รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ ตอนที่ 121 รอไม่ได้!!
รับคำท้าฯ
ตอนที่ 121
ปริมาตกใจแทบช็อคเมื่อเห็นภาพอุบัติเหตุตรงหน้า รีบวิ่งไปดูคนเจ็บทันที รู้สึกใจหายเมื่อเห็นหน้าคนเจ็บทั้งสองคนว่าเป็นใคร ปรามรีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์เช่นเดียวกันแล้วรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที สองพี่น้องช่วยคนเจ็บอย่างเต็มที่เท่าที่สามารถช่วยได้ โดยเฉพาะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการห้ามเลือด
ปรามให้น้องสาวขึ้นรถพยาบาลไปกับคนเจ็บ ส่วนเขารอตำรวจมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ หลังจากดูกล้องวงจรปิด เนื่องจากรถคันดังกล่าวอยู่ ๆ ก็เสียหลักพุ่งมาชนป้ายของรีสอร์ตบ้านไร่ทะเลฝัน แล้วคนเจ็บทั้งสองคนยืนอยู่ที่หน้าร้านพอดี ก่อนจะวิ่งหลบรถ แต่เสี้ยววินาทีที่ตัดสินใจวิ่งหลบนั้นดันเป็นทิศทางเดียวกันกับรถที่พุ่งเข้ามาจึงหลบไม่พ้นถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส
คนเจ็บบนเตียงรู้สึกตัว เขากระพริบตาถี่ ๆ ภาพบนเพดานห้องชัดเจนขึ้น เขามองไปรอบ ๆ จึงรู้ว่า เขาอยู่ที่โรงพยาบาล มองเห็นหญิงสาวยืนอยู่ที่ขอบเตียง
“คุณทานน้ำก่อนค่ะ” ปริมาหยิบขวดน้ำพร้อมหลอดส่งให้ คนเจ็บนั้นเอาแต่จ้องหน้าเธอโดยยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำ และยังไม่ยอมรับขวดน้ำในมือของเธอ
“ถ้าคุณไม่สะดวกที่จะพูดกับดิฉัน จะไปตามพยาบาลมาให้นะคะ” ปริมาหมุนตัวเดินไปที่ประตูห้องคนเจ็บ
“เดี๋ยว...ครับ...” เสียงอันแหบแห้งของคนเจ็บเรียกเธอ
“แฟนผม...แฟน...ผม...เธอเป็นอย่างไรบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ยังรู้สึกสะเทือนใจไม่หาย ภาพตอนเกิดเหตุยังติดตา ภรรยาผลักเขาให้หลบ รถจึงชนเธอเต็ม ๆ จนกระเด็นไป
“ปลอดภัยแล้วค่ะ เพียงแต่ยังไม่รู้สึกตัว หมอยังให้อยู่ในห้องฉุกเฉินค่ะ” หญิงสาวมองเห็นน้ำตาคลออยู่ในดวงตาของคนเจ็บตลอดเวลา อาการบาดเจ็บของเขานั้นไม่มีอาการน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แค่หัวแตก และมีบาดแผลจากการถูกกระจกบาดตามแขนอยู่หลายแผลเท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงมากคือภรรยาของเขามากกว่า ทั้งกระดูกซี่โครงหัก และศรีษะได้รับการกระแทกอย่างแรง มีเลือดออกในสมอง
