ตอนที่ 5 ไร้ซึ่งหนทาง
“จันทร์เจ้า” เมื่อถูกจับตัวมาก็ถูกมัดทั้งมือ ถูกมัดทั้งเท้า มิหนำซ้ำยังมีผ้าปิดปากอีกด้วย หมดหวังที่จะดิ้นรนขัดขืน หรือแม้กระทั่งคิดที่จะหลบหนีหาทางรอด ทำไม่ได้ แม้แต่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย
ยิ่งได้มาเห็น “เกรซซี่” เพื่อนรักได้ถูกฆ่าตายไปต่อหน้า ต่อตาอย่างโหดร้าย ทารุณ และจันทร์เจ้าเองก็ไม่สามารถช่วยเหลือเกรซซี่เพื่อนรักของเธอได้เลย ทำได้เพียงแต่มองดูเหตุการณ์ด้วยนัยน์ตาที่สั่นไหวเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ไหลอาบนองหน้าเท่านั้น
ทั้งหมดมันเป็นความผิดของจันทร์เจ้าเอง ไม่น่าเลย เธอไม่น่าเดินออกมาเพียงลำพังเลย ทั้งๆ ที่เกรซซี่เพื่อนรักของเธอก็ได้ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าให้จันทร์เจ้ายืนรออยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหนคนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะทางที่ทั้งเปลี่ยวซึ่งมันอันตรายเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิง
แต่เนื่องจากจันทร์เจ้าหากุญแจบ้านไม่เจอ หล่นหายไปที่ไหนก็ไม่รู้ เปิดดูในกระเป๋าสะพายก็ไม่มี เลยคิดว่าอาจตกไประหว่างทางที่เดินมาก็ได้ ดังนั้นจันทร์เจ้าจึงเดินย้อนกลับไปดู และไม่ทันได้ระวังตัว เป็นจังหวะให้คนร้ายเข้าถึงตัวจันทร์เจ้าได้โดยง่าย
คนร้ายได้ใช้ปืนจี้มาจากทางด้านหลังของจันทร์เจ้า เลยไม่ทันได้ตั้งตัว จันทร์เจ้าถึงกับสะดุ้ง และตกใจเป็นอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูกเลยในตอนนั้น สมองก็หยุดสั่งงานไปชั่วครู่ ไม่กล้าแม้กระทั่งขยับตัวเลยด้วยซ้ำ จำได้ว่าเกรซซี่เพื่อนรักของเธอได้เดินย่องๆ เข้ามาจากทางด้านหลังของคนร้าย พร้อมไม้ท่อนใหญ่ในมือ
แต่คนร้ายกลับไหวตัวได้ทัน เลยทำให้เกรซซี่ตวัดท่อนไม้ฟาดไปมา แต่ด้วยน้ำหนักของท่อนไม้ทำให้ใช้แรงค่อนข้างมาก ออกจะเสียเปรียบอยู่ อีกทั้งคนร้ายก็ไวกว่ามาก และสามารถหลบหลีกการโจมตีของเกรซซี่ได้ทุกครั้ง ท้ายที่สุดคนร้ายก็สามารถจับตัวของเกรซซี่เอาไว้ได้
หลังจากที่ต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ๆ ไฉนเลยเกรซซี่หญิงสาวตัวเล็กๆ จะสู้แรงของคนร้ายได้ สุดท้ายแล้ว เกรซซี่ก็ได้ทำให้คนร้ายโกรธจัด บวกกับความเจ็บปวดที่ได้รับ โดยการกระแทกเข้าไปที่กล่องดวงใจของคนร้ายเข้าอย่างจัง
เป็นเหตุทำให้คนร้ายโมโหจัด คว้าตัวของเกรซซี่ที่กำลังจะวิ่งหนี และใช้สองมือที่ทั้งหนา ทั้งใหญ่นั้นบีบคอของเกรซซี่เข้าอย่างแรง ทำให้เกรซซี่หายใจไม่สะดวก และหายใจติดๆ ขัดๆ จนขาดอากาศหายใจไปในที่สุด เจ้าของร่างที่ไร้ลมหายใจก็แน่นิ่งไปในเวลาต่อมา
เกรซซี่สู้จนตัวตาย ต้นเหตุเป็นเพราะต้องการที่จะช่วยเหลือเพื่อนแท้ๆ จันทร์เจ้าหลับตาลงพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย ยามเมื่อนึกถึงเกรซซี่เพื่อนรักที่ทำเพื่อเธอถึงเพียงนี้ แต่เธอกลับช่วยเหลืออะไรเพื่อนรักไม่ได้เลย
