บทที่ 223: อาบน้ำในอ่างหยก
ทันทีที่ทุกคนได้ยินเสียงผู้นำสูงสุดของเผ่า แม่กวางเฒ่าที่ดิ้นอยู่บนพื้นก็หยุดเคลื่อนไหว นางหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความกลัว ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงนอนลงบนพื้นต่อไปด้วยท่าทางไร้ยางอาย
ตอนนี้นางกำลังหิว ถ้าไม่หน้าด้านแล้วนางจะได้กินไหม?
“ท่านผู้เฒ่า ข้าแค่อยากกินเนื้อ ข้าเป็นผู้หญิง ท่านจะปล่อยให้ข้าอดตายไม่ได้!”
หญิงชราพูดอย่างอาจหาญ
“ไม่ต้องกังวล เจ้าจะไม่อดตายหรอก” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่ากล่าวพลางส่ายหัว
พอลู่มู่ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นมีความสุข
ท่านผู้เฒ่าตกลงที่จะมอบเนื้อให้นางหรือ?
นางรู้ว่าหากชายผู้นี้ใจอ่อนเมื่อไหร่ เขาจะไม่เพิกเฉยต่อนางอย่างแน่นอน
“ท่านผู้เฒ่า ข้าต้องการเนื้อเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น” แม่กวางเฒ่าลุกขึ้นจากพื้นโดยไม่สนใจภูตชายที่ตนเพิ่งคว้าขาเมื่อกี้อีก
จากนั้นหญิงชราก็ยื่นมือออกไปหาผู้อาวุโสของเผ่าอย่างหน้าด้าน
ส่วนชายคนนั้นก็รีบไปซ่อนตัวทันทีที่นางปล่อยมือ
“ท่านผู้เฒ่า ท่านจะให้อาหารนางง่าย ๆ ไม่ได้นะ!” หูชิงเกาตะโกนห้ามเสียงดัง และโต้กลับแบบเฉียบขาด “นางไม่ใช่คู่ของเรา ทำไมเราต้องแบ่งเนื้อให้นางกินด้วย!?”
ในเผ่า ลู่มู่มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีมาตลอด เพราะสามีของนางตายไปทีละคน จนตอนนี้ไม่มีภูตชายคนไหนอยากจะเอานางมาเป็นคู่ชีวิตอีก
พอหูชิงเกาพูดห้ามปรามเช่นนั้น ภูตคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย
ทว่าหัวหน้าเผ่าส่ายหัวอีกครั้งด้วยรอยยิ้มใจดีและพูดแบบไม่เร่งรีบ
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าถามท่านหมอแล้ว ตราบใดที่ภูตมีน้ำดื่ม พวกเขาจะไม่อดตายหากไม่ได้กินอะไรเป็นเวลาครึ่งเดือน”
“ถ้าเจ้ากำลังจะอดตาย ข้าจะส่งคนไปเอาอาหารมาให้”
“???” แม่กวางเฒ่ามีสีหน้าประหลาดใจ
นี่คือสิ่งที่ท่านหมอพูดหรือ!
ลู่มู่ตกตะลึงโดยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าคนเป็นหัวหน้าเผ่าจะพูดเช่นนั้น
ทางด้านหูชิงเกาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่า ๆๆ! ท่านผู้เฒ่า ข้อเสนอนี้พวกเราตกลง! ข้าจะส่งอาหารให้นางเองถ้าถึงเวลานั้นจริง ๆ”
หากหญิงชราผู้นี้เกิดหิวตายขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาคงจะถูกเทพอสูรลงโทษ
ดังนั้นเหล่าภูตชายจึงไม่ควรปล่อยให้นางอดตาย แต่จงปล่อยให้นางทุกข์ทรมานแบบนี้ดีกว่า
ความคิดของท่านผู้เฒ่าช่างล้ำเลิศมาก!