“ผมอยากไปเยี่ยมแฟนของผม พาผมไปหน่อยได้ไหม...” เขาเอื้อมมือมาบีบมือหญิงสาวที่จับอยู่กับขอบเตียงแน่นทั้งน้ำเสียง และสายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยการวิงวอนขอร้องจากหัวใจ
“เดี๋ยวขอถามหมอก่อนนะคะ” เธอไม่กล้าตัดสินใจเอง
“คุณปัถยาจะต้องปลอดภัยแน่นอนค่ะ”
พยาบาลเดินเข้ามาให้ห้องคนป่วย ถือแฟ้มเอกสารมาด้วย
“ขอโทษนะคะ คุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ”
ปริมาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไปว่า
“เป็น...เขาเป็นลูกค้าที่ร้านของเราค่ะ”
“ผมขอไปเยี่ยมภรรยาของผมได้ไหมครับ” เขาหันไปถามพยาบาล
“รบกวนเซ็นต์เอกสารนี้ก่อนนะคะ คงต้องรอคุณหมออนุญาตก่อนค่ะ” พยาบาลยื่นเอกสารให้คนเจ็บบนเตียงเซ็นต์ยินยอม
คนเจ็บยื่นมือมารับแฟ้มเอกสาร พร้อมกับเซ็นต์ชื่อยินยอม ปากกาในมือของเขาสั่นระริก เมื่อสายตามองเห็นชื่อนายแพทย์เจ้าของไข้คือ นายแพทย์ปริวัฒน์ การุณนิพัฒน์ คู่อริที่แย่งอดีตภรรยาของเขาไป บัดนี้ชีวิตของเขาและภรรยากลายเป็นหนี้บุญคุณบุคคลนี้ไปเสียแล้ว ในวงการแพทย์รู้กันดีว่า แพทย์ผู้นี้คือผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าด้านการผ่าตัดสมองมือหนึ่งของเมืองไทย
“ขอบคุณค่ะ” พยาบาลรับแฟ้มคืนก่อนเดินออกไปจากห้อง
“ช่วยขอพ่อของเธอให้หน่อย ฉันอยากไปเยี่ยมปัถยา”
“ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ต้องทานยาทานข้าวก่อนนะคะ” เธอมองเห็นพยาบาลยกอาหารและยามาให้คนป่วย
“ฉันไม่หิว” คนป่วยตอบเสียงเบา ลำคอนั้นตีบตันจนทานอะไรไม่ลง
“ถ้าไม่ทานยาไม่ทานข้าว แล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปดูแลคุณปัถยาตอนที่ฟื้นขึ้นมาละคะ” ปริมามองหน้าคนเจ็บ นัยตาแดงก่ำมีน้ำตาคลอหน่วย
“แล้วแต่คุณนะคะ ดิฉันขอตัวกลับก่อนค่ะ”
“เดี๋ยว! ฉันจะกินยากินข้าวเดี๋ยวนี้” เขารีบจับมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไป
“เธอจะต้องขอพ่อ พาฉันไปเยี่ยมปัถยานะ แค่ยืนมองอยู่ข้างนอกห้องก็ได้ ฉันขอร้อง...”
“ได้ค่ะ” ปริมาอมยิ้ม พ่อลูกมีความดื้อพอ ๆ กันเลย
“ขอบใจ...หนู...ปริมมากนะ” เขาบีบมือของหญิงสาวแน่น รู้สึกผิดที่คอยกีดกันผู้หญิงคนนี้กับลูกชายของเขามาตลอด เขาอยากลองเรียกเธอให้คุ้นเคยแบบนี้ดูบ้าง
ปริมาอึ้งไปเล็กน้อยที่เขาเรียกเธอด้วยคำที่ดูเป็นกันเองมากกว่าเดิม
“ทำไม...ถึงช่วย...ฉัน...”
