ตอนที่ 450 การดวลระหว่างผู้ใช้ความเร็ว
ตอนที่ 450 การดวลระหว่างผู้ใช้ความเร็ว
พื้นที่ชั้นที่ 3 มีความยาวเพียงแค่ 900 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องวิ่งผ่านเขาวงกตมากกว่า 6,700 กิโลเมตร และต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขาวงกตแห่งนี้มีความคดเคี้ยวมากเพียงใด
“ที่นี่มันอันตรายมากเลย” อันธกล่าวพร้อมกับมองไปทางกำแพงหินที่อยู่ทางด้านหลัง
“เขาวงกตนี่ซับซ้อนมากจริง ๆ และกับดักที่ซ่อนอยู่ในเขาวงกตก็โหดเหี้ยมมาก นี่ถ้าหากว่าฉันไม่ได้มีพลังความเร็วและได้เรียนรู้วิชาเล่ห์กายา ไม่แน่ฉันก็อาจจะต้องตายในนั้นไปแล้วก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“โชคดีที่เราผ่านมันมาได้ แต่ฉันเพิ่งสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังงานที่ผิดปกติ นายรู้สึกได้เหมือนกันไหม?” อันธกล่าว
“ฉันก็พอรู้สึกได้เหมือนกัน แต่มันอาจจะเป็นเพราะว่ากลไกอะไรบางอย่างถูกเปิดใช้งานขึ้นมาก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าว
พื้นที่ทางด้านหน้าของพวกเขาก็ยังคงเป็นแท่นสำหรับการเคลื่อนย้ายสีขาวดำอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ว่ามันมีขนาดเล็กลงคล้ายกับเทพเจ้าขาวและเทพเจ้าดำคาดการณ์ว่านักสู้ที่เดินทางมาจนถึงที่นี่น่าจะมีจำนวนไม่มากเกินไป พวกเขาจึงจงใจใช้แท่นเคลื่อนย้ายที่มีขนาดเล็กเพียงเท่านี้
“นายรู้ไหมว่าเราได้กี่คะแนนหลังจากผ่านเขาวงกต?” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากมองคะแนนบนหน้าจอ
“เท่าไหร่?” อันธถามด้วยความสงสัย
“1 ล้านคะแนน”
“1 ล้านคะแนน! คะแนนของด่านในก่อนหน้านี้มีแค่หลักแสน แต่นายกลับได้คะแนนมาเพิ่ม 1 ล้านคะแนนหลังจากที่ผ่านเขาวงกตเนี่ยนะ แบบนี้มันก็มีโอกาสที่นายจะแลกของดี ๆ จากวิหารบนชั้นที่ 5 ไม่แน่ว่านายอาจจะได้รับอุปกรณ์ระดับสูงเป็นของรางวัลก็ได้”
“ถึงยังไงฉันก็ต้องรอดชีวิตไปจนถึงที่นั่นให้ได้ก่อนถึงจะสามารถใช้คะแนนได้ ตอนนี้ต้นไม้พวกนั้นยังโจมตีกองกำลังของอูดี้อยู่เลย ทำให้ตอนนี้ฉันมีคะแนนมากกว่า 1.4 ล้านคะแนนแล้ว มิตินี่เป็นมิติที่สนับสนุนให้ฆ่ากันชัด ๆ” เซี่ยเฟยกล่าว
ระหว่างพูดคุยกันนั้นชายหนุ่มก็ก้าวเท้าขึ้นไปบนแท่นเคลื่อนย้ายพร้อมกับมุ่งหน้าตรงไปยังพื้นที่ชั้นที่ 4 ของไซเรนฮิลล์
ทันทีที่ร่างของเขาได้ปรากฏตัวในพื้นที่ชั้นที่ 4 เขาก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันแผดเผาราวกับว่าเขาได้ถูกส่งเข้าไปอยู่ในเตาอบ
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มสังเกตเห็นลาวาที่ม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่น พร้อมกับซัดเข้าหาชายฝั่งคล้ายกับว่ามันเป็นมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยลาวา
แสงสีแดงเพลิงส่องสว่างทั่วทั้งพื้นที่เผยให้เห็นหินงอกหินย้อยสีขาวด้านบนของถ้ำ และถ้าหากว่าผู้ที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ไม่ได้สวมใส่ชุดต่อสู้เอาไว้ มันก็ยากที่พวกเขาจะสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงมากของสถานที่แห่งนี้ได้
ขนอุยลืมตาตื่นขึ้นมาในทันทีทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในเขาวงกตเจ้าตัวเล็กก็นอนหลับอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อมันสัมผัสได้ถึงอันตรายมันก็ตื่นตัวอย่างถึงที่สุด จนทำให้เซี่ยเฟยอดที่จะรู้สึกชื่นชมสัญชาตญาณของมันขึ้นมาไม่ได้
