บทที่ 114: ความสัมพันธ์กับหู่จิงพัฒนาขึ้น
หลงโม่ที่มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วหลบการโจมตีของจิ้งจอกขาวได้แบบหวุดหวิด
“นี่เจ้า...”
ในขณะที่เขากำลังจะถามว่าทำไมจิ้งจอกหนุ่มถึงทำเช่นนั้นโดยไม่มีเหตุผล จู่ ๆ อีกฝ่ายก็กลายร่างเป็นมนุษย์ และพุ่งเข้าหาตนพร้อมกับรัวกำปั้นใส่เขาหมัดแล้วหมัดเล่า
ส่งผลให้มังกรหนุ่มที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกชกไป 2 ครั้ง
จังหวะนั้นรูม่านตาสีทองของหลงโม่แผ่รังสีเย็นเยียบออกมาทันที ตามด้วยร่องรอยของความเกลียดชังก็ปรากฏขึ้นในดวงตา ตอนที่เขากำลังกำหมัดจะต่อยสวนคนที่เข้ามาทำร้ายตัวเองก็เป็นเวลาเดียวกับที่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัด ๆ
หูชิงหยวน?
เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเป็นพี่ชายคนที่ 4 ของหูเจียวเจียว เขาจึงถอนกำปั้นออกพร้อมถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“หูชิงหยวน ทำไมเจ้าคลั่งแบบนี้?”
“หลงโม่ เจ้าบังอาจรังแกน้องสาวข้า ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้จัดการเจ้า ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าหูชิงหยวน!”
“ข้า—” หลงโม่ขมวดคิ้ว ทว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยอะไร หูชิงหยวนก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลย
ถึงแม้ว่าใบหน้าของหลงโม่จะบึ้งตึงมาก แต่พอคิดว่านี่คือพี่ชายของหูเจียวเจียว เขาจึงระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ แล้วเอาแต่หลบหมัดของคนตรงหน้าเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น ท่ามกลางหมัดที่จิ้งจอกหนุ่มซัดเข้าใส่ใบหน้าของมังกรหนุ่มก็เริ่มมีรอยขึ้นมาเพราะว่ายามนี้อีกฝ่ายเน้นโจมตีไปที่ใบหน้าของเขาเพียงอย่างเดียว
ทางด้านพี่สี่รู้สึกหงุดหงิดกับใบหน้าเฉยเมยของหลงโม่มานานแล้ว ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้ชกอีกคนสักที ประกอบกับเจ้าหมอนี่ก็ดูเหมือนจะไม่สู้กลับด้วย ตัวเขาเองจึงไม่อยากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
จนกระทั่งหูชิงหยวนชกจนหมดแรง การเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าลง จากนั้นฝ่ายที่ตั้งรับมาตลอดก็คว้ามือของจิ้งจอกหนุ่มเอาไว้แน่น ในขณะที่เขากำลังจะเปิดปากถาม จู่ ๆ เขาก็เห็นว่าเสื้อผ้าที่ชายตรงหน้าสวมใส่นั้นคุ้นตามาก…
ชุดนี้มันคล้ายกับชุดที่หูเจียวเจียวมอบให้ตนเมื่อวานทุกประการ มันแตกต่างกันเพียงแค่ลวดลายสีขาวเล็ก ๆ ที่ถูกปักไว้บนอก
ที่อกเสื้อของหูชิงหยวนนั้นมีรูปสุนัขจิ้งจอกปักเอาไว้
ต่อมา มังกรหนุ่มก็คว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายมาถามเสียงเข้ม
“เจ้าไปเอาชุดนี้มาจากที่ไหน นางทำให้เจ้าด้วยหรือ?”
นางไม่ได้ต้องการตัดเย็บชุดหนังสัตว์ให้อิงหยวนแค่คนเดียวหรอกหรือ?
บัดนี้หูชิงหยวนรู้สึกอับอายมากที่ถูกกระชากคอเสื้อจนตัวลอย เขาจึงชกไปที่ใบหน้าของหลงโม่เพิ่มอีกหมัดหนึ่งก่อนจะผลักเขาเอาไปอย่างแรง
“เจ้ายังมีหน้ามาถามเรื่องเสื้อผ้าของข้าอีกหรือ น้องสาวของข้าพยายามอย่างหนักเพื่อจะตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับเจ้า แต่เจ้าไม่แม้แต่จะลองสวมใส่มันด้วยซ้ำ แล้วยังมาดูถูกว่าของที่นางทำน่าเกลียดอีก!” คนเป็นพี่ชายตวาดเสียงโกรธเกรี้ยว
“ชุดนี้สวยจะตาย เจ้าบังอาจมากที่บอกว่ามันน่าเกลียด รู้ไหมว่าเจียวเจียวของข้าถูกเข็มตำมือตั้งหลายรู เจ้ากล้ามากนะที่ไปรังแกนาง วันนี้ข้าจะต่อยเจ้าให้ตายเลยคอยดู!”
“ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะไม่ให้ใครหน้าไหนมารังแกน้องสาวของข้าทั้งนั้น!”
ระหว่างที่เขาพูด เขาก็ยกกำปั้นขึ้นต่อยคนที่ทำให้ตัวเองหงุดหงิดต่อไป
ทว่ายามนี้หลงโม่ยืนตัวแข็งอยู่กับที่ แล้วความประหลาดใจก็ฉายไปทั่วรูม่านตาสีทอง ก่อนที่เขาจะพึมพำถามออกมาว่า
“นางตั้งใจทำให้ข้าอย่างนั้นหรือ?”
นี่นางไม่ได้ทำเพื่อให้เขาตายใจหรอกหรือ?
พอหูชิงหยวนได้ยินสามีของน้องสาวถามคำถามนี้ขึ้นมา เขาก็ทำเสียงฮึดฮัดพร้อมกับชี้ไปที่ลายจิ้งจอกขาวบนหน้าอกของตัวเองและพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “ไร้สาระ ชุดหนังสัตว์ทุกตัวที่เจียวเจียวของข้าทำนั้นได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดี ชุดของเจ้า นางก็ตัดเย็บเองอย่างประณีต แถมยังปักลายมังกรให้เจ้าด้วย เจ้ากล้าดียังไงถึงบอกว่ามันน่าเกลียด!”
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังสาธยายต่อไปอีกว่า
“แน่นอนสิ น้องสาวของข้าไม่ได้ทำเสื้อผ้าให้เจ้าเพียงคนเดียวหรอกนะ พวกเรา 4 พี่น้องก็ได้เสื้อผ้าใหม่เช่นกัน มันสวยกว่าลายมังกรดำผุ ๆ ของเจ้าด้วยซ้ำ”
ครู่ต่อมา สายตาของหลงโม่จับจ้องไปที่จิ้งจอกขาวตัวอ้วนท้วมบนหน้าอกของคนพูด
แล้วเขาก็นึกถึงท่าทางของหูเจียวเจียวเมื่อวานที่กระตือรือร้นนำชุดหนังสัตว์มามอบให้ตน จากนั้นเขาก็ตำหนิตัวเองในใจ
แต่...
“ดังนั้น นางก็เลยทำชุดหนังสัตว์ให้อิงหยวนด้วยใช่ไหม...” มังกรหนุ่มกัดฟันถามด้วยเสียงแหบแห้ง
ในตอนนั้นเอง หู่จิงที่กำลังเดินผ่านมาได้ยินเสียงการสนทนาระหว่างทั้งคู่จึงรีบปรี่เข้ามาหา
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” เสือสาวมองหลงโม่อย่างประหลาดใจ ก่อนจะพูดด้วยเสียงแหลม
“ชุดหนังสัตว์บนตัวของอิงหยวนเป็นเมี่ยนเอ๋อที่เย็บเองกับมือ เจ้าจะมาพูดว่าหูเจียวเจียวเป็นคนตัดเย็บมันขึ้นมาแบบนั้นไม่ได้ ข้าคิดว่าสมองของเจ้าคงได้รับความกระทบกระเทือนแล้วแหละ อิงหยวนไม่ชอบหูเจียวเจียวขนาดนั้น เขาจะไปสนใจเสื้อผ้าที่นางทำได้ยังไง!”
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสาวกับสามีหนุ่ม นางต้องพูดให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้อิงหยวนเข้าใจเมี่ยนเอ๋อผิด
“นางไม่ได้ทำ แต่ทำไมเสื้อผ้าถึงเหมือนกันขนาดนั้นล่ะ...” หลงโม่ผงะไปเล็กน้อยที่ได้รู้ความจริงจากปากอีกฝ่าย
“ก็ต้องเหมือนกันสิ เพราะหูเจียวเจียวสอนเราทำ เมี่ยนเอ๋อก็มองว่าชุดนี้ดูดีมาก นางเลยเรียนรู้วิธีการตัดเย็บชุดแบบนี้ให้อิงหยวน และข้าก็ทำกับนางด้วย” หู่จิงตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจ
นางรู้สึกว่าหลงโม่ในวันนี้แตกต่างจากปกติเล็กน้อย
ทำไมเขาถึงสนใจหูเจียวเจียวมากขนาดนั้น?
