ตอนที่ 188: ยานลำมหึมา
ตอนที่ 188: ยานลำมหึมา
ระบบตรวจจับโลหะน่าจะมีข้อผิดพลาดเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วง นอกจากนี้เป้าหมายมันยังมีขนาดใหญ่มากเกินไปทำให้ระบบตรวจจับโลหะมีโอกาสเพิ่มข้อผิดพลาดไปได้เช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้เองเซี่ยเฟยจึงคิดว่าขนาดที่แท้จริงของเป้าหมายจึงควรจะมีขนาดใหญ่มากกว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร
เพียงแค่วัตถุที่มีขนาด 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตรก็เป็นขนาดที่มีความน่าทึ่งมากพออยู่แล้ว ถ้ามันมีวัตถุที่มีขนาดใหญ่มากกว่านี้จริง ๆ มันก็ไม่รู้ว่าจะต้องหาคำศัพท์คำไหนมาอธิบาย
หลังจากนั้นไม่นานโทมาฮอว์กก็ค่อย ๆ แล่นผ่านเศษอุกกาบาตเพื่อเข้าไปหาวัตถุที่เป็นโลหะขนาดใหญ่ แต่เมื่อภาพของวัตถุชิ้นนั้นปรากฏขึ้นมามันก็ทำให้ทั้งเซี่ยเฟยและอันธต่างก็อ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกใจ
มันคือยานรบ!
ยานรบลำมหึมาแบบที่ไม่สามารถหาคำบรรยายเป็นคำพูดได้!!
หากดูจากขนาดของยานรบลำนี้แล้วขนาดของมันไม่ใช่ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตรอย่างแน่นอน แต่มันควรจะมีขนาดอย่างน้อย 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตร!
โทมาฮอว์กเป็นยานแบทเทิลครุยเซอร์ที่สามารถเดินทางในจักรวาลได้อย่างสง่าผ่าเผย ซึ่งขนาดของยานลำนี้ก็จัดอยู่ในยานขนาดกลาง แต่มันกลับดูไม่ต่างจากมดตัวเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับยานรบที่อยู่ตรงหน้า!!
ในสถานการณ์ปกติมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ยานลำใหญ่ขนาดนี้จะสามารถซ่อนอยู่ได้ภายใต้กองเศษหินอุกกาบาต เพราะมันมีขนาดใกล้เคียงกับดาวเคราะห์ดวงเล็ก ๆ ทำให้มันดูเหมือนดาวสีดำที่หลับใหลอยู่ท่ามกลางกองเศษหิน
หนึ่งคนหนึ่งผียังคงตกตะลึงจนไม่เคลื่อนไหว
โดยปกติเซี่ยเฟยเป็นคนที่ชอบเก็บอารมณ์ทางสีหน้าเอาไว้ แต่ยานลำนี้ได้ทำให้เขาไม่สามารถเก็บสีหน้าอยู่ได้จริง ๆ
โลหะประกอบที่ใหญ่ที่สุดในพันธมิตรปัจจุบันคือยานบัญชาการของบิ๊กโฟร์ และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่เคยเห็นยานบัญชาการพวกนั้นด้วยตาของตัวเอง แต่เขาก็เคยได้เรียนรู้ข้อมูลของพวกมันจากหนังสือและอินเตอร์เน็ตระหว่างดวงดาว
ยานบัญชาการเป็นยานบรรทุกยานรบทำให้พวกมันมีขนาดใหญ่โตถึง 500 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ราคาของยานบัญชาการแต่ละลำมีราคามหาศาลจนคนธรรมดาไม่อาจจินตนาการได้
ด้วยเหตุนี้เองนอกเหนือจากเหล่าบรรดาบริษัทมหาอำนาจในพันธมิตร, สมาพันธ์จัสทิส, สมาพันธ์เฮอร์มิทและกองทัพ มันก็ไม่มีใครได้เป็นเจ้าของยานรบระดับสูงสุดพวกนี้เลย มันจึงทำให้ยานบัญชาการเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง เพราะถ้าหากว่าใครมีอำนาจไม่มากพอพวกเขาก็ไม่อาจจะเป็นเจ้าของยานบัญชาการได้
