้ค่ะ ”

ลูเบลล่าก้มหน้ารู้สึกผิด แต่ซีคก็ไม่ได้โทษเธอ ลูเบลล่าที่อยู่ระหว่างทดสอบการเป็นนักบุญคนต่อไป แต่ที่จริงเธอพึ่งจะออกมาหาประสบการณ์จากโลกภายนอกครั้งแรก เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะคาดหวังให้เธอจดจำรายละเอียดแบบนี้ได้ ยิ่งในสถานการณ์ย่ำแย่  

“ ไม่เป็นไรตอนนี้พวกเราแอบเข้าไปในคฤหาสน์ให้ได้ก่อน ”

“ จะไม่เป็นไรหรอค่ะ มันดูไม่ปกติเลย ”

“ ใช่ คงจะมีกับดักรอพวกเราอยู่ ”

“ งั้นถ้าเราเข้าไปตอนนี้จะไม่อันตรายหรอ ”

ลูเบลล่าตกใจ กับสิ่งที่ซีคบอกออกมาด้วยโทนเสียงจริงจัง

“ ก็นะ ถ้าเรามีเวลามากกว่านี้ ก็สามารถถอยออกมาเพื่อวิเคราะห์เพิ่มแล้วค่อยวางแผนใหม่ได้ตาม… ”

“ นั่นสินะค่ะ ”

 “ ถึงมีกับดัก พวกเราก็ต้องเข้าไปอยู่ดีใช่ไหมละ”

“ …ค่ะ ท่านซีคพูดถูก ”

ดวงตาของลูเบลล่าสั่นจากความประหม่า ตื่นกลัว แต่อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดเธอลบพวกมันออกไปด้วยความแน่วแน่และมุ่งมั่นแทน 

" ไปกันเถอะ "

เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในใจของเธอ ซีคก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

‘ นี้สินะคือตัวตนของเธอ เหมือนเห็นยัยผู้สร้างซอมบี้นั้นอีกครั้งเลย ’

เมื่อนึกย้อนกลับไป ตัวตนที่น่ารำคาญและก่อกวนเขาที่สุดในปาร์ตี้วีรบุรุษนั้นก็คือลูเบลล่า

‘ ในการต่อสู้เป็นกลุ่ม ยังไงก็ต้องลงมืดจัดการฮีลเลอร์ก่อน ’

แต่ซีคก็หยุดความคิดไว้แค่นี้ เขากลับมาจดจ่อกับเรื่องตรงหน้าก่อน 

“ เราจะไม่เข้าไปแบบประมาทหรอก เธอไม่ต้องกังวลเกินไป ”

ซีคตบหลังลูเบลล่าให้คลายความตึงเครียด เมื่อเธอดูเย็นลงซีคจึงยกเธอขึ้นพาดบนบ่าโดยที่ไม่บอกก่อน 

" อือ !"

ลูเบลล่าหยุดตััวเองอย่างเร็ว ตอนทีี่กำลังจะร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ น นายกำลังจะทำอะไรเนี่ย? ”

“ ก็ตอนนี้พวกเราต้องแอบเข้าไป แบบนี้มันง่ายกว่า ”

“ แต่นายอุ้มฉันแบบนี้ ฉันก็เหมือนกระเป๋าสัมภาระเลยไม่ใช่รึไง ”

“ ใช่เธอเป็น อย่างน้อยก็ตอนนี้แหละ "

ลูเบลล่าจ้องเพ่งไปที่ซีค แต่เขาไม่สนใจเธอ ซีคเคลื่อนที่ผ่านความมืดก่อนจะก้าวตรงไปยังคฤหาสน์

แตะ!

