โลกที่ไร้เงามืด บทที่ 1 ข่าวดี/เพื่อนใหม่

โลกที่ไร้เงามืด
คุณกำลังอ่าน: โลกที่ไร้เงามืด

-A A +A

โลกที่ไร้เงามืด บทที่ 1 ข่าวดี/เพื่อนใหม่

โลกที่ไร้เงามืด [ข่าวดี/เพื่อนใหม่]

 

ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดสายทิพย์ วันสุดท้ายในค่ายเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนมัธยม...

 

หลังทานอาหารเช้าที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ เด็ก ป. 6 ทั้งหญิงและชายมารวมกลุ่มกันที่ห้องคอมพิวเตอร์บนตึกหอสมุด วันนี้แล้วที่โรงเรียนต่างๆจะประกาศผลสอบคัดเลือกนักเรียน ม. 1 ภายหลังทำการสอบไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้า

 

เมธาวีเตรียมเช็คผลสอบจากโรงเรียนวินเซนต์ด้วยใจลุ้นระทึก ขณะที่เพื่อนสนิทอย่างมิ้นท์และก้อยก็เอาใจช่วยเช่นกัน

 

“แกร๊กแกร๊กแกร๊ก” เด็กสาวกดแป้นคีย์บอร์ดรัวๆ พยายามเข้าหน้าเว็บของโรงเรียนวินเซนต์อยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จสักที

 

“เน็ตล่มหรือเปล่าพวกเธอ” เมธาวีเอ่ยถามเพื่อนๆด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กๆ

 

“ใช่ ล่มไม่เป็นท่าเลย” ทีเจ รุ่นพี่ที่นั่งอยู่อีกฝั่งให้คำตอบ

 

“ว้า! แล้วเมย์จะดูผลสอบยังไงได้... ทำไมต้องมาล่มวันนี้ด้วยนะ” ขณะพูด เมธาวีลองเข้าเว็บไซท์ของโรงเรียนวินเซนต์อีกครั้ง หากแต่ยังล้มเหลวอยู่เช่นเดิม

 

“จะดูผลสอบของโรงเรียนวินเซนต์เหรอ ไม่ยากหรอก เดี๋ยวทีเจจัดการให้...” พี่ทีเจ เด็กหนุ่ม ม. 2 ผู้มีสายตามองเห็นเกือบเท่าคนปกติ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกง เปิดแอพซาฟารีไปที่หน้าเว็บของโรงเรียนรั้วฟ้าแดง ก่อนเดินสืบเท้ามายืนซ้อนหลังเมธาวีที่ตอนนี้คิ้วขมวดมุ่น ความกังวลใจฉายแววเต็มใบหน้า

 

“ว่าไงคะพี่ทีเจ” เจ้าของเสียงหวานติดห้าวเล็กๆอยากรู้เต็มที

 

ก้อยที่นั่งอยู่ข้างๆช่วยเสริมว่า “ยัยเมย์เขาลุ้นแทบบ้าแล้วพี่ บอกมาเถอะ สอบได้หรือไม่ได้ก็ว่ามา”

 

“อะแฮ่ม!!!” ทีเจกระแอมเพื่อเรียกความสนใจ “ยินดีด้วย เด็กหญิงเมธาวี สิริวิริยะ ได้เป็นศิษย์น้องใหม่ของโรงเรียนวินเซนต์อย่างเป็นทางการ ขอต้อนรับสู่รั้วฟ้าแดงนะน้อง...”

 

“จริงเหรอคะพี่ทีเจ...” ขณะส่งเสียงถาม เด็กหญิงมีน้ำตาคลอหน่วยพร้อมรอยยิ้ม

 

“จริงสิ ยินดีด้วยนะ” ทีเจยื่นโทรศัพท์ของเขาให้

 

เมธาวีเลื่อนนิ้วฟังรายชื่อผู้สอบผ่าน ได้ยินชื่อของเธอเอง เด็กหญิงแทบจะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ โรงเรียนวินเซนต์ โรงเรียนในฝันของเมธาวี ทีเจเคยคุยให้ฟังว่าดีต่อใจมากมาย

 

“โรงเรียนนี้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก พี่เรียนอยู่ที่นั่นจนรู้จักทุกซอกมุมทั้งฝั่งประถมและฝั่งมัธยมเลยล่ะ”

