8. ระทึกขวัญ
หรือว่านี่...คือโอกาส
------------------------
อลิสาเดินกลับเข้าห้องนอนของตนเองด้วยใจหวั่นๆ อย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชะตาชีวิต บริษัทรีวิวอะไรนั่นมันคงได้เงินค่าจ้างมหาศาลเพื่อคัดคนมาทำงานนี้ถึงที่นี่ แท้จริงแล้วเธอกลายเป็นเหยื่อจากบรรดาผู้เข้ารับการคัดเลือกเกือบห้าสิบคน
สาวน้อยเดินน้ำตาซึมอยู่ในห้องนอนด้านใน เหมือนการเดินจงกรมทำสมาธิแต่ในวินาทีนี้เธอรู้สึกหนาวสะท้านจับขั้วหัวใจ คาถาป้องกันภัยที่แม่ส่งเข้ามาที่ไลน์ของพ่อมาให้เธอ ถูกเปิดออกมาด้วยความหวังหมดใจว่า บทสวดนี้จะมีพลังบุญช่วยให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดนี้ได้
‘กรรม...จริงๆ เลยว่ะ...นึกว่าโชคดีได้งานทำ ที่ไหนได้…โคตรซวยเลย’ เธอนึกในใจ ขณะเดินไปเดินมาเพื่อให้เกิดสมาธิผ่อนคลายแต่ไม่ได้ผล ภาวะวิตกจริตเกินร้อยองศาเนื้อตัวร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน
เธอหันไปมองไอแพดเครื่องที่มีไอคลาวน์เก็บข้อมูล จึงคิดว่าน่าจะเขียนไปถามเอมิลีสาวน้อยนัยน์ตาคมคนนั้น
ข้อความใน inbox มีอีเมล์ของเอมิลีเข้ามาอีกครั้ง มีคำเตือนประหลาดๆ
“ลิซ่า...อย่าออกไปไหนช่วงนี้นะ ระวังตัวด้วยถ้าไปไหนกับ ‘ฌาค’ เขากำลังถูกลอบสังหาร” คำเตือนเท่านี้ทำอลิสาหนาวสะท้าน
เธอเขียนถามกลับไปเพื่อค้นหาข้อมูล
“ทำไมเขาจ้างฉันมาทำงาน ท่านหญิงรู้ไหม...” เธอได้รับคำตอบกลับมาว่าให้เข้าไปคุยกันที่ secret discord น่าจะปลอดภัยกว่า อลิสารีบแอดเธอที่นั่นทันที
ข้อความของเอมิลี...
“ฌาคกำลังถูกสมุนของพวกนักฆ่าที่เขาหักหลังค่าจ้าง”
“มิน่า...เขาถึงสั่งยกเลิกออกไปข้างนอกกับฉัน” อลิสาเพิ่งเข้าใจเหตุผล
“จ้างเรื่องอะไรหรือ...พอรู้ไหม” เธอถามต่อ
“สืบหาฌอง...เขาหายตัวลึกลับ ฌาคอยากรู้ว่าเขายังอยู่หรือตาย”
“เพื่อ?!…for what??!!!” เธอโพล่งถามออกไป
“เขาอยากกลับไปเอาตำแหน่งคืน”
“หมายความว่าจะล้มการปกครองใหม่...ใช่ไหม”
“ใช่...เขาไม่อยากให้พี่ชายมาเป็นคู่แข่ง ถ้ารู้ว่ายังอยู่เขาจะได้ลงมือ”
“โห...เหี้ยมโหด จัดเต็ม!!!”
“หมายความว่า What do you mean?!” เอมิลีไม่เข้าใจภาษาอังกฤษของอลิสา
“the most mean…and cruelest… ใจร้ายที่สุด และโหดสุดๆ!!!”
“Umh… แย่มาก พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน ฌองเป็นคนดีมาก แต่ฌาคแย่ที่สุด ทั้งสองคนแตกต่างกันมาก extremely different…!!!”
