เริ่มต้นปีใหม่ด้วยการดูแลสุขภาพที่ครบรอบด้านทั้งกายและใจ

เมื่อมองกลับไปในปีเก่าๆ ทำให้เราคิดถึงอะไรบ้าง การใช้ชีวิต ความรักที่ผ่านเข้ามา กราฟการงานที่ขึ้นและลงเหมือนการนั่งรถไฟเหาะเพราะปัญหาโควิดที่ทำให้แทบทุกธุรกิจเกิดปัญหาหลายอย่าง การดูแลสุขภาพร่างกาย ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ผ่านมา เราทำได้ดีหรือยัง ปัญหาด้านสุขภาพนั้นเราได้ละเลยมันหรือไม่ เพราะสุขภาพกายนั้นคือสิ่งที่เราจะต้องดูแลอย่างดี ทุกกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวันทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลงทุกวัน ยังไม่รวมถึงไลฟสไตล์ที่เราใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกฮอล สูบบุหรี่ หรือปาร์ตี้ดึก ส่วนสุขภาพทางใจนั้นก็คือการตรวจวัดความเครียดและปัญหาต่างๆที่ทำให้เราเกิดความเครียดสะสม รวมไปถึงการปรึกษาจิตแพทย์หากเราพบว่าตัวเองมีแนวโน้มจะเป็นโรคซึมเศร้า

พอเริ่มต้นปีใหม่ เราก็จะตระหนักได้ถึงสิ่งที่เราควรจะทำเพื่อให้เริ่มต้นปีที่ดี แน่นอนว่า นั่นก็คือการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและใจของเราให้แข็งแรงและมีภูมิต้านทานต่อสิ่งใดๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ออกกำลังกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับตนเอง นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพทางจิตใจให้ดีตามไปอีกด้วย การเคลื่อนไหวของร่างกายจะทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และการออกกำลังกายยังช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างสบาย เต็มอิ่ม ทั้งช่วยให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นแจ่มใส ฟังเพลงผ่อนคลายสมอง การหาเพลงสักเพลงที่เราชื่นชอบฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายไปกับมัน หรือเพลงนั้นทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ถือเป็นวิธีที่สามารถช่วยให้เราหายเครียด ไม่คิดมากได้ดีวิธีหนึ่ง เพราะเพลงคือศิลปะความบันเทิงอีกอย่างที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นได้ ส่งผลต่อสภาพจิตใจ ช่วยปลอบประโลมเราได้ระดับหนึ่ง ชนิดที่เรียกว่ามีเพลงเป็นเพื่อนได้เลย ทั้งยังช่วยให้ความจำเราดีขึ้น ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมในการฟังเพลงแล้วร้องตามไปด้วย ก็จะทำให้เรามีสมาธิอยู่กับเนื้อเพลงท่อนต่อๆ ไปที่เราจะร้อง ฉะนั้นการฟังเพลงถือเป็นการลดความเครียดจากเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว สร้างกำลังใจให้กับตนเอง ไม่มีใครจะรักเราได้เท่ากับตัวเราเอง ฉะนั้นการสร้างและให้กำลังใจกับตนเอง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมี ไม่ว่าจะเจออุปสรรคมามากมายแค่ไหน ขอให้คิดไว้เสมอว่าชีวิตเรายังมีพรุ่งนี้ ถึงอย่างไรบนโลกใบนี้ก็มีอีกตั้งหลายคนที่เขาอาจจะเผชิญปัญหาเดียวกันกับเราหรือร้ายแรงกว่าเราอยู่ก็ได้ ดังนั้นการจะทำให้จิตใจเราไม่ห่อเหี่ยว ก็คือการรักตัวเองให้มากๆ และรู้จักให้กำลังใจตัวเอง บอกตัวเองให้สู้ๆ เดี๋ยวเราก็ผ่านมันไปได้ เรื่องแค่นี้เอง ยังไงทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ ปลดปล่อย ระบายอารมณ์ออกมาบ้าง บางครั้งการเก็บสะสมแต่ละเรื่องที่เราเจอมารวมกัน ก็อาจจะทำให้ความอดทนที่มีขีดจำกัดมันหมดลง ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดอันดับแรกคือควรปล่อยวางก่อน และไม่คิดเล็กคิดน้อย หากเจอเรื่องที่ตัวเราเองคิดว่ามันแย่ที่สุดแล้วเท่าที่เคยเจอมา ให้ปลดปล่อยและระบายออกมาบ้าง หาเพื่อนหรือใครสักคนในครอบครัวที่ปรึกษาได้ แล้วพูดเรื่องราวที่อึดอัดใจออกไปเลย เพื่อเป็นการลดความเครียดจากตัวเอง การระบายอารมณ์ด้วยการร้องไห้ มันไม่ได้บ่งบอกว่าคุณเป็นคนขี้แพ้ แต่มันจะช่วยให้คุณเข้มแข็งขึ้นต่างหาก และมันก็จะทำให้สุขภาพจิตใจของคุณดีขึ้นอีกด้วย.