รักเหนือฝัน มีฉันต้องมีเธอ 5 : สุดทรมานใจ
“หลับพักสักหน่อยน่าจะดีนะคะ ตื่นมาสมองอาจโล่งขึ้น” กระแสจิตของวิญญาณสาวคุยกับชวณัดฐ์ในใจเหมือนเคย
“ผมไม่อยากนอน” กระแสจิตของชายหนุ่มบอกอย่างดื้อรั้น ตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นเวลาที่อึดอัดที่สุด เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรตามใจตนเองได้เหมือนทุกครั้ง ด้วยมีดวงจิตของหญิงสาวโลกที่สามที่มาขอติดตามควบคุมร่างกายอยู่
ทางฝ่ายวิญญาณสาว อยู่ใกล้เขาไม่รู้ทำไมราวกับได้ชิดคนคุ้นเคย นึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมาก็จะคอยขัดความต้องการของชายหนุ่มอยู่ตลอด อันที่จริงสิ่งที่เขาต้องการจะทำมันก็ไม่ใช่เรื่องสมควรด้วย เธอจึงไม่ยอมฟังเขา
“แต่ฉันว่าคุณควรพักผ่อนค่ะ” พูดแค่นั้นเธอก็สั่งร่างของศัลยแพทย์หนุ่มหยิบยาแก้แพ้ในถุงพยาบาลออกมาใส่ปาก แล้วค่อยเดินไปกดน้ำยกดื่มตามหลัง
“คุณแกล้งผมนี่!” กระแสจิตชวณัดฐ์โวยวาย
“อมอะไรขม ๆ ไว้ในปากซะบ้าง สติอาจกลับมาไวกว่าที่คิดนะคะ” วิญญาณสาวโต้ตอบอย่างสนุกสนาน อีกฝ่ายได้แต่ขัดเคืองในใจ ทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากในตอนนี้ จากนั้นเธอก็พาร่างแข็งแรงเดินไปเปิดแอร์แล้วตรงไปที่เตียง
“กว่ายาจะออกฤทธิ์ ร่างกายคุณจะง่วงก็อีกหลายนาที ฉันให้คุณทำอะไรดีนะ จะได้เลิกฟุ้งซ่าน” เธอพูดกับตนเองพลางครุ่นคิด
“อ้อ เดินไปหยิบกางเกงในตัวเองมาดมดีไหมคะ”
“เฮ้ย!” เขาถึงกับสะดุ้ง เมื่อหญิงสาวในโลกที่สามเสนออย่างนั้น
“คิก ๆ ๆ ใครจะบ้าให้คุณทำจริงกันเล่า” หญิงสาวในโลกที่สามหัวเราะชอบใจ
“หืม คุณนี่มัน…” เขาว่าอย่างมันเขี้ยว
“คิก ๆ ๆ งั้นฉันถามคุณดีกว่าว่าอยากทำอะไรคะ” เธอทำเป็นใจดีถาม
แต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่รู้สึกอยากทำอะไรจริง ๆ คิดถึงตรงนี้ความเศร้าก็ถาโถมใจขึ้นมาอีกครั้ง วิญญาณสาวที่อยู่ในร่างเขารับรู้ถึงความรู้สึกด้านลบของเจ้าของร่างได้ก็ปลอบ
“ตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวนะคะคุณณัดฐ์ คุณยังมีฉันอีกคน ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเองนะ” กระแสจิตบอกอย่างอ่อนโยน พลางมือข้างหนึ่งของชายหนุ่มก็ขยับมาลูบมืออีกข้างอย่างแผ่วเบา
จังหวะนั้นเขารู้สึกเหมือนสัมผัสความอบอุ่นจากใจอีกดวงได้ ทำให้ความเปลี่ยวเหงา ทุกข์ตรมที่ค้างในใจมานานของเขามลายลงชั่วขณะ
“นี่คุณณัดฐ์ ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง แม่ฉันเป็นชาวเขา พบรักกับพ่อฉันที่เป็นคนเมือง จนวันหนึ่งพ่อก็ลาแม่กลับบ้านเพื่อจะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ แต่แล้วพ่อก็ไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกเลย ก่อนพ่อจะกลับลงเขาไปพวกท่านก็ได้เสียกัน เพราะแม่รักพ่อมาก และคิดว่าพ่อคงจะไปพาผู้ใหญ่มาสู่ขอในอีกไม่นานจึงยินยอม แล้วสองเดือนต่อจากนั้นแม่ก็ท้อง แม่ดีใจมาก และคิดว่าพ่อคงจะดีใจเหมือนกัน ทุกวันแม่ยังรอแล้วรอเล่า จนกระทั่งฉันคลอดท่านก็เดินทางออกจากหมู่บ้านมาตามหาพ่อ แต่พ่อไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้สามารถตามหาได้ ถึงอย่างนั้นแม่ก็ยังมีความหวัง ขอพรพระธาตุหลวงให้ได้เจอพ่อ ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตายไปแล้วก็ตาม” เล่าถึงตรงนี้วิญญาณสาวก็หยุดเพื่อดูอากัปกิริยาของชายหนุ่ม แต่เห็นเขายังนิ่ง