ด้วยการเคลื่อนไหวของเท้าเบาๆ ร่างของทั้งคู่ก็ทะยานขึ้นโดยลูเบลล่าจับคอซีคไว้แน่น แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซีค อุ้มเธอแต่เธอก็ยังไม่คุ้นชินกับการเคลื่อนไหวลักษณะนี้เลย ซีคกระโดดมาลงบนพื้นหญ้าอ่อนๆโดยที่แทบไม่เกิดเสียง ก่อนจะมองไปรอบๆ

‘ ตรงจุดนี้ไม่มีเวรยามเฝ้า มองตรงหน้าต่างก็ไม่มีใครอยู่คอยสอดส่อง ’

ซีคเดินหน้าต่อโดยไม่ลังเล เขาใช้ประโยชน์จาก พุ่มไม้ ต้นไม้ และรูปปั่น เพื่อซ่อนตัวจากสายตาทหารยาม ส่วนลูเบลล่าก็มองซีคแบบประหลาดจากทักษะการเคลื่อนไหวของซีค พวกเขาเคลื่อนไหวเร็วมากก่อนจะมาถึงหน้าต่างไม้บานหนึ่งที่ถูกปิดอย่างแน่นหนา ซีคกระชับแขนข้างที่อุ้มลูเบลล่าให้แน่นขึ้น ก่อนจะใช้อีกข้างหยิบกริชออกมาแทงลอดเข้าไปยังหน้าต่างบานนั้น

กริก!

หลังจากมีเสียงตัดเล็กน้อยหน้าต่างก็เปิดออกได้โดยง่าย ซีคอุ้มลูเบลล่าเข้าหน้าต่างแล้ววางเธอลง แล้วหันกลับไปหยิบแม่กุญแจที่หล่นมาบิดเป็นมุมฉาก ใช้มันยึดหน้าต่างอีกครั้งอย่างแน่นหนา

“ ตอนนี้เธอน่าเคลื่อนไหวเองได้แล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้เรา ”

“ ที่นายบอกว่า ผ่านชีวิตมาอย่างยากลำบาก นายเคยเป็นหัวขโมยมาก่อนใช่ไหมเนี่ย ”

“ ฮาๆทำไม เพราะข้าแอบเข้ามาได้อย่างดูเป็นธรรมชาติละสิ ”

" ใช่ตั้งแต่ทักษะย่องเบาของนายแล้ว ถ้านายบอกว่าเมื่อก่อนเป็นหัวหน้าโจรมาก่อนฉันก็เชื่อ ”

“ ไม่หรอก ข้าเคยเป็นขุนนาง ”

“ นายอย่ามาโกหกฉันนะ ”

ลูเบลล่าทำหน้าตึง

“ ความผิดโทษฐานที่แอบอ้างเป็นขุนนางมีโทษถึงประหารชีวิตเลยนะ ”

“ งั้นหลังจากจบเรื่องนี้ ทำไมเธอไม่ลองไปที่ตระกูลสตีลวอลล์แล้วถามเกี่ยวกับชื่อ ซีค สตีลวอลล์ดูหละ ”

“ เธออาจจะเจอเรื่องน่าสนใจบางอย่างก็ได้ ” 

“ สตีลวอลล์? ”

แม้แต่ลูเบลล่าก็รู้เกี่ยวกับตระกูลสตีลวอลล์ พวกเขาเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงมากในราชอาณาจักร

' เขากำลังบอกว่าตัวเองคือ ซีค สตีลวอลล์ งั้นหรอ '

การใช้'สตีลวอลล์'เป็นนามสกุลหมายความว่าเขาต้องเป็นสมาชิกหลักภายในตระกูล โดยที่มีโอกาสสูงมากที่ซีคจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับท่านเคานท์แห่งสตีลวอลล์

จะว่าไปคนที่เธอคิดว่าเคยเป็นโจรขโมยเมื่อกี้ก็ไม่เคยบอกนามสกุลตัวเองมาก่อนเลยสักครั้ง โดยความสามารถของเขายังสามารถตัดโต๊ะเป็นสองส่วนด้วยช้อนไม้เล็กๆเท่านั้น

“ เดี๋ยวก่อน! ถ้านายเป็นขุนนางจริงๆ แล้วนายเกี่ยวข้องกับตระกูลสตีลวอลล์ยังไง ”

“ ลูเบลล่า ตอนนี้เรื่องข้างหน้าสำคัญกว่า ถึงได้บอกว่าถ้าอยากรู้ก็ไปตรวจสอบหลังจากจบเรื่องนี้ไง ”

ซีคตบไหลลูเบลล่าเบาๆ

“ ตอนนี้พวกเราแอบเข้ามาได้แล้ว ถึงตาเธอที่ต้องนำทางไปห้องนั่น ”

