บทที่ 423: ฆ่าพวกมันซะ

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 423: ฆ่าพวกมันซะ

ในเผ่าของพวกหูเจียวเจียว

 

เรื่องราวของหูชิงซานกับเฟิงเฉิงที่กลายเป็นคู่ครองกัน ในไม่ช้าก็แพร่กระจายไปทั่วเผ่า

 

เมื่อจิ้งจอกสาวทราบข่าวดังกล่าว เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อ

 

พี่ชายคนโตของเธอไม่ใช่ผู้ชายทื่อ ๆ ที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความรักหรอกหรือ?

 

เหตุใดทั้งคู่ถึงตกลงปลงใจกันเร็วขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ได้มาบอกเธอด้วยซ้ำ

 

จากนั้นหูเจียวเจียวก็มองไปที่หนังสือ ‘แผนรัก 36 แผน’ ในมือ

 

ในเมื่อพี่ใหญ่ลงเอยกับผู้หญิงที่เขารักแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องศึกษาต่อและใส่มันกลับลงในมิติ แล้วหันไปเตรียมของขวัญที่จะเอาไปแสดงความยินดีกับพวกเขาถึงบ้าน

 

ช่วงนี้เด็ก ๆ ออกจากบ้านกันแต่เช้าแล้วกลับถึงบ้านมืดค่ำทุกวัน หญิงสาวได้ยินมาว่าลูกของเธอถูกเซี่ยหมานจับฝึกทักษะการล่าสัตว์แบบเข้มข้น เขาเข้มงวดมากจนผู้หญิงในเผ่าก็ทำตาม พวกนางบังคับให้ลูก ๆ ทํางานอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น แล้วทุกคนในเผ่าก็ยุ่งกันไปหมด

 

ส่วนหลงหลิงเอ๋อก็ไปเรียนรู้วิชาแพทย์กับหมอหนูทั้งวัน

 

ในขณะที่หลงโม่ออกไปตามหากลุ่มคนของเฟิงอัน ทำให้ปัจจุบันในบ้านหินหลังใหญ่เหลือเพียงจิ้งจอกสาวคนเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ

 

แต่หูเจียวเจียวไม่คาดคิดว่าทันทีที่เธอก้าวออกจากประตูบ้าน เธอก็เห็นมังกรดําตัวใหญ่บินมุ่งหน้ากลับมาจากที่ไกล ๆ

 

ไม่นาน มังกรดําก็ร่อนลงมาในร่างมนุษย์

 

เขาคือหลงโม่ สามีผู้ทรงเสน่ห์ของเธอนั่นเอง

 

“หืม? ทําไมวันนี้เจ้ากลับมาเร็วจัง?” หูเจียวเจียวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

 

“พอข้าพบพวกเฟิงอัน ข้าก็กลับมา” ชายหนุ่มเดินไปหาเธอพร้อมกับนัยน์ตาสีทองลึกล้ำที่จับจ้องภรรยาของตนจนแทบจะกลืนกินเธอทั้งตัว

 

การออกไปข้างนอกทุกวันทําให้เขามีเวลาดูแลเจียวเจียวน้อยลง

 

นั่นทำให้หลงโม่ตําหนิตัวเอง

 

“เจอเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?” ดวงตาของจิ้งจอกสาวเบิกกว้างขึ้น

 

กลุ่มภูตของเฟิงอันมีไหวพริบมาก หลังจากพวกเขาพบว่าตนเองถูกภูตนกติดตาม พวกเขาก็เปลี่ยนที่กบดานหลายแห่ง ทําให้หลงโม่ต้องวุ่นวายออกตามหาอีกฝ่ายมาสักพัก

 

“ข้าจะได้อยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่บ้านไง” มังกรหนุ่มพยักหน้าและจับมือเล็ก ๆ ของภรรยาสาวมาซุกไว้ในหน้าอกของเขาเพื่ออุ่นมือให้อีกคน

 

วินาทีนี้หูเจียวเจียวจําวันที่เธอแทบจะไม่สามารถลุกจากเตียงนานกว่า 10 วันได้ขึ้นใจ ดังนั้นเธอไม่อยากได้ยินคำว่า ‘อยู่เป็นเพื่อน’ จากปากเขาอีก!

 

ไม่ต้องหรอก ฉันเกรงใจ!

 

“ทําไมเจ้าถึงออกมาข้างนอก เจ้าจะไปไหน?”