“คุณณัดฐ์ ยังฟังฉันอยู่หรือเปล่าคะ” เธอถามในใจ
เขาก็ยังเฉย ราวกับว่าสมองตกอยู่ในอีกห้วงภวังค์หนึ่ง ที่ไม่ใช่โลกใบเดียวกันกับเธอเสียแล้ว เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงฟาดเข้าที่แขนข้างหนึ่งของเขาอย่างจังเพื่อเรียกสติอีกฝ่าย
“ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหมคะเนี่ย” เสียงสูงถามออกไปด้วยความน้อยใจ
“ผมง่วงแล้วครับ” จู่ ๆ เขาก็บอกเสียอย่างนั้น
“งั้นก็นอนเถอะค่ะ ฉันไม่กวนแล้วล่ะ” หญิงสาวในโลกที่สามบอกอย่างเข้าใจ ก่อนจะขยับพรวดออกมาจากร่างกำยำแข็งแรงราวกับนักกีฬาของชายหนุ่ม เพื่อปล่อยให้เขาเอนตัวนอนพักสบาย ๆ
เห็นอย่างนั้นชวณัดฐ์ก็เอนลงนอนแล้วปิดเปลือกตานิ่ง ไม่ได้สนใจว่าวิญญาณสาวจะยังอยู่ด้วยหรือไม่ จนครู่หนึ่ง ขณะสติยังไม่ขาดห้วง หัวใจเขาก็อุ่นซ่านขึ้นอย่างประหลาด ราวกับมีใครส่งกระแสความปรารถนาดีมาให้ พลังเมตตานั้นทำให้สมองโปร่งโล่ง ผ่อนคลายจากความอับทึบในใจ โหยหา เรียกร้องความอบอุ่นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว จากนั้นเขาก็เอาใจเกาะอยู่แต่กระแสดังกล่าวกระทั่งผล็อยหลับไป
ตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบห้าโมงเย็น ศัลยแพทย์หนุ่มตื่นมาพร้อมสมองที่เบาสบาย พลางนึกทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเผลอหลับไป พอนึกขึ้นได้สายตาก็กวาดหาบางคนแต่ก็ไม่พบใครอยู่กับเขา ในใจเกิดความรู้สึกอ้างว้างขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะเจ็บแปลบขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหัวดันกลับไปนึกถึงเรื่องราวของตนเองกับอดีตแฟนสาวที่จบลงไม่สวยนัก
เขาไม่อยากอยู่ในสภาพนี้เลย สภาพที่เหมือนถูกทิ้งไว้ลำพัง สภาพที่ไร้คนเหลียวแล มันทุกข์ทน มันทรมานนัก แต่เป็นความรู้สึกที่ต้องทนเก็บไว้คนเดียวตลอดยี่สิบกว่าปี ตอนนี้เขายังทนแบกรับไว้ได้ไหมเมื่อใจต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ ซ้ำซาก พอได้หรือยังที่เขาต้องกอดทุกข์นี้ไว้ข้างกาย เมื่อไรมันจะจบสิ้น เมื่อไรเขาจะหลุดพ้น
ในหัวของชายหนุ่มวนแต่คิดเรื่องเดิม ๆ ทั้งเรื่องที่เพิ่งเกิดไปไม่นาน และที่เคยประสบจนคิดว่าชาชินตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งตอกย้ำให้ทรมานขึ้นทุกที เขาไม่เคยลืมทุกอย่าง ทุกเรื่องราวยังเป็นตราบาปสร้างแผลเหวอะหวะชอกช้ำให้ใจตลอดมา
“ตื่นแล้วหรือคะ” เสียงใสของใครคนหนึ่งทักขึ้น ทว่าชายหนุ่มยังไม่มีสติออกจากภวังค์ความทรงจำป่าเถื่อนมารับรู้ปัจจุบันได้
