ตอนที่20:หรือนายจะเคยเป็นโจร
หลังจากเมื่อคืนที่ซีคตัดสินใจให้เธอยืมพลังเพื่อหยุด'พิธีกรรมสังเวยเมือง' ทั้งวันลูเบลลล่าจึงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพักผ่อน ตั้งแต่ที่เธอเริ่มหลบหนีไม่มีวันไหนที่เธอรู้สึกปลอดภัย เมื่อมีโอกาสเธอจึงต้องการพักผ่อนให้มากที่สุด
ยามพระอาทิตย์ตกดินจึงเป็นเวลาที่ซีคพาลูเบลลล่าออกจากที่พัก เขาอุ้มลูเบลล่าออกทางหน้าต่างวางตังเธอลงก่อนจะกลับมาออกทางประตูหน้าใหม่อีกครั้ง
โชคดีที่วันนี้ดวงจันทร์และแสงดาวถูกเมฆปกคลุมเหมือนเดิม ทำให้พวกเดินทางในเมืองโดยไม่มีใครเห็นได้โดยง่าย ซีคคอยจูงมือลูเบลล่าในคืนมืดมุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์เจ้าเมือง
“ หลังนั้นค่ะ ” ลูเบลล่ากระซิบขณะชี้ไปที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง
ไม่ผิดจากที่คิดไว้คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตมาก มันมีโครงสร้างสามชั้น รอบคฤหาสน์เต็มไปด้วยต้นไม้ราคาแพงบางต้นดูแปลกตา ตกแต่งหรูหรางดงามเพื่อแสดงความมั่งคั่งของตัวเจ้าของมัน
ซีคมองไปที่คฤหาสน์ ตอนที่เขาเดินสำรวจเมืองก็เคยเห็นคฤหาสน์หลังนี้มาก่อนเช่นกัน
“ เธอรออยู่นี่ก่อน ”
ซีคแยกตัวจากลูเบลล่า เขากระโดดขึ้นไปบนหลังคาใกล้ๆ แล้วมองไปรอบคฤหาสน์ก่อนที่ดวงตาเขาจะหรี่ลงด้วยความสงสัย
มีโคมไฟแขวนไว้รอบบ้าน มีกระทั่งตะเกียงเวทมนต์ คฤหาสน์จึงดูสว่างไสวเป็นพิเศษในเวลากลางคืน ซีคมองเห็นแม้แต่ทหารยามที่เฝ้าคฤหาสน์ทั้งหมด เรื่องนี้เขาไม่แปลกใจ เพราะเหตุการณ์ที่ลูเบลล่าถูกวางกับดักก็พึ่งเกิดได้ไม่นานที่คฤหาสน์หลังนี้ แต่
‘ จำนวนเวรยามน้อยเกินไปรึเปล่า ดูแล้วไม่มีคนไหนที่มีความสามารถควบคุมมานา ’
ช่วงกลางวันที่เขามาสำรวจก็รู้สึกสงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน ซีคลงมาจากหลังคาแล้วบอกสิ่งที่เขาเห็น ก่อนเขาจะถามเธอ “ ตั้งแต่ตอนนั้นทหารยามก็มีน้อยแบบนี้รึเปล่า ”
“ ฉ..ฉันจำไม่ค่อยได้ค่ะ ”
ลูเบลล่าก้มหน้ารู้สึกผิด แต่ซีคก็ไม่ได้โทษเธอ ลูเบลล่าที่อยู่ระหว่างทดสอบการเป็นนักบุญคนต่อไป แต่ที่จริงเธอพึ่งจะออกมาหาประสบการณ์จากโลกภายนอกครั้งแรก เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะคาดหวังให้เธอจดจำรายละเอียดแบบนี้ได้ ยิ่งในสถานการณ์ย่ำแย่
“ ไม่เป็นไรตอนนี้พวกเราแอบเข้าไปในคฤหาสน์ให้ได้ก่อน ”
“ จะไม่เป็นไรหรอค่ะ มันดูไม่ปกติเลย ”
“ ใช่ คงจะมีกับดักรอพวกเราอยู่ ”
