ภูพิง-อิงธารา บทที่ 3 NC

ภูพิง-อิงธารา
คุณกำลังอ่าน: ภูพิง-อิงธารา

-A A +A

ภูพิง-อิงธารา บทที่ 3 NC

หมวดหนังสือ: 

เสียงโทรศัพท์มือถือข้างเตียงปลุกกฤตดนัยที่หลับลึกให้สะดุ้งตื่น เขาควานมือเปะปะจนกระทั่งคว้าวัตถุสี่เหลี่ยมที่กำลังส่งเสียงน่ารำคาญขึ้นมา ปลือตามองหน้าจอเพื่อดูว่าใครกันที่บังอาจโทรมากวนแต่เช้า ใจก็กระหวัดไปนึกถึงอิงธารา อารมณ์หงุดหงิดก็คลายลง แต่พอได้เห็นใบหน้าหญิงสาวอีกคนก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที เมื่อคืนชายหนุ่มตั้งใจเอากุญแจไปคืนวีร์นัชชาที่ห้อง แล้วอยู่คุยกับเธอพักใหญ่ๆ วันนี้เขาอาสาจะไปเที่ยวเป็นเพื่อนหญิงสาวเพื่อสานสัมพันธ์ ชายหนุ่มคิดว่าเมื่อใจตรงกันก็คงไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ เขายกยิ้มอย่างพึงใจก่อนจะรับสายแล้วกรอกเสียงสดใสทักทายคนปลายสายอย่างร่าเริง

 

ตลอดสองวันที่เหลือวีร์นัชชาผูกตัวเองติดกับกฤตดนัย ที่ตรงไหนมีชายหนุ่มก็จะเห็นหญิงสาวอยู่ด้วยเสมอ ทั้งคู่ไม่ต้องใช้เวลานานในการทำความรู้จักกันเลย เพราะต่างก็ทำตัวสนิทชิดเชื้อไม่ต่างจากคนรักกัน กฤตดนัยเป็นฝ่ายดูแลวีร์นัชชา เขาคอยตามใจเธอทุกอย่าง และนั่นทำให้เธอลดความระมัดระวังตัว จนเขาสามารถถึงเนื้อถึงตัวเธอได้โดยที่เธอไม่ตะขิดตะขวงใจ และนั่นทำให้ชายหนุ่มมั่นใจในเสน่ห์ของเขา ดูเหมือนว่าหญิงสาวเองก็ปลื้มในความเอาใจใส่ของเขาเข้าแล้วเช่นกัน

 

ค่ำคืนสุดท้ายก่อนจะแยกย้ายกลับไปยังโลกของความเป็นจริง กฤตดนัยกับวีร์นัชชาดินเนอร์บนเรือหรู จากนั้นก็พากันย้ายมานั่งฟังเพลงยังบาร์ริมหาด เสียงคลื่นกระทบฝั่งที่ดารดาดไปด้วยดาวนับร้อยทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งคู่โรแมนติกไม่น้อย ชายหนุ่มรินเครื่องดื่มสีอำพันลงในแก้วของวีร์นัชชา หญิงสาวยกขึ้นจิบเรื่อยๆ แล้วทอดมองเขาอย่างลึกซึ้ง ยิ้มกระจ่างใจจากริมฝีปากบางทำให้กฤตดนัยนึกอยากประทับจูบบนกลีบปากของเธอเหลือเกิน จะด้วยอาการกรึ่มจากฤทธิ์แอลกอร์ฮอลที่ทำให้วีร์นัชชากล้าทิ้งร่างพิงเขา และนั่นทำให้กฤตดนัยรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ

 

"คุณนายค่ะ อย่าบอกยายน้ำอิงว่ามาเจอวีร์ที่นี่นะคะ" เธอพูดด้วยเสียงอ้อแอ้ กฤตดนัยโอบร่างเธอหลวมๆ ก้มลงมองแก้มแดงๆ และริมฝีปากฉ่ำน้ำของเธอทำให้อารมณ์ที่กักเก็บไว้ปั่นป่วน

