หวานใจพี่รหัส ตอนที่ 6 ฝันไปเถอะ! ว่าจะผ่านด่านเธอไปได้!
นรินทร์เพ่งมองเด็กสาวของตรงหน้า ร่างเล็กกะทัดรัดอยู่ในชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง กระโปรงทรงเอสีดำคลุมเข่าและรองเท้าผ้าใบสีตุ่น ผมยาวหยักศกเล็กน้อยถูกรวบไว้อย่างลวก ๆ ทางด้านหลัง ถุงผ้าสีชมพูอ่อนใส่หนังสือเล่มโตสะพายอยู่ที่หัวไหล่ใบหน้านั้นไม่มีแม้แต่แป้งฝุ่นหรือเครื่องสำอางใด ๆ แต้มอยู่เลยดวงตากลมที่ฉายแววเอาเรื่องนั้นจ้องมองมาที่เขา ราวกับทำความผิดอะไรหนักหนา คล้ายกำลังปรามเขาอยู่ในทีไม่ให้มายุ่งกับเพื่อนของเธอ ไม่เคยมีสาวคนไหนมองเขาด้วยสายตาแบบนี้มาก่อนเลย เคยมีแต่สาว ๆ รุมล้อมหลงรัก
นภานิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ เมื่อมองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าชัด ๆ ผิวหน้าขาวใสอมชมพู คิ้วเข้ม ตาคม ปากแดงระเรื่อได้รูป ผมตรงที่ตัดสั้นเผยให้เห็นโครงหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรความกังวลใจฉายชัดบนสีหน้านั้น เขาหน้าตาดีขนาดนี้ เพื่อนของเธอจะไม่หวั่นไหวได้หรือ? เป็นคู่ต่อสู้ของพี่ชายเธอที่น่ากลัวมาก แต่อย่าคิดว่า จะผ่านด่านเธอไปได้ ฝันไปเถอะ!
“ภารู้จักพี่นรินทร์หรือยังจ๊ะเพื่อนของพี่ยนตร์จ้ะ”ปารรีบทำลายความเงียบ ด้วยการแนะนำเพื่อนสาวให้รู้จักกับรุ่นพี่หน้าหล่อทันที เพราะถ้ามีหนุ่มมาคุยด้วยแล้วไม่บอกว่าเขาเป็นใคร เพื่อนซี้จะโกรธมาก
“พี่นรินทร์ นี่นภาน้องสาวพี่ยนตร์ เพื่อนสนิทของปารเองค่ะ” แล้วหันไปมองเพื่อนของพี่รหัส ใบหน้านั้นดูไม่สบอารมณ์ซักเท่าไหร่ แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอก็สัมผัสได้
“สวัสดีครับ”เขาทักทายยัยตัวแสบอย่างเป็นทางการเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จัก
“สวัสดีค่ะ” นภาตอบกลับอย่างขอไปที เมื่อปารสะกิดแขนยิก ๆ ให้ตอบเขา
“วันนี้พี่ต้องไปก่อนนะวันหลังจะให้ปารช่วยสอนพี่วาดการ์ตูนบ้างนะครับ” เขายังไม่อยากมีเรื่องเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวน้อยน่ารัก อยากจะดูดีมากกว่า จะกลายเป็นคนต่อล้อต่อเถียงเอาเรื่องเอาราวโดยไม่จำเป็น
“ได้ค่ะ”ปารยิ้มให้เพื่อนของพี่รหัส
“แล้วปารมีอะไรจะฝากให้พี่ยนตร์หรือเปล่าครับฝากพี่ไปให้ได้นะ อีกอย่างปารจะได้ไม่ต้องลำบากใจด้วย”นรินทร์รู้สึกสงสารรุ่นน้องที่ต้องโดนพวกแสงชัย ล้อเลียนหรือแซวต่าง ๆ นานา