 

หลงโม่ถามพลางมองไปยังหัวเข่าที่ปกคลุมด้วยหิมะของอีกคน ก่อนจะใช้แขนข้างหนึ่งรวบเอวบางแล้วดึงเธอออกมาจากหิมะเหมือนหัวไชเท้า จากนั้นชายหนุ่มก็อุ้มคนรักขึ้นมาอย่างง่ายดายและพาหญิงสาวเดินกลับบ้านเหมือนเด็ก

 

“ข้าได้ยินมาว่าเฟิงเฉิงกับพี่ใหญ่ตกลงเป็นคู่กันแล้ว ข้าเลยกำลังจะออกไปเยี่ยมพวกเขา” หูเจียวเจียวรีบอธิบายขณะถูกคนตัวสูงอุ้มเข้าบ้าน อีกทั้งเธอไม่ต้องการให้ของที่เตรียมไว้ไร้ประโยชน์

 

หญิงสาวรู้ดีที่สุดว่ามันยากแค่ไหนเวลาใช้ร่างมนุษย์เดินในหิมะที่กองหนาทึบแบบนี้

 

แล้วอีกอย่าง จิ้งจอกสาวแปลงร่างไม่เป็น

 

มีครั้งเดียวที่เธอเคยเปลี่ยนมือเป็นกรงเล็บได้นั่นก็คือตอนที่มีเรื่องกับลู่มู่ แต่มันก็นานมาแล้วและเธอไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนได้อย่างไร

 

สิ่งนี้มันอาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนจริง ๆ

 

เมื่อหลงโม่ได้ยินคําพูดของหูเจียวเจียว เขาก็หยุดเดิน

 

“ข้าจะพาเจ้าไปเอง” แน่นอนว่าเขามักจะตามใจเจียวเจียวเสมอ

 

ถ้าให้หลงโม่พาบินไป เธอจะถึงที่หมายภายในเวลาไม่กี่นาที

 

ใจจริงจิ้งจอกสาวอยากจะปฏิเสธว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อมองไปยังหิมะสีขาวโพลนที่เกือบจะสูงถึงเอวในระยะไกล สุดท้ายเธอก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟังก่อนจะโอบแขนไว้รอบคอของมังกรหนุ่ม

 

พอทั้งคู่มาถึงบ้านของเฟิงเฉิง พวกเขาก็บังเอิญเห็นว่าหัวหน้าเผ่ากําลังมาที่นี่เหมือนกัน โดยที่เซี่ยหมานและอิงหยวนก็เดินตามหลังอีกฝ่ายมาด้วย

 

เมื่อทั้ง 3 คนเห็นหลงโม่อยู่ที่นี่ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ 

 

“ทําไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ เจ้ากล้ามากนะที่ทิ้งงานไปกลางคันแบบนั้น” อินทรีหนุ่มถามอย่างโกรธเคือง 

 

เนื่องจากกลุ่มภูตของเฟิงอันผู้ทรยศเป็นภัยคุกคามต่อกับผู้หญิงมากกว่า 30 คนในเผ่า เรื่องนี้จึงมีความสําคัญมากและการค้นหาเฟิงอันจึงเป็นภารกิจที่ชายหนุ่มทั้ง 3 คนได้รับมอบหมายร่วมกัน

 

อีกทั้งท่านผู้เฒ่ายังต้องการให้ภูตที่เป็นสมาชิกใหม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวเผ่าพื้นเมืองโดยเร็วที่สุด เขาเลยขอให้เซี่ยหมานเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเป็นพิเศษ

 

แต่ไม่มีใครรู้ว่าทันทีที่พวกเขาพบที่อยู่ของกลุ่มเฟิงอัน หลงโม่ก็บินหนีไปเสียก่อน

 

เวลานั้นอิงหยวนอารมณ์เสียมากเพราะตนคิดว่าแค่พวกเขา 3 คนก็สามารถจัดการกับศัตรูทั้งหมดได้สบาย ๆ ในขณะที่เซี่ยหมานมีอารมณ์เย็นกว่าจึงคอยรั้งอีกฝ่ายไว้ ถึงแม้ว่าทั้ง 2 คนจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ แต่ระหว่างที่เดินทางกลับเผ่า พวกเขาแทบจะไม่ทะเลาะกันเลย

 

ทางด้านมังกรหนุ่มปรายตามองคนพูดและตอบอย่างเย็นชาว่า

 

“ข้าแค่มาส่งเจียวเจียว”

 

จังหวะนั้นจิ้งจอกสาวเดินออกมาจากด้านหลังคนตัวสูง ก่อนจะถามด้วยความสงสัย 

 

“มีอะไรกันหรือ? หลงโม่ เจ้ายังมีงานต้องทำอีกหรือ?”

 

“หลงโม่—”

 

“ไม่เป็นไรหรอก”

 

ก่อนที่อิงหยวนจะบ่นอีกประโยค เขาก็ถูกหลงโม่พูดขัดจังหวะ

 

จากนั้นเจ้าของดวงตาสีทองก็จ้องมองไอ้นกปากมากแบบเย็นชา

 

ในขณะเดียวกัน เมื่อเซี่ยหมานที่ยืนอยู่ข้างหลังเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก 

 

“วันนี้ต้องขอบคุณหลงโม่ เขาพบร่องรอยที่พวกเฟิงอันทิ้งไว้ มิฉะนั้นเราคงจะไม่สามารถกลับมาได้เร็วขนาดนี้”

 

“อิงหยวน ข้าพูดถูกหรือเปล่า?”