“ งั้นถ้าเราเข้าไปตอนนี้จะไม่อันตรายหรอ ”
ลูเบลล่าตกใจ กับสิ่งที่ซีคบอกออกมาด้วยโทนเสียงจริงจัง
“ ก็นะ ถ้าเรามีเวลามากกว่านี้ ก็สามารถถอยออกมาเพื่อวิเคราะห์เพิ่มแล้วค่อยวางแผนใหม่ได้ตาม… ”
“ นั่นสินะค่ะ ”
“ ถึงมีกับดัก พวกเราก็ต้องเข้าไปอยู่ดีใช่ไหมละ”
“ …ค่ะ ท่านซีคพูดถูก ”
ดวงตาของลูเบลล่าสั่นจากความประหม่า ตื่นกลัว แต่อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดเธอลบพวกมันออกไปด้วยความแน่วแน่และมุ่งมั่นแทน
" ไปกันเถอะ "
เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในใจของเธอ ซีคก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
‘ นี้สินะคือตัวตนของเธอ เหมือนเห็นยัยผู้สร้างซอมบี้นั้นอีกครั้งเลย ’
เมื่อนึกย้อนกลับไป ตัวตนที่น่ารำคาญและก่อกวนเขาที่สุดในปาร์ตี้วีรบุรุษนั้นก็คือลูเบลล่า
‘ ในการต่อสู้เป็นกลุ่ม ยังไงก็ต้องลงมืดจัดการฮีลเลอร์ก่อน ’
แต่ซีคก็หยุดความคิดไว้แค่นี้ เขากลับมาจดจ่อกับเรื่องตรงหน้าก่อน
“ เราจะไม่เข้าไปแบบประมาทหรอก เธอไม่ต้องกังวลเกินไป ”
ซีคตบหลังลูเบลล่าให้คลายความตึงเครียด เมื่อเธอดูเย็นลงซีคจึงยกเธอขึ้นพาดบนบ่าโดยที่ไม่บอกก่อน
" อือ !"
ลูเบลล่าหยุดตััวเองอย่างเร็ว ตอนทีี่กำลังจะร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ น นายกำลังจะทำอะไรเนี่ย? ”
“ ก็ตอนนี้พวกเราต้องแอบเข้าไป แบบนี้มันง่ายกว่า ”
“ แต่นายอุ้มฉันแบบนี้ ฉันก็เหมือนกระเป๋าสัมภาระเลยไม่ใช่รึไง ”
“ ใช่เธอเป็น อย่างน้อยก็ตอนนี้แหละ "
ลูเบลล่าจ้องเพ่งไปที่ซีค แต่เขาไม่สนใจเธอ ซีคเคลื่อนที่ผ่านความมืดก่อนจะก้าวตรงไปยังคฤหาสน์
แตะ!
ด้วยการเคลื่อนไหวของเท้าเบาๆ ร่างของทั้งคู่ก็ทะยานขึ้นโดยลูเบลล่าจับคอซีคไว้แน่น แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซีค อุ้มเธอแต่เธอก็ยังไม่คุ้นชินกับการเคลื่อนไหวลักษณะนี้เลย ซีคกระโดดมาลงบนพื้นหญ้าอ่อนๆโดยที่แทบไม่เกิดเสียง ก่อนจะมองไปรอบๆ
‘ ตรงจุดนี้ไม่มีเวรยามเฝ้า มองตรงหน้าต่างก็ไม่มีใครอยู่คอยสอดส่อง ’
ซีคเดินหน้าต่อโดยไม่ลังเล เขาใช้ประโยชน์จาก พุ่มไม้ ต้นไม้ และรูปปั่น เพื่อซ่อนตัวจากสายตาทหารยาม ส่วนลูเบลล่าก็มองซีคแบบประหลาดจากทักษะการเคลื่อนไหวของซีค พวกเขาเคลื่อนไหวเร็วมากก่อนจะมาถึงหน้าต่างไม้บานหนึ่งที่ถูกปิดอย่างแน่นหนา ซีคกระชับแขนข้างที่อุ้มลูเบลล่าให้แน่นขึ้น ก่อนจะใช้อีกข้างหยิบกริชออกมาแทงลอดเข้าไปยังหน้าต่างบานนั้น
กริก!
