ตอนที่ 613 สิ้นสุดการต่อสู้
ตอนที่ 613 สิ้นสุดการต่อสู้
เซี่ยเฟยกับเชพเพิร์ดเคลื่อนไหวออกตัวพร้อม ๆ กันโดยเล็งไปที่กล่องสีทองบนท้องฟ้า
ด้วยข้อได้เปรียบทางด้านความเร็ว เซี่ยเฟยจึงออกตัวนำหน้าไปก่อนในช่วงแรก
พลังสายความเร็วถือได้ว่าเป็นพลังที่ฝึกฝนได้ยากมากที่สุดในจักรวาล แล้วมันก็เป็นพลังที่พัฒนาได้อย่างยากลำบากแม้แต่ภายในดินแดนของผู้ใช้กฎเช่นเดียวกัน เชพเพิร์ดจึงทำได้เพียงแต่ขมวดคิ้วก่อนที่เขาจะเริ่มส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นมือดินขนาดใหญ่ 6 มือก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ผลักดันให้ร่างของเชพเพิร์ดพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันมันก็มีเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเพราะเซี่ยเฟยเหยียบกิ่งไม้แรงจนเกินไปจนทำให้กล่องทองคำกระเด็นตกลงไปยังด้านล่าง และทิศทางที่กล่องตกลงไปนั้นยังเป็นบริเวณเหนือศีรษะของเชพเพิร์ดพอดิบพอดี
ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขณะที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปรู้สึกเสียใจที่ออกแรงมากจนเกินไปจนทำให้กล่องสมบัติร่วงหล่นลงมา
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยพลิกตัวกลับกลางอากาศอย่างงดงาม ก่อนที่เขาจะใช้เท้าถีบเข้าใส่กิ่งไม้เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังกล่องสมบัติที่ร่วงหล่นไปยังด้านล่าง
การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยรวดเร็วมากและทักษะที่ชายหนุ่มใช้มันก็เกินกว่าทักษะที่เขาได้เรียนรู้มาจากสำนักเงาสังหารแล้ว คล้ายกับว่าวิชาเล่ห์กายาที่เขาได้ใช้อยู่นี้เป็นวิชาเล่ห์กายาในรูปแบบของเขาโดยเฉพาะ และไม่มีใครสามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวของเขาได้
ขวับ!
ชายหนุ่มตวัดมือออกไปเพื่อคว้าจับกล่องสมบัติอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะเซี่ยเฟยกลับคว้าพลาดไม่สามารถจับกล่องสมบัติเอาไว้ได้
คนที่เชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวอย่างผิดธรรมชาติจนถึงระดับนั้นพลาดที่จะคว้าจับกล่องสมบัติกลางอากาศจริง ๆ เหรอ?
อย่างไรก็ตามความผิดพลาดของชายหนุ่มก็ทำให้เชพเพิร์ดตัดสินใจทุ่มพลังให้ร่างของเขาพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้พลาดโอกาสสำคัญไปแล้ว เขาก็ต้องรีบฉวยโอกาสในครั้งนี้เอาไว้
“ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ของชิ้นนี้มันก็จะต้องเป็นของฉัน!” เชพเพิร์ดตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น แต่เขากลับไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าตอนนี้มุมปากของเซี่ยเฟยกำลังยกรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์
ในระหว่างที่เชพเพิร์ดกำลังมีความสุขที่จะได้รับกล่องสมบัติมาไว้ในครอบครอง จู่ ๆ มันก็มีร่างของชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลังของเขาด้วยแววตาที่ดุร้าย
ร่างของชายที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาทำให้เชพเพิร์ดรู้สึกตกใจมาก เพราะผู้มาใหม่ก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากผู้ที่มีหน้าตาเหมือนเซี่ยเฟยทุกประการ
หมับ!