 

เขาหันไปถามอินทรีหนุ่มด้วยใบหน้าเคร่งขรึมคล้ายกับจะเตือนอีกคนถึงบางสิ่ง

 

ทางด้านอิงหยวนที่หัวช้ารู้สึกงุนงงอยู่พักหนึ่ง

 

ชายหนุ่มโกรธที่หลงโม่บินหนีไปก่อน แต่เขาลืมไปว่าการตามหาเฟิงอันพบเดิมทีเป็นความดีความชอบของเจ้ามังกรนั่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่หนีไปกลางคัน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถบินตามเขาทันอยู่ดี

 

เมื่ออินทรีหนุ่มคิดได้เช่นนี้ก็ยิ่งหดหู่มากขึ้น

 

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่สามารถกล่าวโทษหลงโม่ที่หนีกลับเผ่าก่อนได้ ดังนั้นเขายังจะหาเรื่องโต้เถียงกับหมอนั่นทำไมอีก?

 

ส่วนผู้อาวุโสมีสีหน้างุนงง พวกเขาคุยเรื่องนี้กันไปแล้วไม่ใช่หรือ? ทําไมเซี่ยหมานถึงถามอีกรอบล่ะ?

 

แต่พอชายชราเห็นหน้าหูเจียวเจียว เขาก็ถึงบางอ้อทันที

 

โอ้ อย่างนี้นี่เอง~

 

ปรากฏว่าเซี่ยหมานจงใจชื่นชมหลงโม่ต่อหน้าเจียวเจียว ภูตหนุ่มคนนี้เป็นผู้ชายที่ดีและมีความยุติธรรม อีกทั้งเขาไม่เคยเกรงกลัวแม้ในยามที่เผชิญกับศัตรูหัวใจ

 

เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง!

 

ตอนนี้ความประทับใจของหัวหน้าเผ่าที่มีต่อเซี่ยหมานดีขึ้นเล็กน้อย

 

“น้องเล็ก ท่านผู้เฒ่า ทําไมพวกท่านถึงมาที่นี่กันหมด?” หูชิงซานได้ยินการเคลื่อนไหวข้างนอกจึงเปิดประตูออกมาดู แล้วพบว่ามีภูตกลุ่มหนึ่งยืนอยู่นอกประตู

 

จากนั้นเขารีบเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อเชิญแขกทุกคนเข้าไปในบ้าน

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าท่านผู้เฒ่ามีสิ่งสําคัญที่จะพูด เธอจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่พวกผู้ชายคุยกัน

 

“เรามาที่นี่เพื่อตามหาเฟิงเฉิงเพราะมีข่าวดีจะแจ้ง เราพบที่กบดานของเฟิงอันแล้ว”

 

แน่นอนว่าทันทีที่ชายชราเข้ามาในบ้าน เขาแทบรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวดีให้หูชิงซานทราบ

 

“จริงหรือ?”

 

พอจิ้งจอกหนุ่มได้ยินแบบนี้ เขาก็รีบเข้าไปในห้องเพื่อเรียกเฟิงเฉิงออกมา

 

“เฟิงเฉิง เจ้าจะทํายังไงกับภูตกลุ่มนี้ ข้ามาขอความเห็นจากเจ้าก่อนที่จะลงมือ” ผู้อาวุโสถามพลางมองไปที่นาง

 

ปัจจุบันหญิงสาวยังคงถือไม้เท้าเฟิงหลีไว้ในมือ เมื่อนางได้ยินว่าพวกหลงโม่พบคนทรยศแล้ว ความสุขบนใบหน้าของนางก็จืดจางลงจนเหลือแต่ความเย็นชา

 

“เจ้าต้องการทํายังไงกับพวกเขา? จะให้เราจับพวกเขามาสั่งสอน หรือจับพวกเขามัดแล้วโยนลงไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ...”

 

หัวหน้าเผ่าถามด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

 

“ไม่ต้องจับหรอก” เฟิงเฉิงตอบโดยไม่คิดให้เสียเวลา

 

กลุ่มคนที่ได้ยินพากันตกตะลึง

 

นางจะบอกว่าให้ปล่อยคนพวกนั้นไปงั้นรึ?

 

ทว่าหูเจียวเจียวดูเหมือนจะเดาอะไรบางอย่างได้จึงไม่มีร่องรอยของความประหลาดใจในดวงตาของเธอ

 

“เฟิงเฉิง พวกเขาเป็นคนทรยศ ถ้าเจ้าตัดใจไม่ลง ข้าจะช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้เอง...” หูชิงซานเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วยหากจะปล่อยเฟิงอันไปง่าย ๆ

 

คู่ของเขาเกือบตายด้วยน้ํามือของมัน!