ตามปกติแล้วถ้าจิ้งจอกสาวอยู่ที่ไหน หู่จิงก็มักจะเห็นมังกรหนุ่มเดินอ้อมไปทางอื่นเสมอ
พอเสือสาวเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งเงียบไป นางจึงพูดเสียงดังอีกครั้ง
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็ไปดูด้วยตาตัวเองเถอะ เสื้อของอิงหยวนมีลายปักนกอินทรีสีดำ มันแตกต่างจากลายปักของหูเจียวเจียว”
แม้ว่าหู่จิงจะเกลียดแม่จิ้งจอก แต่นางก็ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนั้นตัดเย็บเสื้อผ้าได้ดีกว่าใคร ๆ นางทำได้คล่องแคล่วมาก
หลังจากที่หลงโม่ได้ยินคำพูดของหู่จิง ตัวเขาก็แข็งเป็นรูปปั้น
ที่ผ่านมาทั้งหมดเขาเข้าใจนางผิดไปหรือ?
พอชายหนุ่มคิดได้เช่นนั้น เขาก็เปลี่ยนร่างเป็นมังกรเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านโดยไม่คำนึงถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าเผ่า
“นี่! เจ้าคิดจะหนีงั้นรึ ข้ายังชกเจ้าไม่สาแก่ใจเลย ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปหรอก!”
หูชิงหยวนตะโกนตามหลังของคนที่บินหนีไปแล้วด้วยความโกรธ
ทางด้านหู่จิงริมฝีปากกระตุก จากนั้นนางก็เท้าสะเอวบ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“ข้าคิดว่าหลงโม่คนนี้ไม่ใช่แค่มีปัญหาทางสมองเท่านั้น แต่สายตาของเจ้านั่นก็ไม่ดีด้วย แค่นี้ก็ยังแยกแยะความแตกต่างไม่ออก...”
ทันทีที่จิ้งจอกหนุ่มได้ยินคำพูดของเสือสาว เขาก็หันกลับไปมองนางด้วยสายตาชื่นชม
ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างฉลาดหลักแหลม และเขาก็คิดเช่นเดียวกับนาง
“เอ่อ… เมื่อกี้ขอบคุณเจ้ามากนะ” หูชิงหยวนเกาหัวพลางยิ้มกว้างให้หญิงสาว
เขาพูดขอบคุณหู่จิงอย่างเป็นมิตร แต่เขาต้องขอบคุณคำอธิบายของอีกฝ่ายที่ช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างหลงโม่กับน้องสาวของตน
เสือสาวหันกลับมาเห็นใบหน้าที่นวลผ่องของจิ้งจอกหนุ่ม บวกกับรอยยิ้มที่สดใส มันจึงทำให้นางนิ่งอึ้งไปชั่วขณะถึงขั้นไม่สามารถละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มไปได้
หลังจากนั้นนางก็รีบสะบัดหน้ามองไปทางอื่นและตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่…ไม่มีอะไรต้องขอบคุณหรอก ข้าแค่ไม่อยากทำให้เมี่ยนเอ๋อไม่มีความสุข”
เมื่อหญิงสาวพูดประโยคเหล่านี้ออกมา หูชิงหยวนก็มองนางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ในอดีต เนื่องจากน้องสาวกับลู่เมี่ยนเอ๋อไม่ลงรอยกัน เขาจึงไม่ชอบนางกับหู่จิง แต่ในวันนี้เขารู้สึกว่านิสัยของหู่จิงนั้นค่อนข้างดี อย่างน้อยก็ดีกว่าผู้หญิงที่ชอบบีบน้ำตาอยู่มาก
สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือแม่เสือสาวที่มักจะดูดุร้ายและเจ้ากี้เจ้าการ แต่ความจริงนางก็ดูแลลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นอย่างดีมาตลอด
จากการที่นางช่วยปกป้องน้องสาวของเขา หูชิงหยวนก็รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาดูเพลินตากว่าเดิมมาก
“ยังไงก็ตาม ขอบคุณเจ้ามาก ถ้าในอนาคตเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็มาหาข้าได้เลย หูชิงหยวนคนนี้สามารถไปช่วยเจ้าได้ทุกเวลา!”
ชายหนุ่มแสดงรอยยิ้มที่จริงใจให้หญิงสาว นั่นยิ่งทำให้รัศมีความหล่อของเขาเปล่งปลั่งขึ้นมาจนไม่สามารถละสายตาไปได้เลย และหู่จิงก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง
ไม่นานหูชิงหยวนก็จำได้ว่าวันนี้เขาต้องออกล่า ดังนั้นเขาจึงโบกมือลาเสือสาว แล้วเขาเองก็รีบแปลงร่างพุ่งออกไป
ทางด้านหู่จิงยืนมองดูร่างจิ้งจอกขาววิ่งไปจนลับตา
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ฟื้นคืนสติก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองพลางพึมพำต่อว่าตนด้วยเสียงไม่พอใจ
“เจ้าจะยิ้มตามเขาทำไมเนี่ย…”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อุ๊ย ได้กลิ่นคนกำลังมีฟามรัก~ ส่วนพ่อรีบไปง้อแม่ด่วน ๆ เลย!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 237
แสดงความคิดเห็น