แม้แต่ยานบัญชาการแบบธรรมดาก็สามารถที่จะปล่อยโดรนสังหารได้พร้อมกันถึง 100 ลำ โดยโดรนสังหารแต่ละลำมีอำนาจในการสู้รบเหนือกว่ายานฟริเกตโดยทั่วไปเสียอีก
หากยานบัญชาการลำนั้นได้ติดตั้งระบบควบคุมโดรนเสริมเข้าไป มันก็จะสามารถปล่อยโดรนสังหารได้พร้อมกันถึง 150 ลำ ซึ่งประสิทธิภาพของพวกมันนั้นก็สามารถเทียบกับฝูงยานรบขนาดเล็กได้เลย
เมื่อรวมความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่งเข้ากับความเหนือชั้นของฝูงโดรนสังหาร มันจึงทำให้ยานบัญชาการเพียงลำเดียวสามารถจะทำลายยานรบรุ่นที่ด้อยกว่าอย่างยานประจัญบานได้หลายสิบลำ
ยิ่งไปกว่านั้นยานบัญชาการขนาดใหญ่ก็สามารถที่จะปล่อยโดรนสังหารได้พร้อมกันถึง 1,500 ลำ ซึ่งมีอำนาจมากกว่ายานบัญชาการโดยทั่วไปถึง 10 เท่า และด้วยการคงอยู่ของยานบัญชาการขนาดใหญ่พวกนี้นี่เอง มันจึงทำให้พันธมิตรมนุษย์เป็นหนึ่งในตัวตนที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดในจักรวาล
แต่ยานลำตรงหน้ากลับมีขนาดใหญ่กว่ายานบัญชาการขนาดใหญ่อย่างน้อย 30 เท่า มันจึงไม่มีใครสามารถที่จะจินตนาการถึงกำลังการสู้รบของยานลำนี้ได้
โดยปกติเพียงแค่ขั้นตอนการประกอบยานบัญชาการก็จำเป็นจะต้องใช้เวลานานถึง 40 ปี ซึ่งหลังจากที่สร้างเสร็จมันก็จะต้องมีขั้นตอนของการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ และขั้นตอนการทดสอบการใช้งานก่อนที่ยานรบลำนั้นจะพร้อมออกไปปฎิบัติการ
ส่วนการพยายามประกอบยานบัญชาการขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 80 ปี ซึ่งอู่ต่อยานที่มีทรัพยากรที่จะผลิตยานรบรุ่นนี้ก็มีเพียงแต่พวกบิ๊กโฟร์เท่านั้น และที่สำคัญแม้แต่บริษัทบิ๊กโฟร์แต่ละแห่งก็มีอู่ต่อยานบัญชาการขนาดใหญ่เพียงแค่บริษัทละอู่เดียว
หากราคาของยานบัญชาการมีราคาอยู่ที่ 1,000 ล้านล้าน แล้วยานรบลำมหึมาตรงหน้าสมควรจะมีราคาเท่าไหร่?
ยานรบลำใหญ่ขนาดนี้คิดว่าจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างนานเท่าไหร่?
ยานรบลำมหึมาขนาดนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง?
มันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของมนุษย์จริง ๆ หรอ?
ในเวลาเดียวกันแฮร์ริสก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ในห้องบัญชาการ
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องบัญชาการเลย แต่ในตอนนี้เขาได้สวมสร้อยเจ้าชีวิตและกลายมาเป็นทาสของเซี่ยเฟยแล้ว เขาจึงมีสิทธิ์เข้ามาภายในห้องแห่งนี้ได้อย่างอิสระ
เมื่อชายชราได้ก้าวเท้าเข้ามาเขาจึงกลายเป็นอีกคนที่ยืนนิ่งพร้อมกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ยานรบขนาดมหึมาลำนี้ค่อนข้างที่จะทรุดโทรมมากแล้วและบนลำตัวของยานก็เต็มไปด้วยรูพรุนจนไม่มีใครสามารถนับรูบนยานเหล่านี้ได้ ซึ่งในความเป็นจริงมันก็อาจจะมีรูอยู่เป็นจำนวนนับล้านรู
ภาพของรูเหล่านี้ยิ่งทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมันจำเป็นจะต้องใช้ปืนใหญ่ที่ทรงพลังขนาดไหนถึงสามารถทำให้ยานรบลำมหึมาถูกทำลายเป็นรูพรุนขนาดนี้ได้!