 

"เราจะไม่พูดถึงคนอื่น เวลานี้มีแต่คุณกับผมเท่านั้น" เขากระซิบข้างหู  ยกแก้วรับเครื่องดื่มเข้าปากแล้วก้มลงจรดริมฝีปากกับปากของเธอที่เผยอออกน้อยๆ ชายหนุ่มเปิดปากหญิงสาวด้วยปลายลิ้น ค่อยๆ ป้อนของเหลวให้เธอช้าๆ ลิ้นสากขยับควานหาความหวานจากโพลงปาก หยอกล้อลิ้นเล็กของเธออย่างย่ามใจ เมื่อคนในอ้อมแขนไม่มีอาการต่อต้านขัดขืน

 

ดั่งกาลเวลาหยุดเคลื่อนไหว รอบกายเงียบสงบราวกับว่าบนโลกนี้มีเพียงเขาและเธอเท่านั้น กฤตดนัยใช้ประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญช่ำชองค่อยๆ หลอกล่อ ปลุกเร้าให้เธอโอนอ่อนผ่อนตาม แน่ล่ะว่าวีร์นัชชาไม่ได้ขัดขืนแต่แรก แต่เขาก็ไม่อยากหักหารน้ำใจเธอเกินไป จึงอ่อนโยนกับเธอเป็นพิเศษ วีร์รักคุณค่ะนาย รักมานานแล้ว รักตั้งแต่ที่ยายน้ำอิงพาคุณมาที่บ้านครั้งแรก" คำสารภาพของวีร์นัชชาในครั้งนั้นทำให้เขาขาดความยับยั้งช่างใจที่มีอยู่น้อยนิด

 

เขาก้มลงประทับริมฝีปากของเธออีกครั้ง และครั้งนี้มันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความปรารถนาล้วนๆ เมื่อหญิงสาวยกเรียวแขนกลมกลึงขึ้นโอบรอบลำคอ ความอดทนที่กักเก็บไว้ก็ขาดผึง ชายหนุ่มทวีรสจูบรุนแรงและเรียกร้อง และวีร์นัชชาเองก็ตอบรับรสจูบของเขาด้วยอารมณ์ที่ไม่ต่างกัน

 

คนอย่างกฤตดนัยรู้ดีว่าควรทำอย่างไร ที่จะหลอกล่อให้หญิงสาวพึงใจในรสสัมผัสของเขา ปลายนิ้วสะกิดปมเชือกคล้องคอที่มัดหลวมๆ ของเดรตตัวสวยบนร่างวีร์นัชชาหลุดออก เผยให้เห็นเนินเนื้อเปลือยเปล่าซึ่งมีเพียงแผ่นชมพูปิดเม็ดทับทิมทั้งสองไว้เท่านั้น หญิงสาวในอ้อมแขนมองเขาตาโตเมื่อรู้ว่าเขากำลังสนใจสิ่งใด จะเป็นการแสร้งทำหรือเป็นอาการโดยธรรมชาติเวลานี้กฤตดนัยก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ชายหนุ่มมองเนินเนื้อตรงหน้าอย่างพึงใจก่อนจะปรนเปรอความสุขให้เธอทั้งมือทั้งปากของเขาจนเธอครวญคลางสุขสมอารมณ์หมาย

 