เมื่อกลุ่มภูตชายที่อยู่รอบ ๆ เห็นสีหน้าบูดบึ้งของลู่มู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
ในอดีตทุกคนทำได้แค่ปล่อยให้แม่กวางเฒ่าเอาเปรียบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นอีกฝ่ายถูกโต้กลับจนหมดสภาพ!
“ท่านผู้เฒ่า…”
ลู่มู่ทำหน้าเหยเก ในขณะที่นางอยากจะพูดอะไรบางอย่างมากกว่านี้ แต่นางก็ถูกอีกฝ่ายขัดจังหวะเสียก่อน
“เพราะเห็นแก่ที่เจ้าเป็นผู้หญิง ข้าปล่อยให้เจ้าอดตายไม่ได้ แล้วก็…”
หัวหน้าเผ่าถูคางตัวเองเบา ๆ ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นอย่างเคร่งขรึมและกวักมือเรียกให้ผู้ชายคนหนึ่งมาหาตน
บัดนี้ดวงตาของหญิงชราเป็นประกาย นางมองไปที่ผู้อาวุโสอย่างมีความหวังโดยคิดว่าเขากำลังจะเปลี่ยนใจ
ในวินาทีถัดมา ใครจะไปคาดคิดว่าผู้นำสูงสุดของเผ่าจะสั่งชายคนนั้นว่า
“ไปขุดหิมะหนา ๆ ให้นางหน่อย ถ้านางหิวก็ให้นางกินหิมะสัก 2-3 คำ และดื่มน้ำในตอนที่กระหาย ถ้านางไม่พอกิน เจ้าจงมาหาข้าอีกครั้ง”
“ข้าช่วยเจ้าได้แค่นี้แหละ”
หัวหน้าเผ่ายิ้มจาง ๆ พร้อมเผยสีหน้าอ่อนโยนและใจดีซึ่งทำให้ลู่มู่พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
“...”
...
ยามที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
ลมหนาวข้างนอกเริ่มพัดแรงขึ้น แต่ข้างในบ้านหินกลับอบอุ่น
ขณะนี้เด็กทั้ง 6 ไปนั่งรวมตัวกันรอบเตาไฟเพื่อมองดูเกี๊ยวในหม้ออย่างกระตือรือร้น นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กทุกคนได้กินอะไรใหม่ ๆ และพวกเขาทำมันด้วยมือของตนเอง นั่นยิ่งทำให้พวกเขาต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยอาหารมื้อนี้
ก่อนหน้านี้หูเจียวเจียวใส่เกี๊ยวลงในหม้อขณะไฟกำลังลุกไหม้อยู่ใต้เตาซึ่งคอยส่งความร้อนให้น้ำแกงในหม้อเดือดหลังจากเวลาผ่านไปครู่เดียว
ในตอนที่หญิงสาวยกฝาหม้อขึ้น ไอร้อนผสมกลิ่นหอมก็โชยมากระทบใบหน้าของคนที่อยู่รอบ ๆ
“ท่านแม่! เกี๊ยวของเสี่ยวเหยาสุกหรือยัง?”
หลงเหยาถามพร้อมกับยืดคอมองอาหารที่อยู่ในหม้อ
“ยังไม่สุกเลย เหยาเอ๋อรออีกหน่อยนะ” หูเจียวเจียวตอบพลางกวนน้ำแกงในหม้อ เติมเกลือกับเครื่องปรุงก่อนจะตักน้ำแกงขึ้นมาชิม
“แจ๊บ ๆ” เด็กน้อยกลืนน้ำลายและเลียปากราวกับว่าเขาเป็นคนลิ้มรสมันเองเสียอย่างนั้น
ส่วนพวกพี่ ๆ ที่อยู่ข้างหลังอดไม่ได้ที่จะหันหน้าหนีไปทางอื่น
โชคดีที่พวกเขาอยู่ในบ้าน ถ้าหลงเหยาทำแบบนั้นตอนอยู่ข้างนอกล่ะก็ พวกเขาคงอดทนอยู่กับเจ้าเด็กอ้วนจ้ำม่ำคนนี้ไม่ได้
“ท่านแม่ เกี๊ยวของเสี่ยวเหยากินได้หรือยัง?” คนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะถามผู้เป็นแม่อีกครั้ง
“เอาล่ะ อีกไม่นานก็จะได้กินแล้วนะ”
แม่จิ้งจอกตอบอย่างขบขัน แล้วโรยต้นหอมลงในหม้อ
ไม่กี่อึดใจต่อมา ในที่สุดเกี๊ยวก็สุกแล้ว!