หญิงสาวในโลกที่สามรู้อย่างนั้นจึงเคลื่อนกายเข้าไปหา ก่อนจะยืนส่งกระแสเมตตาให้ด้วยใจอยากช่วยเหลือ จนกระแสอบอุ่นทะลวงกำแพงความโศกเข้าไปได้นั่นแหละ เขาจึงค่อยมีสติทีละน้อย
“ไปอาบน้ำหรือล้างหน้าสักหน่อยก่อนดีไหมคะ” หญิงสาวยังไม่หยุดแผ่เมตตาให้ ส่วนชวณัดฐ์ที่ใจสงบจากกระแสเมตตาของเธอบ้างแล้ว ได้ยินอย่างนั้นก็ทำตามแต่โดยดี
“คุณณัดฐ์จะออกไปข้างนอกหรือคะ” เธอเห็นชวณัดฐ์ที่เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีสุภาพกับกางเกงยีนแบรนด์ดังตัวใหม่ก็ถามขึ้น
“ครับ คุณไม่ต้องตามผมมาล่ะ” เขาบอกแค่นั้นแล้วก็หยิบกุญแจพร้อมสมาร์ทโฟน ปิดทุกอย่างก้าวออกประตูไป
ศัลยแพทย์หนุ่มออกมาขับรถเล่นเอื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไปรอบเมืองอย่างไม่มีจุดหมาย หลายครั้งที่เหม่อลอยจนรถเกือบชน แต่ก็คล้ายมีอะไรบางอย่างช่วยเบี่ยงทิศทางรถไว้ได้ทัน หรือไม่ก็กระตุ้นสติเขาให้รู้สึกตัวก่อนจะพุ่งใส่คนใกล้ ๆ ถนนเข้า ใจจริงไม่เคยคิดอยากทำร้ายหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ครั้งนี้ยากจะคุมสติเต็มที ดังนั้นเขาจึงจอดรถทิ้งไว้ริมถนนหน้าร้านขายรองเท้าร้านหนึ่ง แล้วเดินเท้าเรื่อย ๆ ไปที่สะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำ
ลมหนาวพัดถูกผิวกาย หากไม่ได้ทำให้ใจสดชื่นขึ้นมา กลับสร้างความยะเยือกให้เหงาทรมานจับขั้วหัวใจเสียมากกว่า ดวงตางามทรงเสน่ห์บัดนี้เศร้าหมอง ทอดมองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย ก่อนสติจะหลุดลอยหวนกลับสู่ภาพความทุกข์ทรมานและเหตุการณ์ที่สะเทือนใจในอดีตอีกครั้ง
ภาพตอนเขาอยู่กับอดีตแฟนสาวผุดขึ้นมา รอยยิ้ม ความสบายใจ ความสุขยามใกล้เธอมันงดงาม งดงามจนไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะกลับมาอีกไหม หรือจะหาได้จากใครอีกหรือไม่ เพราะทั้งชีวิตไม่เคยได้สัมผัสอะไรแบบนั้นจากใครเลย เขาเองที่ทำลายมันสิ้น ทำลายความสุขของตนด้วยมือของตนเอง คิดแล้วก็โมโห คิดแล้วก็ได้แต่เสียใจ คงไม่มีอีกแล้วใช่ไหมผู้หญิงที่เข้ามาทำโลกหม่นมัวให้น่าอยู่ ผู้หญิงที่ทำให้รู้ว่าชีวิตนี้มีเพื่อใคร เขาปล่อยเธอหลุดลอยไปแล้ว และอาจไม่มีทางได้คืน
ต่อจากภาพวันวานที่มีร่วมกันกับหญิงสาวคนรักก็เป็นภาพอดีตที่ขมขื่น ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งควรเป็นคนที่จะรักเขามากที่สุด เป็นคนที่ควรสามารถไว้ใจได้มากที่สุด และปกป้องจากอันตรายทั้งปวง ทำลายหัวใจเขายับเยินอย่างไม่น่าให้อภัย แม่ผู้ให้ชีวิตแต่กลับทำลายชีวิตทั้งที่เขายังมีลมหายใจ
ละครชีวิตฉากเก่าของใครคนหนึ่งปรากฏกลางสมองวิญญาณสาวผู้ติดตามชวณัดฐ์ เธอมองเห็นเพราะอ่านจากภาพในหัวของชายหนุ่มเวลานี้ สิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก ทว่ามีท่านผู้หนึ่งแนะให้ลองดู และไม่คิดว่าจะได้เห็นเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างนี้ในเวลารวดเร็วนัก แม้เธอเองไม่ใช่คนเล่นละครเรื่องนั้นก็อดรู้สึกตามคนถูกกระทำไม่ได้ มันป่าเถื่อนและเลวร้ายสำหรับเด็กชายวัยไม่กี่ขวบสิ้นดี
ปี้ม!