จากคำพูดของซีคก็ดึงความคิดของลูเบลล่ากลับมายังความจริงตรงหน้า อย่างที่ซีคพูดมันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาสนใจอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ

“ กรุณาตามฉันมาค่ะ ”

ลูเบลล่าเริ่มนำซีคอย่างระมัดระวัง โถงทางเดินปูพรมอย่างหนาจึงแทบไม่มีเสียงฝีเท้า ทุกครั้งที่ซีคสัมผัสได้ถึงทหารยามเขาจะพาลูเบลล่าไปห้องที่ใกล้ๆรอจนพวกเขาออกไปจากตรงนั้น ด้วยความชำนาญซีคสามารถเปิดทุกห้องที่ล็อคได้ พวกเขาใช้เวลาไม่นานลูเบลล่าก็พาซีคมาหยุดหน้าประตูห้องหนึ่งโดยเฉพาะ

" ห้องนี่แหละ ห้องที่ฉันเห็นรูปปั้นของเบลลูตั้งไว้ ”

ซีคจ้องไปที่ประตู เขาไม่รู้สึกถึงมนุษย์สักคนในห้อง แต่อย่างไรก็ตาม…

“ ฉันมีความรู้สึกที่ไม่ชอบเกี่ยวกับห้องนี้เลย ”

ในฐานะสาวกทั้งสองฝ่าย คารุวิมาน และ เบลลิดเหมือนน้ำกับน้ำมัน เมื่อพูดถึงพวกเบลลิดท่าทีลูเบลล่าที่แสดงออกมาต่างกับปกติ 

ลูเบล่าพูดออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ สาวกเบลลิดทุกคนเป็นพวกน่าโมโห ”   

ซีคเปิดประตู แสงจากโถงทางเดินลอดผ่านเข้าไปในห้องทำให้เห็นด้านใน สิ่งที่ปรากฎขึ้นคือรูปปั้นที่หัวคล้ายปลามีเขาฝั่งละสองข้างบนล่างรวมเป็นสี่ข้าง ร่างกายเป็นกล้ามเนื้อที่มือและเท้าเป็นพังผืด ดวงตาที่ยาวและคมปลดปล่อยกลิ่นอายของสัตว์ร้ายที่หิวโหย เหมือนสามารถฆ่าทำลายตามใจตัวเองทันที

" เบลลูนี้ปกติดูเหมือนปลาโง่ๆดีนะ "

“ ใช่ค่ะ มีแต่คนโง่ไร้สมองอย่างพวกเบลลิด ที่บูชาเทพที่แย่ๆแบบนี้ ”

ลูเบลล่าเสริมการเยาะเย้ยของซีค เนื่องจากเบลลูเป็นเทพปีศาจแห่งสายน้ำ รูปลักษณ์ภายนอกหลายส่วนที่คล้ายกับสัตวในน้ำจึงปรากฎให้เห็น ดังนั้นจึงมีอีกชื่อที่ผู้คนเรียกคือ หัวปลา แน่นอนว่าพวกเบลลิดไม่ยอมรับชืื่อนี่

ซีคเข้าใกล้รูปปั้น เนื่องจากเขาไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์เหมือนลูเบลล่า เขาจึงไม่รู้สึกถึงออร่าน่ารังเกียจของเบลลูได้ดีเป็นพิเศษ แค่เธอเห็นก็รับรู้ได้ทันทีแม้มันถูกซ่อนไว้ แต่ถ้าเขาสัมผัสรูปปั้นโดยตรงเขาก็รับรู้มันได้เหมือนกัน

พุช!

ซีควางมือบนรูปปั้นแล้วส่งพลังมานาเข้าไปเล็กน้อย รูปปั้นมีปฎิกิริยาส่งผลสะท้อนดีดกลับมาที่ร่างกายซีคจนสั่น

‘ ยังเป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยงเหมือนเคยไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ’

เขารู้สึกเหมือนเอามือไปจับปลาที่เน่าเปื่อยมาหลายวัน หรือว่า กำลังว่ายน้ำในสระสกปรก

ซีคปล่อยมือออกจากรูปปั้นและพูดว่า “ มันรู้สึกสกปรกมาก ให้รู้สึกว่าอันตรายหรือแข็งกร้าวยังดีกว่า ตอนนีี้เหมือนพึงกลิ้งไปมาในถังขยะเน่า ”