“ดีจังเลยค่ะ ฝากด้วยนะคะ มีเรียนเต็มเหยียดตอนเย็นนภาก็มีธุระคงจะกลับค่ำ”เธอเกือบลืมว่าพี่รหัสคนดีสั่งห้ามไม่ให้ไปหาที่ซุ้มอีก เด็กสาวก้มลงหยิบถุงสีน้ำตาลในถุงผ้าสีดำส่งให้นรินทร์
“หวังว่า คงจะถึงมือพี่ยนตร์โดยสวัสดิภาพนะคะ”นภาอดค่อนแคะหนุ่มหน้าขาวไม่ได้
สายตาคมของเพื่อนพี่ชายหันมาจ้องหน้าคนเหน็บแนมอย่างขุ่นเคืองนี่เธอต้องการเป็นปฏิปักษ์กับเขาใช่มั้ย? พูดอะไรขัดคอได้ทุกเรื่อง แล้วหันกลับไปหาเจ้าของถุงขนม
“ถ้าพี่ยนตร์ไม่รับพี่จะขอถุงใบนี้นะปาร”
“พี่ยนตร์ไม่มีทางไม่รับแค่น้องสาวจะขอดูเขายังไม่ยอมให้ดูเลย”นภารีบสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงห้วน ๆอย่างชัดถ้อยชัดคำ
นรินทร์ทำเป็นไม่ได้ยินเขาไม่อยากต่อปากต่อคำให้มากความมองหน้าปารที่นั่งปั้นหน้าไม่ถูก
“ไม่ต้องห่วงนะปาร พี่จะส่งให้ถึงมือของพี่ยนตร์แน่นอนครับ”ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
นภาแบะปาก ทำจมูกย่นใส่ตามหลังหนุ่มหน้าขาว อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นี่ภา ทำไมต้องแขวะ พี่นรินทร์ด้วย เขาไปทำอะไรให้”ปารเป็นงงที่เห็นปฏิกิริยาของเพื่อนสาวดูไม่ชอบหน้าเพื่อนพี่ชายเอาซะเลย ปกติไม่เคยเห็นเพื่อนรักแสดงออกว่าไม่ชอบใคร หรือเอาเรื่องกับใครขนาดนี้เลย
“ก็เห็นหมอนั่น มาจับมือถือแขนกับปารหนิ”
“ตลกเลยมันบังเอิญต่างหากคนอย่างเราต่อให้หล่อปานเทพบุตร เราก็ไม่มีทางให้หนุ่มหน้าไหน มาจับมือถือแขนง่าย ๆ หรอกนะ” ถึงคนอย่างเธอจะไม่ได้สวยปานนางฟ้า แต่ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงต้องมาก่อนเสมอ
“อย่าตั้งใจก็แล้วกันล่ะ”
ขาดคำนั้นปารเอื้อมมือบิดเนื้อที่ท่อนแขนของนภาทันที
“โอ๊ย!ปารเจ็บนะ ยอมแล้วยอมแล้วจ้า....”เพื่อนซี้รีบยกธงขาวยอมแพ้ ไม่งั้นเนื้อของเธออาจจะหลุดได้
“โธ่...ปารก็...ก็...เรา...อยากได้ปารเป็นพี่สะใภ้นี่นา....”นภาเอียงคอประจบเพื่อนสนิท
ปารอึ้งไปกับคำตอบของเพื่อนรัก เหมือนใบหน้ามันจะร้อนผ่าวขึ้นมาเฉย ๆอึดใจเดียวรีบพูดกลบเกลื่อนด้วยน้ำเสียงกึ่งเครียดกึ่งตำหนิ
“นภา...!!พูดอะไร น่าเกลียดจริง”
“ล้อ...เล่น....น้า...”นภาอมยิ้มน้อย ๆ เธออยากรู้ว่าปารคิดอย่างไรกับพี่ชายของเธอบ้างรึเปล่า จึงลองหยั่งเชิงเพื่อนสาวดู ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง
รอยยิ้มบนใบหน้าของนภาจางไปทันที และหันหน้าค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าสวย จนปารต้องมองตามไป
“ปาร...”นภาสะกิดเพื่อนสาวแต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าของสาวสวยคนนั้น
“เห็นผู้หญิงคนนั้นมั้ย?”