ใบหญ้าสีฟ้าคว้าจับร่างของเชพเพิร์ดเอาไว้อย่างฉับพลัน ซึ่งในวินาทีเดียวกันนั้นมวลพลังงานมหาศาลก็ปกคลุมทั่วทั้งร่างของเชพเพิร์ดเอาไว้แยกตัวเขาออกจากสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างสิ้นเชิง
เชพเพิร์ดรู้สึกตกตะลึงมากและเขาก็ไม่เข้าใจว่าจู่ ๆ ทำไมตัวเขาถึงได้ติดกับของอีกฝ่ายแบบนี้ เขาจึงพยายามใช้กฎแห่งสสารเพื่อหลบหนีออกจากพันธนาการไป แต่เขาก็ต้องรู้สึกตกใจเมื่อเขาไม่สามารถเชื่อมต่อพลังเข้ากับสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบได้เลย
ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังงานอันพลุกพล่าน ซึ่งนอกเหนือจากที่เขาจะไม่สามารถควบคุมพลังพวกนี้ได้แล้ว พลังงานอันพลุกพล่านยังตัดขาดสภาพแวดล้อมออกจากตัวของเขาด้วย
นี่คือทักษะการควบคุมของขนอุยและเมื่อชายคนนี้ถูกพันธนาการจากอสูรศักดิ์สิทธิ์แล้ว มันก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถหลบหนีออกไปได้ง่าย ๆ
ใช่แล้วร่างของเซี่ยเฟยที่ปรากฏตัวขึ้นจากด้านล่างไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นอกเสียจากขนอุยที่ถูกเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นเซี่ยเฟย
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกับเชพเพิร์ดกระโดดขึ้นไปในอากาศเพื่อแย่งชิงกล่องสมบัติที่อยู่บนนั้น ชายหนุ่มก็แอบเปลี่ยนร่างของขนอุยให้กลายเป็นร่างของเขา แล้วใช้หงส์ครามพันรอบตัวของขนอุยเอาไว้ทำตัวกลมกลืนไปกับต้นไม้คล้ายกับเป็นเถาวัลย์ที่โยงใยไปมา และในขณะที่ความสนใจของเชพเพิร์ดกำลังมุ่งไปยังกล่องสมบัติที่กำลังตกมาอยู่นั่นเอง เซี่ยเฟยก็เริ่มควบคุมหงส์ครามเพื่อโยนร่างของขนอุยขึ้นไปด้านบนและพันธนาการร่างของศัตรูเอาไว้
เซี่ยเฟยจงใจสร้างเหตุการณ์ว่าเขาไม่สามารถคว้าจับกล่องสมบัติเอาไว้ได้ และอาศัยช่วงเวลาเพียงแค่พริบตาตวัดบลัดบิวเทียสลงมาที่ศีรษะของเชพเพิร์ด
เชพเพิร์ดเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แต่เขาก็ไม่มีโอกาสให้รู้สึกเสียใจอีกต่อไปแล้ว เพราะบลัดบิวเทียสได้ลากผ่านศีรษะของเขาไปจนกระทั่งไปหยุดอยู่ตรงบริเวณสะดือ
ขนอุยส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อแผนการทุกอย่างของเซี่ยเฟยประสบความสำเร็จ
ซากศพของเชพเพิร์ดถูกสูบเลือดจนแห้งในพริบตา และในที่สุดจุดจบของผู้ที่ต้องการจะกลืนกินร่างของเซี่ยเฟยเข้าไป ก็กลับกลายเป็นเลือดทั่วทั้งร่างของเขาที่ถูกบลัดบิวเทียสของเซี่ยเฟยดูดซับไปทั้งหมดแทน
เซี่ยเฟยยื่นมือขวาออกไปบังคับให้หงส์ครามคว้าจับกล่องสมบัติเอาไว้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เขาจะถอนหายใจและบ่นพึมพำออกมา
“กฎแห่งการแลกเปลี่ยนแบบนี้จัดการได้ยากจริง ๆ นี่ถ้าหากว่าพลังงานของขนอุยไม่สามารถพันธนาการร่างของเขาเอาไว้ได้ การต่อสู้ในครั้งนี้คงจะยากลำบากกว่าเดิมมาก”
“นายรู้จักดินแดนผู้ใช้กฎน้อยเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปนายจะค่อย ๆ ได้เรียนรู้เองว่ามันยังมีกฎแปลก ๆ แบบนี้อยู่อีกเยอะ และมันก็มีวิธีที่เอาไว้สำหรับรับมือกฎพวกนี้อยู่อีกหลายวิธีด้วยเหมือนกัน ถ้าฉันเป็นคนลงมือแทนนาย ฉันก็คงจะสามารถจัดการเชพเพิร์ดคนนี้ไปได้เป็นร้อย ๆ ครั้งแล้ว”
“แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ต้องบอกว่าครั้งนี้นายทำได้ดีมาก แล้วการประยุกต์ใช้ทุกสิ่งที่นายมีจัดอยู่ในระดับที่แม้แต่ตัวฉันก็นึกไม่ถึงอยู่เหมือนกัน” โอโร่กล่าว
“ผมก็แค่หาวิธีพยายามตัดขาดร่างของเขาออกจากสภาพแวดล้อมดูเท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าว
ขนอุยได้เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นสัตว์อสูรตัวกลมอีกครั้ง ก่อนที่มันจะกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น เซี่ยเฟยจึงเผยรอยยิ้มและหยิบคริสตัลต้นกำเนิดออกมาให้เป็นของรางวัลกับมัน เพราะถ้าหากไม่ได้ขนอุยช่วยเหลือการต่อสู้ในครั้งนี้ก็คงจะกลายเป็นเรื่องยากลำบากมากจริง ๆ
“เมื่อกี้นายแสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะตอนที่นายคว้ากล่องสมบัติพลาดมันเกือบทำให้ฉันเชื่อแล้วนะว่านายกำลังเคลื่อนไหวอย่างผิดพลาดจริง ๆ” โอโร่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเฟยนั่งลงกับพื้นพร้อมกับเปิดกล่องสมบัติขึ้นมาโดยไม่ตอบกลับอะไร
“เข็มทิศมิติ! ของในกล่องสมบัติคือเข็มทิศมิติ!! แบบนี้ฉันก็สามารถเดินทางได้อย่างอิสระแล้ว” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความดีใจ
นับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าในดินแดนนี้มีอุปกรณ์ที่ชื่อว่าเข็มทิศมิติ เขาก็ต้องการจะซื้อมันเอามาใช้งานโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่เข็มทิศมิติที่สามารถเดินทางจากดินแดนผู้ใช้กฎไปยังพันธมิตรได้มีราคาที่แพงมาก เพราะแม้แต่เข็มทิศมิติที่ถูกที่สุดก็ยังมีราคาสูงถึง 1,000 คริสตัลขาว
เซี่ยเฟยยังไม่รู้ว่าเข็มทิศมิติที่เขาได้รับจากกล่องสมบัตินี้เป็นเข็มทิศมิติในระดับไหน แต่เมื่อพิจารณาจากรูปร่างภายนอกของมันแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่ามันคงจะไม่ใช่เข็มทิศมิติระดับต่ำอย่างแน่นอน
—
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ร่างของมนุษย์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ซึ่งคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกเสียจากเฝิงซินเหนียน, บรูซและบูลม่า
เมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาภาพที่พวกเขาเห็นอยู่นั้นก็คือเซี่ยเฟยที่กำลังนั่งขัดสมาธิอย่างสบายใจ ราวกับว่ามันไม่มีเหตุการณ์อะไรแปลกประหลาดเกิดขึ้น
ขณะที่เฝิงซินเหนียนกำลังจะอ้าปากเรียกชื่อของเซี่ยเฟย บรูซก็ยื่นมือออกมาหยุดชายหนุ่มเอาไว้ก่อน
“เขาใกล้จะเลื่อนระดับแล้ว มีอะไรเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”
เพื่อจัดการกับพวกเชพเพิร์ดที่แฝงตัวเข้ามาในงานประเมิน ผู้สมัครที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมดได้ถูกส่งกลับไปยังสำนักงานมังกรฟ้าแล้วเหลือแต่เพียงเซี่ยเฟยคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในสถานที่ประเมิน เพราะว่าเขายังคงนั่งสมาธิเพื่อฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