“ ใช่เลย นายเป็นคนดีกว่าที่คิดนะเนี่ย ”

ดวงตาของลูเบลล่าเป็นประกาย ดูแล้วการได้รับความชื่นชมจากว่าที่นักบุญไม่เพียงแค่การทำสิ่งดีๆเท่านั้น แค่การพูดโจมตีพวกเบลลิดก็ทำให้เธอดีใจขึ้นได้เหมือนกัน

“ ตอนนี้พวกเราก็ยืนยันได้แล้วว่าพวกเบลลิดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน ”

“ ก็ฉันบอกนายไปแล้ว นายไม่เชื่อฉันรึไง ”

“ ก็แค่อยากให้แน่ใจ มีความเป็นไปได้ที่เธอจะถูกหลอก ”

“ ฉันไม่มีทางผิดพลาดเรื่องออร่าชั่วร้ายของพวกเบลลลิดหรอกค่ะ ”

ลูเบลล่าตอบกลับคำพูดของซีคอย่างขุ่นเคือง

“ พวกเราไปหาตัวเจ้าเมืองกันก่อน เหมือนว่ารูปปั้นนี้จะเป็นโครงสร้างหลักของพิธีกรรม ”

“ ถ้าเป็นช่วงแรกที่พิธีกรรมพึ่งเริ่มพวกเราคงพอทำอะไรได้ สำหรับตอนนี้พวกเราไม่มีพลังพอจะทำลายมันโดยตรงวิธีเดียวที่จะหยุดพิธีกรรมได้คือทำลายสื่อกลางของมัน ”

"…ค่ะ. ฉันเข้าใจแล้ว ”

พวกเขาออกจากห้องไป แต่ลูเบลล่าดูเสียใจที่ไม่สามารถทำลายรูปปั้นได้แม้จะอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนเดินออกจากห้องสายตาเธอจ้องมองรูปปั้นสักพัก

ทั้งสองเดินย่องไปในคฤหาสน์เหมือนกับตอนที่ค้นหาห้องรูปปั้นนั่น ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องของเจ้าเมือง ใครเห็นก็คงรู้ได้ว่าน่าจะห้องนี้แหละ เพราะประตูสีแดงใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามไม่เหมือนห้องอื่นอย่างชัดเจน 

“ ห้องนี้ค่ะ ”

“ อือ ดูเหมือนว่าพรมชุดใหม่ ” ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเปลี่ยนพรมที่เปื้อนเลือดออกไป

“ เขา จะอยู่ข้างในมั้ยค่ะ ”

“ ข้าสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ข้างใน ”

ดวงตาของซีคและลูเบลล่าประสานและพยักหน้าพร้อมกัน

ฟิง! แกร้ก!

ซีคดึงดาบตัวเองออกมาเตรียมและลูเบลล่าจับไม้คฑาแน่น

ซีคเป็นคนนำเปิดประตูเข้าไปก่อน ส่วนลูเบลล่าเดินตามหลังไป ในห้องมีแสงเทียนที่คอยให้ความสว่าง แต่มันแค่ไม่กี่เล่มมันไม่พอจะทำให้เห็นทุกอย่างชัด แสงระยิบและสั่นไหวมันทำให้ดูเป็นบรรยากาศลางร้ายมากกว่า

ห้องนี้เหมือนสร้างให้เป็นทั้งห้องทำงานและพื้นที่รับแขก ที่มุมหนึ่งมีชุดโต๊ะเก้าอี้ราคาแพงสำหรับคุยธุรกิจ  ด้านซ้ายก็มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่พร้อมชุดเก้าอี้สบายตั้งรอบ พร้อมของประดับมากมายบนผนัง

จากประตูด้านขวามีประตูอยู่อีกหนึ่งบาน—ดูแล้วคงนำไปสู่ห้องนอนของเจ้าเมือง แต่เหมือนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องไปค้นหาในส่วนนั่นเพื่อหาเป้่าหมาย

เพราะมีคนมองมาทางซีคและลูเบลล่าด้วยทีท่าหยิ่งผยอง เขานั่งบนเก้าอี้หรู แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชั้นดี น้ำหนักตัวดูแล้วเยอะมาก

“ เขาคือเจ้…!”

ซีคเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่ลูเบลล่าจะบอก

การเคลื่อนไหวของเขาเหมือนสายลมจริงๆ ชั่วพริบตาตัวของซีคก็อยู่บนโต๊ะปลายดาบในมือจี้ไปที่คอของเจ้าเมืองแต่ยังไม่ได้แท่งเข้าไป เหตุการณ์์ทั้งหมดเกิดขึ้นอาจจะเร็วกว่าใครสักคนกระพริบตาด้วยซ้ำ

"…เจ้าเมือง…"

ก่อนที่ลูเบลล่าจะพูดจบประโยค เรื่องตรงหน้าก็จบลงแล้ว คำพูดของเธอปลิวไปกับอากาศโดยเหมือนไม่มีประโยชน์ที่จะพูดมันออกมา

“ แกงั้นหรอเจ้าเมืองหมูตอน ใช่แกมั้ยที่เป็นหัวหน้าพวกเบลลิดในเมืองนี้? ” ซีคถามจบขณะที่ดวงตาของเจ้าเมืองกำลังเลื่อนมาที่ตัวเขา

“ อย่าให้เวลาเขาค่ะ! ถ้าเขาพูดพวกอันเดตจะได้รับคำสั่งเข้ามารุมโจมตีพวกเรา! "

ลูเบลล่าวิ่งตรงไปที่ซีคอยู่พร้อมเตือนให้ซีคลงมือทันที แต่ตรงข้ามซีคยังไม่ได้ขยับดาบและเขาใช้สายตาจ้องเขาไปในแววตาของเจ้าเมืองคนนั้น

เฮ้อ~!

หลังจากถอนหายใจซีคก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ พร้อมดึงดาบออกจากคอเจ้าเมือง

“ นายทำอะไรอยู่หนะ! ” ลูเบลล่าตะโกนออกมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ซีคส่ายหัวปฎิเสธ

“ เราจับผิดคน ”

" ทำไมละ? "

“ ไอ้หมูตอนคนนี่ไม่ใช่ตัวการของเรื่องราวทั้งหมด ”

ฟิงง!

ซีคเหวี่ยงดาบของเขาเบาๆ ก็ตัดหัวเจ้าเมืองออกจากตัว ร่างกายที่ไร้หัวอ่อนลง ภาพที่น่ากลัวด้านหน้านี้ทำลูเบลล่าหลับตาลงครู่หนึ่งแต่ไม่นาน เธอลืมตาขึ้นพร้อมมองไปทางซีคคำที่เขาบอกก่อนหน้านี้ทำเธอสงสัย

“ ทำไมนายถึงบอกว่าเราจับผิดคน มันหมายความว่าอย่างไร…!”

ทันใดนั้นซีคก็ขยับตัวด้วยความเร็วสูงทันที แต่ท่วงท่าลื่นไหลมากตอนเคลื่อนที่ผ่านอากาศ 

ฟึมมๆ!

เสียงตัดไฟเบาๆดังเข้าหูเธอและตอนนั้นเองที่สายตาเธอหันไปเห็น

กร็ากกกกก!

มันเป็นเสียงกรีดร้องที่น่าสะพรึงเหมือนมันมาจากนรก เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความเกลียดชัง

ลูเบลล่ายกมือขึ้นปิดหู แต่ไม่มีประโยชน์เพราะเสียงกรีดร้องมันดังอยู่ในหัวเธอ ถึงจะทรมาณแต่เธอก็ไม่ได้หลับตาเป็นโอกาศให้เธอเห็นบางสิ่งบินผ่านไปด้วยความเร็วตรงไปทางเข้าห้อง

ตุ๊ดด!

ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาโดยไม่รู้ว่าอยู่ตอนไหน คว้าสิ่งนั้นที่บินผ่านไป สิ่งที่เธอเห็นคือชายคนนั้นขมวดคิ้วมองไปยังสิ่งที่เขาพึ่งคว้ามัน

" ฮะ? "

ดวงตาของลูเบลล่าเบิกกว้างอย่างตกใจ ผู้ชายคนนั้นเธอรู้จักมาก่อน

“ คุณ..รองเจ้าเมือง!? ”

.

.

.

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.