“คนไหน...คนที่สวย ๆ นั่นน่ะเหรอ..แล้วเขาเป็นใครล่ะ”ปารมองเห็นแล้วต้องยอมรับว่า เธอคนนั้นสวยใสสะดุดตาจนต้องมอง หุ่นเธอเป๊ะมาก เสื้อนักศึกษาสีขาวแนบชิดกับรูปร่างจนมองเห็นทรวดทรงองเอว ส่วนเว้าส่วนโค้งส่วนนูนได้อย่างชัดเจน กระโปรงสีดำแนบลำตัวและสั้นเหนือเข่า ผ่าข้างเล็กน้อย แต่งหน้าสวยพริ้ง
“เป็นคนที่ทำให้พี่ยนตร์อกหักน่ะสิ”
นภามองสาวสวยคนนั้นแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่า พี่ชายของเธอชอบผู้หญิงแบบนี้หรือ? โอ๊ะ! ผู้ชายก็เหมือนกันหมดสินะ ชอบผู้หญิงสวย พี่ชายของเธอก็ไม่เว้น เฮ้อ... วัน ๆ คงจะเอาแต่แต่งตัว ทำงานการอะไรเป็นรึเปล่า? โชคดีที่พี่ชายจีบสาวคนนี้ไม่ติด ขืนติดเธอกับแม่คงต้องกลุ้มใจมากแน่ ๆ ดูจากการแต่งตัวสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตที่แตกต่างกับครอบครัวเรียบง่ายของเธอโดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่น่าจะเข้ากับพี่ยนตร์ได้เลย ทำให้ยิ่งมั่นใจ คนที่เหมาะสมคู่ควรกับพี่ชายคนเดียวของเธอต้องเป็น ‘ปาร’ เท่านั้น
ปารนิ่งอึ้งไปชั่วขณะมิน่าล่ะ!พี่ยนตร์ถึงได้เสียอกเสียใจขนาดนี้เพราะเธอคนนั้นสวยน่ารัก สดใสแวบหนึ่งอดคิดไม่ได้ว่า ตัวเธอเองไม่มีอะไรเทียบกับสาวสวยคนนั้นได้เลย
“สวยมาก ๆ เลย” ปารอุทานเบา ๆ ด้วยความตกตะลึง
“สวยเพราะแต่งแหละน่า...ลองไม่แต่งสิ สงสัยหน้าซีดเหมือนผี หรือไม่ก็ไม่ได้สวยเอง สวยเพราะมีดหมอมั้ง” นภาอดแขวะไม่ได้
===============
“ยัยบ้าเอ๊ย!โกรธกันมาตั้งแต่ชาติไหนเนี่ย”
หนุ่มหน้าขาวอดบ่นถึงน้องสาวของยนตร์ไม่ได้สายตาเธอที่มองเขาดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยรู้สึกเหมือนเธอจะหวงเพื่อนอย่างมากเขาถอนหายใจออกอย่างสุดเซ็งที่ผ่านมาคนอย่างเขามีแต่สาวกรี๊ดทั้งนั้น
นรินทร์ยกถุงขนมสีน้ำตาลในมือขึ้นมาพิจารณา มองการ์ตูนรูปอมยิ้มที่แปะอยู่อดยิ้มออกมาไม่ได้ มันช่างน่ารักน่าชังเหลือเกิน นิ้วชี้ลูบหัวตัวการ์ตูนตัวนั้นแผ่วเบาอย่างรู้สึกเสียดาย ที่ถุงขนมใบนี้มันไม่ใช่ของเขาแต่เป็นของยนตร์ตลอดสามวันที่ผ่านมาเขาเห็นปารมาหายนตร์ทุกวันสายตาเธอเหมือนมีแต่ยนตร์คนเดียวคนอื่นเหมือนเธอจะมองข้ามเหมือนจะมองไม่เห็นแม้ว่าเขาเองก็ออกจะหล่อและหน้าตาดีกว่ายนตร์ด้วยซ้ำไปมันไม่แปลกเลยที่มักจะมีแต่สาว ๆ มารุมชอบเขาอยู่เสมอ รวมทั้งหญิงสาวคนนั้นที่ยนตร์ตามจีบอยู่นานด้วยเช่นกันแต่เขาไม่ได้ตอบรับ หรือแสดงไมตรีตอบใด ๆ เพราะเห็นว่าเป็นคนที่เพื่อนชอบอยู่ที่สำคัญเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ทอดสะพานให้ผู้ชายก่อน
