บทที่ 218: ทำให้มือของเจียวเจียวอุ่น
ขณะนี้หลงโม่แขวนเสื้อหนังสัตว์ที่เขาถอดไปแขวนไว้บนราวไม้ข้าง ๆ
“ฤดูหนาวมาเยือนแล้วหรือ!?”
หูเจียวเจียวพูดทวนซ้ำด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเดินไปตรงประตูแล้วโน้มหน้าออกไปมองข้างนอก
บัดนี้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกภูตกำลังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
จิ้งจอกสาวพบว่าปัจจุบันท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่ แต่มีเกล็ดหิมะบาง ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่ว
เมื่อเกล็ดหิมะตกลงบนพื้น มันก็ละลายกลายเป็นน้ำที่ซึมลงพื้นไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานหลังจากนั้น ละอองสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ด้วยฤดูกาลที่เปลี่ยนผันทำให้อากาศที่เคยอบอุ่นหนาวขึ้นมาในทันที และอากาศที่เย็นยะเยือกนอกประตูก็พุ่งปะทะใบหน้าของหญิงสาว เธอจึงหดคอกลับพลางถูแขนที่เย็นจนขนลุกเบา ๆ
“ใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาวจริง ๆ แล้วสินะ”
หูเจียวเจียวพึมพำกับตัวเอง
ตั้งแต่หญิงสาวทะลุมิติเข้ามาในโลกนิยาย เธอก็ยังไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในโลกภูตมาก่อน และเธอไม่คิดว่าอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วจนทำให้ตนไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจแบบนี้
ทันทีที่จิ้งจอกสาวพูดจบ ไหล่เล็กของเธอก็ถูกคลุมด้วยหนังสัตว์ผืนหนา
จากนั้นหลงโม่ก็จับมือที่เย็นยะเยือกของเธอไปวางไว้ในฝ่ามือใหญ่ของเขา และทำให้มือเล็กอุ่นขึ้นด้วยอุณหภูมิร่างกายของเขาเอง “มันหนาวแล้ว เจ้ากลับไปที่ห้องเถอะ”
เนื่องจากภูตหญิงมักจะป่วยในฤดูหนาว
ที่ผ่านมามีผู้หญิงหลายคนหนาวตายเพราะความหนาวสุดขั้วหัวใจของฤดูกาลนี้
“ลูก ๆ ยังไม่กลับมา ข้าจะไปตามพวกเขากลับมาก่อน” หูเจียวเจียวส่ายหัวปฏิเสธ เพราะก่อนหน้านี้เหล่าเด็กน้อยออกไปเล่นนอกบ้านกัน อีกทั้งพวกเขาสวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ และกระโปรงหนังสัตว์เท่านั้น
แม้ว่าคนเป็นแม่จะหิวหรือหนาวสักแค่ไหน แต่สิ่งที่เธอคำนึงถึงก่อนเป็นอย่างแรกก็คือลูกของตัวเอง
“ข้าจะไปตามพวกเขาให้เอง” มังกรหนุ่มยังคงกอบกุมมือบอบบางของภรรยาสาวให้อุ่นขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่มีข้อกังขา เธอจึงพยักหน้าตกลง
แต่จู่ ๆ เธอก็นึกบางอย่างมาขึ้นได้
“ตายจริง!” หูเจียวเจียวอุทานและรีบดึงมือตัวเองออกจากมือของร่างสูงก่อนจะวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อหยิบห่อหนังสัตว์ออกมา
“ข้ายังไม่ได้ส่งผ้าพันคอและถุงมือที่ข้าทำไปให้ท่านพ่อกับท่านแม่เลย ข้าไม่คิดว่าฤดูหนาวจะมาเร็วขนาดนี้ ข้าต้องเอาของพวกนี้ไปส่งให้พวกเขาก่อนที่หิมะจะตกหนัก” หญิงสาวพูดแบบเร่งรีบ
เธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง
ในฤดูหนาวโลกภูตมีอุณหภูมิที่ต่ำมาก ถ้าพายุหิมะถล่มเมื่อไหร่ การเดินทางไปไหนมาไหนก็จะยากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปหลังจากที่ฤดูอันหนาวเหน็บมาถึง พวกภูตจะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและไม่ออกไปไหนอีกเลย
“เดี๋ยวข้าเอาไปส่งให้” หลงโม่อาสาที่จะไปส่งของแทนเธอ
“ไม่ เจ้าไปตามลูกกลับมา ถ้าปล่อยไว้นานเดี๋ยวพวกเขาจะป่วย”
หูเจียวเจียวส่ายหัวพร้อมกับวางแผนที่จะไปหาครอบครัวตระกูลหูด้วยตัวเอง
ฤดูหนาวในโลกนี้ยาวนานถึง 6 เดือน ถ้าปีไหนโชคร้ายก็จะได้พบกับพายุหิมะตลอด 6 เดือน ซึ่งนั่นจะทำให้เธอไม่ได้พบพ่อแม่เป็นเวลานาน ดังนั้นเธอควรรีบไปหาอีกฝ่ายตอนนี้เลย
“แต่ข้างนอกมันหนาวแล้ว” มังกรหนุ่มขมวดคิ้ว และความไม่พอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเคร่งขรึมของเขา
ทันทีที่ฤดูหนาวมาถึง ผู้หญิงคนอื่นอยากจะนอนซุกตัวอยู่ใต้หนังสัตว์อุ่น ๆ บนเตียงแทบตลอดเวลา
แต่ทำไมเจียวเจียวของเขาถึงชอบออกไปข้างนอกนัก?