ชายหนุ่มถอดหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าของเขาออกและสวมใส่แว่นตาเพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาของเขาได้รับบาดเจ็บจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด เมื่อเขามองไปด้านหน้าอย่างพิจารณาอีกครั้งเขาก็มองไม่เห็นอะไรเลยนอกเสียจากลาวา จนทำให้เขาไม่รู้ว่าเขาจะผ่านสถานที่แห่งนี้ไปได้อย่างไร
ข้อมูลที่ปรากฏในแผนที่มีเพียงแค่แท่นเคลื่อนย้ายที่ถูกตั้งจากอีกฟาก ส่วนพื้นที่ตรงกลางระหว่างแท่นเคลื่อนย้ายต่างก็เต็มไปด้วยลาวาที่มีความยาวหลายพันกิโลเมตร
“พวกเราจะผ่านที่นี่ไปได้ยังไง? ต่อให้นายบินได้นายก็ไม่น่าจะทนต่ออุณหภูมิที่ร้อนจัดของลาวาได้อยู่ดี” อันธกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาจับคางอย่างครุ่นคิด
ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากบ่อลาวาประมาณ 5 กิโลเมตร แต่คลื่นความร้อนก็ทำให้เขาแทบที่จะไม่สามารถทนรับอุณหภูมิในสถานที่แห่งนี้ได้แล้ว มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการพยายามบินผ่านบ่อลาวาไปโดยตรง ซึ่งมันก็คงจะทำให้ร่างของเขาถูกย่างจนสุกในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที
“แกคือนักรบมนุษย์คนนั้นสินะ”
จู่ ๆ มันก็มีเสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และเมื่อเซี่ยเฟยหันหน้าไปตามเสียงนั้นเขาก็ได้พบกับนักรบชาวเซิร์กในชุดต่อสู้สีเทาเดินออกมาจากทางด้านหลังของหินงอกหินย้อยอย่างเงียบ ๆ
เซี่ยเฟยได้ฝึกฝนประสาทสัมผัสจนอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถสัมผัสถึงตัวตนของคนคนนี้ได้เลย
เมื่อชายหนุ่มนึกถึงความผันผวนของพลังงานที่เขาสัมผัสได้ตั้งแต่เขาวงกตในพื้นที่ชั้นที่ 3 เขาก็ตระหนักได้ในทันทีว่าชายคนนี้คงจะแอบตามเขามาตั้งแต่พื้นที่ชั้นที่ 3 แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นนักรบคนนี้ยังมีวิชาคล้ายกับวิชาพรางจิต แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าการจัดการกับนักรบคนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างใจเย็นพร้อมกับขยับเท้าหันร่างกลับมาเผชิญหน้ากับชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง
ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับหันไปมองชายคนนั้นด้วยแววตาที่เฉยเมย ซึ่งบนไหล่ของเขาคนนี้ก็มีสัตว์อสูรที่มีลักษณะคล้ายตัวชะมดขดตัวเป็นก้อนกลม
“ฉันชื่อนานี่”
“ที่แท้แกก็คือนักรบศักดิ์สิทธิ์อันดับ 9 ที่เป็นนักรบที่เร็วที่สุดของเผ่าพันธุ์เซิร์กนี่เอง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
นานี่ค่อย ๆ เคลื่อนไหวไปด้านข้างอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกันกับเซี่ยเฟยที่เคลื่อนไหวในลักษณะคล้าย ๆ กัน ทำให้พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวไปตามแนวของวงกลม
เมื่อได้เห็นสัตว์เลี้ยงของตัวเองกำลังตัวสั่น เขาก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า
“ดูเหมือนสัตว์อสูรของแกจะทรงพลังมากจนทำให้สัตว์เลี้ยงของฉันกลัวจนขยับตัวไม่ได้ ว่าแต่สัตว์อสูรตัวนั้นคือตัวอะไรน่ะ? มันเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ระดับไหนงั้นเหรอ?”