เมื่อเดินใกล้ถึงตึกคุรุศาสตร์นรินทร์รีบยกมือไพล่หลังเพื่อแอบซ่อนถุงสีน้ำตาลเข้มไว้ด้านหลัง เมื่อมองเห็นยนตร์นั่งอยู่ที่ม้าหินหน้าคณะ กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่แต่ดูเหมือนจะไม่มีสมาธิอ่านมากกว่าเพราะเดี๋ยวก็เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือมามองหาอะไรบางอย่างอยู่นานชะเง้อคอมองหาหันซ้ายหันขวาเหมือนจะรอใครบางคนอยู่ก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือต่อแต่สักพัก ก็เงยหน้าขึ้นมาใหม่ เป็นอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“มองหาใครวะ ยนตร์”นรินทร์อดถามแหย่เพื่อนไม่ได้
ยนตร์แทบหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่อหันไปเจอเพื่อนหนุ่มเข้าอย่างจังแถมดันมาถามจี้ใจดำแบบนี้อีกก่อนจะรีบตีหน้าเซ่อ
“มองหาใคร?”ยนตร์ปฏิเสธเสียงเรียบ
“ไม่ได้มองหาใครเลย”คนถูกถามยังตีหน้าตายทำไม่รู้ไม่ชี้ทำเป็นถอดแว่นสีชาออกมาเช็ดทำความสะอาด
“มองหาเจ้าของ ไอ้นี่หรือเปล่า?”นรินทร์อมยิ้มทำหน้าล้อเลียนยื่นถุงขนมสีน้ำตาลมาโชว์ข้างหน้าเพื่อนซี้
ยนตร์ไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่เอื้อมมือไปคว้าถุงขนมสีน้ำตาลนั้นทันทีนรินทร์เบี่ยงตัวหลบได้ทัน
“เอามานี่เลย”พูดพร้อมกับลุกขึ้นแล้วสาวเท้าเข้าไปหาเพื่อนหนุ่มหน้าหล่อ
“ยอมรับมาซะดีดีว่ารอปารอยู่”นรินทร์เว้นระยะห่างจากเพื่อนพอสมควร
“ถ้าของข้างในเสียหายข้าเอาเรื่องแกแน่”อีกฝ่ายหนึ่งเริ่มขู่ ออกอาการหงุดหงิด
“ยอมรับมาดิ”นรินทร์เน้นคำขอคำตอบจากเพื่อน
ยนตร์มองเห็นเพื่อน ๆ เริ่มทยอยเดินมารวมตัวกันสุ่มหัวอยู่ที่ซุ้มหน้าคณะแล้วหากเขาจะต้องวิ่งไล่จับกับนรินทร์คงจะไม่ไหวคงจะกลายเป็นเป้าให้ถูกล้อซะมากกว่า ที่สำคัญเขามองเห็นสายตาของแสงชัยที่กำลังมองตรงมา
“เออ ๆ”ยนตร์ยอมรับอย่างขอไปที เขาลืมเสียสนิทเลยว่า สั่งปารไม่ให้มาหาเขาที่ซุ้มอีก มิน่าล่ะ! ไม่เห็นเธอมาหาเลย ไอ้บ้าเอ๊ย!
“ก็แค่เนี้ยะ!”นรินทร์เดินมาหายนตร์ยกเลิกแผนเล่นวิ่งไล่จับแล้วยื่นถุงสีน้ำตาลไปตรงหน้าเพื่อนหนุ่มยนตร์รีบยื่นมือมารับถุงขนมสีน้ำตาลเข้มแต่พอจะรับเข้าจริง ๆ เพื่อนตัวแสบก็แกล้งดึงหลบไปซะงั้น
“นี่นรินทร์!จะเล่นอีกนานมั้ย ถ้าของข้างในเสียหายละก้อ... อย่าหาว่าข้าไม่เตือนนะ”ยนตร์พูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง สายตาที่จ้องมองผ่านกระจกแว่นสีชานั้น เอาเรื่องเอาราวน่าดู
นรินทร์อมยิ้มอย่างขำ ๆก่อนจะยอมส่งถุงสีน้ำตาลนั้นคืนเพื่อนหนุ่ม อย่างไม่มีเงื่อนไขก่อนที่เพื่อนจะเข้ามาตื้บเขาจริง ๆ
หนุ่มหน้าขาวเดินตามเพื่อนกลับไปนั่งที่โต๊ะม้าหินสายตาของยนตร์มองเจ้าถุงสีน้ำตาลในมือไม่วางตากำลังสำรวจตรวจตราว่ามีตรงไหนบุบสลายหรือไม่อย่างไรอย่างถ้วนถี่