“ถ้าดิฉันมีโอกาสที่จะช่วยใครได้แล้วไม่ช่วย คงจะเป็นตราบาปอยู่ในใจไปตลอดค่ะ ถ้าคุณเป็นอะไรไป การ คงจะเสียใจมาก ฉันช่วยคุณเพราะคุณเป็นเพื่อนมนุษย์ที่พึงช่วยเหลือกันมากกว่าอย่างอื่น แล้วคุณก็สบายใจได้ว่า เรื่องความสัมพันธ์ของดิฉันกับปฏิการ คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ”
“หนูปริม...ยังรักลูกชายของฉันอยู่หรือเปล่า?” เขาถามเธอตรง ๆ
“ดิฉันไม่ต้องการอะไร แค่ขอให้การมีความสุขก็พอแล้วค่ะ”
“ฉันถามว่า หนูปริมยังรักลูกชายของฉันอยู่ไหม?” นายแพทย์ใหญ่ถามย้ำอีกครั้ง
“ความรักของดิฉัน ไม่จำเป็นต้องได้เป็นเจ้าของเขาก็ได้ค่ะ ขอให้คุณสบายใจและอย่ากังวลเรื่องนี้”
“หนูปริมตอบไม่ตรงคำถาม ขอให้ตอบให้ตรงด้วย ยังรักอยู่ไหม...?” เขาอยากจะมั่นใจว่า เธอยังรักลูกชายของเขาอยู่
“...ค่ะ” เสียงตอบนั้นแผ่วเบามาก
“ฉันอยากจะขอร้องหนูปริม...ให้กลับมาเป็นแฟนกับลูกชายของฉันได้รึเปล่า?” เขาตัดสินใจพูดสิ่งที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้อย่างไม่อาจรีรอต่อไปได้อีกแล้ว
ปริมานิ่งไปครู่หนึ่ง เธอหูฝาดไปรึเปล่า? แทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของบิดาของปฏิการ
“ได้รึเปล่า?” เขาถามย้ำเมื่อเห็นหญิงสาวยังนิ่งไม่ตอบเสียที
“ได้ค่ะ” เธอตอบพลางก้มหน้าอมยิ้มเขินอาย
“ขอบใจ...หนูปริมมากนะ” ปัณณวัตร์ส่งยิ้มให้พร้อมกับบีบมือของหญิงสาวแน่นด้วยความขอบคุณจริง ๆ จากใจ เขาอยากทำสิ่งสุดท้ายให้ลูกชายมีความสุข อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นฉับพลันทันทีทำให้ต้องรีบตัดสินใจเมื่อมีโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว เขารู้สึกได้ถึงความหยิ่งทะนงในตนเองของเธอ ทั้งปากแข็ง หัวแข็ง ใจแข็งและดื้อรั้นไม่เบาเลย แต่มีความขี้อายอยู่ในที กว่าอีกฝ่ายจะตอบคำถามของเขาได้แต่ละคำลุ้นแทบแย่ สายตามองปริมาเลื่อนโต๊ะอาหารเข้ามาใกล้ จัดการให้เขาทานยาและทานข้าวเรียบร้อย เขาเชื่อว่าเธอจะดูแลลูกชายของเขาได้เป็นอย่างดี
ปริมาอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นคนเจ็บพยายามทานจนหมดเกลี้ยง แม้จะดูฝืน ๆ อยู่บ้าง คงจะกลัวไม่ได้ไปเยี่ยมภรรยา เมื่อเขาทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงโทรไปถามพ่ออนุญาตให้คนเจ็บไปเยี่ยมปัถยาได้หรือไม่ ซึ่งได้คำตอบว่า ได้ เธอจึงคอยประคองให้คนเจ็บนั่งบนรถเข็น แล้วพาไปยังห้องผู้ป่วยของภรรยา เธอปล่อยให้เขาได้อยู่คุยกับปัถยาตามลำพัง และบอกเขาว่า อีกหนึ่งชั่วโมงจะกลับมาพากลับห้องคนป่วย