“ใกล้จะเลื่อนระดับ!? ผู้สมัครคนอื่นกำลังพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด แต่ผู้สมัครคนนี้สังหารเชพเพิร์ดแล้วมานั่งฝึกฝนต่อเนี่ยนะ?!” บูลม่าอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“เขาชื่อเซี่ยเฟย ถึงแม้ว่าพลังของเขาจะอยู่ในระดับอัศวินกฎขั้นที่ 2 เท่านั้นแต่เขากลับสามารถแสดงประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้ดีมากพอ ๆ กันกับผู้สมัครระดับแนวหน้า ยิ่งไปกว่านั้นทักษะในการคิดวิเคราะห์ของเขายังอยู่ในระดับที่ดีมาก มีโอกาสสูงที่เขาจะเติบโตขึ้นมากลายเป็นนักรบชั้นแนวหน้าในอนาคต” เฝิงซินเหนียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม และเนื่องจากในครั้งนี้เขาทำหน้าที่เป็นตาเหยี่ยวครั้งแรก เขาจึงมักที่จะพูดอวยผู้สมัครทุกคนที่เขาได้คัดสรรมาเสมอ
“แปลกมาก! ผู้สมัครคนนี้สามารถทำให้เชพเพิร์ดตัวแห้งเหมือนมัมมี่ และเขาก็ยังใช้วิธีอะไรก็ไม่รู้ปลุกต้นทะลุเมฆของพ่อขึ้นมาได้อีกด้วย” บูลม่ากล่าวหลังจากที่เธอตรวจสอบร่องรอยของการต่อสู้
บรูซพยักหน้ารับเป็นสัญญาณว่าเขารับรู้โดยไม่พูดอะไร
“คุณอาบรูซดูนี่สิ! เซี่ยเฟยสามารถสังหารผู้สมัครคนอื่นด้วยตัวเองตั้ง 13 คน, สามารถสังหารเชพเพิร์ดที่สังหารผู้สมัครคนอื่นมาแล้ว 12 คน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถแก้ไขปริศนาลับที่คุณอาซ่อนเอาไว้ได้ทำให้เขาได้คะแนนเพิ่มไปอีก 50 คะแนน”
“หมายความว่าคะแนนรวมทั้งหมดของเขาในครั้งนี้สูงถึง 75 คะแนน ซึ่งสูงกว่าผู้สมัครอันดับ 2 ถึง 30 คะแนน ผมว่าชุดเกราะชาร์ปเลสของอาคงจะต้องมอบให้กับเขาแล้วล่ะ” เฝิงซินเหนียนกล่าวหลังจากได้หยิบอุปกรณ์ขึ้นมาคำนวณคะแนนของเซี่ยเฟย
“ผู้สมัครที่ทำคะแนนได้อันดับแรกกลับเป็นเพียงแค่อัศวินกฎขั้นที่ 2 งั้นเหรอเนี่ย! นี่ถ้าหากว่าฉันไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเองฉันคงไม่เชื่อเรื่องนี้แน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นผู้สมัครในรอบนี้ก็หลงเหลือชีวิตรอดอยู่เพียงแค่ 173 คนเท่านั้น เพราะผู้สมัครส่วนใหญ่ตายด้วยฝีมือของพวกเชพเพิร์ดจนหมดแล้ว” บูลม่ากล่าวขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“จะบอกว่าเขาเป็นอัศวินกฎขั้นที่ 2 ก็ไม่ถูก หลังจากที่เขาลืมตาขึ้นมาเขาก็เป็นอัศวินกฎขั้นที่ 23 แล้ว” เฝิงซินเหนียนกล่าวพร้อมกับโบกมืออย่างไม่เห็นด้วย
หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยเฟยก็ลืมตาตื่นขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้านี้เขารู้อยู่ก่อนแล้วว่ามันมีคนปรากฏตัวขึ้นมาอยู่รอบ ๆ ตัวของเขา แต่เนื่องมาจากเขากำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญของการเลื่อนระดับ เขาจึงทำการฝึกฝนต่อไปโดยไม่คิดที่จะลืมตาขึ้นมาทักทายคนอื่น ๆ
หลังจากได้ดูดซับพลังงานมาจากเชพเพิร์ด ลูกบอลพลังงานสีรุ้งภายในสมองของเขาก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อให้เกิดพลังงานปริมาณมหาศาลผลักดันให้เขาสามารถเลื่อนระดับได้ในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นพลังงานที่สะสมในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขายังมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเงียบ ๆ เพราะคุณภาพของพลังงานในการระเบิดครั้งที่ 2 ดีกว่าคุณภาพของพลังงานในการระเบิดครั้งแรกมาก ซึ่งแน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมไม่ปล่อยให้พลังงานเหล่านี้สูญสลายไปเฉย ๆ