“ข้าบังเอิญไปเจอปารเข้าเขาก็เลยฝากถุงนี้มาให้แกแล้วฝากบอกว่า วันนี้ไม่ได้มาหา เพราะติดเรียนนะ”
“ไม่ขอบใจนะ”ยนตร์ละสายตาจากถุงขนมสีน้ำตาลในมือขึ้นมาจ้องหน้าเพื่อนหนุ่มอย่างไม่อยากเชื่อว่าบังเอิญ และหัวเสียไม่น้อย เพราะกว่าที่เพื่อนหน้าหล่อ จะยอมส่งถุงขนมให้ก็เกือบต้องให้ใช้กำลังกันซะแล้ว
“ยนตร์...ข้าอยากจะขอ ตัวการ์ตูนบนถุงขนมจะได้มั้ยวะ มันน่ารักดี”นรินทร์มองตัวการ์ตูนบนถุงขนมสีน้ำตาลอย่างเสียดาย
สายตาภายใต้แว่นสีชา ละจากถุงขนมในมือขึ้นมาประสานสายตากับคนขอ
“คงจะไม่ได้นะถ้าปารรู้ว่าข้าเอาของที่เขาตั้งใจทำให้กับมือ ไปให้คนอื่น เขาจะเสียใจ”
นรินทร์ตีหน้าเก้อ เมื่อได้ยินคำตอบปกติยนตร์ไม่ใช่คนหวงของ ถ้าสิ่งไหนที่เพื่อนขอ แล้วเขาทำให้เพื่อนได้ยนตร์มักไม่ปฏิเสธ
“วันนี้น้องปารส่งอะไรมาง้อเหรอ”
เสียงนั้นทำให้สองหนุ่มรีบหันไปมองต้นเสียง มองเห็นแสงชัยยืนอยู่
แสงชัยมองถุงสีน้ำตาลในมือของยนตร์ วันก่อนเขาแอบยืนมองยนตร์กับปารเหมือนคนกำลังงอนง้อกันไม่มีผิด นึกไม่ถึงเลยยนตร์จะมีสาวน้อยน่ารักตามง้อขนาดนี้ นอกเหนือจากธารน้ำแล้ว
“ยนตร์ต้องรายงานแกด้วยเหรอ” นรินทร์ย้อนคำถาม
“เปล๊า...” อีกฝ่ายตอบขึ้นเสียงสูง
“แค่อยากช่วยทำให้เข้าใจกันเร็วขึ้นไง” รอยยิ้มเหยียด ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของอีกฝ่าย
“ขอบใจ ไม่รบกวนจะดีกว่ามั้ง” หนุ่มหน้าขาวช่วยตอบแทน
“เตรียมกิจกรรมรับน้องของคณะไปถึงไหนแล้ว” ยนตร์ตัดบทเอ่ยถามถึงงานที่เขาได้รับมอบหมาย
“ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้จะเอารายการมาให้ อย่าลืมล่ะ! อาสาไปช่วยซื้อของไม่ใช่เหรอ เตรียมตัวได้เลยนะ?”
“แสงชัยอยู่นี่เอง เราหิวข้าวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ” ธารน้ำรีบเดินมาคว้าแขนแฟนหนุ่มไว้ แล้วพาไปทันทีก่อนจะมีเรื่องกันมากกว่านี้
ยนตร์มองธารน้ำเดินไปกับแสงชัย นึกไม่ถึงว่า เธอจะประชดเขาด้วยการเป็นแฟนกับแสงชัยจริง ๆ หลังจากที่เขาบอกเธอว่า เขารู้สึกดีกับเธอเหมือนเพื่อนมากกว่าจะเป็นอย่างอื่น มันแปลกคนที่มาชอบ เขากลับไม่ได้ชอบเธอ และไปชอบคนที่ไม่มีใจให้ ไม่งั้นเขาน่าจะลบคำสบประมาทจีบใครไม่ติดเลยได้แล้ว
“เมื่อไหร่แกจะเลิกโกรธปารวะ ไม่สงสารน้องเหรอ โดนพวกแสงชัยเอามาล้อสนุกเลย”
ยนตร์มองหน้าเพื่อนคำพูดของเพื่อนทำให้เขาเอะใจ มันชักจะยังไง ๆ อยู่เหมือนเพื่อนหน้าหล่อจะเป็นห่วงปารจนออกนอกหน้าทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่นานสาว ๆ ที่มารุมชอบนรินทร์มากมายแต่ไม่เคยเห็นเพื่อนออกอาการว่าเป็นห่วงสาวคนไหนแม้แต่คนเดียว แม้แต่จันทร์เจ้า สาวสวยที่เขาจีบไม่ติด ก็ยังมาชอบเพื่อนซี้ของเขา แต่ก็ไม่มีท่าทีตอบรับแต่อย่างใด แถมยังออกอาการพยายามหนี พยายามอยู่ห่าง ๆ อีกด้วย