“นายคนนี้เปลี่ยนแผนแล้ว เขาจะไม่ออกไปไหน พรุ่งนี้ให้ฉันเตรียมตัว ต้องไปทำรีวิว”
“เธอคงถูกจ้างมาเป็นเกราะกำบังอะไรสักอย่าง ฉันไม่รู้หรอก” เอมิลีคาดเดาเฉยๆ
“ฮะ...โอยตายล่ะ OMG …my goodness ซวยจริงๆ เลยฉัน” อลิสาไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดว่าเธอมีรายการรีวิวอยู่ในลิสต์เหลืออยู่ 10 งาน
“เธอออกไปกับเขา ต้องระวังตัวนะ”
“เอมิลี...ไม่เคยไปไหนกับเขาเลยรึ”
“ไม่เลย...ฉันต้องระวังตัวเอง ยังไม่อยากตายก่อนเจอฌอง ฉันคิดว่าเขายังอยู่นะ แต่ไม่รู้ไปหลบอยู่ที่ไหน”
ก่อนจบการสนทนาเอมิลีขอให้อลิสาลบข้อความที่คุยกันเพราะฌาคเป็นคนขี้สงสัยเขาติดกล้องไว้ทุกมุมไม่ว่าจะอยู่ที่ใด อเล็กซ์ คนขับรถ และคนที่ส่งอาหารให้เธอน่าจะทำหน้าที่เป็นสายลับให้เขาเหมือนไซคลอปส์อสูรตาเดียวช่วยเทพเจ้าทั้งสามโลก
ในคฤหาสน์หลังนี้มีคนไม่มากนักแต่นายปรินส์รู้ความเป็นไปของทุกคน แล้วคนพวกนั้นที่ปาร์ตี้เปรตนั่นมาจากไหน เธอคาดว่าเขาต้องมีห้องลับในคฤหาสน์หลังนี้อย่างแน่นอน
อลิสาเขียนอีเมล์ไปบอกมงกุฎให้คุยกันที่แช็ตลับซึ่งใช้คุยกับเอมิลี เผื่อคุยกันได้หลายคนในวันข้างหน้า
เธอเขียนคาถาบทที่แม่ส่งมาให้ เอาให้เพื่อนรักไว้ใช้ด้วย
“วิธังเสติ อะเสสะโต ยะถาวายะ ปะฐิตาโข มัตถาเน อิติ อาหะ ภะคะวา”
“เฮ้ย...ที่โน่น ยุโรป ต้องคาถาพระแม่ หรือไม่ก็พระเยซู...” มงกุฎแนะนำกลับมา
“เออ...เอาที่แม่ให้มาก่อน...พ่อเขียนมาบอกว่าจะส่งยันต์อะไรของแม่มาให้”
“อะไร...เชื่อขนาดนั้น”
“แม่บอกว่าพวกทหารไปรบยังเอาไปใช้เลย ศักดิ์สิทธิ์มาก...”
“เออ...ขอให้ปลอดภัยนะ สวดไป...ก่อนนอนทุกคืน... bye and good luck โชคดีว่ะเพื่อน” มงกุฎหวั่นใจไม่น้อยต่อโชคชะตาของเพื่อนสาว ได้แต่หวังว่าเธอจะปลอดภัย
------------
ช่วงหัวค่ำวันรุ่งขึ้นอเล็กซ์เดินมาเคาะประตูตามนัดหมายที่นายปรินส์สั่งเธอไว้ระหว่างกินข้าวด้วยกันตอนมื้อเที่ยง
“อเล็กซ์...ฉันเจ็บท้องน่ะ”
“เอ้า...ปรินส์รู้ไหมนี่”
“จะรู้ได้ยังไง...ฉันอยู่แต่ในห้อง” เธอส่ายหัว
“ลงไปพบเขา...ปรินส์รออยู่ที่ห้องโถง”
เธอเดินตามอเล็กซ์ลงบันไดไปเห็นเขายืนอยู่ตรงโถงรอเธออยู่ เขายกนาฬิกาข้อมือดูเวลา อเล็กซ์เดินไปหยุดอยู่ข้างๆ พูดเสียงเบากับเขา นายปรินส์พยักหน้ารับรู้ สั่งให้เขาไปทำอะไรบางอย่าง แล้วกลับมาพร้อมยาเม็ดอยู่ในมือและน้ำหนึ่งแก้ว
“โห...เตรียมการให้ดีมาก ขอบใจนะ” เธอรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแต่แกล้งพูดดีด้วย ขนาดวางแผนทำเป็นป่วยหลอก...ดันรู้อีกนี่
“อย่า malingering ...ฉันไม่ตลกด้วยนะ” เขาจ้องตาเธออย่างเอาเรื่อง