จากนั้นหญิงสาวก็ตักเกี๊ยวใส่ชาม ส่วนหลงโม่ที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเช่นนั้นก็เข้ามาช่วยยกชามเกี๊ยวไปวางบนโต๊ะอาหารในบ้านอย่างชำนาญ
ส่วนลูกน้อยทั้งหลายเดินตามชามเกี๊ยวจากครัวไปที่โต๊ะกินข้าวเหมือนผู้ติดตาม
เมื่อหูเจียวเจียวตักเกี๊ยวชามสุดท้าย ก็ไม่มีเสียงเด็กดังเจี๊ยวจ๊าวอยู่ในครัวแล้ว
แต่พอเธอหันกลับมาก็เห็นว่าหลงเซียวยังคงยืนอยู่ที่ประตูห้องครัว
ขณะนี้เขากำลังถือผ้าหนังสัตว์ไว้ในมือซึ่งดูเหมือนจะยังมีไอร้อนอยู่
ถัดมา เด็กหนุ่มยื่นผ้าหนังสัตว์ให้ผู้เป็นแม่และพูดด้วยน้ำเสียงแหลมเล็กว่า “ท่านเช็ดเหงื่อหน่อยเถอะ ถ้าปล่อยเอาไว้ท่านจะเป็นป่วย”
หูเจียวเจียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มและรับผ้าหนังสัตว์มา “ขอบใจเจ้ามากนะเซียวเซียว”
ผ้าหนังสัตว์ที่ลูกชายมอบให้ยังอุ่นอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งถูกชุบด้วยน้ำร้อนมา
ปัจจุบันลูก ๆ ของเธอเริ่มมีน้ำใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ระยะนี้หลงเซียวสามารถมองเห็นภาพโครงร่างของผู้คนได้ชัดเจนขึ้น พอเขาเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของแม่จิ้งจอก แก้มของเขาก็แดงขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขาหันหลังเดินออกจากห้องครัวไป
ส่วนหลงโม่ก็นำเกี๊ยวชามสุดท้ายมาวางไว้ที่โต๊ะ
หากจะพูดให้ถูก นี่มันไม่ใช่ชามแต่เป็นกะละมังมากกว่า และชามแต่ละใบก็ใหญ่กว่าหัวเด็กด้วย
จากนั้นเด็กทุกคนก็นั่งหลังตรงอยู่ที่โต๊ะ แม้ว่าเกี๊ยวที่อยู่ตรงหน้าแต่ละคนจะดึงดูดใจมากแค่ไหน แต่ถ้าหูเจียวเจียวยังไม่ได้พูดอะไร พวกเขาก็จะไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
ติ๋ง ๆ
บัดนี้หลงเหยาเปิดปากพลางมองเกี๊ยวในชามของพี่น้องคนอื่น ๆ พร้อมกับที่มีของเหลวสีใสไหลจากมุมปากหยดลงบนโต๊ะ
“กินกันเถอะ เดี๋ยวเกี๊ยวจะเย็นไปเสียก่อน”
ทันทีที่แม่จิ้งจอกกล่าว ลูก ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที
เด็กทุกคนไม่รู้ว่าคิดกันไปเองหรือเปล่า เพราะหลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติของเกี๊ยว พวกเขาก็รู้สึกว่าเกี๊ยวที่ทำเองนั้นอร่อยมากเป็นพิเศษ
ทางด้านหลงเหยามองดูเกี๊ยว 4 ชิ้นที่มีรูปร่างแตกต่างกันในชามของตนเอง จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองไปที่เกี๊ยวในชามของหูเจียวเจียว
เหมือนว่าอันในชามของท่านแม่ดูน่าอร่อยกว่า...
