ตอนที่ 650 ซัลลิแวน
ตอนที่ 650 ซัลลิแวน
หอกน้ำแข็งทะลวงกระดูก!
เฉินตงใช้พลังของกฎน้ำแข็งในการเรียกหอกน้ำแข็งขนาดเล็กขึ้นมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน พร้อมกับจู่โจมเข้าใส่ชายชราร่างอ้วนโดยตรง
ชายชราร่างอ้วนคนนี้มีชื่อว่า ‘ซัลลิแวน’ ซึ่งเป็นนักฆ่าที่มีระดับพลังสูงถึงราชากฎขั้นที่ 6 ดังนั้นถ้าหากว่าเฉินตงผู้เป็นศิษย์ต้องการที่จะสังหารอาจารย์ของตัวเอง เขาก็จำเป็นจะต้องทุ่มเทอย่างสุดกำลัง
ชิ้ง!
ในเวลาเดียวกันมันก็มีรอยแยกมิติ 4 สายปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า โดยรอยแยกมิติเหล่านี้มีความยาวมากกว่า 10 กิโลเมตร และตรงกลางของรอยแยกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกเสียจากร่างของชายชราที่ถูกเกี่ยวพันโดยร่างของเฉินตง
ตูม!
พลังน้ำแข็งของชายหนุ่มถูกทำลายจนแตกสลายออกไปอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เขาได้จ้องมองไปยังอดีตลูกศิษย์ของตัวเองด้วยความโกรธ เพราะถ้าหากว่าเฉินตงไม่ได้ลอบจู่โจมจากด้านหลัง เขาก็คงจะไม่ตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้
“ฉันจะทำให้แกทรมานมากที่สุด! นี่คือสิ่งที่แกต้องชดใช้ข้อหามาทรยศฉัน!!” ซัลลิแวนกล่าวพร้อมกับเรียกกะโหลกคริสตัลสีดำขึ้นมาไว้ภายในมือ
พริบตาต่อมากะโหลกคริสตัลสีดำก็เริ่มขยายขนาดขึ้นจนปกคลุมพื้นที่ทั่วทั้งท้องฟ้าหลายร้อยตารางเมตร โดยภายในเบ้าตาของกะโหลกสีดำนี้ได้แผ่จิตสังหารออกมาอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นกะโหลกขนาดใหญ่ก็อ้าปากออกและพุ่งตัวออกไปโดยหวังว่าจะกัดร่างของเฉินตงเข้ามาภายในปากของมัน
ช่วงเวลานั้นแขนของเฉินตงก็ปล่อยไอเย็นออกมาเป็นจำนวนมาก จนทำให้อุณหภูมิในพื้นที่บริเวณนั้นลดลงต่ำจนเกือบจะถึง 0 องศาเซลเซียส
ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มีเสาน้ำแข็งถูกเรียกออกมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้กะโหลกสีดำตรงหน้าเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ ขณะที่ภายในแววตาของเฉินตงก็กำลังเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
กะโหลกสีดำที่ถูกปล่อยออกมานี้คืออาวุธสังหารที่มีชื่อว่ากระโหลกทะลวงไส้ ที่ไม่ว่าใครที่ถูกมันกัดเข้าไปร่าง ๆ นั้นก็จะถูกบดอัดจนเหลือขนาดเพียงแค่ลูกอม
เฉินตงเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ที่มีความสูงมากกว่า 2 เมตร ดังนั้นถ้าหากว่าเขาถูกบดร่างจนเหลือขนาดเพียงแค่ลูกอมจริง ๆ มันก็คงไม่จำเป็นจะต้องบอกว่าเขาจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นอาวุธสังหารชิ้นนี้ยังเป็นไพ่ใบสำคัญของซัลลิแวน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องพิสูจน์เป็นอย่างดีว่าชายชราคนนี้รู้สึกโกรธแค้นที่โดยทรยศมากแค่ไหน
การจู่โจมอย่างฉับพลันสามารถหยุดยั้งการส่งสัญญาณของซัลลิแวนได้ในที่สุด ซึ่งเซี่ยเฟยก็ได้ใช้โอกาสในครั้งนี้จู่โจมเข้าใส่ชายชราอย่างรวดเร็ว
ปัง ๆ ๆ!