“ขอแสดงความยินดีด้วยที่ได้เลื่อนระดับกลายเป็นอัศวินกฎขั้นที่ 3 แล้ว นายช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่านายฆ่าเชพเพิร์ดคนนี้ได้ยังไง?” เฝิงซินเหนียนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ ทำไมร่างของเชพเพิร์ดถึงเป็นแบบนี้? นายใช้วิชาอะไรหรือใช้กฎอะไรกันแน่?” บูลม่าถามด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน
“ก่อนอื่นฉันต้องบอกว่าฉันไม่ได้เลื่อนระดับเป็นอัศวินกฎขั้นที่ 3 แต่เป็นอัศวินกฎขั้นที่ 4 ต่างหาก” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่มันกลับทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงและแม้แต่บรูซที่ปกติจะแสดงสีหน้านิ่งเฉยตลอดเวลาก็ยังเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
“เพิ่มระดับพลังขึ้นมา 2 ขั้นใน 5 วันเนี่ยนะ?! เซี่ยเฟยนายนี่ทำให้ฉันได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ” เฝิงซินเหนียนกล่าวราวกับสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ทันใดนั้นขนอุยที่ยืนอยู่บนบ่าของเซี่ยเฟยก็ยืดหน้าอกของมันขึ้นมาเช่นเดียวกัน คล้ายกับว่านอกเหนือจากเฝิงซินเหนียนจะชมเซี่ยเฟยแล้วเขาก็ควรจะต้องชมเจ้าตัวเล็กตัวนี้ด้วย
“ดีใจด้วย! มารขาวก็เลื่อนระดับพลังขึ้นมาเหมือนกันสินะ ดูเหมือนว่าผู้ที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดในการแข่งขันรอบแรกของกลุ่มมังกรฟ้าก็คือนายนะเซี่ยเฟย” เฝิงซินเหนียนกล่าวอีกครั้ง
“มารขาว?!”
“อสูรศักดิ์สิทธิ์มารขาวน่ะเหรอ?”
บูลม่าอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง ซึ่งความลับที่เซี่ยเฟยได้ซ่อนอยู่ก็ทำให้เธอทำได้เพียงแต่ถอนหายใจ
“เอาล่ะการประเมินรอบแรกจบลงแล้ว ส่วนการประเมินรอบที่ 2 จะต้องรอต่อไปอีกหนึ่งเดือน การประเมินรอบต่อไปจะมีผู้สมัครจากเก้าตระกูลชั้นยอดและตระกูลขนาดใหญ่เข้าร่วมการประเมินด้วย ถึงตอนนั้นการประเมินก็จะยากกว่าในตอนนี้มาก” บรูซกล่าวตัดบทและพยายามชวนทุกคนให้กลับไปโดยเร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องรีบกลับไปรายงานเรื่องต่าง ๆ ให้เฝิงคูชาน เขาจึงค่อนข้างที่จะรู้สึกกระวนกระวายอยู่เล็กน้อย
“เฝิงซินเหนียน นายรับผิดชอบมอบของรางวัลให้กับเซี่ยเฟยด้วย จากนั้นคุณก็สามารถกลับไปยังตระกูลหยูได้เลย” บรูซกล่าว
เฝิงซินเหนียนกับเซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“หลังจากกลับไปที่ตระกูลหยูแล้วอย่าลืมฝึกฝนให้หนักขึ้นกว่าเดิม การประเมินกับเก้าตระกูลชั้นยอดไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นคุณควรกลับไปเตรียมพร้อมให้ได้มากที่สุด” บรูซกล่าวอีกครั้ง
‘กลับไปที่ตระกูลหยูงั้นเหรอ... หยูฮัวยังไม่ได้ติดต่อเรื่องอะไรมาเลยหรือว่าผู้อาวุโสหยูเจียงจะไม่ได้คิดเอาผิดฉันแล้ว?’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจ
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 123
แสดงความคิดเห็น