==================
ลมพัดม่านสีฟ้าอ่อนลายดอกไม้ไหวเบา ๆมือบางเอื้อมมาเปิดม่านแล้วรวบผูกไว้ด้วยผ้าสีฟ้าอ่อนลายเดียวกัน พระจันทร์เสี้ยวส่องแสงนวลตาโด่ดเด่นอยู่บนท้องฟ้าแห่งรัตติกาลปารมองกระปุกออมสินรูปช้างสีฟ้าบนโต๊ะเขียนหนังสือเป็นกระปุกที่มีกระจกทรงกลมติดอยู่ด้านข้างของท้องช้างด้านบนของกระปุกหมึกสีน้ำเงินจาง ตัวอักษรบางส่วนขาดหายไปบ้าง‘happybirthdayปารจากพี่ยนตร์’เธอรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าช้างสีฟ้าตัวนี้ซึ่งได้รับเป็นของขวัญวันเกิดก่อนที่ยนตร์จะถูกส่งไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯถัดไปเป็นที่ใส่ดินสอปากการูปแมวน้อยแสนขี้อ้อน นั่นเป็นของขวัญจากนภา เห็นแล้วทำให้นึกถึงความขี้อ้อนของคนให้
“ก็...ก็เราอยากได้ปารเป็นพี่สะใภ้นี่นา...”
คำพูดของนภาลอยขึ้นมาในห้วงนึก
“บ้า!พูดออกมาได้ยังไง”ปารนั่งอมยิ้มเขินอยู่คนเดียว
เสียงสัญญาณไลน์จากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นปารรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นมีข้อความส่งมาจากนภา
“ตายยากจริงแม่สายสืบ”นิ้วเรียวกดข้อความขึ้นมาอ่าน
พี่ยนตร์ฝากบอกว่า ต่อไปไม่ให้ปารฝากของใด ๆ มากับพี่นรินทร์อีกถ้าจะฝากให้ฝากกับเราคนเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้ชวนพี่ยนตร์มาทานข้าวกลางวันกันมั้ย? ปารทำกับข้าวมานะ อยากกินฝีมือปารอีกปารมีอะไรจะเคลียร์กับพี่ยนตร์ก็พูดคุยกันซะเลยนะ โอเคมั้ย?
ปารอ่านข้อความอย่างง ๆแต่ก็ตอบโอเคไป
“พ่อคะ พี่ยนตร์ต้องหายโกรธปารใช่ไหมคะ”
ปารเงยหน้ามองพระจันทร์เสี้ยวนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังถามคำถามนี้กับพ่อผู้เป็นที่รัก ซึ่งจากไปอยู่บนฟากฟ้าแสนไกล ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อมักจะปลอบเสมอว่า
“เดี๋ยวพี่ยนตร์ก็หาย ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นโกรธปารได้นานซักที ไม่ใช่เหรอลูก”
สองมือเอื้อมไปประคองกระปุกรูปช้างสีฟ้ามาวางตรงหน้า พลางถอนหายใจเบาๆ
ในใจคิดกังวลถึง“พี่ยนตร์” จากกันไปนานถึงหกปี กว่าจะได้เจอกัน กว่าจะได้พูดกัน อุตส่าห์รอคอยเมื่อไหร่เขาจะกลับมา แม้จะน้อยใจว่าเขาไม่เคยติดต่อกลับมาเลย แต่ก็ยังรอเขากลับมาเสมอ แต่แล้วพอกลับมาเจอกัน ยังไม่ทันได้พูดกันดีดีเลย กลับต้องมาโกรธกันซะแล้ว ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ โกรธตัวเองทำไมถึงพูดออกไปอย่างนั้น ทำให้เขาโกรธเธอขนาดนี้ทั้งที่รู้ดีว่าเขาไม่ชอบ ปารรู้สึกไม่สบายใจ อดคิดไม่ได้ว่า