จันทร์เจ้าทำได้เพียงแค่จ้องมองผ่านม่านน้ำตาที่ส่งไปถึงเกรซซี่เพื่อนรักของเธอเท่านั้น และพูดพึมพัมอยู่ข้างในลำคอว่าขอโทษด้วย ขอโทษจริงๆ เกรซซี่ไม่น่าต้องมาตายแบบนี้เลย เพราะเธอเอง เป็นเพราะเธอแท้ๆ เธอผิดเอง จันทร์เจ้าโทษตัวเองอยู่ซ้ำๆ ภายในใจเสียงสะอื้นที่พยายามสะกดกั้นเอาไว้จนเจ็บร้าวด้านในลำคอไปหมด ทุกครั้งที่หลับตาภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายก็ปรากฏขึ้นทุกครั้ง
ตอกย้ำความเจ็บปวด เจ็บช้ำให้กับจันทร์เจ้าเป็นอย่างมาก จันทร์เจ้าร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้ง ต่อกี่ครั้งสลบไปบ้าง เหนื่อยจนเผลอหลับไปบ้าง ร่างกายที่อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง สุดแสนที่จะสกปรกมอมแมม จนตัวของจันทร์เจ้าเองยังนึกรังเกียจตัวของตัวเองเลยในตอนนี้
มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ในที่แคบๆ ไม่ถึงกับมืดมากแต่ยังพอมีแสงสลัวๆ รอดผ่านเข้ามาพอได้เห็นเงาเลือนลางในความมืด มีการโคลงเคลงไปมา หรือว่าเธอจะอยู่บนเรือ! กันนะ เป็นไปได้อย่างไร พวกนั้นจะทำอะไรกับเธอกันแน่ จะพาเธอไปที่ไหน จันทร์เจ้ารู้สึกกังวลในใจ แล้วก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจนตัวสั่นสะท้าน
จันทร์เจ้ามองไปรอบๆหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองในทันที แต่จะเป็นไปได้อย่างไรก็ในเมื่อ จันทร์เจ้าถูกมัดอยู่แบบนี้ ในที่แบบนี้ ที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ค่อยสะดวกนัก หายใจก็ลำบาก จันทร์เจ้ารู้สึกอึดอัดมาก และพยายามหันไปมองรอบๆ ตัว
ต้องเพ่งมองผ่านความมืดที่สลัวๆ เท่านั้นซึ่งมันไม่ค่อยชัดเจน ว่าที่จันทร์เจ้าอยู่ในตอนนี้มันคืออะไร หรืออยู่ที่ไหน แต่ที่แน่ๆ จันทร์เจ้าถูกขังไว้คนเดียวอย่างแน่นอน เพราะไม่ได้ยินใครพูดอะไรเลย หรือเห็นใครอยู่ในที่นี้กับจันทร์เจ้าเลย แม้แต่คนเดียว แต่ที่ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจันทร์เจ้าต้องอยู่บนเรืออย่างแน่นอน ด้วยสัมผัสจากสิ่งรอบๆ ตัวนั่นเอง
บวกกับเสียงที่ได้ยิน แม้จะเป็นเพียงเสียงที่แผ่วเบา แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าจะคาดเดาได้ จันทร์เจ้าไม่รู้ว่าจะถูกพาไปที่ใด แต่ก็คงไม่ใช่ที่ที่ดีอย่างแน่นอน จากที่ได้ฟังพวกคนร้ายมันคุยกัน เหมือนต้องการที่จะขายจันทร์เจ้าไปที่ไหนสักที่ ในที่ที่จันทร์เจ้าไม่รู้จัก
จันทร์เจ้ารู้สึกตื่นกลัวมากจริงๆ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีวันได้กลับไปเจอกับครอบครัวอีกหรือไม่ มีใครบ้างที่จะช่วยเหลือเธอได้ ให้เธอได้รอดพ้นจากเหตุการณ์เลวร้ายนี้ได้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุณพระ คุณเจ้าเมตตาช่วยลูกด้วยเถิด
จันทร์เจ้าพยายามลองตะโกนร้องขอความช่วยเหลือดู แต่ก็ไร้ประโยชน์ ใช้มือที่ถูกมัดอยู่ทุบข้างๆ ให้เกิดเสียงดังเพื่อหวังว่าจะมีใครที่เดินผ่านไป ผ่านมาได้ยิน จะได้ช่วยเหลือจันทร์เจ้าออกไปได้
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะค่ะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 291
แสดงความคิดเห็น