ถ้าเสี่ยวเหยาอยากลองชิมดูคงไม่มีปัญหาใช่ไหม?
เจ้าตัวเล็กคิดจบแล้วก็ยื่นช้อนออกไปอย่างละโมบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทำสำเร็จ เขาก็ถูกพ่อมังกรจ้องตาเขียวปั๊ด
เด็กน้อยจึงรีบชักมือกลับทันที
“...”
ฮือ ๆ ท่านพ่อดุมาก! ท่านพ่อแย่ที่สุด!
เมื่อทุกคนกินเกี๊ยวกันเสร็จแล้ว ลูก ๆ ก็ดูพึงพอใจกับรสชาติของเกี๊ยวที่ตนเองทำขึ้นมา
พวกเขาไม่เคยกินอาหารที่มีหน้าตาแปลกและอร่อยขนาดนี้มาก่อน
มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่รู้สึกปวดใจเพราะเกี๊ยวในชามของเขาได้น้อยกว่าคนอื่น
หลังจากมื้ออาหาร หลงโม่ก็ยกชามทั้งหมดไปล้างอย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่หูเจียวเจียวไปตรวจเตียงคั่งในห้องของลูกทั้ง 6
ในฤดูหนาว เมื่อครอบครัวตระกูลหลงมีอาหารและน้ำเพียงพอ พวกเขาก็อยากจะซุกตัวนอนในที่นอนอุ่น ๆ ด้วยเหมือนกัน
พอหูเจียวเจียวกลับมาที่ห้องตัวเอง เธอก็พบว่าภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว
“อะไรน่ะ ทำไมหมอกเยอะจัง?”
จิ้งจอกสาวยกมือขึ้นปัดหมอกตรงหน้าตัวเองพลางเดินเข้าไปข้างในด้วยท่าทางสับสน
มีใครมารมควันอยู่ในห้องของเธอ?
ขณะที่หญิงสาวเข้าไปใกล้ เธอก็ตระหนักว่าเป็นหลงโม่ที่กำลังเทน้ำลงในอ่างอาบน้ำหยก ชายหนุ่มเอาน้ำร้อนมาเทถังแล้วถังเล่าจนไอน้ำลอยอบอวลทั่วห้อง
“หลงโม่ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
“ข้าจะเตรียมน้ำร้อนให้เจ้าอาบ เจ้าไม่อยากอาบน้ำในอ่างหรือ?”
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของหูเจียวเจียวก็เป็นประกาย
เธออยากแช่น้ำในอ่างมาก!
เธอยังไม่ได้ลองอาบน้ำในอ่างหยกเลย!
หูเจียวเจียวเดินเข้าไปอย่างคาดหวัง พลางชำเลืองมองอ่างที่มีน้ำอยู่เพียงครึ่งหนึ่งจึงถามขึ้นมาว่า
“น้ำน้อยไปหรือเปล่า?”
“เท่านี้ก็พอแล้ว” หลงโม่ตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์
เขาคำนวณมาอย่างดีแล้วว่าน้ำปริมาณเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการอาบ 2 คน
จิ้งจอกสาวรู้สึกสงสัย แต่จังหวะนั้นเธอเห็นว่ามังกรหนุ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้ว ซึ่งเผยให้เห็นมัดกล้ามที่เรียงตัวกันสวยงาม
“???”
ก่อนที่เธอจะทันได้โต้แย้งอะไร หลงโม่ก็เข้ามาอุ้มภรรยาสาวในท่าเจ้าหญิง และทั้งคู่ก็ลงไปในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยกัน...
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: บนเตียงเบื่อแล้ว เปลี่ยนไปที่อ่างอาบน้ำบ้าง กรี๊ดดดดดด
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 167
แสดงความคิดเห็น