ตอนที่ 10 สะใภ้คนใหม่
“คนนี้คือคุณปิ่นมุกลูกสาวคนโต ของคุณภูวดลและคุณชลมาศ เจ้าของธุรกิจอัญมณีและห้องเสื้อสุดหรู ที่ใช้เส้นสายและอำนาจเงิน ปิดคดีของยี่หวาไปได้อย่างรวดเร็ว”
“หินผา” กล่าวแนะนำปิ่นมุกให้ทุกคนรู้จัก และรู้ถึงที่มา ที่ไปทำให้ครอบครัวของหินผาถึงกับร้องอ๋อ! ขึ้นมาในใจในทันที ว่าทำไมปิ่นมุกถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ แต่ความเจ็บปวดใจ ความคับแค้นที่ฝังแน่น ชิงชังของหินผานั้น ทุกคนรับรู้มาโดยตลอด แต่ไม่คิดว่าหินผาจะทำถึงเพียงนี้ กับสาวน้อยผู้น่ารักบอบบาง แลดูเรียบร้อยคนนี้
“หินผา! ลูกไปเอาหนูปิ่นมุกเขามาอยู่ที่นี่ แล้วทางพ่อกับแม่ของเขารู้หรือเปล่า?”
“ปิ่นมุก” หลุดคำว่า “ไม่” ออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ ก็หันมาเจอสายตาพิฆาตที่ส่งมาของหินผา ประหนึ่งว่าให้ปิ่นมุกหยุดพูด สงบปาก สงบคำเอาไว้ไม่งั้นจะโดนดี
“ทางครอบครัวของปิ่นมุกเขารับรู้แล้วครับ คุณแม่ ว่าปิ่นมุกจะมาอยู่ที่นี่คอยดูแลยี่หวา และทำหน้าที่ภรรยาที่ดี จนกว่าปิ่นมุกจะมีลูกให้กับผมครับ”
“อรปรียา” ทำได้แต่ทอดถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างจนใจ มองสบตากับหินผา และปิ่นมุกเพียงเท่านั้น
“เฮ่อ! ถ้าอย่างนั้นแม่ขึ้นไปดูยี่หวาก่อนนะลูก ไปแทนคุณ แทนไทเราขึ้นไปดูยี่หวากันเถอะ”
“หินผา” ได้ยินแม่พูดเช่นนั้น หินผาก็ออกเดินนำทางไปข้างหน้า โดยมีแม่ และพี่ชายฝาแฝดของหินผา เดินตามหลังขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านที่ห้องนอนของยี่หวา ทำให้ปิ่นมุกมองเห็นโอกาสที่ดี ที่จะหาเครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ หรืออะไรก็ได้ในตอนนี้ เพื่อจะได้รีบติดต่อกลับไปที่บ้านของเธอ ก่อนที่หินผาจะมาเจอ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ บ้านออกจะใหญ่โตทำไมถึงไม่มีนะ..
“หาอะไรอยู่หรือครับคุณ ถ้าหาโทรศัพท์คุณหินผาสั่งให้เก็บไปหมดแล้วล่ะครับ แต่ถึงมีโทรศัพท์ก็ไม่สามารถต่อสายได้ครับ เพราะคุณหินผาก็สั่งตัดสายโทรศัพท์เช่นกันครับ”
“ปิ่นมุก” ตกใจในคราแรกที่ได้ยินเสียง แต่พอค่อยๆ หันหลังกลับไปมอง ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก คาดว่าน่าจะเป็น “ลุงศิลป์” พ่อบ้านคนเก่า คนแก่คอยดูแลบ้านหลังนี้
“เฮ่อ! คุณลุงทำหนูตกใจหมดเลยค่ะ”
“คุณปิ่นมุกคะ คุณหินผาให้มาเชิญคุณขึ้นไปข้างบนค่ะ”
“จุ๊บแจง” สาวใช้ประจำบ้าน ซึ่งเป็นลูกสาวของลุงศิลป์พ่อบ้านนั่นเอง สองคนพ่อลูกจะมาในบ้านได้ ก็ต่อเมื่อหินผาเรียกใช้เท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำงานอยู่นอกตัวบ้าน และอาศัยอยู่บ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากบ้านหลังใหญ่ไปพอสมควร
“ปิ่นมุก” ยังไม่ทันได้พูดคุย หรือซักถามอะไรต่อ ก็มีเสียงของสาวใช้ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังซะก่อน เมื่อฟังคำสาวใช้บอก ปิ่นมุกก็หลับตาลง พร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด แล้วปล่อยออกมาอย่างหนักหน่วง ก่อนจะก้าวเดินไปยังห้องนอนของยี่หวาตามคำสั่งของหินผา
“แทนไท : ดูท่าแล้วหินผาคงจะเอาจริงสินะ ถึงได้เอาตัวปิ่นมุกมาอยู่ด้วยแบบนี้ ผมดูแล้วปิ่นมุกน่าจะอายุน้อยกว่า หรือเท่าๆ กับยี่หวาของเราเห็นจะได้ ผมว่าปิ่นมุกอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะครับ จากที่ผมเห็นปิ่นมุกก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ออกจะกลัวๆ หินผามากเสียด้วยซ้ำ”
“แทนคุณ : จะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว หินผาเขาต้องสูญเสียครอบครัวของเขาไป และเราก็ต้องสูญเสีย น้องสะใภ้ที่เพียบพร้อม หลานตัวเล็กๆ ที่เขากำลังจะลืมตามาดูโลก และน้องสาวของเราที่ยังคงนอนอยู่อย่างไม่รู้เนื้อ รู้ตัวแบบนี้ จะให้หินผาเขาทำไม่รู้ ไม่ชี้ปล่อยผ่านไปได้ยังไงกัน บางทีวิธีนี้อาจเป็นทางออกที่ดี เพื่อดัดนิสัยของปิ่นมุกให้รู้สำนึก และมีความรับผิดชอบมากขึ้น กับสิ่งที่ได้กระทำลงไป”
“แทนไท : ผมไม่..”
