บทที่ 150: เด็กน้อยผู้น่ารัก
“แปลงร่าง?” น้ำเสียงของหูเจียวเจียวเจือไปด้วยความงุนงง เธอหันไปมองหลงเหยาที่กำลังมีสีหน้าไม่สบายใจ
เจ้ามังกรน้อยไม่ป่วยจริงหรือ?
หลงหลิงเอ๋อพยักหน้าให้ความมั่นใจ “ใช่! ข้าจำได้ว่าตอนที่ข้ากับพี่ใหญ่แปลงร่าง เราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เรารู้สึกร้อนไปทั้งตัวและอึดอัดมาก...”
นางพูดจบแล้วก็หันไปถามหลงอวี้เพื่อขอคำยืนยันอีกครั้ง
“พี่ใหญ่ก็รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม?”
ใบหน้าไร้เดียงสาของสาวน้อยเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้น ในที่สุดน้องห้าของนางก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว!
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภูตเด็กในเผ่าต่างก็บอกว่าเสี่ยวเหยาเป็นไอ้เด็กเหลือขอที่แปลงร่างไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่เจ้าตัวเล็กแปลงร่าง นางจะตั้งตารอดูเลยว่าเด็กพวกนั้นจะทำหน้าอย่างไร
“อืม ใช่” ผู้เป็นพี่ใหญ่พยักหน้าตอบกลับ
หลงจงเองก็ขยับเข้าไปดูหลงเหยาใกล้ ๆ พอเห็นว่าน้องชายคนเล็กไม่มีท่าทีกระสับกระส่าย แม้ว่าเขาจะแค่อึดอัดไม่สบายเนื้อสบายตัว แต่เด็กหนุ่มก็ไม่พบร่องรอยของการบาดเจ็บจากอีกฝ่าย เขาจึงรู้สึกโล่งใจขึ้น
เมื่อหนุ่มน้อยผู้มีแผลเป็นบนใบหน้ามองไปที่ท่าทางวิตกกังวลของหูเจียวเจียวอีกครั้ง ใบหูของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความรู้สึกผิด และน้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเบามาก “ข้าขอโทษ ข้าเข้าใจท่านผิด…”
เดิมทีเขาแค่คิดว่านางกำลังจะทำร้ายเสี่ยวเหยา
ก่อนที่หลงจงจะเห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ามังกรน้อย เขาก็โทษผู้เป็นแม่ไปก่อนแล้วเพราะความอคติที่มีต่อนาง
ครั้งนี้มันเป็นความผิดของเขาเอง เขายอมรับมันแต่โดยดี
“ไม่เป็นไร จงเอ๋อก็แค่เป็นห่วงเหยาเอ๋อมากเท่านั้น” หูเจียวเจียวกล่าวพลางส่ายหัวเบา ๆ
มันเกินความคาดหมายของเธอที่เด็กชายหัวรั้นคนนี้จะพูดขอโทษแม่ตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน หลงเซียวคลำไปที่ด้านข้างของหลงเหยา เขาเอื้อมมือไปสัมผัสเกล็ดมังกรที่ร้อนผ่าวของน้องชาย และไม่นานเขาก็รู้สึกโล่งใจ
“ตอนที่เด็กกลายร่าง พวกเขามักจะอยากอยู่กับแม่ของตัวเองเสมอ เสี่ยวเหยาคงแอบมาที่นี่เพราะเรื่องนี้” เด็กหนุ่มผู้มองไม่เห็นพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน
ตอนที่เด็กตระกูลหลงยังเล็ก พวกเขาต้องพึ่งพากันเอง ขณะนั้นเด็กทั้ง 4 คนรู้สึกอึดอัดมากในยามที่จะแปลงร่าง ด้วยเหตุนี้ลูกทุกคนจึงต้องการความรักจากมารดาโดยธรรมชาติ
“ฮึ่มมม~”
ปัจจุบันหลงเหยาผู้ซึ่งทนต่อความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงไม่ได้กำลังเชิดหน้าขึ้นโชว์ฟันมังกรอันแหลมคมของเขา ก่อนจะคำรามโต้กลับอย่างดุร้าย
ไร้สาระ!
