บทที่ 166: ไอ้เด็กนี่มันเป็นใคร?
ในตอนที่หลงโม่ออกมาจากบ้าน เขาเห็นว่ายังเป็นเวลาเช้าอยู่จึงแปลงร่างเป็นมังกรออกไปล่าสัตว์ในป่าทันที
ขณะนี้ภายในใจของเขาต้องการเพียงอยากจะจับเหยื่อมาให้ได้มากขึ้น
สัตว์ป่านั้นก็เหมือนกับภูต พวกมันหวังที่จะสะสมไขมันไว้ให้เพียงพอก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง ทำให้เหล่าสัตว์กินเนื้อออกล่าเหยื่อกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
บ้างก็โชคร้ายไม่ได้เหยื่อติดมือกลับมา บ้างก็กลายเป็นเหยื่อของตัวอื่น
เวลาผ่านไปไม่นาน มังกรดำตัวยักษ์ก็บีบคอเสือขาวกับหมีสีน้ำตาลจนตาย ทันใดนั้นเขาเหลือบไปเห็นเหยื่อที่มีขนสีแดง 2-3 ตัวซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ ซึ่งขนสวยงามของพวกมันดึงดูดความสนใจของเขาไปทันที
“นางน่าจะชอบ...”
หลงโม่พึมพำกับตัวเอง ในขณะที่กำลังจะลงมือฆ่าเหยื่อเหล่านั้น
ไม่กี่อึดใจถัดมา พุ่มไม้เกิดการสั่นสะเทือน ดูเหมือนว่าฝ่ายที่ตกเป็นเป้าหมายจะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากนักล่า พวกมันจึงตื่นตระหนกวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หลงโม่ได้เห็นชัดเจนว่าพวกมันคือตัวอะไร
มันเป็นจิ้งจอกแดงกลุ่มหนึ่ง…
นั่นทำให้จิตสังหารจางหายไปจากรูม่านตาสีทอง อีกทั้งเขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับตัวไปไหน พลางมองดูจิ้งจอกแดงวิ่งหนีหายลับไปจากสายตา
“ช่างเถอะ ไปหาเหยื่อตัวอื่นดีกว่า”
เมื่อนึกถึงร่างสัตว์ของหูเจียวเจียว หลงโม่ก็ทำใจฆ่าจิ้งจอกไม่ลง
เนื่องจากวันนี้เขาออกมาล่าสัตว์ช้ากว่าปกติ หลังจากจับเหยื่อได้ 2 ตัว ท้องฟ้าก็ถูกย้อมด้วยสีแดงไปเสียแล้ว เขาจึงเตรียมตัวที่จะกลับเผ่า
ในระหว่างเดินทางกลับ เขาบังเอิญเจอกระต่ายตัวสีขาวขนปุกปุยอีก 2-3 ตัว
จู่ ๆ เขาก็จำได้ว่าจิ้งจอกสาวชื่นชอบสัตว์ที่มีขนปุยมาก ถ้าเขานำมันกลับไปมอบให้นาง นางคงจะดีใจไม่น้อย
แล้วกระต่ายผู้โชคร้ายก็ตกเป็นเป้าหมายของผู้ล่า…
ในตอนที่หลงโม่กลับมาถึงเผ่า พวกโหวเสี่ยวเตียวได้ทำงานสร้างบ้านหินประจำวันเสร็จสิ้นและแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้ว
ทางด้านหูเจียวเจียว เธอกำลังทำอาหารอยู่ในลานบ้าน
วันนี้พวกเด็ก ๆ ออกไปเล่นข้างนอกยังไม่กลับมา แต่หญิงสาวก็ไม่ได้กังวลว่าพวกเขาจะถูกรังแก เพราะช่วงเวลานี้เด็กในเผ่าตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างเดียว ซึ่งไม่มีใครมีเวลามารังแกลูกของเธอสักคน
ปัจจุบันแม่จิ้งจอกรู้สึกพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มาก
ดูเหมือนว่าเด็กในเผ่าจะเอาการเอางานเกือบทุกคน เพียงแค่พวกเขาไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างถูกต้องเสียมากกว่า
ดั่งคำคนที่เคยพูดไว้ว่า เด็ก ๆ ก็เหมือนกับผ้าขาว หากพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นแบบไหน พวกเขาก็ต้องสั่งสอนลูกให้ดี
ในขณะที่หญิงสาวกำลังคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านนอกลานบ้าน
“ท่านแม่~”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงเล็กแหลมของหลงเหยาก็ดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งเข้ามาด้วยขาที่ยังป้อมสั้น เขากางมือออกกระโจนเข้าใส่ผู้เป็นแม่พร้อมกับน้ำลายที่กำลังยืดออกมา
ในเวลาเดียวกัน เด็ก 4 คนที่อยู่ข้างหลังตั้งท่าจะคว้าน้องเล็กเอาไว้ แต่พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าเด็กนี่จะพลิ้วขนาดนั้น
นั่นทำให้หลงหลิงเอ๋อกระทืบเท้าไม่พอใจ “เสี่ยวเหยา ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าวิ่งเร็วนัก!”