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มขี้เล่นออกมาเป็นคำตอบ พร้อมกับขนอุยที่อยู่บนไหล่ที่อ้าปากส่งเสียงร้องคำรามออกมา 3 ครั้งอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
เสียงคำรามครั้งแรกทำให้ชะมดสะดุ้งตกใจจนขนตั้ง เสียงคำรามครั้งที่ 2 ทำให้ดวงตาสีอำพันของมันเหลือกขึ้นไปด้านบน และเสียงคำรามครั้งสุดท้ายทำให้ชะมดผู้เคราะห์ร้ายไม่สามารถทนรับความหวาดกลัวได้อีกต่อไป แล้วทำให้มันช็อกตายอยู่บนไหล่เจ้าของของตัวเอง
“มันชื่อขนอุย รู้เอาไว้แค่นี้ก็พอแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
การแสดงออกของนานี่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก เพราะการที่มันส่งเสียงร้องคำรามออกมา 3 ครั้งและทำให้สัตว์เลี้ยงของเขาตกใจจนกลัวได้ มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสัตว์อสูรตัวนั้นจะต้องเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในระดับที่สูงมาก
“แม้สัตว์อสูรของนายจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่านายจะแข็งแกร่งด้วยเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเป็นผู้ที่มีความเร็วที่สุดในเผ่าเซิร์ก?” นานี่กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เซี่ยเฟยจากระยะไกล
เซี่ยเฟยยักไหล่อย่างไม่แยแส
“แกแข็งแกร่งมากที่มีความเร็วเหนือกว่า 30,000 เมตรต่อวินาที แต่ความเร็วของฉันมันมีมากกว่าแก!!”
ฟุบ!
ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบนานี่ก็พุ่งตัวไปข้างหน้าพร้อมกับใช้ตะขอเหล็กสีเงินบนมือจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟย
“40,000 เมตรต่อวินาที! ระวังตัวไว้ด้วย” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
แต่กว่าที่อันธจะพูดประโยคเมื่อสักครู่จนจบ เซี่ยเฟยก็ได้รับการโจมตีจากนานี่ไปแล้วไม่น้อยกว่า 100 ครั้ง
นี่คือการดวลกันระหว่างสองสุดยอดนักรบสายความเร็ว ซึ่งถ้าหากว่าใครมีดวงตาที่ไม่เร็วพอ มันก็ไม่มีทางที่เขาคนนั้นจะสามารถมองเห็นความเร็วของทั้งสองคนนี้ได้
เป้ง!
หิมะโปรยปะทะเข้ากับตะขอสีเงินจนก่อให้เกิดเสียงดังบาดแก้วหู พร้อมกับทั้งสองที่ถอยไปด้านหลังแยกออกจากกันคนละมุมของสนามรบ
“ปฏิกิริยาตอบสนองของแกเร็วดีนี่ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าแกจะสามารถทนรับการจู่โจมของฉันได้อีกนานสักแค่ไหน” นานี่กล่าวด้วยน้ำเสียงอันเย่อหยิ่ง
ฟุบ!