เสี่ยวเหยาไม่ได้แอบมาที่นี่
ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเสี่ยวเหยามาหาท่านแม่อย่างเปิดเผย!
ภาพที่น่าสงสารของลูกชายคนสุดท้องส่งผลให้หัวใจของหูเจียวเจียวปวดร้าวในทันที เธอเอื้อมมือไปลูบหัวของอีกฝ่ายเบา ๆ พร้อมกล่าวปลอบโยนเขา “เหยาเอ๋อ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? อดทนหน่อยนะ หลังจากเจ้าแปลงร่างแล้ว แม่จะทำอาหารอร่อย ๆ ให้เจ้ากิน”
แม้ว่าพวกภูตจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แถมยังแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และมีสติปัญญาสูงกว่าสัตว์ป่า แต่พวกเขาก็ต้องทนรับความเจ็บปวดเช่นเดียวกันในตอนที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นี่คือสิ่งที่ภูตทุกคนต้องประสบพบเจอ
เมื่อหลงเหยาได้ยินคำพูดของแม่จิ้งจอก เขาก็หรี่ตาลงอย่างเชื่อฟัง
เขาเริ่มที่จะเอาหัวซุกฝ่ามือของหูเจียวเจียวพลางพยักหน้าแบบออดอ้อน
“งั่ม ๆ~”
เสี่ยวเหยาอยากกินอะไรอร่อย ๆ~
เพื่อของกินแสนอร่อย! เสี่ยวเหยาทนด้ายยย! เสี่ยวเหยาสู้ตาย!
จากมังกรที่คำรามดุร้ายบัดนี้เปลี่ยนเจ้าลูกหมาตัวน้อยขี้อ้อนไปแล้ว
โชคดีที่หลงเซียวมองไม่เห็น เขาจึงไม่รู้ว่าหลงเหยาเปลี่ยนสีหน้าของเขาเร็วแค่ไหน ไม่เช่นนั้นพี่ชายคนรองคงอดหมั่นไส้น้องชายไม่ได้
ทางด้านหลงหลิงเอ๋อนั่งลงข้าง ๆ มังกรน้อยโดยวางมือไว้ที่คาง และดวงตารูปอัลมอนด์ของนางก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
“เสี่ยวเหยาดูมีความสุขมาก... ที่ได้แปลงร่างกับท่านแม่ เราเคย...”
ทว่าเสียงทุ้มนุ่มหยุดกึกไปทั้งแบบนั้นแล้วไม่ได้พูดต่อ
นั่นทำให้หลงจงชำเลืองมองน้องสาวตนซึ่งเขารู้ทันทีว่านางกำลังจะพูดอะไร
เมื่อก่อนในยามที่พี่น้องทั้ง 4 แปลงร่าง พวกเขาต้องการอยู่กับแม่จิ้งจอกเช่นกัน แต่นางกลับดูถูกลูกตัวเองว่าเป็นเด็กที่น่ารังเกียจและไร้ประโยชน์ จึงไล่เด็กทุกคนออกจากบ้านแล้วไม่ให้พวกเขาเข้าไปอีก
ตั้งแต่นั้นมา เหล่าเด็กน้อยที่น่าสงสารก็นอนขดตัวอยู่ด้วยกันในลานบ้าน
จริง ๆ แล้วความทรงจำของลูกภูตก่อนที่จะแปลงร่างนั้นมีน้อยมาก แต่ความทรงจำที่หยั่งรากลึกลงไปในสมองเริ่มตั้งแต่วันที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นลูกน้อยอีก 4 คนทำสีหน้าโดดเดี่ยว เธอจึงยกมืออีกข้างขึ้นลูบไล้ใบหน้าอันอ่อนโยนของพวกเขา ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า
“แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเจ้าระหว่างการแปลงร่าง แต่หลังจากนี้ไปจนถึงตอนที่พวกเจ้าโตขึ้น แม่จะอยู่กับพวกเจ้าตลอดไป”
“ข้าไม่ใช่เด็กที่อยู่ในร่างสัตว์อีกต่อไปแล้ว ข้าไม่ต้องการให้ท่านมาอยู่กับข้า” ใบหน้าของหลงจงแข็งทื่อ ประกอบกับใบหูที่เปลี่ยนเป็นสีแดงในระหว่างที่เขาพูดเสียงแข็งกร้าว
ทว่าหัวใจของเด็กหนุ่มกลับเต้นระรัวอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้
“พี่สาม ท่านไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร แต่ข้าต้องการ! ข้าอยากให้ท่านแม่อยู่กับข้าตลอดเวลา...” หลงหลิงเอ๋อกอดแขนผู้เป็นแม่และไม่สนใจพี่ชายของนางเลย
“...” ท่าทางของสาวน้อยทำให้หลงจงถึงกับพูดไม่ออก
ยัยเด็กใจร้าย!
