แยกบ้านกันเถอะ
“สะใภ้สาม เจ้าจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงเมื่อไหร่กัน ยังไม่รีบลุกขึ้นมาจุดไฟทำอาหารอีก ฮึมเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูของตระกูลผู้ดีหรือ เหอะ สกุลสวีของข้างช่างโชคร้ายยิ่งนักที่ต้องรับเลี้ยงนางแม่ไก่ที่ไม่ออกไข่แล้วยังขี้เกียจเช่นนี้ หากต้องรอนางตื่น คนในบ้านไม่ต้องกินข้าวกันแล้ว” เสียงแวดดังขึ้นตั้งแต่เช้า เป็นเสียงของแม่เฒ่าเจียงฟังแล้วไม่รื่นหูนัก คำด่าทอเหล่านี้ทำให้เจียเหรินที่นอนกอดภรรยาอยู่ในห้องขมวดคิ้วแน่น
“อื้อ อ่า ท่านพี่ข้าช่างไม่ได้เรื่อง นักวันนี้เกิดตื่นสายเสียแล้ว ข้าจะรีบไปจุดไฟทำอาหารก่อน” หลานหงลืมตาขึ้นมาพร้อมกำดวงตาที่ตื่นตระหนก นี่เมื่อคืนนางมีความสุขจนถึงขนาดตื่นสายเลยรึ แม่สามีเอานางตายแน่แล้ว
“ไม่ต้อง ข้าจะออกไปเอง เจ้าห้ามออกไป” เจียเหรินห้ามภรรยาของเขาหลังจากอังหน้าผากของนางรู้สึกว่านางเหมือนจะมีไข้ นางดูแลเขามาหลายวันด้วยร่างกายของนางที่เป็นเช่นนี้หากล้มป่วยก็คงไม่แปลก หลานหงได้แต่หยุดชะงักแต่นางก็ทำตามสามีบอกนางไม่เคยขัดสามีสักครั้ง ก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่จะลุกขึ้นไปเปิดประตูออกมา
“ท่านแม่มีอะไรรึ ถึงได้มาตะโกนหน้าห้องของข้าเสียงดังไปเสียสามบ้านแปดบ้านเช่นนี้”
“เจียเหรินเจ้าฟื้นแล้วรึ ดีเลยวันนี้จะได้ไปช่วยพ่อเจ้ากับพี่เจ้าเกี่ยวข้าว หวูเหรินน้องชายของเจ้าต้องลำบากหลายวันแล้ว เห็นแล้วทำให้แม่ทุกข์ใจนัก เหอะ ก็นังแม่ไก่ไม่ยอมออกไข่ของเจ้านะสิ ขี้เกียจสันหลังยาว ข้าพูดกับเจ้าไปหลายทีแล้ว ว่าให้เจ้าหย่ากับนาง คนไม่ได้เรื่องเช่นนางจะทำอะไรได้แค่ลุกมาทำอาหารนางยังทำไม่ได้ แม่ว่าเจ้าส่งนางกลับบ้านเดิมไปเถอะ เดี๋ยวแม่จะสู่ขอสะใภ้ให้เจ้าใหม่เอง ครานี้ข้าจะเลือกสะใภ้ที่ดีกว่านี้ไม่ผิดพลาดอีก” แม่เฒ่าเจียง มารดาแท้ๆของเจ้าของร่างเดิมเอ่ยขึ้นเมื่อนางเห็นลูกชายของนางฟื้นแล้ว แม่เฒ่าเจียงดีใจเป็นอย่างยิ่งที่แรงงานหลักของครอบครัวจะกลับมาทำงานได้แล้ว ปกติเจียเหรินก็มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าพี่น้องคนอื่นสามารถทำงานของคนสองสามคนได้ด้วยตัวคนเดียวแถมเขาไม่เคยเกี่ยงงาน หากไม่ใช่ช่วงทำไร่ทำนาเจียเหรินก็หารับจ้างได้เงินมาให้แม่เฒ่าเจียงไม่น้อย เมื่อเขาเป็นไข้เสียหลายวันทำให้ขาดแคลนแรงงานไป พ่อเฒ่าสวีจึงสั่งให้สวีหวูเหริน ลูกคนที่หกที่นางรักมากที่สุดลงไปทำงานในนา นางเห็นแล้วก็ปวดใจยิ่งนัก แต่ยังไม่วายเหน็บแนมสะใภ้สามออกมาไม่ขาดปาก
“ท่านแม่ หลานเอ๋อ อดหลับอดนอนเฝ้าไข้ข้ามาหลายวัน วันนี้เกิดล้มป่วยขึ้นมา วันนี้นางคงลุกขึ้นมาไม่ได้ ท่านแม่ให้พี่สะใภ้น้องสะใภ้สักคนเถิด” เจียงหลีพูดออกมาก่อนมองนางมารดาของเจ้าของร่าง แม่เฒ่าเจียงรูปร่างอ้วนถ้วนสมบูรณ์นักแม้ในยุคขาดแคลนอาหารเช่นนี้นางมีร่ายกายเช่นนี้ได้ถือว่าเป็นผู้มีวาสนานัก นางจะไม่อยู่ดีมาสุขได้เช่นไร ซ้ายมือมีสะใภ้ห้าคนสามารถใช้งานต่างวัวต่างม้าได้ ขวามือมีบุตรชายห้าคน แม้บางคนจะไม่ทำงานหากแต่หลายคนก็หาเงินมาให้ครอบครัวได้มากโข