หลังจากมีเสียงตัดเล็กน้อยหน้าต่างก็เปิดออกได้โดยง่าย ซีคอุ้มลูเบลล่าเข้าหน้าต่างแล้ววางเธอลง แล้วหันกลับไปหยิบแม่กุญแจที่หล่นมาบิดเป็นมุมฉาก ใช้มันยึดหน้าต่างอีกครั้งอย่างแน่นหนา
“ ตอนนี้เธอน่าเคลื่อนไหวเองได้แล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้เรา ”
“ ที่นายบอกว่า ผ่านชีวิตมาอย่างยากลำบาก นายเคยเป็นหัวขโมยมาก่อนใช่ไหมเนี่ย ”
“ ฮาๆทำไม เพราะข้าแอบเข้ามาได้อย่างดูเป็นธรรมชาติละสิ ”
" ใช่ตั้งแต่ทักษะย่องเบาของนายแล้ว ถ้านายบอกว่าเมื่อก่อนเป็นหัวหน้าโจรมาก่อนฉันก็เชื่อ ”
“ ไม่หรอก ข้าเคยเป็นขุนนาง ”
“ นายอย่ามาโกหกฉันนะ ”
ลูเบลล่าทำหน้าตึง
“ ความผิดโทษฐานที่แอบอ้างเป็นขุนนางมีโทษถึงประหารชีวิตเลยนะ ”
“ งั้นหลังจากจบเรื่องนี้ ทำไมเธอไม่ลองไปที่ตระกูลสตีลวอลล์แล้วถามเกี่ยวกับชื่อ ซีค สตีลวอลล์ดูหละ ”
“ เธออาจจะเจอเรื่องน่าสนใจบางอย่างก็ได้ ”
“ สตีลวอลล์? ”
แม้แต่ลูเบลล่าก็รู้เกี่ยวกับตระกูลสตีลวอลล์ พวกเขาเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงมากในราชอาณาจักร
' เขากำลังบอกว่าตัวเองคือ ซีค สตีลวอลล์ งั้นหรอ '
การใช้'สตีลวอลล์'เป็นนามสกุลหมายความว่าเขาต้องเป็นสมาชิกหลักภายในตระกูล โดยที่มีโอกาสสูงมากที่ซีคจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับท่านเคานท์แห่งสตีลวอลล์
จะว่าไปคนที่เธอคิดว่าเคยเป็นโจรขโมยเมื่อกี้ก็ไม่เคยบอกนามสกุลตัวเองมาก่อนเลยสักครั้ง โดยความสามารถของเขายังสามารถตัดโต๊ะเป็นสองส่วนด้วยช้อนไม้เล็กๆเท่านั้น
“ เดี๋ยวก่อน! ถ้านายเป็นขุนนางจริงๆ แล้วนายเกี่ยวข้องกับตระกูลสตีลวอลล์ยังไง ”
“ ลูเบลล่า ตอนนี้เรื่องข้างหน้าสำคัญกว่า ถึงได้บอกว่าถ้าอยากรู้ก็ไปตรวจสอบหลังจากจบเรื่องนี้ไง ”
ซีคตบไหลลูเบลล่าเบาๆ
“ ตอนนี้พวกเราแอบเข้ามาได้แล้ว ถึงตาเธอที่ต้องนำทางไปห้องนั่น ”