วิญญาณหวนที่แตกออกเป็นพีระมิดขนาดเล็กเป็นจำนวนมากพุ่งเข้าหาชายชราร่างอ้วนราวกับฝนอุกกาบาต
ซัลลิแวนที่กำลังใช้มือซ้ายจัดการกับเฉินตงอยู่ก็ตวัดมือขวาของเขาออกไปสร้างกำแพงมิติเพื่อปิดกั้นการโจมตีจากเซี่ยเฟย
เป้ง ๆ ๆ ๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันก็เป็นไปตามการคาดเดาของซัลลิแวน เพราะวิญญาณหวนยังไม่ทรงพลังมากพอที่จะเจาะทะลุการป้องกันของกำแพงมิติเข้ามาได้ อย่างไรก็ตามพีระมิดสีดำขนาดเล็กเหล่านี้กลับได้ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมารบกวน
“นี่มันอาวุธจากดาร์คเมทัล!” ซัลลิแวนอุทานออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้พบว่าชุดต่อสู้กับเข็มทิศมิติภายในอ้อมแขนของเขากำลังร้อนขึ้น คล้ายกับว่าวงจรภายในอุปกรณ์ทุกชิ้นกำลังถูกเผาทำลายจากทางด้านใน
เมื่อมองจากภายนอกอาวุธที่ทำจากดาร์คเมทัลก็ดูไม่ต่างไปจากอาวุธสีดำตามปกติมากนัก แต่เมื่อมันได้แสดงพลังของดาร์คเมทัลออกมา มันก็ถึงกับทำให้แม้แต่ราชากฎขั้นที่ 6 ก็ยังกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
วิญญาณหวนไม่ใช่อาวุธที่มีเอาไว้สำหรับการจู่โจมโดยตรง แต่มันเป็นอาวุธที่เหมาะเอาไว้สำหรับการก่อกวนมากกว่า ท้ายที่สุดดาร์คเมทัลก็มีความโดดเด่นในการสร้างพายุคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นการจู่โจมด้วยอาวุธชนิดนี้จึงสามารถที่จะทำลายอุปกรณ์ต่าง ๆ บนร่างของศัตรูได้
ไอเย็นที่ถูกปล่อยออกมาจากแขนของเฉินตงเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นมากเรื่อย ๆ ขณะที่ความเร็วของกะโหลกสีดำที่กำลังมุ่งหน้ามาทางเขาก็ค่อย ๆ ช้าลงเช่นเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่สามารถจะหยุดกะโหลกสีดำนี้เอาไว้ได้
เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้ซัลลิแวนขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะในตอนนี้เข็มทิศมิติของเขาถูกทำลายลงไปแล้ว มันจึงทำให้เขาไม่สามารถจะส่งสัญญาณไปยังสหายที่อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ ได้
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถูกอดีตลูกศิษย์กับศัตรูลงมือจู่โจมพร้อม ๆ กัน ทำให้สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก
ในที่สุดซัลลิแวนก็ตัดสินใจยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปบนอากาศ เพื่อเปิดใช้กฎแห่งมิติเคลื่อนย้ายออกไปจากสนามรบแห่งนี้
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นถึงราชากฎระดับสูงที่สามารถเปิดประตูมิติเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ และถึงแม้ว่าประตูมิติที่เขาเปิดขึ้นมาด้วยพลังของตัวเองจะไม่สามารถเดินทางได้ไกลเหมือนกับเข็มทิศมิติ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เขาเคลื่อนย้ายออกไปจากดาวดวงนี้ได้
เซี่ยเฟยกับเฉินตงต่างก็ล้วนแล้วแต่เคยถูกตั้งฉายาว่าเป็นคนบ้า และพวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีนิสัยเหมือนกันที่ไม่คิดจะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ
อย่างไรก็ตามในคราวนี้เซี่ยเฟยกลับไม่ได้จู่โจมเข้าใส่ซัลลิแวนที่กำลังจะหลบหนี แต่เลือกที่จะพุ่งตัวเข้าใส่กะโหลกสีดำเพื่อพยายามช่วยเหลือเฉินตงก่อน
“คิดจะทำลายกระโหลกทะลวงไส้ของฉันงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!” ซัลลิแวนส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา แต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในประตูมิติ เขากลับพบว่าเขาไม่สามารถที่จะก้าวเท้าออกไปด้านหน้าได้
เมื่อชายชราได้สังเกตเท้าของเขาอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่ามันมีใบหญ้าสีฟ้าขนาดใหญ่กำลังพันรอบขาขวาของเขาเอาไว้ราวกับงูยักษ์
แม้ว่าจะมีประตูมิติอยู่ตรงหน้าแต่ชายชรากลับไม่สามารถที่จะหนีเข้าไปในประตูมิติได้ นั่นก็เพราะว่าในระหว่างที่เฉินตงพยายามถ่วงเวลาเอาไว้ เขาก็ได้ตกอยู่ในระยะการจู่โจมของหงส์ครามแล้ว
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
ชายหนุ่มผลักฝ่ามือของเขาออกไปตบเข้าใส่ใบหน้าทางด้านซ้ายของกะโหลกสีดำ
ในเวลาเดียวกันกับที่กฎแห่งความโกลาหลกำลังจู่โจมเข้าใส่กะโหลกสีดำนั้น ซัลลิแวนก็พยายามใช้กฎมิติในการจู่โจมเข้าใส่หงส์ครามที่พันธนาการขาของเขาเอาไว้เช่นเดียวกัน
ผัวะ!