ทั้งสองฝ่ายเริ่มปะทะกันอีกครั้ง ซึ่งในเวลาเพียงแค่ 1 วินาทีพวกเขาก็ได้โจมตีเข้าใส่กันและกันไม่น้อยกว่า 500 ครั้ง ทำให้แม้แต่กล้องที่ทันสมัยที่สุดก็ยังไม่สามารถจะจับภาพการต่อสู้ของพวกเขาได้
เมื่อทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกัน มันก็เริ่มมีบาดแผลปรากฎบนนิ้วก้อยข้างซ้ายของเซี่ยเฟย ขณะที่นานี่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันในครั้งนี้เลย
ในการแข่งขันระหว่างผู้ใช้พลังสายความเร็วเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้มีความเร็วสูงกว่าจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนั้นไป แต่โชคดีที่เซี่ยเฟยมีวิชาเล่ห์กายาและมีปฏิกิริยาตอบสนองที่เหนือชั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่นานี่จะสามารถจู่โจมเซี่ยเฟยจนถึงตายได้ในระยะเวลาสั้น
เมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยได้รับบาดเจ็บ ขนอุยก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมาอย่างกระวนกระวาย แต่มันก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้ นั่นก็เพราะว่าลูกบอลพลังงานของมันไม่สามารถที่จะไล่ตามความเร็ว 40,000 เมตรต่อวินาทีได้อย่างแน่นอน
“นี่น่ะเหรอมนุษย์ที่มีความเร็วสูงสุด ฉันล่ะผิดหวังจริง ๆ เมื่อกี้นี้ฉันยังไม่ได้ใช้กำลังสูงสุดของฉันเลย นี่ถ้าหากว่าฉันใช้กำลังสูงสุดมันก็คงจะจบภายใต้การจู่โจมเพียงแค่ครั้งเดียวสินะ” นานี่กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง
เซี่ยเฟยยังคงรักษาความสงบและพยายามมองหาช่องทางที่เขาจะตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปได้
“ยอมจำนนซะ! แล้วถ้าหากว่าแกยอมคลานลอดใต้หว่างขาฉัน ฉันจะยอมไว้ชีวิตแกสักครั้งหนึ่งก็ได้” นานี่กล่าวพร้อมกับถ่างขาออกอย่างชั่วร้าย
เซี่ยเฟยขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็กดนิ้วเบา ๆ ลงที่สวิตซ์บนแขนขวาเพื่อปลดเซเลสเชียลมูนออกมาจากฝัก
“ไร้ประโยชน์น่า มีดกลม ๆ พวกนั้นมันจะทำอะไรฉันได้” นานี่กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“มีอย่างหนึ่งที่แกพูดผิดไป”
“อะไร?”
“ฉันไม่ใช่มนุษย์ที่มีความเร็วมากที่สุด”
“มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละ ความเร็วของแกเทียบขี้เล็บของฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ” นานี่กล่าวอย่างเย็นชา
คำพูดเหน็บแนมของนานี่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเซี่ยเฟยเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับสัตว์อสูรที่เย่อหยิ่งอย่างขนอุยแล้วมันก็ไม่สามารถทนรับคำดูถูกได้อีกต่อไป
ถุย! ถุย! ถุย!