ผู้หญิงใจยักษ์คนนี้เพิ่งกลับตัวกลับใจได้ไม่นาน นางก็กลายเป็นโลกทั้งใบของเจ้าไปแล้วรึ?
ทางด้านหลงอวี้กับหลงเซียวที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มจาง ๆ
“แฮ่~”
แบ่งท่านแม่ให้เสี่ยวเหยาบ้าง~
หลงเหยาเองก็ไม่ยอม เขาใช้ร่างกายตัวเองโอบรอบแขนอีกข้างของหูเจียวเจียวด้วยความกลัวว่าหลงหลิงเอ๋อจะครอบครองนางเพียงลำพัง
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องน่าอายขึ้น ทันใดนั้นกล้ามเนื้อและกระดูกทั่วร่างของเขาก็รู้สึกเหมือนถูกหักและหล่อขึ้นใหม่ ความเจ็บปวดจากอาการกล้ามเนื้อฉีกขาดจึงเกิดขึ้น ก่อนที่มังกรตัวเล็กจะร่วงผล็อยลงกับพื้น
โชคดีที่มีหนังสัตว์หนานุ่มปูอยู่ เขาจึงไม่รู้สึกเจ็บเลย
“เสี่ยวเหยา!”
หูเจียวเจียวหันขวับไปมองลูกชายคนสุดท้องด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นว่าเกล็ดมังกรบนตัวของอีกฝ่ายเริ่มเปล่งแสงสีแดงจาง ๆ
ความเจ็บปวดทำให้หางของมังกรขดเป็นวงกลมและเขาก็กุมหัวตัวเองแน่น ในตอนที่จิ้งจอกสาวกังวลมากจนอยากจะเข้าไปดูอาการของหลงเหยา เธอก็เห็นว่ามังกรดำตัวเล็กตรงหน้าเธอเปลี่ยนไปภายใต้แสงสีแดง
บัดนี้เกล็ดมังกรดำกลายเป็นผิวสีขาวราวกับน้ำนม ตามด้วยกรงเล็บมังกรที่กลายเป็นมือเล็ก ๆ เหมือนแง่งขิง แล้วในพริบตา เด็กน้อยตัวขาวน่ารักก็ปรากฏต่อสายตาของทุกคน
ร่างมนุษย์ของหลงเหยามีผมสีดำยุ่งเหยิงบนศีรษะ และใบหน้าอวบอิ่มของเขาแดงก่ำดั่งลูกท้อ
ถัดมา ดวงตากลมโตดุจทับทิมคู่หนึ่งกะพริบปริบ ๆ จากนั้นเขายกมือขึ้นเกาหน้าตัวเอง 2 ครั้ง ก่อนจะขยับตัวปรับท่าทางให้เข้ากับร่างกายใหม่
ขณะนี้มีผ้าสีแดงผูกรอบเอวและมีเกล็ดมังกรพันอยู่บนนั้นเพื่อปิดกั้นส่วนที่เป็นของสงวน
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เด็กน้อยจึงตัดสินใจลองเดิน 2 ก้าวบนพื้นด้วยเท้าเปล่า ทันใดนั้นดวงตาสีแดงฉ่ำวาวของเขาพลันสว่างขึ้น แล้วเขาก็อ้าแขนออกพลางเดินโซเซไปทางหูเจียวเจียว
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้แม่จิ้งจอกตกตะลึง
นี่มัน!