หนุ่มใหญ่ยืนมองใบหน้าอันซีดเซียวของภรรยา ร่างนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เธอยังหลับสนิทไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เสียงเครื่องอุปกรณ์การแพทย์กำลังทำงานเบา ๆ สายต่าง ๆ ระโยงระยางเต็มไปหมด มีผ้าพันแผลขนาดใหญ่บริเวณศีรษะ ถุงเลือดแขวนยังแขวนอยู่เธอคงเสียเลือดไปมาก และยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ สายตามองไปที่เครื่องแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นหัวใจของคนป่วยเต้นอ่อนมากจนใจหาย ดูเหนื่อยล้าราวกับไม่อยากจะเต้นอีกต่อไป แล้วกุมมืออันเย็นเฉียบของภรรยาเอาไว้ พลางบีบเบา ๆ ให้มือนั้นอุ่นขึ้น
“คุณ...รีบตื่น...ขึ้นมานะ” น้ำตารื้นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตาคู่นั้น
“ผม...อยากพาคุณไปเดินเล่น...ริมทะเลด้วยกัน คุณบอกว่าอยากไปพักผ่อนที่บ้านไร่ทะเลฝันไม่ใช่เหรอ...” เขาต้องหยุดพูดเป็นระยะ เมื่อเสียงพูดขาดหายไปในลำคอ สลับกับเสียงสะอื้นเบา ๆ
“ผมหาวันหยุดยาวได้แล้วนะ” เขาสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะพูดต่อไป
“คุณ...รีบตื่นขึ้นมาเถอะ...ผมขอร้อง...คุณจะทิ้งผมไปไม่ได้นะ” เขาพูดกับภรรยาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ น้ำตาที่คลออยู่ค่อย ๆ รินไหลลงมาอาบแก้ม รู้สึกใจหายหากชีวิตนี้จะไม่มีเธออีกแล้ว
“ผมรักคุณ...” ปัณณวัตร์จับมือภรรยามาจูบเบา ๆ น้ำตาของเขาหยดลงบนมือของเธอ ก่อนดึงมาแนบไว้ที่แก้มของตนเอง
“ผมยังไม่เคยบอกคุณใช่ไหม...” เขาซบหน้าลงกับเตียงพลางร้องไห้จนตัวสั่นเทา
“คุณ...ต้องตื่นมาฟังผม...บอกรัก...คุณ...ก่อน คุณ...ไม่อยาก...ได้ยินเหรอ” น้ำเสียงของเขากระท่อนกระแท่นขาดห้วงเป็นระยะ สลับกับเสียงอื้นไห้
“ไม่เป็นไร... ถ้าวันนี้คุณยังเหนื่อยอยู่...พรุ่งนี้ก็ได้...คุณค่อยตื่นขึ้นมาฟังนะ ผมจะรอคุณ แต่คุณต้องสัญญากับผม ว่าจะตื่นขึ้นมา... สัญญากับผมนะ...ปัถยา...” เขายกมือปาดน้ำตาข้างแก้ม
“คุณต้องตื่นขึ้นมาฟังข่าวดี ต่อไปผมจะไม่ว่าอะไรปฏิการแล้วที่จะคบกับหนูปริม คุณตื่นขึ้นมาดูเขาทั้งสองคนมีความสุขก่อน ผมจะไปขอโทษปาริชาติที่เคยทำผิดกับเธอมาตั้งแต่แรก ผมผิดเองตั้งแต่ต้น ผมขอโทษ...ที่เลือกคุณช้าไป...คุณอย่าโกรธผมเลย...อย่า...จากผมไป...ได้โปรด....”