‘เวลา...อาจทำให้พี่ยนตร์ที่แสนดีคนนั้น เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้พี่ยนตร์อาจไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว’
เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะต้องทำให้เขาหายโกรธเธอให้จงได้
“พรุ่งนี้ พี่ยนตร์หายโกรธแน่ ๆ มือระดับนี้แล้ว” ปารยิ้มให้กำลังใจตนเอง พลางคิดถึงเรื่องราววัยเด็กระหว่างเขาและเธอ
โรงเรียนเลิกแล้ว…
เด็ก ๆ ชั้นประถมทั้งเด็กหญิงเด็กชาย กำลังทยอยออกจากโรงเรียน เด็กหญิงสองคนในชุดนักเรียนขมุกขมอม เดินจูงมือกันมาทางด้านหลังของโรงเรียน ซึ่งติดกับคลองสายเล็ก ๆ สายหนึ่ง เป็นทางลัดกลับบ้านที่ใกล้ที่สุด แดดยามเย็นส่องแสงรอดผ่านใบไม้หนา ๆ ของต้นไม้ใหญ่ลงมาได้ไม่มากนัก เด็กหญิงสองคนพูดคุยส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างร่าเริง
เสียงหัวเราะเงียบลง เมื่อเหลือบเห็น เด็กหญิงตัวโต กับเพื่อนหญิงอีกสองคน ยืนรออยู่ข้างหน้า วางท่าหาเรื่อง
ปารผ่อนลมหายใจออกเบา ๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียดที่เริ่มมาเยือน
นภาจับมือปารไว้แน่น สีหน้าวิตกกังวล
“เธอใช่มั้ย!ที่เป็นคนฟ้องครู”เด็กหญิงตัวโตถามเสียงเครียดเอาจริงเอาจัง เมื่อฝ่ายคู่อริเดินเข้ามาใกล้พอสมควร
ปารไม่ตอบ ตีสีหน้าเรียบเฉย ทำทีไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจ
“นี่!หูแตกหรือไงได้ยินหรือเปล่าที่ถามน่ะ”อีกฝ่ายตะคอกถามอย่างรู้สึกยัวะ!เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“รู้ได้ไงล่ะ ว่าเราเป็นคนฟ้อง ไหนล่ะหลักฐาน”ปารหันมาจ้องหน้าเขม็ง ไม่เข้าใจคำถามที่ได้ยินว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ อยู่ ๆ ไหงมายัดข้อกล่าวหากันง่ายดายอย่างนี้
“ไม่ต้องมาทำไก๋เลย ยอมรับมาซะดีดีว่าเธอเป็นคนฟ้อง”
“ใช่ ๆๆๆๆ“เด็กหญิงสองคนที่มาด้วย ช่วยกันเป็นลูกคู่
“เอาหลักฐานมาสิ ไม่มีหลักฐาน แล้วมากล่าวหากันง่าย ๆ ได้เหรอ?”ปารลอยหน้าลอยตอบ
“ทำอะไรผิดไว้อีกล่ะ ถึงได้มาร้อนตัวแบบนี้ไม่ทราบ”ปารยิ้มเยาะ
“ไปล่ะ เสียเวลา” รีบดึงมือนภาไปจากตรงนั้น
“ยัยขี้ฟ้อง!!!”ฝ่ายตรงข้ามชี้หน้ากราด
“คิดว่าตัวเองเป็นลูกครูแล้วฉันจะกลัวเหรอครูไม่ได้สอนหรือไงว่าอย่าแส่เรื่องชาวบ้าน อ๋อ…ลืมไป ตอนนี้พ่อเธอเด๊ทสมอเร่ย์ไปแล้วหนิ”พูดจบแล้วพากันหัวเราะชอบอกชอบใจ
ปารชะงักกึ้ก!หยุดเดินอย่างกะทันหัน!หันไปมองอย่างเดือดดาน ความโกรธพุ่งปี๊ดขึ้นมาจนถึงจุดระเบิด ใครจะว่าเธออย่างไรก็ได้ เธอยังตั้งสติพอที่จะอดทนฟังอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่…ถ้าลามปามถึง“พ่อ”ของเธอละก็ เธอยอมไม่ได้อีกแล้ว
“หยุดพูดพล่อย ๆ นะ!”