ท้ายที่สุดวีร์นัชชาก็ตกเป็นของเขาในค่ำคืนนั้น จากเหตุการณ์วาบหวามริมหาด ชายหนุ่มตัดสินใจพาเธอมาต่อยังห้องนอนของเขา บทเพลงสวาทระหว่างเขาและเธอบรรเลงจนเกือบรุ่งสาง จังหวะสุดท้ายชายหนุ่มควบทะยานพาหญิงสาวไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าก่อนจะซบร่างลงบนอกนุ่มๆ ของเธอ ลมหายใจหอบกระชั้นของทั้งคู่ดังทำลายความเงียบภายในห้อง รอยยิ้มพึงใจจุดบนริมฝีปากที่บวมช้ำของวีร์นัชชา ถ้าเพียงแต่กฤตดนัยทันได้เห็นรอยยิ้มนี้ ถ้าเพียงแต่กฤตดนัยไม่มั่นใจในตัวเองจนเกินไป และถ้าเพียงแต่เขาจะล่วงรู้อนาคต ชายหนุ่มอาจจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นี้ก็เป็นได้ แต่ทุกอย่างมักอยู่เหนือการควบคุมเสมอ กฤตดนัยเองก็หลีกหนีไม่พ้น

 

.

 

เสียงเอะอะของภรรยาตามกฎหมายดังลอดมากระทบโสต ช่วยปลุกกฤตดนัยที่จมจ่อมกับอดีตคืนสู่ปัจจุบันอีกครั้ง ชายหนุ่มมุนคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ เขายอมรับว่าจากความตื่นเต้นเมื่อได้ครอบครองวีร์นัชชาในครั้งแรก และหลายต่อหลายครั้งที่แอบมีสัมพันธ์ลับหลังอิงธารามันทำให้เขารู้สึกหลงในรูปรสสัมผัสของเธอ จนอยากเปิดตัวหญิงสาว เมื่อคุณกุลวดีแนะให้เขาหันมาสารสัมพันธ์กับวีร์นัชชาเพื่อผลประโยชน์ กฤตดนัยจึงไม่ลังเลที่จะสลัดอิงธาราทิ้งทันที เพราะจะอย่างไรอิงธาราก็หนีจากเขาไม่พ้นอยู่แล้ว

 

แต่หลังจากประกาษแต่งงานวีร์นัชชาก็เปลียนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งขี้โมโห เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่ทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายคือหญิงสาวเป็นคนขี้หึงจนน่ารำคาญ แต่พอเขาโมโหหรือเริ่มหงุดหงิด วีร์นัชชาก็จะอ่อนข้อให้เขาทุกครั้ง สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องเป็นของเธอตามกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับมหาศาล ต่อให้ต้องเจอกับนิสัยแย่ๆ ของวีร์นัชชาก็ไม่เท่าไหร่นักหรอก

 

หลังกลับจากฮันนีมูนกับภรรยาสาว กฤตดนัยก็หาทางสานสัมพันธ์กับอิงธารา ชายหนุ่มหาจังหวะที่จะพบหญิงสาวตามลำพัง แต่อิงธารากลับหลบเลี่ยงที่จะเจอเขา ดังนั้นกฤตดนัยจึงต้องตื่นแต่เช้าเพื่อรอพบเธอในวันนี้ และได้เห็นปฏิกิริยายามที่เขาปฏิบัติต่อเธออย่างที่ผ่านมา ก็ทำให้กฤตดนัยมั่นใจเหลือเกินว่า เขาจะได้รับหัวใจรักของหญิงสาวกลับมาอีกครั้ง พอคิดได้อย่างนี้อารมณ์หงุดหงิดเมื่อครู่ก็คลายลง ชายหนุ่มลงมือจัดการอาหารตรงหน้า ทอดตามองไปยังทางที่อิงธาราเดินลับหายไป ได้แต่หวังว่าดอกไม้งามอย่างอิงธาราจะยังรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่องไว้รอเขา

 

.

.