หลงจงเองก็เม้มริมฝีปาก พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ “ตอนที่จะออกไปข้างนอก ทำมาเป็นอิดออด แต่พอกลับมานี่วิ่งเร็วจี๋เลยนะ”
ปัจจุบันบริเวณใกล้บ้านมีการก่อสร้างบ้านหินอยู่ บางครั้งคนงานจะต้องทุบทำลายหินให้แตก ผู้เป็นแม่จึงบอกให้พวกหลงอวี้ออกไปเล่นข้างนอกในตอนกลางวันแล้วค่อยกลับมาอีกทีตอนเย็นหลังจากกลุ่มภูตที่ทำงานก่อสร้างกลับไปแล้ว
เนื่องจากลูกน้อยเหล่านี้ก็ยังซุกซนตามประสาเด็ก พวกเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปเล่นนอกบ้าน แต่มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน จึงถูกพวกพี่ ๆ บังคับพาออกไปทุกวันเหมือนเด็กอนุบาลที่ไม่อยากไปโรงเรียน
พอถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน เจ้าน้องชายคนเล็กก็ตื่นเต้นมากอย่างที่ทุกคนเห็น
“ทำไมวันนี้ข้ารู้สึกว่าที่บ้านแปลก ๆ” หลงอวี้ขมวดคิ้ว พร้อมกับขยับจมูกดมกลิ่นอันตรายที่หลงเหลืออยู่ในอากาศ
แล้วจู่ ๆ เขาก็รู้สึกแย่แบบบอกไม่ถูก
“กลิ่นนี้ดูเหมือนจะเป็น...” หลงเซียวรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาไปที่ป่าเพื่อฝึกฝนการใช้ประสาทสัมผัสของตัวเองทุกวัน ทำให้การรับรู้ของเขาต่อโลกภายนอกดีขึ้นมาก
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะพูดจบประโยค เงาสีดำก็บินลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่อึดใจ เงาดำขนาดใหญ่ก็โผล่มาเหนือศีรษะของทุกคน
ทางด้านหลงเหยากำลังวิ่งโซเซไปหาแม่จิ้งจอก หลังจากที่เขาแปลงร่างมาได้ไม่นาน เขายังเดินได้ไม่ตรงด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขากลับวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าเบิกบานใจ จึงทำให้ขาที่ยังไม่แข็งแรงของเจ้าตัวควบคุมได้ไม่ดีนัก
ในใจเด็กหนุ่มคิดว่าถ้าเขาบินได้ มันจะดีกว่าการเดินเสียอีก
“วิ่งช้าหน่อย เหยาเอ๋อ...”
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นลูกชายพุ่งเข้ามาเหมือนลูกศรขนาดเล็ก เธอก็รีบย่อตัวลงและเอื้อมมือออกไปหมายจะคว้าเด็กน้อยไว้เพราะกลัวว่าเขาจะล้มหัวฟาดพื้น
ในตอนที่หลงเหยากำลังจะทิ้งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ เงาสีดำก็พาดผ่านเหนือศีรษะเขาพร้อมกับกรงเล็บมังกรที่แหลมคมพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
กรงเล็บขนาดใหญ่เกี่ยวปมด้านหลังผ้ากันเปื้อนของเจ้าตัวเล็กแล้วสะบัดเขาไปทางเด็กทั้ง 4
ไอ้เด็กนี่มันเป็นใครถึงได้กล้าเข้าใกล้คู่ของข้า!