“What?! ฉันไม่เข้าใจที่นายพูด” เธอไม่รู้คำนั้น แต่คาดเดาว่า เขาคงรู้นั่นล่ะ
“กินยาซะ...แล้วตามฉันมา” อลิสารู้เลยว่า เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกตนเองแบบนี้ตั้งแต่เขาเริ่มสงสัยเธอ และเริ่มไม่สุภาพขึ้นทุกวัน
คนเรานิสัยหรือพฤติกรรมมันปรับเปลี่ยนกันยาก คนร้ายๆ ยังไงมันก็ร้ายอยู่วันยัง
ค่ำ จะให้กลับมาเป็นคนดีคงไม่ใช่แบบในนิยาย
“ลิซ่า...กินยาซะแล้วไปขึ้นรถ” เธอรับยาและน้ำมาดื่มจนหมด กินยาอะไรไม่รู้ เธอนึกถ้าตายเดี๋ยวคงรู้
เธอนั่งรถคู่กับนายปรินส์ด้านหลัง เขาเงียบเฉยเมย รูปหน้าด้านข้างโหนกแก้มนูนปูดสูงขบกรามเกร็งเหมือนมีความในใจอะไรบางอย่าง เขานั่งไขว่ห้างหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างมองวิวแม่น้ำดานูบที่วันนี้ไหลเอื่อยๆ น้ำกระเพื่อมพลิ้วไปตามแรงของเรือที่ล่องไปตามลำน้ำ อากาศข้างนอกขมุกขมัวหนาวเย็นแต่หิมะไม่ตกอุณหภูมิสูงกว่าเมื่อวาน เขาคงคิดว่าวันนี้น่าจะดีกว่าถ้าลงไปเดินข้างนอก
“ลิซ่า...เราจะไปชอปปิ้งที่ห้าง วันนี้เป็น premium sale ของ Arena Mall” เขาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ...
“Yes, sir…เจ้าค่ะ” เธอยังลงท้ายเป็นคำไทยเหมือนทุกครั้ง จนเขารู้สึกเคยชินต่อคำนี้ ทำให้เขายิ้มที่มุมปาก อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นบ้าง
“หายปวดท้องรึยัง”
“หายแล้ว สงสัยฉันจะ on my period… มีวันนั้นของเดือน” เธอน่าจะใช้คำถูกต้อง เห็นเขาอมยิ้ม
“ไม่ต้องบอกก็ได้ ฉันรู้แล้วตั้งแต่...” เขาหยุดไม่พูดต่อ คงจะมี good sixth sense เซนส์ดีเรื่องพวกนี้ของผู้หญิง ให้ยากินถูกต้องแน่นอน เธอแค่รู้สึกปวดท้องน้อยเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา
อลิสานิ่งไม่พูดอะไรต่อ พอรถคลานเข้าไปจอดตรงหน้าห้างเพื่อให้ทุกคนเดินลงไป อเล็กซ์รีบทำหน้าที่เหมือนหุ่นยนต์ตั้งเวลา เขากระโดดลงไปเปิดประตูด้านนายปรินส์และคนขับรถออกมาเปิดประตูด้านอลิสา ทั้งสองคนรู้หน้าที่อย่างดี อเล็กซ์รออลิสาออกมาสมทบแล้วจึงรีบเดินตามหลังไปราวกับเป็นบอดี้การ์ด
ปรินส์มุ่งหน้าตรงไปชั้นที่เป็น outlet ขายนาฬิกา อลิสามองไปที่ชื่อของร้าน นึกในใจว่าต้องแพง แต่เธอไม่รู้จักแบรนด์นี้
“Vacheron Constantin Ladies…??? รู้จักไหม” เขาหันมาถามเธอ
“No…sir ไม่เลยเจ้าค่ะ” เธอตอบภาษาไทยแหย่ไปตอนท้าย
“เอามือเธอยื่นไปลอง” เขาจับข้อมือของสาวน้อยที่มาด้วยส่งให้เจ้าหน้าที่ของร้านเอานาฬิการุ่นนี้มาสวมให้
“โห...สวยมากเลย นายปรินส์จะซื้อให้ฉันเหรอ” เธอทำตาโตตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนเขาจะตอบ...