“ไม่เป็นไร ข้าไม่หนาว ข้าสวมชุดนี้แล้ว เจ้าลองสัมผัสมันดูสิ มันอุ่นมาก” จิ้งจอกสาวหยิบเสื้อคลุมหนังหมีสีดำออกมา จากนั้นก็จับมือของคนตรงหน้ามาแตะมัน ในขณะที่เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
สัมผัสของมือขาวเนียนอันแสนอ่อนนุ่มนั้นเหมือนกับขนนกที่คอยลูบไล้หัวใจของหลงโม่อย่างแผ่วเบา
แล้วในที่สุดชายหนุ่มก็ใจอ่อน “ตกลง ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รีบไปรีบกลับล่ะ”
โชคดีที่วันแรกของฤดูหนาวหิมะไม่ได้ตกหนัก ดังนั้นจึงยังมีเวลาให้ภรรยาของเขาได้เดินทางออกจากบ้านไปสักระยะหนึ่ง
หลงโม่พยายามคิดในแง่ดีเพื่อปลอบใจตัวเอง
ครู่ถัดมา ร่างสูงช่วยกระชับเสื้อคลุมของหูเจียวเจียวอย่างระมัดระวัง พลางตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งตัวของนางถูกเสื้อคลุมรัดแน่นแล้ว จากนั้นเขาก็เฝ้าดูอีกคนเดินไปจนลับตา
ทางด้านหญิงสาวไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอแค่จะเอาของไปให้พ่อแม่ของตัวเองเท่านั้น แต่สามีของเธอทำเหมือนกับว่าตนจะไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากทางตะวันตกเสียอย่างนั้น
ปัจจุบันหิมะข้างนอกตกน้อยมาก ยามนี้จิ้งจอกสาวสวมเสื้อคลุมแบบมีฮู้ดขนาดใหญ่ นอกจากใบหน้าที่ได้สัมผัสกับลมหนาวแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอยู่ใต้ร่มผ้าทั้งหมด แถมอากาศ ณ ตอนนี้ก็ไม่ต่างจากโลกมนุษย์ที่เธอเคยอยู่มาก่อน
หูเจียวเจียวอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เธอจึงไม่เคยเห็นหิมะเลยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ทันทีที่ได้เห็นหิมะ บางคนก็อนุมานว่าหนาวแล้ว หากแต่หญิงสาวกลับไม่รู้สึกหนาวเลย อีกทั้งภาพที่เธอเห็นขณะนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตของตน
ในไม่ช้าละอองหิมะก็ตกลงมาบนเสื้อคลุมหนังหมีสีดำ
นั่นทำให้จิ้งจอกสาวกังวลว่าในอีกสักครู่หิมะจะตกหนัก นอกจากนี้เธอกลัวว่าสามีหนุ่มจะเป็นห่วง ดังนั้นเธอจึงเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน หูเจียวเจียวก็มาถึงบ้านของครอบครัวตระกูลหู
ขณะนี้หูหมินกำลังสั่งให้หูเฉียงปิดประตูเพราะนางอยากจะไปซุกตัวนอนอยู่บนเตียงคั่ง ทว่านางเหลือบไปเห็นลูกสาวก่อนจึงรีบออกมาทักทายอีกคน
“เจียวเจียว ตอนนี้หิมะตกแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังออกมาข้างนอกอีกล่ะ ถ้าเจ้าป่วยขึ้นมาจะทำยังไง?”
แม่จิ้งจอกวัยกลางคนพูดขณะดึงหูเจียวเจียวเข้าไปในบ้าน
“ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงมาที่นี่? หลงโม่ปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดีหรือเปล่า? เขากลั่นแกล้งเจ้างั้นรึ?”
เมื่อหูเฉียงที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นภรรยาพูด เขาก็ปิดประตูเสียงดังแล้วเดินเข้ามาบอกว่า
“เจียวเจียว เจ้าอยู่ที่นี่เถอะ ไม่ต้องกลับไปแล้ว พ่อจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าเอง!”
เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนที่ชอบตามใจลูกสาวมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมเสียคน ในอดีตพวกเขายังสามารถอยู่ในถ้ำด้วยกันพร้อมกับดูแลหูเจียวเจียวไปด้วยได้ แต่ในปีนี้ต่างคนต่างก็อาศัยอยู่ในบ้านหินของตัวเอง ดังนั้นมันจึงไม่สะดวกสำหรับพวกเขาที่จะไปเยี่ยมเยียนกัน
ความจริงแล้วผู้อาวุโสทั้ง 2 ต้องการให้ลูกสาวอยู่กับตนเองมากกว่า
แม้แต่ห้องในบ้านหลังใหม่ก็ถูกเก็บไว้ให้หูเจียวเจียวโดยเฉพาะ
“ไม่ ท่านพ่อท่านแม่ ข้ามาที่นี่เพราะมีบางอย่างจะมอบให้พวกท่าน” หญิงสาวอธิบายด้วยรอยยิ้ม และแก้ไขความเข้าใจผิดที่พ่อแม่มีต่อหลงโม่
จากนั้นเธอหยิบผ้าพันคอกับถุงมืออย่างละ 2 อันออกมาจากห่อหนังสัตว์
ผ้าพันคอและถุงมือทำจากผ้าขนสัตว์ที่หนามาก มันทั้งนุ่มรวมถึงให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดี นอกจากนี้มันยังถูกเสริมด้วยหนังวัวสีดำที่เย็บไว้ข้างนอกของถุงมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดกั้นความหนาวเย็น
“นี่คืออะไรหรือ?”
ยามนี้ความสนใจของผู้อาวุโส 2 คนถูกดึงดูดโดยสิ่งที่หูเจียวเจียวนำออกมา พวกเขาหยิบสิ่งของแปลกประหลาดมามองด้วยความอยากรู้
ต่อมา จิ้งจอกสาวช่วยหูหมินใส่ผ้าพันคอและถุงมือ พร้อมกับอธิบายว่า
“นี่คือผ้าพันคอ ท่านแม่บอกว่าท่านชอบเจ็บคอ ถ้าเราเอามันมาพันไว้ที่คอในช่วงหน้าหนาว มันจะทำให้คอของเราอุ่นขึ้น ส่วนนี่คือถุงมือ ถ้าสวมมันไว้ที่มือ ผิวก็จะไม่แตก...”
ของทั้ง 2 ชิ้นนี้มีขั้นตอนการทำค่อนข้างซับซ้อนซึ่งกว่าจะทำขึ้นมาได้ก็ใช้เวลานาน หูเจียวเจียวจึงยังไม่ได้สอนภูตคนอื่นทำ
ไม่ใช่ว่าเธอเห็นแก่ตัวไม่ต้องการสอนใคร แต่พวกเขาไม่มีเวลามาเรียนรู้วิธีทำของเหล่านี้ต่างหาก ดังนั้นเธอจึงทำเครื่องนุ่งห่มบางส่วนให้ครอบครัวของตนเท่านั้น
หากหญิงสาวต้องการพัฒนาชีวิตของคนในเผ่า เธอต้องทำทีละขั้นตอนแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทางด้านหูหมินรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ของใช้แปลกใหม่ “เจียวเจียว เจ้าสิ่งนี้ค่อนข้างอุ่น ใส่แล้วไม่หนาวเลย”
หลังจากพูดจบนางก็ถอดถุงมือออกแล้วยัดมันกลับเข้าไปในมือของลูกสาว
“เจียวเจียว เจ้าเก็บสิ่งนี้ไว้ใช้เถอะ ไม่ต้องเอามาให้แม่หรอก แม่ไม่กลัวหนาวอยู่แล้ว แถมพ่อของเจ้าก็ตัวหนาอย่างกับอะไรดี พวกเราไม่ต้องการใช้มันหรอก”
หูเฉียงพยักหน้าสมทบคำพูดของภรรยา
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“ท่านแม่ ข้าทำสิ่งนี้ให้ท่าน แล้วข้าเองก็ทำเก็บไว้ใช้แล้ว ฉะนั้นพวกท่านรับมันไปเถอะ”
เมื่อหญิงวัยกลางคนเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนกราน นางก็รู้สึกละอายที่จะยอมรับว่าตัวเองก็อยากได้มันมากแค่ไหน
น่าเสียดายที่ในฤดูหนาวนางไม่สามารถออกไปข้างนอกบ้านได้ มิฉะนั้นนางจะเอามันไปอวดภูตหญิงในเผ่าว่าของพวกนี้เจียวเจียวลูกสาวสุดที่รักของนางเป็นคนทำให้
หลังจากที่จิ้งจอกสาวส่งมอบผ้าพันคอและถุงมือพร้อมพูดคุยกับพ่อแม่พอหอมปากหอมคอแล้ว เธอก็เตรียมตัวที่จะกลับบ้านของตัวเอง
แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นนอกประตู
“ท่านผู้เฒ่า...ท่านจะทำกับเราแบบนี้ไม่ได้! ข้าเป็นผู้หญิง ท่านจะไม่แบ่งอาหารให้ข้าได้ยังไง!”
“ท่านผู้เฒ่า ท่านจะปล่อยให้พวกเราอดตายอย่างนั้นหรือ...”
หูเจียวเจียวรู้สึกว่าเสียงนั้นค่อนข้างฟังดูคุ้นเคย และเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
“ท่านแม่ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น?”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 175
แสดงความคิดเห็น