เสียงหนึ่งดังผ่าภวังค์หดหู่ขึ้น ดึงเอาชวณัดฐ์กลับมาสู่โลกปัจจุบันทันที เขาหันไปตามเสียงนั้น ทันเห็นหลังมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งฉวัดเฉวียนตัดหน้าลัดเลาะรถคันใหญ่ไป
หญิงสาวในโลกที่สามน้ำตาหล่นเผาะ ภาพก่อนหน้านี้ยังติดตา นี่หรือคือสิ่งที่คนเป็นผู้ให้กำเนิดทำกับลูกในไส้กัน หันกลับไปยังชายหนุ่มเจ้าของเรื่องราว บัดนี้เห็นแต่หลังไว ๆ เดินห่างออกไปแล้ว
“มาคนเดียวหรือคะ”
ขณะที่ชวณัดฐ์นั่งดื่มไวน์คนเดียวอยู่ในผับ สก๊อยคนหนึ่งก็ส่งยิ้มยั่วยวนเข้ามานั่งใกล้ ๆ
“ดูท่าจะเหงานะคะ ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนดีหรือเปล่าเอ่ย”
ด้วยความที่เพิ่งเสียใจจากผู้หญิงคนหนึ่งมา เขาก็นึกอยากประชดตนเองอีกครั้ง จึงส่งสายตาพราวระยับหวานเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์พร้อมกับยิ้มกระชากใจที่มักใช้ล่อให้ใครต่อใครติดกับแก่สาวพราวสวาทตรงหน้า
“ก็ดีครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ แต่ไม่ชัดคำนักเพราะอาการเมา
ฝ่ายสก๊อยเห็นเขาตอบรับอย่างนั้นก็ได้ใจ ขยับเปลี่ยนไปนั่งเก้าอี้ด้านหลังร่างแข็งแรงแล้วถือวิสาสะกอดแขนพลางซบหน้ากับไหล่กว้างอย่างออดอ้อน
“คืนนี้ฉันว่างค่ะ ถ้าไม่รังเกียจไปต่อที่ห้องฉันหรือห้องคุณก็ได้นะคะ คุณจะได้ไม่เหงา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเชื้อเชิญ
ได้ฟังแล้วในใจชวณัดฐ์ก็คึกคักขึ้นมาทันที สายตาเหลือบจ้องสบสาวแนบกายอย่างพอใจ
“ครับ” เขาตอบตกลง อย่างน้อยคืนนี้ก็มีสาวให้แก้เซ็ง
คิดได้ไม่ทันไรขวดไวน์ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ก็ล้มใส่ไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนชายหนุ่มจะรู้สึกเหมือนอะไรพุ่งเข้าร่างฉับพลัน จากนั้นร่างสูงก็ไม่สามารถบังคับด้วยการสั่งการของเขาเองได้อีก
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” ทันใดร่างแข็งแรงก็ลุกพรวดขึ้น ถามจ่ายเงินกับบาร์เทนเดอร์แล้วก็แกะแขนสาวสวยออกอย่างสุภาพ
“จะกลับแล้วหรือคะ เดี๋ยวฉันไปด้วยนะ ตามที่เราคุยกันไว้ตะกี้ไง” สาวในชุดวาบหวิวยังตื๊อพลางขยับเข้ามาเกาะแขนเขาไว้
“ไม่ดีกว่าครับ ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มแกะมือเธอออกอีกครั้ง ทว่าฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมทิ้งเหยื่อง่าย ๆ
“แต่ฉันเต็มใจดูแลคุณนะคะ” เธอหยอดเสียงหวาน
“ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลตัวเองได้” เขาแกะมือเรียวที่จับมืออีกข้างของเขาไว้ออกอีกครั้ง แล้วดันตัวเธอออกอย่างสุภาพ
“ไม่ต้องตามผมมานะครับ ถ้าคุณยังไม่อยากตาย” ว่าพร้อมส่งสายตาและรังสีอำมหิตให้อีกฝ่าย จนเธอผงะไม่กล้าเข้ามาใกล้อีก เขาจึงเดินจากมา
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 703
แสดงความคิดเห็น