เซี่ยเฟยต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะปิดปากของเขาลง จากนั้นเขาก็จุดบุหรี่และกลับไปนั่งยังตำแหน่งของกัปตัน
“เซี่ยเฟยนั่นมันอะไร?” อันธกล่าวถามอย่างสงสัย
“ฉันจะไปรู้ไหมล่ะ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
การค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ เพราะมันทำให้แม้แต่เซี่ยเฟยผู้สงบนิ่งก็ยังไม่สามารถรักษาความสงบของเขาเอาไว้ได้
“นั่นมันอะไร?” แฮร์ริสถามคำถามเดียวกันกับอันธขึ้นมา เนื่องมาจากว่าเซี่ยเฟยกับอันธพูดคุยสื่อสารกันทางจิตสำนึก แฮร์ริสจึงไม่ได้ยินคำถามที่อันธได้ถามเซี่ยเฟยในก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็โบกมือโดยไม่พูดอะไรสักคำ เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบกลับไปว่าอะไรจริง ๆ
สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือยานลำนี้จะต้องเป็นยานรบเพราะมันมีแผ่นเกราะหนาและมีตัวยึดสำหรับการติดตั้งปืนใหญ่ขนาดใหญ่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวยึดพวกนี้จึงว่างเปล่าและไม่มีปืนใหญ่ถูกติดตั้งอยู่บนตัวยานเลย
“บินรอบยานลำนั้นเป็นรูปเกลียว รักษาระยะห่างไว้ที่ 1,000 เมตรต่อวินาที” เซี่ยเฟยเริ่มสั่งการคอมพิวเตอร์ AI อีกครั้ง
โทมาฮอว์กเริ่มบินรอบยานลำมหึมาและมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ภาพที่ปรากฏคือมันมีเสายึดขนาดใหญ่หลายต้นอยู่อีกด้านของยานรบ โดยเสายึดแต่ละเสาหล่อขึ้นมาจากโลหะผสมที่แข็งแกร่งและเสาแต่ละต้นก็มีความหนาราวกับว่ามันเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ
“นั่นมันอะไร?” อันธถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“น่าจะเป็นเสายึดสำหรับการสร้างยาน”
“เสายึด?”
“ฉันเคยอ่านเจอในหนังสือว่าการสร้างยานรบขนาดใหญ่ไม่สามารถผลิตขึ้นมาบนดาวเคราะห์ได้ เนื่องจากแรงโน้มถ่วงที่มากเกินไปทำให้อู่ต่อยานไม่สามารถรับน้ำหนักของยานรบพวกนั้นได้เลย ผู้ผลิตจึงทำการสร้างยานรบพวกนี้ในอู่เป็นส่วน ๆ ก่อนที่จะเอาองค์ประกอบทั้งหมดเข้ามารวมกันเป็นยานรบที่สมบูรณ์ในอวกาศทีหลัง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพ่นควันออกมาเป็นวง
“เข้าใจแล้ว พวกผู้ผลิตได้ใช้เสายึดพวกนี้ในการประกอบชิ้นส่วนยานอวกาศเข้าด้วยกันสินะ แล้วโครงยานกับเกราะได้ถูกผลิตแบบแยกส่วนด้วยไหม ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะทำให้โครงยานกับเกราะเปราะบางเกินไปหรือเปล่า” อันธกล่าว
“การผลิตโครงยานกับเกราะไม่สามารถผลิตแบบแยกส่วนได้ มันจึงจำเป็นจะต้องใช้อู่ต่อยานขนาดใหญ่พิเศษในการผลิตชิ้นส่วนพวกนี้ขึ้นมา แล้วมันก็จำเป็นจะต้องใช้โรงถลุงแบบขนาดใหญ่พิเศษเพื่อทำการหล่อทุกอย่างขึ้นมาในคราวเดียว” เซี่ยเฟยอธิบาย
คำอธิบายนี้ทำให้อันธรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะมันคงไม่ต้องอธิบายว่าเป็นเรื่องยากมากแค่ไหนในการหล่อเกราะสำหรับยานรบขนาดหลายหมื่นล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นมาในครั้งเดียว