หนุ่มใหญ่มองไปที่เครื่องแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ สัญญาณชีพของภรรยาเต้นได้ดีขึ้น เธอได้ยินคำพูดของเขาใช่ไหม... มองไปที่มือของเธอขยับเล็กน้อยอย่างเหลือเชื่อ...และมือนั้นอุ่นขึ้น พลางยิ้มด้วยความดีใจ
ปัณณวัตร์นึกถึงคลิปที่ลูกชายเคยส่งมาให้ดู การกดจุดบริเวณฝ่ามือต่าง ๆ แทนที่เขาจะเอาแต่ร้องไห้คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอฟื้น ก่อนหน้านี้เคยลองกดให้ตนเองดูบ่อย ๆ กดแล้วเส้นคลายอยู่เหมือนกัน เขาจะลองกดนวดจุดสมองให้เธอเพื่อเพิ่มพลังสมอง จุดสมองอยู่บริเวณระหว่างเนินของฝ่ามือตรงกลางระหว่างง่ามนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ใกล้กับจุดต่อของมุมกระดูกนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ ซึ่งในคลิปใส่แคปชั่นว่าเช็คเส้นเลือดสมองตีบ แก้ไมเกรน ตึงคอบ่าไหล่ เขากดคลึงนวดเบา ๆ บนง่ามนิ้วมือของภรรยา แล้วกดไล่ขอบกระดูกของนิ้วชี้เพื่อคลายเส้นคอ บ่า ไหล่ให้เธอด้วย
“คุณเป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมั้ย....ผมจะมากดให้คุณบ่อย ๆ” เขามองไปใบหน้าของภรรยา
“ถ้าผมไปขอโทษพ่อของหนูปริม คุณว่าเขาจะยอมยกลูกสาวให้ลูกของผมรึเปล่าครับ...” เขานวดกดจุดมือของเธอไปปากก็คุยกับคนป่วยไปด้วย
ผ้าเช็ดหน้าถูกยื่นไปตรงหน้าของสามีผู้ป่วย เขาหันกลับมามองเจ้าของผ้าเช็ดหน้า
“ผมจะยอมยกลูกสาวให้ลูกชายของคุณครับ” นายแพทย์ปริวัฒน์เดินเข้ามาตรวจอาการของคนไข้ ยืนรออยู่ครู่หนึ่งได้ยินคำพูดทุกคำ และคำขอโทษออกจากปากของผู้ชายคนนี้
ปัณณวัตร์ค่อย ๆ ยื่นมือมารับผ้าเช็ดหน้านั้นอย่างช้า ๆ แทบไม่เชื่อคำพูดที่ได้ยินนั้น ประสาทการรับรู้ของเขานิ่งงันไปชั่วขณะ
“อาการของภรรยาของคุณปลอดภัยแล้ว พ้นขีดอันตราย แค่รอให้ฟื้นดูว่ามีอาการทางสมองหรือไม่ อาการอื่น ๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ” แพทย์เจ้าของไข้พูดต่อไป
“ขอบคุณ...คุณหมอมากนะครับ” สายตาที่มองนายแพทย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้ายังคงงุนงงไม่หาย ยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในวินาทีนี้
“ผมทำตามหน้าที่ ทำตามจรรยาบรรณของแพทย์ครับ” นายแพทย์ปริวัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ผม.....” ศัลยแพทย์โรคหัวใจพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรวบรวมความกล้า
“ผมต้องขอโทษ...” สายตาสบตากับนายแพทย์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วยนิ่ง
“ขอโทษ...กับทุกเรื่องที่ผ่านมา...”