 

“เฉพาะฝั่งมัธยมนะ มีเรื่องราวน่าสนุกเยอะแยะ ไว้เข้าไปเรียนก่อน แล้วน้องจะรู้เอง...” ทีเจเล่าไปเรื่อยๆ เมธาวีเพียงรับฟังเงียบๆ สิ่งเดียวที่เธอยังกังวลใจ หากได้เข้าเรียนที่นั่นจริงๆ เธอจะเผชิญกับเพื่อนที่ไม่รู้จักเพียงลำพังอย่างไร

 

ทีเจเหมือนจะอ่านใจเธอออก เขาเอื้อมมือมาแตะไหล่ เอ่ยคำปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ต้องกังวลหรอกน้อง อยู่ๆกันไปเดี๋ยวเพื่อนก็คบน้องเองแหละ ดีไม่ดี หน้าสวยๆ เสียงเพราะๆอย่างน้องอาจจะมีหนุ่มตาน้ำข้าวมาดูแลหัวใจก็ได้นา คริคริ...”

 

“บ้า! พี่ทีเจพูดอะไรก็ไม่รู้ ใครเขาจะมาสนใจคนเรื่อยๆเฉื่อยๆอย่างหนูกันล่ะ”

 

วันเปิดเทิมวันแรก รถวีออสคันสีขาวจอดสนิทหน้าโรงเรียนวินเซนต์ โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดที่เมธาวีไฝ่ฝันอยากเข้าเรียนมานาน เพราะพ่อกับแม่ก็จบ ม. ปลายจากที่นี่ รุ่นพี่หลายคนที่เข้าไปสัมผัส ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันต่างแนะนำเด็กรุ่นน้องให้มาเป็นครอบครัวฟ้าแดงกันทั้งนั้น

 

ความปรารถนาที่จะเข้าโรงเรียนวินเซนต์ของเมธาวี นับว่าเข้าทางคุณเมธีกับคุณสุมนทิพย์ บิดามารดาจึงกำชับให้ลูกสาวท่องหนังสืออย่างหนัก ก่อนสอบคัดเลือกราว 1 เดือน เมธาวีถูกส่งตัวไปเข้าค่ายเตรียมความพร้อมที่โรงเรียนสายทิพย์ ผลก็คือ เธอได้เป็นศิษย์ใหม่ของโรงเรียนนี้อย่างภาคภูมิ

 

"ถึงแล้วจ้ะน้องเมย์"คุณสุมนทิพย์จูงมือเมธาวีเดินผ่านประตูบานใหญ่ไปยังห้องทำงานครูทรงศักดิ์ เธอได้ยินเสียงพูดคุยดังอยู่รอบตัว

 

"พาลูกสาวมาเรียนหรือสายฝน" ครูทรงศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายวิชาการเอ่ยกับคุณสุมนทิพย์อย่างคนคุ้นเคย

 

"ค่ะ คุณครูสบายดีนะคะ"

 

"ก็เรื่อยๆแหละฝนเอ้ย! แก่ตัวแล้วสุขภาพก็เริ่มถดถอย...เอ้อ ว่าแต่ลูกสาวเธออยู่ชั้นไหนล่ะ"

 

"ม. 1/6 ค่ะ ยังไงหนูฝากคุณครูด้วยนะคะ"

 

"ได้เลย มาค่ะหนู เดี๋ยวครูจะพาไปเข้าแถวนะคะ" ครูทรงศักดิ์พูดแล้วเดินนำเมธาวีไปที่สนามฟุตบอล สถานที่ทำกิจกรรมก่อนเข้าเรียน

 

ที่แถวนักเรียน ม. 1/6 เมธาวียืนอยู่ข้างเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ใจจริงอยากจะหยิบยื่นไมตรีให้ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มทักทายอย่างไร โชคดีที่เพื่อนข้างตัว ซึ่งมีน้ำเสียงสดใส บ่งบอกความร่าเริงอยู่ในทีเป็นฝ่ายเอ่ยทักขึ้นก่อน

 

“สวัสดีจ้า เราชื่ออลียา เรียกว่าแอลลี่ก็ได้” เจ้าของชื่อไม่พูดเปล่า เธอยื่นมือเล็กบาง อบอวลด้วยกลิ่นหอมของครีมทาผิวมาให้เมธาวีสัมผัส เพียงพบกันครั้งแรก เธอรู้โดยสัญชาติญาณว่า ประตูแห่งมิตรภาพได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว

 

การที่อลียาหยิบยื่นไมตรีให้ในวันนี้ เด็กหญิงพอจะคลายความกังวลลงได้บ้าง อย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นเคยเพียงลำพัง เมธาวีไม่หวังอะไรมากไปกว่าให้มิตรภาพในวันแรกยืนยาวตลอดไป

 

กิจกรรมหน้าเสาธงดำเนินไปตามครรลอง เริ่มจากร้องเพลงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ และกล่าวคำปฏิญานตน ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้ ใช้เวลาเพียงไม่นาน เมื่อครูเวรประจำวันสั่งเลิกแถว นักเรียนทุกคนทุกสายชั้นก็แยกย้ายไปเรียนตามห้องเรียนของตัวเอง

 

เมธาวีเดินตามเพื่อนๆออกไปจากสนามฟุตบอล อลียากับเพื่อนชายผมทองอีกคนคอยประกบซ้ายขวา ท่ามกลางสายลมอ่อนๆที่พัดมาปะทะผิวกาย และสายลมนั้น ได้พัดเอากลิ่นน้ำหอมของเพื่อนชายมาแตะปลายจมูกของเธอด้วย

 

เพื่อนชายร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งพูดกับเจ้าของกลิ่นน้ำหอมคนนั้นว่า “Good boy. เด็กดีนะยู เดินข้างคนตาบอดเสียด้วย” ถูกแซวแบบนี้ เด็กหนุ่มตาสีฟ้านามว่าแมททิวถึงกับชะงัก แต่ก็วางฟอร์มตอบกลับไปว่า

 

“อย่ายุ่ง เราเป็นบอดี้การ์ดเว่ย สนใจทำหน้าที่นี้ด้วยกันเปล่าล่ะเจสซี...” คำพูดหยอกล้อของเพื่อนทั้งสอง ทำเอาเมธาวีที่แอบฟังอยู่ทั้งปลื้มทั้งขำในคราวเดียวกัน

 

ก้าวแรกในห้องเรียน เมธาวีกับอลียาได้ที่นั่งแถวหน้า เยื้องๆกับโต๊ะวางเอกสารกับเครื่องขยายเสียง มิสประภาวดี หรือมิสแพรว อาจารย์ที่ปรึกษากล่าวต้อนรับศิษย์ใหม่ทุกคนอย่างอบอุ่น ไม่นาน เมธาวีก็ถูกพาตัวออกมาหน้าชั้น มิสแพรวขอให้เธอแนะนำตัวเองให้เพื่อนทั้งห้องรู้จัก

 

"สวัสดีค่ะ ชื่อเมธาวี ชื่อเล่นเมย์ ยินดีเป็นเพื่อนกับทุกคนเลยค่ะ" สิ้นสุดประโยคท้าย เสียงตบมือดังประสานกันพร้อมเพรียง จากนั้น ถึงตาเพื่อนๆได้แนะนำตัวเองบ้าง ไม่นานก็ถึงเวลาพักเที่ยง เมธาวีเดินไปโรงอาหารกับอลียา ส่วนเพื่อนหญิงชายอีก 3 คน คือเจสซี แมททิว และแนน คอยติดตามอยู่รั้งท้าย

 

เพื่อนทั้ง 4 คน อยู่ด้วยกับเมธาวีตลอดทั้งวัน ทำให้เธออบอุ่นหัวใจยิ่งนัก จากที่ก่อนหน้านี้ เด็กหญิงกังวลไปสารพัด กลัวจะได้เพื่อนไม่ดี กลัวเรียนไม่ได้ และกลัวอะไรต่อมิอะไรอีกสารพัดอย่าง แต่ ณ ตอนนี้ สิ่งที่เธอคิดกลับราบรื่นไปเสียหมด ความวิตกกังวลที่เกาะกินจิตวิญญาณมาตั้งแต่ก่อนเปิดเรียนได้หายไปสิ้น ไม่ทิ้งร่องรอยให้รู้สึกอีกแล้ว

 

การเรียนการสอนในภาคบ่ายเริ่มขึ้นเวลาบ่ายโมงตรง เป็นการเลือกรายวิชาตามความถนัด เมธาวีเลือกเรียนอังกฤษฟังพูด ที่สอนโดยอาจารย์จากสถาบันภาษา ELC ซึ่งเขาก็ให้การต้อนรับนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี ตลอดสองชั่วโมงที่เรียนวิชานี้ เมธาวีทั้งสนุกและประทับใจ เพราะครูซามูเอลเปิดโอกาสให้เธอได้พูดถามตอบกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เด็กหญิงชอบเป็นทุนเดิม

 

บทสนทนาในชั่วโมงแรกไม่มีอะไรมากไปกว่าการบอกประวัติของตัวเองอย่างคร่าวๆ “Miss May, can you introduce yourself? Yes I can."