พื้นที่ทางด้านซ้ายของกะโหลกสีดำถูกเซี่ยเฟยตบทำลายแตกออกเป็นชิ้น ๆ จนทำให้กะโหลกสีดำกระเด็นกระดอนออกไปไกล ก่อนที่มันจะเกิดรอยแตกไปทั่วทั้งกะโหลกอย่างรวดเร็ว และในตอนสุดท้ายกระโหลกขนาดใหญ่ก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ ในที่สุด
อย่างไรก็ตามการจู่โจมของซัลลิแวนกลับไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้กับหงส์ครามมากนัก เพราะเมื่ออาวุธมายาชิ้นนี้ได้เข้าสู่สภาวะต่อสู้ มันก็จะแสดงความพยายามออกมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อหยุดยั้งศัตรูของมันเอาไว้ให้ได้
อัตราการฟื้นฟูของใบหญ้าเร็วกว่าอัตราการจู่โจมของซัลลิแวน ดังนั้นถึงแม้ว่าใบหญ้าบางส่วนจะถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่ตัวใบหญ้าก็ยังคงฟื้นฟูกลับมาอยู่เสมอ
ยิ่งไปกว่าก่อนนั้นยิ่งการจู่โจมของศัตรูแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ หงส์ครามก็ยิ่งทวีความเร็วในการฟื้นฟูกลับมามากขึ้นเท่านั้น
หลังจากรอดพ้นจากภัยพิบัติเฉินตงก็ล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง แต่เขาก็พยายามใช้กฎน้ำแข็งเพื่อสร้างน้ำแข็งขึ้นมาปกปิดบาดแผลฉกรรจ์ทั่วทั้งร่างของเขาเอาไว้ และชี้นิ้วไปยังซัลลิแวนที่ยังคงถูกหงส์ครามพัวพันเป็นสัญญาณบอกเซี่ยเฟยว่า ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็จะต้องกำจัดชายชราคนนี้ลงไปให้ได้
เซี่ยเฟยไม่ได้เข้าไปสังเกตดูอาการเฉินตงใกล้ ๆ เพราะเขารู้ดีว่าชายคนนี้ไม่มีทางตายง่าย ๆ อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดเฉินตงก็เป็นพวกบ้าการต่อสู้มาก จนทำให้เขามักที่จะได้รับบาดเจ็บกลับมาอยู่เสมอ
ซัลลิแวนพยายามใช้กฎมิติจู่โจมเข้าใส่หงส์ครามซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าเขาจะสามารถหลุดรอดไปจากการเหนี่ยวรั้งของวัชพืชชนิดนี้ได้
หมัดพายุคลั่ง!
คลื่นมิติปิดล้อม!
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
เซี่ยเฟยทำการจู่โจมอย่างเต็มกำลังพร้อมกับบินไปด้านหน้าเพื่อจัดการ ก่อนที่ศัตรูคนนี้จะหลบหนีออกไปได้
ทันใดนั้นเม็ดพลังงานภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาก็ระเบิดออกมาในทันที ซึ่งพลังงานที่มันปลดปล่อยออกมานั้นก็มากพอที่จะทำให้เซี่ยเฟยสามารถขยายพลังการจู่โจมของเขาได้มากกว่าปกติถึงหลายเท่า
นี่คือวิธีการเดียวที่จะทำให้เขาสามารถลดช่องว่างระหว่างระดับได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งในช่วงวินาทีที่ลูกบอลพลังงานภายในสมองของเขาแตกออกมานั้น พลังในการจู่โจมของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าการจู่โจมของราชากฎเลย
น่าเสียดายที่พลังแบบนี้สามารถใช้ออกมาได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่าพลังงานทั้งหมดถูกใช้ออกไปแล้วเขาก็จำเป็นจะต้องใช้บลัดบิวเทียสเก็บสะสมพลังงานกลับขึ้นมาใหม่ มันจึงเป็นวิธีการที่ควรจะเอาไว้ใช้ในสถานการณ์ที่วิกฤตจริง ๆ เท่านั้น
การจู่โจมปกคลุมทั่วทั้งร่างของซัลลิแวนในทันที และถึงแม้ว่าหงส์ครามจะถูกทำลายไปจากการจู่โจมครั้งนี้ด้วย แต่มันก็สามารถที่จะฟื้นฟูใบหญ้ากลับคืนมาใหม่ได้
ในทางกลับกันชีวิตของซัลลิแวนมีเพียงแค่ชีวิตเดียว ดังนั้นถ้าหากชีวิตของเขาถูกทำลายลงไปมันก็ไม่มีทางที่เขาจะฟื้นคืนชีวิตกลับมาเลย
ซัลลิแวนยังคงยุ่งอยู่กับการกำจัดหงส์ครามที่รั้งขาของเขาเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ได้เกรงกลัวการจู่โจมของเซี่ยเฟยมากนัก เขาจึงเรียกกำแพงมิติขึ้นมาเพื่อขวางกั้นการจู่โจมอย่างไม่รีบร้อน
เพล้ง!