 

ชายสูงวัยมองอาหารตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย หญิงสาวรูปร่างแบบบางอากัปกิริยาเนิบนาบอ่อนหวาน มือขาวเนียนเลื่อนแก้วนมส่งให้เพื่อเรียกความสนใจ แต่เหมือนว่าจะไม่ได้ผล เพราะไม่แม้แต่ได้รับความสนใจแต่เจ้าของมือเหี่ยวกลับหันไปหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาเปิดอ่าน แต่เสียงทักท้วงของพยาบาลประจำตัวทำให้ต้องลดหนังสือพิมพ์ลงอย่างเสียไม่ได้

 

"คุณท่านค่ะทานข้าวได้แล้วค่ะ แคทเห็นคุณท่านอ่านหนังสือพิมพ์รอบที่สี่แล้วนะคะ" แคทริยาวางแก้วน้ำเปล่าลงข้างๆ แก้วนมอุ่นของเจ้าของบ้าน

 

"ฉันเบื่ออาหารอ่อนๆ รสชาดจืดๆ ของเธอเต็มทีแล้ว" เสียงบ่นกระปอดกระแปดของเจ้าของบ้านทำให้แคทริยาส่ายหน้าอย่างระอา

 

"ก็ไม่ใช่อาหารจืดๆ ของน้องแคทนี่เหรอครับที่ทำให้ลุงยังมีแรงมาเถียงน้องได้อย่างนี้" ชายหนุ่มในชุดลำลองก้าวเข้ามาในห้องอาหาร น้ำเสียงหยอกล้อขัดกับสภาพของผู้พูดลิบลับ

 

"น้องแคทนี่ก็เหลือเกิน บอกให้เรียกลุงว่าพ่อก็ไม่ยอมเรียกสักที" ผู้มาใหม่บ่นหญิงสาวไม่จริงจังนัก ฝ่ายถูกบ่นเพียงส่งยิ้มตามแบบฉบับของเธอก่อนจะกุลีกุจอตักข้าววางตรงหน้าชายหนุ่มที่ลงนั่งฝั่งตรงข้ามผู้สูงวัย

 

"ปล่อยน้องไปเถอะ เอาที่สบายใจกันทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ ว่าแต่แกเถอะหนวดเคราหัดโกนออกซะมั่ง ผมเผ้าก็รกหูรกตา หาเวลาไปตัดบ้างก็ดี ฉันล่ะไม่เข้าใจเลย แค่ทำตัวให้มันสะอาดสะอ้านมันจะตายรึยังไง" ชายสูงวัยหันมาเล่นงานผู้มาใหม่แทน

 

"อ้าว! โดนบ่นซะงั้น ...ขอบใจจ๊ะ" พลางเอื้อมมือไปรับชามข้าวจากแคทริยา

 

"นี่ลุงอาละวาดอย่างนี้ทุกวันเลยไหมเนี่ย" ภูพิงหันไปพูดคุยกับหญิงสาวที่กำลังจัดยาให้กับอรรถอย่างตั้งใจ

 

"อาละวาดอะไรกัน ไม่มี้เนอะหนูแคท" ผู้สูงวัยหันหาพวก ซึ่งในห้องนั้นก็มีแต่หญิงสาวเท่านั้น เธอเงยหน้ามองภูพิง ส่งยิ้มบางๆ พลางส่ายหน้าปฏิเสธ

 

"นั่นไง ยายหนูไม่เคยโกหกหรอก ว่าแต่วันนี้แกจะเข้าบริษัทไหม" อรรถเสไปคุยเรื่องอื่นแทน และภูพิงก็รู้ว่าอรรถต้องการจะพาเขาเข้าเรื่องที่ตัวเองอยากรู้

 

"ไม่เข้า แต่บอกปกรณ์ไว้แล้ว เอาน่า เลขาของพี่ไม่กัดไอ้คีหรอกน่า" ชายหนุ่มรีบปลอบใจเมื่อเห็นสีหน้าวิตกของแคทริยา น้องสาวของคีรีสมาชิกอีกคนของบ้านพชรวกร 

 

"เอาล่ะครับลุง มากินข้าวกันดีกว่า ดูซิน่ากินจะตาย ลุงไม่รู้จักของอร่อย" เขาว่าพลางตักกุ้งตัวโตเข้าปาก