นานี่ขยับหลบออกไปราวกับภาพลวงตาทำให้การโจมตีทั้งหมดของขนอุยพลาดเป้าไป
“ไอ้หนู! แกไม่รู้หรือไงว่าความเร็วเป็นพลังที่รับมือได้ยากมากที่สุดในจักรวาล ในเมื่อเจ้านายของแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน แกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันด้วยเหมือนกัน” นานี่กล่าว
เมื่อได้รับคำดูถูกอีกครั้งขนอุยก็ส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกับดวงตาของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
“พอเลย ถ้าหากว่าฉันจัดการเรื่องของตัวเองไม่ได้ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติมากพอจะเป็นเจ้านายของแกหรอก” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยื่นมือออกไปตบหัวขนอุยเบา ๆ
“ไม่ต้องมาพูดดี ตราบใดก็ตามที่แกเอาชนะฉันไม่ได้ คำพูดของแกมันก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น” นานี่กล่าว
เซี่ยเฟยยังคงนิ่งสงบก่อนที่เขาจะยกนิ้วชี้ขึ้นมากระดิกเบา ๆ ราวกับว่าเขากำลังยั่วยุให้นานี่ทำการโจมตี
นานี่มีความเร็ว 40,000 เมตรต่อวินาที ขณะที่เซี่ยเฟยมีความเร็วเพียงแค่ 30,000 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น มันจึงเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาก่อนที่เซี่ยเฟยจะได้รับความพ่ายแพ้ นานี่จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงกล้าท้าทายเขาซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะแสดงพลังที่แท้จริงให้แกได้เห็นเอง”
พริบตาต่อมากล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างของนานี่ก็แข็งเกร็งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ชุดต่อสู้ของเขาก็ส่องประกายออกมามากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ใช้พลังสายความเร็วจำเป็นจะต้องพึ่งพาชุดต่อสู้มากกว่าผู้มีพลังพิเศษสายอื่น ๆ เพราะถ้าหากว่าพวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดโดยที่ร่างกายไม่ได้รับการปกป้อง มันก็จะเป็นร่างกายของพวกเขาเองที่แหลกสลายเนื่องจากร่างกายไม่สามารถทนรับแรงดันลมได้มากเกินไป
ฟุบ!
ร่างของนานี่พุ่งออกไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ โดยมีตะขอเหล็กยื่นไปด้านหน้าและมีเป้าหมายคือชายหนุ่ม
แม้ว่าอีกฝ่ายจะพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วสูง แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน
‘เขาคิดจะยอมแพ้แล้วอย่างนั้นเหรอ?’
ย๊าก!!
จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างกะทันหันพร้อมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น
ขวับ! ขวับ! ขวับ! …
เซเลสเชียลมูนกลายเป็นแสงสีเงินส่องสว่างทั่วทั้งบริเวณ พร้อมกับแรงกดดันมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างฉับพลัน
วิชาลับพลังจิตขั้นที่ 3 กลอริฟาย!
พริบตาต่อมาใบมีดเซเลสเชียลมูนทั้ง 18 เล่มก็แตกตัวออกกลายเป็นใบมีดกว่า 1.8 ล้านเล่มที่แยกกันจู่โจมทั่วทุกทิศทุกทาง
แม้ว่านานี่จะเพิ่มความเร็วสู่จุดสูงสุด แต่เขาก็ไม่มีทางหลบการโจมตีที่บ้าระห่ำเช่นนี้ได้ ดังนั้นยิ่งเขาเร่งความเร็วมากเท่าไหร่บาดแผลที่เขาได้รับมันก็ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! …
ร่างของนานี่ถูกตัดด้วยใบมีดเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ก่อนที่ร่างของเขาจะตกลงมากระทบกับพื้นอย่างหนักโดยไม่มีลมหายใจอีกต่อไป
“ฉันลืมบอกแกไปอย่างว่าถึงแม้ฉันจะไม่ใช่ผู้มีพลังความเร็วมากที่สุด แต่ฉันก็เป็นมนุษย์คนเดียวที่มีพลังพิเศษ 2 สาย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
***************
จบแล้วสำหรับกลุ่ม VIP5 [361-450] สำหรับใครที่สนใจเข้ากลุ่มสามารถติดต่อได้ที่ เพจสนพ.เซียนอ่าน ได้เลยนะคะ โดยทางกลุ่ม VIP จะค่าปลดตอนถูกกว่าทางหน้าเว็บแต่อัปตอนพร้อมกันน๊า
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 207
แสดงความคิดเห็น