“น้องสามเมื่อวานพี่สะใภ้ยังเห็นน้องสะใภ้สามยังดีอยู่เลย นางยังดูแข็งแรงอยู่มาก” สะใภ้ใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างแม่เฒ่าเจียงนางพูดขึ้นมา เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้แม่เฒ่าโกรธยิ่งขึ้นไป เจียเหรินมองหน้าสะใภ้ใหญ่ ชิ พี่สะใภ้นางนี้เจ้าเลห์ยิ่งนัก นางไม่อยากทำงานในครัวจึงต้องทำให้ภรรยาของเขาต้องลำบากเช่นนี้ พี่สะใภ้นางนี้นางเป็นลูกสาวเฒ่าหานพ่อค้าเขียงหมูที่ร่ำรวย นางแต่งเข้ามาพาสินเดิมมาไม่น้อย แม่เฒ่าเจียงจึงโปรดปรานนางนัก นางอยู่กินในตระกูลสวีถือว่าสบายกว่าสะใภ้คนอื่น ๆ แม้แต่สะใภ้รอง สะใภ้สี่และลูกสะใภ้คนที่ห้าของบุตรชายที่นางรักยิ่งยังต้องไปลงนาเกี่ยวข้าว ถือว่าเกินไปจริงๆ
“นางมารยาหละสิไม่ว่า พอแล้วเจ้าสามเจ้าอย่าไปหลงกลนาง รีบให้นางลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ส่วนเจ้าวันนี้ต้องไปช่วยคนอื่นๆเกี่ยวข้าว เร็วเข้าพ่อของเจ้ากำลังจะกลับมากินข้าวกันแล้ว ” แม่เฒ่าเสียงไม่พอใจยิ่งนัก นางตัดบท อย่างไรวันนี้ก็ต้องให้นางจิ้งจอกนั่นลุกขึ้นมาทำอาหารให้กับทุกคนให้ได้ พ่อเฒ่าสวีพาลูกๆไปลงนาเกี่ยวข้าวตั้งแต่เช้ามืดจะกลับมากินข้าวเช้าในไม่ช้า
“เหอะ แม้แต่เรื่องเช่นนี้ท่านยังใจร้ายกับครอบครัวของข้า ท่านแม่ท่านให้คนไปตามท่านพ่อให้กลับจากทุ่งนาเถิด ข้าจะขอแยกบ้าน” เจียเหรินสบถขึ้น เขาเลิกเสแสร้งพูดจานอบน้อมอีกต่อไป นางไม่ใช่มารดาแท้ๆของเขาเสียหน่อย เขาแค่มาเข้าร่างบุตรชายของนาง เขาเบื่อที่จะเล่นละครเช่นนี้อีกแล้ว ดูท่าทีีของแม่เฒ่าเจียงแล้วหากฝืนอยู่ต่ออีกวัน ไม่เจียเหรินก็คงเป็นภรรยาของเขาที่จะต้องตายเพราะทนการกดขี่เช่นนี้ไม่ไหว ดูจากความทรงจำเดิมแล้ว ที่เขามาเข้าร่างนี้ได้เป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมได้หมดลมไปก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนสิ้นใจเจ้าของร่างเดิมยังเคียดแค้นมารดาของตน ที่เขาป่วยหนักเช่นนี้นางไม่ยอมเจียดเงินแม้แต่อีแปะเดียวให้หมอมารักษาเขาเลย คนสุดท้ายที่อยู่ดูแลเขาก็มีเพียงภรรยาที่เขาชอบทุบตีอยู่ประจำ มาคิดได้ก็สายไปแล้ว เหอะในเมื่อไม่อยากทนก็ไม่ต้องทน นิสัยเดิมของเจียเหรินก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้วหากที่ผ่านมาเขาถูกจำกัดด้วยระบบเท่านั้น
“เจ้าว่าเช่นไรนะ เจ้าลูกอกตัญญู ข้ากับแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้ายังคิดจะแยกบ้านเหตุใดเจ้าถึงมีความคิดอกตัญญูเช่นนี้”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 322
แสดงความคิดเห็น