ฟิ้ว!
ขาสั้น ๆ ของหลงเหยาเตะขึ้นไปในอากาศหลายครั้ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเห็นว่าแม่จิ้งจอกอยู่ห่างออกไปไกลขึ้นทุกที
สภาพของลูกคนสุดท้องบัดนี้กำลังวาดวงโค้งกลางอากาศอย่างสวยงามขณะพุ่งไปทางพี่น้องทั้ง 4 คน
“น้องห้า!”
“เหยาเอ๋อ!”
เสียงอุทานของเด็ก ๆ ดังขึ้นพร้อมกัน
หลงอวี้ที่ตอบสนองได้รวดเร็วที่สุดออกตัวไปรับน้องชายที่กำลังลอยเข้ามาอย่างรวดเร็ว
แล้วเจ้าก้อนแป้งก็ทำให้เขาต้องถอยหลังไป 2-3 ก้าว
พวกหลงหลิงเอ๋อเองก็เข้าไปช่วยพยุงพี่ใหญ่ไว้ไม่ให้ล้ม
“งือ... ทำไมเสี่ยวเหยาถึงบินได้ เสี่ยวเหยาเวียนหัวจัง...”
หลงเหยาพูดพลางยกมือกุมหัวที่วิงเวียนเอาไว้
ทางด้านเด็ก 4 คนและหูเจียวเจียวต่างก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อจิ้งจอกสาวหันไปมองคนที่รังแกลูกน้อยของตน เธอก็เห็นหลงโม่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยสีหน้าถมึงทึงโดยข้างตัวเขามีเหยื่อตัวใหญ่ที่มีเลือดไหลออกมาจากปากทั้ง 2 ตัว
“หลงโม่ เจ้าทำอะไร ถ้าเจ้าทำให้เหยาเอ๋อเจ็บตัวจะทำยังไง?” หูเจียวเจียวอดไม่ได้ที่จะต่อว่าอีกฝ่ายขณะที่ขมับกำลังเต้นตุบ ๆ
ถ้าเธอไม่เคยอ่านนิยายเรื่องแดนปีศาจมหัศจรรย์มาก่อน เธอคงจะสงสัยไปแล้วว่าเด็กพวกนี้ใช่ลูกของเจ้าจอมวายร้ายหรือเปล่า
จะมีพ่อคนไหนที่ทำเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนี้กับลูกได้อีก!
พอมังกรหนุ่มได้ยินคำตำหนิของหญิงสาวก็ชะงักค้างไป
“เหยาเอ๋อ?”
ลูกชายคนสุดท้องของเขาสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้แล้วงั้นหรือ?
หลงโม่ขมวดคิ้วมองเด็กน้อยตัวขาวอวบตั้งแต่หัวจรดเท้า 2 รอบ ก่อนจะพบว่าท่าทางโง่เขลาของเจ้าเด็กนั่นเหมือนกับของหลงเหยาในร่างสัตว์ทุกประการ ดังนั้นเขาจึงหมดความสงสัยไปทันที
“ใช่แล้ว นี่คือเหยาเอ๋อ เหยาเอ๋อแปลงร่างแล้วตอนที่เจ้าไม่อยู่บ้าน” เมื่อหูเจียวเจียวเห็นใบหน้าที่งุนงงของชายหนุ่ม เธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่รู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของลูกชายคนเล็ก
“...”