“เด็กไม่มีพ่อ ฮ่า ๆๆๆ ยัยเด็กกำพร้าพ่อ ฮ่า ๆๆๆ”เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มโมโหก็รู้สึกสะใจ และถือว่าประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว
ปารโกรธจนหน้าแดงจัด คำพูดนั้นมันกระแทกจุดเจ็บปวดที่สุดในหัวใจ ความสูญเสียพ่ออันเป็นที่รัก มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากสำหรับเธอ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายเดือนแล้วที่พ่อจากไปอย่างไม่มีวันกลับไม่อาจพูดคุย กินข้าว เกเรกับพ่อได้อีกแล้ว เธอยังไม่อาจทำใจยอมรับกับมันได้เลย
“หยุดพูดนะ!!ไอ้พวกปากเสีย สมน้ำหน้า สมควรแล้วที่ถูกครูตี ยัยอ้วน!!”ปารตะโกนออกไปอย่างโมโหสุดขีด
เด็กหญิงตัวโตหยุดหัวเราะ เข้ามาผลักปารเซไป เด็กหญิงสองคนรีบเข้ามาช่วยหัวหน้ารุม ถึงปารจะเป็นเด็กตัวเล็กกว่า แต่มากด้วยเรี่ยวแรง เพราะการช่วยพ่อทำสวน ทำเกษตรทุกวัน ทำให้กล้ามเนื้อมีกำลังและแข็งแรงมากกว่าฝ่ายตรงข้าม ที่กินทั้งวันจนอ้วน แถมยังไม่ทำงานทำการ ขี้เกียจ เอาแต่วางท่าข่มเหงเด็กคนอื่น
นภาเห็นไม่ได้การ รีบวิ่งไปตามพี่ชายมาช่วย
ปารได้ที ผลักยัยอ้วนเซถลาไปทางริมคลอง เด็กหญิงตัวโตเสียการทรงตัว ประกอบกับริมตลิ่งลื่นและชัน จึงพลัดตกลงไปในคลอง น้ำค่อนข้างไหลเร็ว และเย็นมากเนื่องจากเป็นฤดูหนาว
ปารตกใจ!รีบวิ่งไปดู มองเห็นเพื่อนผลุบ ๆ โผล่ ๆ จากผิวน้ำ ท่าทางเหมือนคนว่ายน้ำไม่เป็น
“ยัยอ้วน!ว่ายน้ำเป็นหรือเปล่า”เธอตะโกนถามและมองเห็นร่างนั้นกำลังจะจมไม่จมแหล่ มองซ้ายมองขวา หาไม้ยาว ๆ ยื่นลงไปให้จับ
ปารรู้สึกใจคอไม่ดี ถึงเธอจะไม่ชอบเพื่อนคนนี้ แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายเขาให้ได้รับอันตราย เธอต้องทำอะไรซักอย่างจะปล่อยให้เพื่อนจมลงไปต่อหน้าต่อตาเธอไม่ได้
“นี่!เธอสองคนช่วยจับไม้นี่ให้ดีนะ”ว่าแล้วบอกเพื่อนของยัยอ้วนให้ช่วยกันจับไม้เอาไว้
น้ำกำลังไหลเร็ว ยัยอ้วนจึงจับไม้อย่างค่อนข้างลำบาก ประกอบกับน้ำเย็นจัด จึงทำให้หมดกำลังลงไปเรื่อย ๆ
ปารตัดสินใจกระโดดลงน้ำ แม้จะไม่มั่นใจเลยว่าเธอจะช่วยได้ เพราะลำพังตัวเองยังว่ายน้ำไม่แข็ง ที่สำคัญ!เธอไม่รู้หลักการช่วยคนตกน้ำ!!
มือแข็ง ๆ คว้าแขนเด็กหญิงเอาไว้
“ปาร!!”
****************
สวัสดีค่า...ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ค่า...มาลงตอนใหม่ให้แล้วน้า... ขอบคุณมากที่ช่วยตรวจคำผิดให้เสมอเลย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 788
ความคิดเห็น
ให้ห้วงนึก = ในห้วงนึก ครับ
ฉากตอนที่ปารยืนอยู่ข้างหน้าต่าง
ขอบคุณมากจ้า แก้ไขแล้วค่า
แสดงความคิดเห็น