 

เมธาวีสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนต่อหน้าเพื่อน ยืนทำใจอยู่นานค่อยเอ่ยแนะนำตัวด้วยภาษาอังกฤษที่ฟังดูกระท่อนกระแท่นเต็มที “ Hello. My friend, I am May. I come from Saithip blind school. I’m glad to be here and I’m so happy to meet good teacher and good friend. Thank you for very kind all of you.”

 

“โห! เมย์ เธอนี่เก่งจริงๆ เห็นทีฉันต้องมาติวภาษาอังกฤษกับเธอสักหน่อยล่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะเพื่อน...” คำชมของแนนอาจฟังดูเกินจริงไปนิดหน่อย เมธาวีคิดว่าความรู้ด้านภาษาอังกฤษของเธอเทียบไม่ได้เลยกับแมททิวและเจสซีที่เรียนภาคอินเตอร์มาตั้งแต่เด็ก เมธาวีแม้จะเคยเรียนกับครูชาวต่างชาติสมัยอยู่โรงเรียนสายทิพย์ แต่นั่นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสิ่งที่อยู่ในตำรา ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ภาษาอังกฤษยังคงเป็นวิชาที่เธอชอบอยู่นั่นเอง

 

หลังเลิกเรียน คุณสุมนทิพย์ขับรถเก๋งมารับเมธาวี อลียากับแมททิวเป็นคนพาเธอไปส่งที่จุดนัดพบ

 

"กลับก่อนนะทุกคน เจอกันใหม่พรุ่งนี้จ้ะ" เมธาวีเอ่ยกับเพื่อนๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และหวังใจว่า ตัวเองจะอยู่ที่โรงเรียนสองภาษาแห่งนี้ได้อย่างมีความสุข บทสรุปในวันแรกของการเข้าเรียนมัธยม เมธาวีได้เพื่อนใหม่ที่แสนน่ารักถึงสี่คน

 

อลียา หรือแอลลี่ สาวน้อยวัยใสผู้รักความสนุกสนาน เธอเข้ากับเพื่อนๆได้ทุกรูปแบบ และเธอจะแคร์ความรู้สึกเพื่อนมากกว่าตัวเธอเองเสียอีก

 

นะ นิชชา หรือแนน เด็กสาวเสียงทุ้มผู้เงียบขรึม เธอไม่เคยปฏิเสธเมื่อเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ ขอเพียงส่งเสียงมา นิชชาจะรีบไปหาในทันที

 

จิรวัฒน์ หรือเจสซี ใครสนิทมากจะเรียกเขาว่าเจส เพื่อนชายผู้มีน้ำใจและเป็นที่รักของเพื่อนๆเสมอ เขามีลูกพี่ลูกน้องสายตาเลือนลางชื่อทีเจ คนที่เคยเล่าเรื่องโรงเรียนวินเซนต์ให้เมธาวีฟังนั่นแหละ

 

แมททิว สตีเวน พาวเวล หรือที่รู้จักกันดีในนามของ “แมท” คนนี้เองที่มีบทบาทสำคัญต่อเมธาวี เขาเข้ามาเปลี่ยนโลกทั้งใบของเธอให้มีชีวิตชีวา จากเดิมที่มีแต่บ้านและโรงเรียน แมทกลับทำให้เมย์ได้ออกไปเผชิญโลกกว้าง ให้เมย์ได้สัมผัสสิ่งแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยพานพบ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะดีแสนดีเพียงใด เด็กน้อยเสียงแหลมใสชาวออสเตรเลียคนนี้ก็มิวายทำให้หัวใจเมย์ปั่นป่วน วุ่นวายและสับสนได้ทุกครั้งสินะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.