“No!…but for Emily ไม่ใช่เธอ แต่เป็นเอมิลี” เธอรู้สึกหง่าว...ผิดหวังไปในบัดดล
“อ้าว...ยืมมือฉันนี่นะ”
“...Yes…I want to surprise her…ฉันอยากเซอร์ไพรส์เธอ ใช่เลย...ข้อมือเธอเท่ากับเอมิลีเป๊ะ...exactly same size” คำตอบของเขาทำเธอใจสั่น นี่ขนาดรูปร่างสัดส่วนของสาวคนนั้นยังรู้ว่าเท่ากับเธอ อะไรมันจะเนี้ยบขนาดนี้ เธอเริ่มหวั่นใจแล้วว่านายคนนี้น่ากลัวที่สุด
นาฬิกาที่มีเครื่องหมายกางเขนมอลตา อลิสาเคยรู้เรื่องราวพวกนี้คร่าวๆ จากที่เคยอ่านสงครามครูเสด นี่ต้องเป็นเครื่องหมายอะไรสักอย่างของนายปรินส์ และมันอาจเกี่ยวพันกับปาร์ตี้วันนั้นด้วย
ผู้จัดการร้านออกมาบอกว่าเรือนนี้สำหรับไว้ให้ลูกค้าลองซึ่งมีอยู่เรือนเดียว หากจะซื้อต้องไปที่ร้านซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวห้าง เดินออกไปประมาณหนึ่งช่วงตัวตึก เขา
ได้มอบหมายให้รองผู้จัดการเป็นคนนำไป
“ลิซ่า...เราเดินออกไปชมวิว ดานูบ กลางคืน...very romantic river” เขาเกริ่นเฉยๆ
คงอยากให้เธอเดินไปเป็นเพื่อน
“Yes, sir…” อลิสาตอบรับเบาๆ เธอคงได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองริมฝั่งแม่น้ำ
“ฝั่งนี้คือเมืองเปสต์ ตรงข้ามคือเมืองบูดา” เขาเล่าขณะเดินออกมาไม่นาน
อเล็กซ์เดินตามหลังกับรองผู้จัดการร้าน ชายหนุ่มสวมหมวกปีกและสวมโค้ตตัวยาว เขาตัวใหญ่มากสูงพอๆ กับนายปรินส์ แต่รูปร่างหนากว่า
Bang…Bang…Bang ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสามนัด ทั้งกลุ่มหลบกันคนละทิศคนละทาง รองผู้จัดการร้านตัวหนาฉุดร่างบอบบางของหญิงสาวให้วิ่งหนีขณะที่เธอนั่งหลบมุดหัวลงต่ำเกือบถึงพื้น อเล็กซ์รีบมาดึงตัวเธอวิ่งออกไปพร้อมชักปืนออกมาอย่างระแวดระวัง เขาเหวี่ยงตัวเธอให้กระโจนลงไปข้างทางเดินและดึงเธอเข้าไปหลบยังร้านที่ผลักเข้าไปประตูอัตโนมัติก็พลันเปิดออกพอดี นายปรินส์และรองผู้จัดการร้านอยู่ข้างในแล้ว เป็นร้านนาฬิกาแบรนด์ที่เขากำลังจะมาให้เธอลอง
“ลิซ่า...มาลอง Come on… Be quick we don’t have much time!!! เร็วเรามีเวลาไม่มาก” นายปรินส์สั่งเธอให้ขึ้นตามไปยังห้องรับรองวีไอพีชั้นบน และปล่อยเธอไว้กับรองผู้จัดการร้านเพื่อลองนาฬิกา ส่วนเขาและอเล็กซ์ขึ้นไปอีกชั้น...
หลังจากลองนาฬิกาและเลือกขนาดกันเรียบร้อยแล้ว ไม่นานนายปรินส์ลงมาสั่งให้เอารุ่นนี้ไปทำอะไรสักอย่างเพิ่มเติม และบอกให้ส่งบิลไปเก็บเงินน่าจะเป็นที่ใดที่หนึ่งเธอฟังไม่ค่อยเข้าใจ แล้วเขาพูดขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ลิซ่า...เบนถูกยิง...” เขาหมายถึงคนขับรถ
“Oh…my god! ตายแล้ว” เธออุทานเสียงดัง หน้าซีดผวา ใจสั่นยังไม่หายจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ
“เบนถูกเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลแล้ว”
“เราจะกลับกันยังไง...”
“รถอยู่ที่ลานจอดในห้าง” น้ำเสียงเรียบเฉยปกติมาก
เขาหันไปพูดกับอเล็กซ์สั่งอะไรบางอย่างด้วยภาษาที่เธอไม่รู้เรื่อง ทันใดเขาหันมาสั่งเธอ
“อย่าออกไปไหน...I’ll be right back เดี๋ยวกลับมา” เขารีบออกไปกับอเล็กซ์ทางประตูลับของร้าน
อลิสาพึมพำกับตนเอง
“หรือว่า...นี่คือโอกาส”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 77
แสดงความคิดเห็น