“แทนไท” กำลังจะพูดโต้แย้งต่อ แต่ประโยคคำยังไม่ทันจะสมบูรณ์ดี ก็ถูกแทนคุณยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ซะก่อน
“แทนคุณ : ใจเย็นๆก่อนแทนไท พี่ว่าเราน่าจะปล่อยให้คนทั้งคู่ได้เรียนรู้กันและกัน เราควรที่จะอยู่ห่างๆ ไม่แน่นะบางทีปิ่นมุกอาจมีอะไรดีๆ ที่ทำให้หินผาของเราจากน้ำแข็ง กลายเป็นน้ำในเวลาอันสั้นก็เป็นได้ แล้วกลับมาเป็นหินผาผู้อ่อนโยน และจิตใจดีคนเดิมกลับมาก็ได้นะ”
“อรปรียา : จะเป็นไปได้หรือแทนคุณ ก็ในเมื่อหินผาเขารักเมียเขามากออกอย่างนั้น ไหนจะลูกที่ตายไปอีกละ แล้วนี่เอาปิ่นมุกมาจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อย เพื่อหวังจะมีลูกให้เนี่ยนะ แม่ว่ามันไม่สมเหตุ สมผลเท่าไหร่ ไม่รู้หินผาเขาคิดอะไรของเขาอยู่กันนะ”
การพูดคุยกันระหว่างแม่ กับลูกชายฝาแฝดทั้งสองคน เป็นการถกเถียง โต้แย้ง และตั้งคำถาม แต่ทุกอย่างที่คุยกันนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทุกคนนั่งมองหน้าสบตากันไปมา อย่างสงสัยแต่กับแทนคุณนั้นต่างออกไป แทนคุณคาดหวังว่าปิ่นมุกจะมาเปลี่ยนแปลงหินผาน้องชายของเขาได้
จากสิ่งที่แทนคุณเห็นปิ่นมุกเป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์ผุดผาด ดูน่ารักอ่อนหวาน และแสนจะเรียบร้อย ไม่แน่นะการที่ได้อยู่ร่วมบ้านกันกับหินผาไปนานๆ อาจจะละลายน้ำแข็งที่เกาะกินหัวใจของหินผาให้มลายหายไปได้ในไม่ช้าก็ได้ น้ำหยดลงหิน ทุกวัน หินมันยังกร่อน แต่หัวใจของคน มีหรือจะไม่รู้สึก รู้สาอะไรเลย
“แม่ว่าเรากลับกันก่อนเถอะนะ อย่าอยู่รบกวนหินผาเขาเลย”
“อรปรียา” หลังจากเข้ามาเยี่ยมยี่หวาลูกสาวคนเล็ก ที่นอนป่วยอยู่ด้วยความรัก และความคิดถึง แต่เมื่อเห็นหินผาที่กำลังเดินเข้ามา และทางด้านหลังก็ยังมีปิ่นมุกที่เดินตามมาอย่างเงียบๆ คุณอรปรียาก็พูดออกมาเบาๆ พยักพเยิดให้กับแทนคุณ และแทนไท ว่าถึงเวลากลับแล้ว
“หินผา แม่กลับก่อนนะจ๊ะลูก แล้ววันหลังแม่จะมาเยี่ยมลูกกับยี่หวาใหม่”
“อรปรียา” หันมาพูดกับหินผาเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ แล้วจึงมองเลยไปที่ปิ่นมุกที่สบตากันเข้าพอดี ปิ่นมุกก็รีบยกมือไหว้ลาแม่ และพี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนของหินผา ทุกคนต่างพยักหน้า และพากันเดินออกไปจากห้องนอนของยี่หวา
โดยมีหินผาเดินตามหลังไปส่งครอบครัวของเขาขึ้นรถ เหลือไว้เพียงแต่ปิ่นมุกที่อยู่ในห้องนอนของยี่หวาตามลำพัง ปิ่นมุกรู้สึกเคว้งคว้าง สับสนได้แต่ยืนมองยี่หวานิ่ง โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี สักพักหนึ่งหินผาก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของยี่หวา หินผาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของปิ่นมุกแล้วพูดว่า
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะค่ะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 353
แสดงความคิดเห็น