 

"แกลองมากินทุกวันอย่างฉันซิ" ผู้สูงวัยยังไม่วายบ่น แต่ก็ยอมตักอาหารเข้าปาก แคทริยาวางกล่องยาไว้ข้างแก้วน้ำของผู้สูงวัยก่อนจะขอตัวออกจากห้องอาหาร

 

"เดี๋ยวแคทขอตัวก่อนนะคะ" เธอพูดเสียงเบาแล้วก็ก้าวเนิบนาบออกจากห้องไป ปล่อยให้สองลุงหลานมีเวลาอยู่ด้วยกัน ชายสูงวัยปลายตามองหนูน้อยเมื่อวานวัน จนบัดนี้เด็กหญิงในความดูแลของเขากลายเป็นหญิงสาวงดงามสมวัย

 

.

 

เกือบสิบกว่าปีที่แคทริยาและคีรีเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านพชรวกร สองพี่น้องทำให้บ้านที่เงียบเหงามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะบิดาของทั้งคู่สละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องอรรถผู้เป็นนายจากเหตุการณ์ลอบทำร้าย ดังนั้นอรรถจึงรับคีรีเด็กหนุ่มอายุสิบหกและแคทริยาเด็กหญิงวัยสิบขวบเป็นบุตรบุญธรรม

 

อรรถดูแลเด็กทั้งสามเหมือนลูกตัวเอง จะโชคดีหรือโชคร้ายของอรรถก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะตั้งแต่มีเด็กทั้งสามมาอยู่ในความดูแลเขาก็ไม่เคยมีหญิงสาวเข้ามาแวะเวียนในชีวิต ดังนั้นอรรถจึงกลายเป็นพ่อหม้ายลูกติดไปโดยปริยาย จนบัดนี้อายุเขาล่วงเข้าเลขหกแล้ว ส่วนหนูน้อยแคทริยาก็เพิ่งเรียนจบพยาบาลมาได้ไม่นาน และตั้งมั่นจะดูแลผู้มีพระคุณของเธอ ส่วนคีรีก็กำลังจะเข้าไปมีบทบาทในบริษัทของภูพิง 

 

อรรถรู้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่ภูพิงจะทำอะไรบางอย่างกับศัตรูของเขา ดังนั้นคีรีจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่ชายหนุ่มจะผลักดันให้เขาขึ้นมาเป็นฉากหน้า เพื่อที่ภูพิงเองจะได้ไปจัดการบางอย่างได้อย่างสะดวกใจ และดูเหมือนว่าคีรีเองก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้เสียด้วย

 

และเมื่อใช้อำนาจบาดใหญ่ของนายเหนือหัวซักไซ้เจ้าปีเตอร์สมุนมือขวาของหลานชายตัวดี ก็ยิ่งทำให้อรรถมั่นใจว่าไม่นานนี้คงจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นแน่ แต่ทำยังไงได้ล่ะ ใครใช้ให้คนก่อเรื่องดันเป็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของเขากัน 

 

หลังจากที่อยู่ร่วมมื้ออาหารกับผู้เป็นลุงแล้ว ภูพิงก็เตรียมออกจากบ้าน โดยให้เหตุผลกับอรรถว่าจะต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายอาทิตย์ เขาไม่ลืมที่จะกำชับแคทริยาและปีเตอร์คนสนิทที่ชายหนุ่มจงใจให้อยู่เพื่อดูแลผู้เป็นลุง อีกนัยหนึ่งคือเขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้เป็นลุงต่อตัวเอง โดยหารู้ไม่ว่าอรรถได้ล่วงรู้ถึงแผนการของหลานชายทั้งหมดจากปากปีเตอร์เรียบร้อยแล้วคงต้องปล่อยให้เด็กๆ เล่นสนุกกันไปก่อน

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ เอนิน

ฝากภูพิง-อิงธาราด้วยนะค้า

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.