จากคำพูดของซีคก็ดึงความคิดของลูเบลล่ากลับมายังความจริงตรงหน้า อย่างที่ซีคพูดมันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาสนใจอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ
“ กรุณาตามฉันมาค่ะ ”
ลูเบลล่าเริ่มนำซีคอย่างระมัดระวัง โถงทางเดินปูพรมอย่างหนาจึงแทบไม่มีเสียงฝีเท้า ทุกครั้งที่ซีคสัมผัสได้ถึงทหารยามเขาจะพาลูเบลล่าไปห้องที่ใกล้ๆรอจนพวกเขาออกไปจากตรงนั้น ด้วยความชำนาญซีคสามารถเปิดทุกห้องที่ล็อคได้ พวกเขาใช้เวลาไม่นานลูเบลล่าก็พาซีคมาหยุดหน้าประตูห้องหนึ่งโดยเฉพาะ
" ห้องนี่แหละ ห้องที่ฉันเห็นรูปปั้นของเบลลูตั้งไว้ ”
ซีคจ้องไปที่ประตู เขาไม่รู้สึกถึงมนุษย์สักคนในห้อง แต่อย่างไรก็ตาม…
“ ฉันมีความรู้สึกที่ไม่ชอบเกี่ยวกับห้องนี้เลย ”
ในฐานะสาวกทั้งสองฝ่าย คารุวิมาน และ เบลลิดเหมือนน้ำกับน้ำมัน เมื่อพูดถึงพวกเบลลิดท่าทีลูเบลล่าที่แสดงออกมาต่างกับปกติ
ลูเบล่าพูดออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ สาวกเบลลิดทุกคนเป็นพวกน่าโมโห ”
ซีคเปิดประตู แสงจากโถงทางเดินลอดผ่านเข้าไปในห้องทำให้เห็นด้านใน สิ่งที่ปรากฎขึ้นคือรูปปั้นที่หัวคล้ายปลามีเขาฝั่งละสองข้างบนล่างรวมเป็นสี่ข้าง ร่างกายเป็นกล้ามเนื้อที่มือและเท้าเป็นพังผืด ดวงตาที่ยาวและคมปลดปล่อยกลิ่นอายของสัตว์ร้ายที่หิวโหย เหมือนสามารถฆ่าทำลายตามใจตัวเองทันที
" เบลลูนี้ปกติดูเหมือนปลาโง่ๆดีนะ "
“ ใช่ค่ะ มีแต่คนโง่ไร้สมองอย่างพวกเบลลิด ที่บูชาเทพที่แย่ๆแบบนี้ ”
ลูเบลล่าเสริมการเยาะเย้ยของซีค เนื่องจากเบลลูเป็นเทพปีศาจแห่งสายน้ำ รูปลักษณ์ภายนอกหลายส่วนที่คล้ายกับสัตวในน้ำจึงปรากฎให้เห็น ดังนั้นจึงมีอีกชื่อที่ผู้คนเรียกคือ หัวปลา แน่นอนว่าพวกเบลลิดไม่ยอมรับชืื่อนี่
ซีคเข้าใกล้รูปปั้น เนื่องจากเขาไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์เหมือนลูเบลล่า เขาจึงไม่รู้สึกถึงออร่าน่ารังเกียจของเบลลูได้ดีเป็นพิเศษ แค่เธอเห็นก็รับรู้ได้ทันทีแม้มันถูกซ่อนไว้ แต่ถ้าเขาสัมผัสรูปปั้นโดยตรงเขาก็รับรู้มันได้เหมือนกัน
พุช!