 

ต่อให้มันตายร้อยครั้งพันครั้งก็ไม่เพียงพอที่จะระบายความโกรธ!

 

“ฆ่าพวกมันซะ” เฟิงหลีสาวพูดขัดจังหวะจิ้งจอกหนุ่ม

 

นั่นทำให้เสียงของหูชิงซานหยุดลงอย่างกะทันหัน

 

ต่อมา เฟิงเฉิงอธิบายด้วยน้ำเสียงสงบว่า “พ่อและแม่ของข้าถูกเฟิงอันฆ่าตาย และผู้หญิงที่ทุกคนเห็น เดิมทีพวกนางมีลูกและคู่ครอง แต่พวกเขาหลบหนีมาไม่ทัน สุดท้ายพวกเขาทั้งหมดก็ตายด้วยน้ํามือของเฟิงอัน”

 

เหตุผลที่ภูตเฟิงหลีหญิงสามารถตัดสินใจต่อสู้กับศัตรูได้แบบตัวตายก็เพราะพวกนางไม่มีทางออก

 

พวกมันไม่ได้เป็นเพียงคนทรยศ แต่เป็นศัตรูที่ยืนกันคนละฝั่ง

 

เฟิงเฉิงไม่เคยคิดที่จะปล่อยอีกฝ่ายไป และตั้งแต่ต้นจนจบนางมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น

 

นั่นคือการแก้แค้น!

 

ในเวลาเดียวกัน หูชิงซานฟังคําพูดของภรรยาสาวแล้วรู้สึกทุกข์ใจ 

 

“ในอนาคตข้าจะไม่ยอมให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องอะไรอีกอย่างแน่นอน”

 

“ท่านผู้เฒ่า! คราวนี้ให้ข้าเป็นคนจัดการเอง!”

 

ชายหนุ่มมองไปที่หัวหน้าเผ่าพร้อมเอ่ยปากอาสาเสียงดังก้อง

 

ศัตรูของเฟิงเฉิงก็เหมือนศัตรูของเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะแก้แค้นให้นางเองกับมือ!

 

“ข้าจะไปด้วยตนเอง” เฟิงเฉิงกระชับไม้เท้าในมือขณะที่พูด

 

หญิงสาวต้องการแก้แค้นด้วยมือตัวเองเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของพวกผู้หญิงและพ่อแม่ของตน

 

ขณะนี้ใบหน้าของชายสูงวัยเคร่งขรึม เมื่อเห็นว่าหูชิงซานไม่ได้ตั้งใจจะขอความเห็นจากเขาที่เป็นหัวหน้าเผ่า เขาจึงพยักหน้ารับ

 

“เอาล่ะ ข้าจะส่งภูตไปกับพวกเจ้ามากกว่านี้”

 

เขาต้องสนับสนุนความต้องการของทั้งคู่

 

หลังจากท่านผู้เฒ่าพิจารณาเสร็จแล้ว เขาก็จากไปพร้อมกับอิงหยวนและเซี่ยหมาน

 

เดิมทีหูเจียวเจียวจะมาแสดงความยินดีแก่พี่ใหญ่กับเฟิงเฉิง แต่เธอไม่ได้คาดคิดว่าทั้งคู่จะต้องออกไปผจญภัยนอกเผ่าในไม่ช้า

 

เธอมองไปที่ร่างกายอ่อนแอของเฟิงเฉิงแล้วอดรู้สึกเป็นกังวลไม่ได้ 

 

“เฟิงเฉิง เจ้าจะไหวไหม? ข้างนอกมันหนาวมากกว่าเดิมแล้ว ข้ายังมีเสื้อกันหนาวอยู่บ้าง เจ้าเอามันไปใส่เถอะ...”

 

เนื่องจากปัจจุบันพายุหิมะกําลังมา ซึ่งมันอันตรายมากหากจะออกเดินทางไกลในเวลานี้

 

“ขอบคุณเจ้ามาก แต่ข้าสามารถใช้ร่างสัตว์เพื่อป้องกันความหนาวเย็นได้”

 

เฟิงหลีสาวยิ้มจาง ๆ พร้อมพูดขอบคุณในความหวังดีของจิ้งจอกสาว

 

“...”

 

ให้ตายเถอะ!

 

แม้แต่เฟิงเฉิงก็ยังแปลงร่างได้เลย!

 

หูเจียวเจียวแอบบ่นพึมพําในใจ ดูเหมือนว่าเธอต้องเรียนรู้วิธีการแปลงร่างแล้ว มิฉะนั้นในอนาคตมันจะต้องมีคนระแคะระคายจนสงสัยว่าเธอมีความลับซ่อนอยู่แน่ ๆ

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.