เด็กตัวน้อยที่น่ารักน่าทะนุถนอมนี้คือลูกของเธอ หลงเหยา!
“เหยาเอ๋อ…” หัวใจของหูเจียวเจียวแทบจะละลายเพราะเจ้าตัวเล็ก เธอรีบยื่นมือออกไปรองรับอีกฝ่ายเพราะกลัวว่าเขาจะสะดุดล้ม
ถึงแม้ว่าจะมีหนังสัตว์นุ่มปูรองพื้นเอาไว้ แต่เธอก็รู้สึกไม่ดีถ้าเขาล้มหน้าคะมำกับพื้น
อีกทั้งเด็กน้อยคนนี้มีผิวที่บอบบางและเนียนนุ่ม จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาถูกหนังสัตว์ข่วนจนเป็นรอย
ทางด้านเด็ก 4 คนที่ยืนมองน้องชายคนเล็กอยู่ด้านข้างต่างก็พากันขมวดคิ้ว จู่ ๆ พวกเขาก็รู้สึกเหมือนท่านแม่ถูกกระชากออกไป...
เจ้าตัวเล็กอ้าปากในขณะที่วิ่งเก้ ๆ กัง ๆ พร้อมกับตะโกนด้วยเสียงเหมือนเด็ก
“หมาป่า หมาป่าจ๋า~”
“...?” แม่จิ้งจอกนิ่งค้างไปชั่วขณะหนึ่ง
คำที่ออกมาจากปากเจ้าตัวเล็กแทบจะทำให้เธอล้มหงายหลัง
นี่เธอกลายเป็นหมาป่าไปตั้งแต่เมื่อไหร่!?
“เจ้ามังกรโง่ นางคือท่านแม่ ถ้าเจ้าพูดไม่ชัดแบบนี้ ระวังเจ้าจะได้ออกไปนอนอยู่นอกบ้านล่ะ” หลงจงยื่นนิ้วออกไปจิ้มหน้าผากของหลงเหยา ในขณะที่เขาจงใจแยกน้องชายออกจากหูเจียวเจียว
หลังจากที่เด็กน้อยถูกพี่ชายคนที่ 3 สะกิดเบา ๆ เขาก็เซถอยหลังไปเล็กน้อย ก่อนจะยกเท้าอวบอ้วนขึ้นแล้วขยับซ้ายขวาไปมา จากนั้นเขากางแขนออกแกว่งขึ้นลง จนในที่สุดเขาก็ทรงตัวได้
ในตอนนั้นเอง ใบหน้าเล็กแดงก่ำด้วยความโกรธ
“จิ้งจอกเหม็น! เจ้าวายร้าย!” ถ้อยคำเหล่านี้ถูกเปล่งออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเด็กหนุ่มท่องมันในใจมากี่ครั้งแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น หลงเหยายังกระทืบเท้าเล็ก ๆ ด้วยความโกรธ
อาจเป็นเพราะขาเขาสั้นเกินไป เวลาย่ำเท้าเขาต้องงอเข่าขึ้นนิดหน่อย และนั่นยิ่งทำให้ตัวเขาดูอ้วนกลมมากขึ้น
หูเจียวเจียวที่มองดูท่าทางของหลงเหยาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ลูกชายคนสุดท้องของเธอน่ารักน่าชังเหลือเกิน เขาไม่ต่างจากเด็กทารกที่กำลังหัดเดินเลย
เดิมทีเธอคิดว่าเจ้าตัวเล็กขาดสารอาหารและจะผอมลงหลังจากแปลงร่าง แต่เธอไม่คาดคิดว่าเด็กคนนี้จะตัวกลมขึ้นเรื่อย ๆ คงเป็นเพราะเขาได้กินอาหารแสนอร่อยมาหลายมื้อ
ทว่า…
“ฮ่า ๆๆ! เสี่ยวเหยา หัวกับก้นของเจ้า...” หลงหลิงเอ๋อเอามือกุมท้องพลางชี้ไปที่หัวของหลงเหยาและหัวเราะไม่หยุด
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 250
ความคิดเห็น
รอครับ
แสดงความคิดเห็น