ถ้าเธอไม่บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาคงคิดว่าเด็กเกเรจากบ้านอื่นมาวุ่นวายที่บ้านของตน
หลังจากที่หญิงสาวอธิบายทั้งหมดแล้ว เธอก็รีบไปตรวจดูว่าหลงเหยาได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ทางด้านเจ้าตัวเล็กที่มีสติกลับคืนมาไม่ได้พุ่งเข้าไปกอดแม่จิ้งจอกทันที เขากลับยืนเม้มปากแน่นด้วยความเสียใจ
“ท่านแม่ กอด~”
นี่เป็นนิสัยที่เขาติดมาจากตอนที่อยู่ในร่างมังกร ทุกครั้งที่เขาเจอผู้เป็นแม่ เขามักจะพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนอีกฝ่ายเพื่อออดอ้อนเธอ
พอหลงโม่มองไปยังแขนป้อมที่กำลังอ้ากว้างของหลงเหยา ใบหน้าของเขาก็มืดลง
จากนั้นชายหนุ่มก็ก้าวไปจับท้ายทอยของเด็กตัวเล็กแล้วกดเขาให้นั่งลงกับพื้น ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า
“เจ้าแปลงร่างได้แล้วยังอยากกอดคนอื่นอีก เจ้าละอายใจไหมที่ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้”
พ่อมังกรเองก็เพิ่งเคยกอดแม่จิ้งจอกแค่ครั้ง 2 ครั้งเท่านั้น
“ดูเหมือนท่านพ่อจะโกรธแล้ว” หลงหลิงเอ๋อกระซิบข้างหูพี่น้องคนอื่น
แต่หลงจงกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นคู่กัดของตนโดนสั่งสอน “ท่านพ่อจัดการเจ้านั่นเลย อย่าให้มันอวดเก่งอีก!”
“พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่า… ท่านพ่อไม่ให้เสี่ยวเหยากอดท่านแม่เพราะแปลงร่างได้แล้ว” หลงเซียวแอบกระซิบ
หลงอวี้มองหน้าน้องชายคนรองพร้อมกับคิดว่า
เจ้าพูดถูก!
ยามนี้หลงเหยาก้มหัวโดยที่เขามังกรชี้ไปทางหลงโม่ และใช้มือเล็กป้อมทั้ง 2 วางไว้บนต้นขาด้วยความงุนงง
ในไม่ช้าเขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมเอ่ยถามว่า “ผู้ชายที่แปลงร่างแล้วกอดไม่ได้หย๋อ?”
“ไม่ได้” พ่อมังกรตอบทันควัน
“โอ้ งั้นเสี่ยวเหยาต้องเลิกกอดคนอื่นแล้ว ตอนนี้เสี่ยวเหยากลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว...!”
คนตัวเล็กเชื่อฟังอย่างง่ายดายและไม่สงสัยอะไรเพิ่มอีก
นอกจากนี้เขายังใช้มือวาดวงกลมขนาดใหญ่ไปบนอากาศด้วยสีหน้าพึงพอใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ละอายใจกับการกระทำที่ผ่านมาของตัวเองเลยสักนิด
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้มุมปากของหูเจียวเจียวกระตุก
เธอชำเลืองมองหลงโม่ที่กำลังปั้นหน้าจริงจัง ก่อนจะมองไปที่หลงเหยา เจ้าเด็กซื่อบื้อ
“…”
หญิงสาวสงสัยว่ามังกรหนุ่มกำลังหลอกเด็กหรือเปล่า แต่เธอไม่มีหลักฐานมาหักล้างคำพูดของอีกฝ่าย
ทันใดนั้นหูเจียวเจียวก็รู้สึกว่ามือของเธอถูกใครบางคนคว้าไว้ จึงก้มลงไปมองแล้วเห็นว่าหลงเหยาจับนิ้วชี้ของเธอด้วยมืออวบอ้วนพร้อมกับเขย่าเบา ๆ
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นกะพริบตาปริบ ๆ พลางกล่าวปลอบโยนผู้เป็นแม่ด้วยเสียงแผ่วเบา
“ท่านแม่ ในตอนนี้เสี่ยวเหยาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เสี่ยวเหยาไม่สามารถให้ท่านกอดได้อีก แต่ท่านแม่ก็อย่าเสียใจไปเลยนะ เสี่ยวเหยายังคงชอบท่านมากที่สุด~”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: นี่ศึกพ่อลูกแย่งความรักจากแม่กันสินะ XD
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 178
แสดงความคิดเห็น