กำแพงมิติถูกทำลายลงไปในทันที ขณะที่เซี่ยเฟยก็ได้เสือกแทงบลัดบิวเทียสเข้าไปภายในร่างของศัตรู โดยกระบวนการทุกอย่างนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาที่สั้นมาก จนทำให้ชายชราไม่สามารถที่จะตอบสนองต่อการจู่โจมของชายหนุ่มได้
—
“นายโอเคไหม?” เซี่ยเฟยร่อนลงจอดกับพื้นและยื่นมือออกไปช่วยให้เฉินตงลุกยืนขึ้นมา
“ฉันไม่เป็นไร แต่ฉันไม่ได้เจอนายแค่ประมาณ 2 ปีเอง ไม่คิดเลยว่านายจะพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมาจนถึงระดับนี้แล้ว นายรู้ไหมว่าคนที่นายเพิ่งฆ่าไปเขาเป็นใคร?” เฉินตงกล่าวขณะเช็ดเลือดออกจากมุมปาก
“ใคร?”
“เขาเป็นนักฆ่าที่มีชื่อเสียงในดินแดนกฎมากพอสมควรและเขาก็เป็นอาจารย์ของฉันด้วย” เฉินตงกล่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย และการที่ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเซี่ยเฟยแบบนี้ มันก็หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซี่ยเฟยยังคงมีความแน่นแฟ้นมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันได้ครอบครองสมบัติอยู่หลายชิ้น ฉันก็คงจะไม่สามารถฆ่าเขาได้เหมือนกัน ตอนนี้สภาพของฉันก็ไม่ต่างจากนาย นายคิดว่าฉันไม่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในครั้งนี้เลยรึไง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจื่อน ๆ
ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้นเซี่ยเฟยก็หยิบน้ำยาออกมา 2-3 ขวดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเขากับเฉินตง นอกจากนี้เขายังหยิบคริสตัลต้นกำเนิดออกมาเพื่อพยายามฟื้นฟูพลังงานภายในร่างกลับคืนมาด้วย
ร่างกายของเฉินตงแข็งแกร่งมากและอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับในวันนี้ มันก็จะเป็นเพียงแค่รอยแผลเป็นรอยหนึ่งบนชั้นผิวหนังของเขาเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดบนร่างกายของเขาก็มีรอยแผลเป็นอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน และเขาก็ไม่เคยสนใจว่ามันจะมีรอยแผลเป็นเพิ่มขึ้นมาอีกสักแค่ไหน
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้ใช้บลัดบิวเทียสดูดพลังงานจากราชากฎคนนี้เข้าไป ลูกบอลพลังงานภายในสมองส่วนที่ 7 ของเขาก็เริ่มเติบโตกลับขึ้นมาอีกครั้ง และในคราวนี้มันก็ขยายขนาดจนอาจจะระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้
ท้ายที่สุดพลังงานภายในร่างของราชากฎก็มีอยู่เยอะมาก จนทำให้เขาไม่แน่ใจว่าถ้าหากลูกบอลพลังงานสีรุ้งภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาระเบิดออกมา มันจะทำให้เขาตายไปเลยหรือเปล่า
“นายยังพอขยับตัวได้ไหม?” เซี่ยเฟยถาม
“ไม่มีปัญหา ฉันชินกับอาการบาดเจ็บแบบนี้มาตั้งนานแล้ว” เฉินตงกัดฟันพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอฝากนายป้องกันในระหว่างนี้ให้ฉันหน่อย พอดีว่าฉันจะต้องเลื่อนระดับพลังตอนนี้เลย”
“ตอนนี้เนี่ยนะ?!” เฉินตงอุทานออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ทั้งตัวเขากับเซี่ยเฟยต่างก็ได้รับบาดเจ็บเหมือน ๆ กัน แต่เซี่ยเฟยกลับต้องการที่จะเลื่อนระดับพลังทันทีที่การต่อสู้ครั้งใหญ่ได้สิ้นสุดลง
“ใช่ ตอนนี้เนี่ยแหละ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ
***************
ไม่มีเวลาพักเลยจริง ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 198
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น