ซีควางมือบนรูปปั้นแล้วส่งพลังมานาเข้าไปเล็กน้อย รูปปั้นมีปฎิกิริยาส่งผลสะท้อนดีดกลับมาที่ร่างกายซีคจนสั่น
‘ ยังเป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยงเหมือนเคยไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ’
เขารู้สึกเหมือนเอามือไปจับปลาที่เน่าเปื่อยมาหลายวัน หรือว่า กำลังว่ายน้ำในสระสกปรก
ซีคปล่อยมือออกจากรูปปั้นและพูดว่า “ มันรู้สึกสกปรกมาก ให้รู้สึกว่าอันตรายหรือแข็งกร้าวยังดีกว่า ตอนนีี้เหมือนพึงกลิ้งไปมาในถังขยะเน่า ”
“ ใช่เลย นายเป็นคนดีกว่าที่คิดนะเนี่ย ”
ดวงตาของลูเบลล่าเป็นประกาย ดูแล้วการได้รับความชื่นชมจากว่าที่นักบุญไม่เพียงแค่การทำสิ่งดีๆเท่านั้น แค่การพูดโจมตีพวกเบลลิดก็ทำให้เธอดีใจขึ้นได้เหมือนกัน
“ ตอนนี้พวกเราก็ยืนยันได้แล้วว่าพวกเบลลิดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน ”
“ ก็ฉันบอกนายไปแล้ว นายไม่เชื่อฉันรึไง ”
“ ก็แค่อยากให้แน่ใจ มีความเป็นไปได้ที่เธอจะถูกหลอก ”
“ ฉันไม่มีทางผิดพลาดเรื่องออร่าชั่วร้ายของพวกเบลลลิดหรอกค่ะ ”
ลูเบลล่าตอบกลับคำพูดของซีคอย่างขุ่นเคือง
“ พวกเราไปหาตัวเจ้าเมืองกันก่อน เหมือนว่ารูปปั้นนี้จะเป็นโครงสร้างหลักของพิธีกรรม ”
“ ถ้าเป็นช่วงแรกที่พิธีกรรมพึ่งเริ่มพวกเราคงพอทำอะไรได้ สำหรับตอนนี้พวกเราไม่มีพลังพอจะทำลายมันโดยตรงวิธีเดียวที่จะหยุดพิธีกรรมได้คือทำลายสื่อกลางของมัน ”
"…ค่ะ. ฉันเข้าใจแล้ว ”
พวกเขาออกจากห้องไป แต่ลูเบลล่าดูเสียใจที่ไม่สามารถทำลายรูปปั้นได้แม้จะอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนเดินออกจากห้องสายตาเธอจ้องมองรูปปั้นสักพัก
ทั้งสองเดินย่องไปในคฤหาสน์เหมือนกับตอนที่ค้นหาห้องรูปปั้นนั่น ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องของเจ้าเมือง ใครเห็นก็คงรู้ได้ว่าน่าจะห้องนี้แหละ เพราะประตูสีแดงใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามไม่เหมือนห้องอื่นอย่างชัดเจน
“ ห้องนี้ค่ะ ”
“ อือ ดูเหมือนว่าพรมชุดใหม่ ” ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเปลี่ยนพรมที่เปื้อนเลือดออกไป
“ เขา จะอยู่ข้างในมั้ยค่ะ ”
“ ข้าสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ข้างใน ”
ดวงตาของซีคและลูเบลล่าประสานและพยักหน้าพร้อมกัน
ฟิง! แกร้ก!
ซีคดึงดาบตัวเองออกมาเตรียมและลูเบลล่าจับไม้คฑาแน่น
ซีคเป็นคนนำเปิดประตูเข้าไปก่อน ส่วนลูเบลล่าเดินตามหลังไป ในห้องมีแสงเทียนที่คอยให้ความสว่าง แต่มันแค่ไม่กี่เล่มมันไม่พอจะทำให้เห็นทุกอย่างชัด แสงระยิบและสั่นไหวมันทำให้ดูเป็นบรรยากาศลางร้ายมากกว่า
ห้องนี้เหมือนสร้างให้เป็นทั้งห้องทำงานและพื้นที่รับแขก ที่มุมหนึ่งมีชุดโต๊ะเก้าอี้ราคาแพงสำหรับคุยธุรกิจ ด้านซ้ายก็มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่พร้อมชุดเก้าอี้สบายตั้งรอบ พร้อมของประดับมากมายบนผนัง
จากประตูด้านขวามีประตูอยู่อีกหนึ่งบาน—ดูแล้วคงนำไปสู่ห้องนอนของเจ้าเมือง แต่เหมือนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องไปค้นหาในส่วนนั่นเพื่อหาเป้่าหมาย
เพราะมีคนมองมาทางซีคและลูเบลล่าด้วยทีท่าหยิ่งผยอง เขานั่งบนเก้าอี้หรู แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชั้นดี น้ำหนักตัวดูแล้วเยอะมาก
“ เขาคือเจ้…!”
ซีคเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่ลูเบลล่าจะบอก
การเคลื่อนไหวของเขาเหมือนสายลมจริงๆ ชั่วพริบตาตัวของซีคก็อยู่บนโต๊ะปลายดาบในมือจี้ไปที่คอของเจ้าเมืองแต่ยังไม่ได้แท่งเข้าไป เหตุการณ์์ทั้งหมดเกิดขึ้นอาจจะเร็วกว่าใครสักคนกระพริบตาด้วยซ้ำ
"…เจ้าเมือง…"
ก่อนที่ลูเบลล่าจะพูดจบประโยค เรื่องตรงหน้าก็จบลงแล้ว คำพูดของเธอปลิวไปกับอากาศโดยเหมือนไม่มีประโยชน์ที่จะพูดมันออกมา
“ แกงั้นหรอเจ้าเมืองหมูตอน ใช่แกมั้ยที่เป็นหัวหน้าพวกเบลลิดในเมืองนี้? ” ซีคถามจบขณะที่ดวงตาของเจ้าเมืองกำลังเลื่อนมาที่ตัวเขา
“ อย่าให้เวลาเขาค่ะ! ถ้าเขาพูดพวกอันเดตจะได้รับคำสั่งเข้ามารุมโจมตีพวกเรา! "
ลูเบลล่าวิ่งตรงไปที่ซีคอยู่พร้อมเตือนให้ซีคลงมือทันที แต่ตรงข้ามซีคยังไม่ได้ขยับดาบและเขาใช้สายตาจ้องเขาไปในแววตาของเจ้าเมืองคนนั้น
เฮ้อ~!
หลังจากถอนหายใจซีคก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ พร้อมดึงดาบออกจากคอเจ้าเมือง
“ นายทำอะไรอยู่หนะ! ” ลูเบลล่าตะโกนออกมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ซีคส่ายหัวปฎิเสธ
“ เราจับผิดคน ”
" ทำไมละ? "
“ ไอ้หมูตอนคนนี่ไม่ใช่ตัวการของเรื่องราวทั้งหมด ”
ฟิงง!
ซีคเหวี่ยงดาบของเขาเบาๆ ก็ตัดหัวเจ้าเมืองออกจากตัว ร่างกายที่ไร้หัวอ่อนลง ภาพที่น่ากลัวด้านหน้านี้ทำลูเบลล่าหลับตาลงครู่หนึ่งแต่ไม่นาน เธอลืมตาขึ้นพร้อมมองไปทางซีคคำที่เขาบอกก่อนหน้านี้ทำเธอสงสัย
“ ทำไมนายถึงบอกว่าเราจับผิดคน มันหมายความว่าอย่างไร…!”
ทันใดนั้นซีคก็ขยับตัวด้วยความเร็วสูงทันที แต่ท่วงท่าลื่นไหลมากตอนเคลื่อนที่ผ่านอากาศ
ฟึมมๆ!
เสียงตัดไฟเบาๆดังเข้าหูเธอและตอนนั้นเองที่สายตาเธอหันไปเห็น
กร็ากกกกก!
มันเป็นเสียงกรีดร้องที่น่าสะพรึงเหมือนมันมาจากนรก เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความเกลียดชัง
ลูเบลล่ายกมือขึ้นปิดหู แต่ไม่มีประโยชน์เพราะเสียงกรีดร้องมันดังอยู่ในหัวเธอ ถึงจะทรมาณแต่เธอก็ไม่ได้หลับตาเป็นโอกาศให้เธอเห็นบางสิ่งบินผ่านไปด้วยความเร็วตรงไปทางเข้าห้อง
ตุ๊ดด!
ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาโดยไม่รู้ว่าอยู่ตอนไหน คว้าสิ่งนั้นที่บินผ่านไป สิ่งที่เธอเห็นคือชายคนนั้นขมวดคิ้วมองไปยังสิ่งที่เขาพึ่งคว้ามัน
" ฮะ? "
ดวงตาของลูเบลล่าเบิกกว้างอย่างตกใจ ผู้ชายคนนั้นเธอรู้จักมาก่อน
“ คุณ..รองเจ้าเมือง!? ”
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 369
แสดงความคิดเห็น