“ช่างมันเถอะครับ มันผ่านไปแล้ว” ปริวัฒน์ได้ยินคำขอโทษอย่างชัดเจนอีกครั้งออกจากปากชายผู้นี้ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เรื่องราวบาดหมางกันระหว่างสองครอบครัวคงจบลงเสียที
“ผมขอยืมคำพูด ของลูกชายคุณมา เขาพูดแบบนี้วันที่ได้พบแม่ และรู้ว่าผมเป็นแฟนใหม่แม่ของเขาครับ ผมอยากจะขอบคุณคุณเช่นกันที่ยอมคืนภรรยาให้ ผมคงต้องขอบคุณลูกชายของคุณด้วย ตั้งแต่ตอนที่ผมแต่งงานกับปาริชาติ ปริมโกรธมากและไม่ยอมพูดกับผมอีกเลย แต่ลูกชายของคุณทำให้ปริมหายโกรธและยอมพูดกับผมได้ครับ” เขาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นครั้งแรก
“ถ้าผม...อยากจะขอลูกสาวของคุณให้ลูกชายของผม...จะได้รึเปล่าครับ” เขาถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่ออยากจะได้ยินชัด ๆ อีกครั้ง
“ด้วยความยินดีครับ ผมอยากเห็นลูกมีความสุข ผมกลุ้มใจมากเพราะเคยได้ยินมานานแล้วว่า ปริมอยากจะขึ้นคาน ไม่อยากแต่งงาน ไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนที่มาตามจีบ แต่กลับถูกลูกชายของคุณกระชากลงมาจากคานได้” เขาหัวเราะเบา ๆ
“แสดงว่า คุณอยากได้ลูกชายผมเป็นลูกเขยเต็มแก่แล้วสิครับ” อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน
“จะว่างั้นก็ได้นะครับ ผมยอมรับ”
“ขอบคุณมากนะครับ” ปัณณวัตร์ยื่นมือออกไปขอจับมือกับฝ่ายตรงข้าม อีกฝ่ายจึงยื่นมือมาจับกับมือนั้นเช่นเดียวกัน
“ขอบคุณมากเช่นกันครับ” ปริวัฒน์มองฝ่ายตรงข้ามด้วยความขอบคุณจากหัวใจ
ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน ปลดปล่อยความโกรธ ความเกลียดกันมาตั้งแต่ในอดีตจนหมดสิ้น
“ผมฝากขอโทษ ปาริชาติด้วยนะครับ ผมยังไม่เคยขอโทษที่ทำผิดกับเธอ”
“เดี๋ยวคุณพูดกับเธอเองเลยครับ เธอกำลังจะมาถึงแล้ว ปาริชาติไลน์มาบอกผมก่อนหน้านี้ครับ ผมนัดเธอไว้ที่ห้องทำงาน ผมจะพาคุณไปครับ”
“เดี๋ยวครับ ผมขอบอกลาปัถยาก่อน” เขาหันกลับไปที่เตียงคนป่วย จับมือของเธอไว้
“ผมรักคุณนะ...พรุ่งนี้คุณต้องตื่นขึ้นมา สัญญานะครับ” หนุ่มใหญ่ดึงมือของคนไข้ขึ้นมาจูบเบา ๆ
นายแพทย์ใหญ่ประคองตัวคนไข้ที่ทำท่าเซเล็กน้อย
“คุณยังเคลื่อนไหวมากไม่ได้นะครับ จะกระทบกระเทือนแผลที่ศีรษะ” เขาเตือนคนไข้ก่อนจะประคองให้นั่งลงบนรถเข็น แล้วช่วยเข็นรถของคนป่วยไปที่ห้องทำงานของเขา
ปาริชาติเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของสามี หน้าห้องมีป้ายติดอยู่ว่า นายแพทย์ปริวัฒน์ การุณนิพัฒน์ ก่อนจะบิดลูกบิดประตูเปิดเข้าไป หลังจากได้รับข้อความว่า เขารออยู่ที่ห้องทำงาน
“ที่รัก...เราจะไปรับลูกกันรึยังคะ” ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา หญิงสาวก็พูดขึ้นทันทีพร้อมกับรอยยิ้มหวานมาก ก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นว่าสามีมีคนอื่นอยู่ด้วย
************************
สวัสดีค่า...ใกล้จบเข้าไปทุกทีแล้ว ตอนหน้าคงจะจบบริบูรณ์แล้วนะคะ เราใกล้จากกันไปทุกทีแล้ว
วันนี้เอาวิธีนวดกดจุดที่ฝ่ามือมาฝากค่ะ ลองกดเล่น ๆ กันดูนะคะ นั่งดูทีวี นั่งเล่นก็ลองกดดู ลองกดให้ตนเองดู เส้นคงจะตึงไม่น้อยรู้สึกปวด ๆ เลยค่ะ พอกดแล้ว คอ บ่า ไหล่ คลายลงเหมือนกันค่ะ ^^
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 186
แสดงความคิดเห็น