“สิ่งที่ฉันพูดคือวิธีการผลิตยานรบขนาดใหญ่โดยทั่วไปของพันธมิตร แต่วิธีการผลิตของบริษัทขนาดใหญ่ถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับ หนังสือที่ฉันอ่านเลยไม่ได้กล่าวถึงวิธีการพวกนั้นเอาไว้ แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจคือการผลิตของบริษัทขนาดใหญ่มีความซับซ้อนที่สูงมาก ส่วนยานตรงหน้าลำนี้ฉันก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีใครสามารถสร้างมันขึ้นมาได้” เซี่ยเฟยกล่าว
ความเป็นจริงไม่ได้ต่างไปจากสิ่งที่เซี่ยเฟยพูดออกมาเลย เพราะบริษัทผลิตยานบิ๊กโฟร์ไม่เคยเปิดเผยความลับในการผลิตแก่โลกภายนอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
บริษัทผลิตยานจะทำการปล่อยยานบัญชาการลำใหม่โดยเฉลี่ยทุก ๆ 13 ปี แต่มันมีข่าวลือมาว่าเวลาที่บริษัทพวกนี้ใช้ในการผลิตยานบัญชาการแต่ละลำจริง ๆ อยู่ที่ 80 ปีเป็นอย่างน้อย
หากใครทำการรวบรวมข้อมูลยานบัญชาการภายในพันธมิตร พวกเขาจะได้พบว่ามียานบัญชาการอยู่น้อยมาก เพราะทั่วทั้งพันธมิตรมีจำนวนยานบัญชาการอยู่ไม่เกิน 200 ลำเท่านั้น
พันธมิตรมนุษย์มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากและมีประชากรอยู่ทั่วทั้งพันธมิตรเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นเมื่อเทียบกับพื้นที่ขนาดใหญ่ของพันธมิตรแล้วการมียานบัญชาการอยู่เพียงแค่ 200 ลำจึงถือว่าน้อยมาก และมันก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าการผลิตยานรบขนาดใหญ่เป็นกรรมวิธีที่มีความยากลำบากมากแค่ไหน
หากว่าแม้แต่การผลิตยานบัญชาการขนาด 500 ล้านลูกบาศก์เมตรยังมีความยากลำบากมากขนาดนี้ แล้วใครกันที่สามารถสร้างยานรบขนาดใหญ่ที่มีขนาดมากกว่า 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเหล่านี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเสายึดติดอยู่กับอีกด้านหนึ่งของยานทั้ง ๆ ที่โดยปกติเสายึดพวกนี้มักจะเชื่อมติดอยู่กับอู่ต่อยาน ดังนั้นหากมันมีเสายึดอยู่ตรงนี้มันก็ควรจะมีอู่ต่อยานอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ประเด็นคือมันไม่มีอู่ต่อยานในระยะสายตาของเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว
“เปลี่ยนระบบควบคุมเป็นการควบคุมด้วยมือ” เซี่ยเฟยสั่งการ
ทันใดนั้นมันก็มีพวงมาลัยยื่นออกมาจากแผงควบคุม
ในปัจจุบันยานรบส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ AI หมดแล้ว มันจึงมีน้อยคนมากที่จะบังคับยานด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้พวงมาลัยสำหรับการควบคุมจึงถูกเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีและไม่ค่อยจะถูกนำมาใช้งานในสถานการณ์ปกติ
ปัจจุบันเซี่ยเฟยนั่งอยู่ในตำแหน่งของกัปตันพร้อมกับหมุนพวงมาลัยของยานอย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังยานรบขนาดมหึมา
“นั่นนายกำลังจะทำอะไร?” อันธถามด้วยความสงสัย
เซี่ยเฟยชี้นิ้วไปที่รูขนาดใหญ่บนตัวยานก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกไปว่า
“รูตรงนั้นมีขนาดใหญ่มาก โทมาฮอว์กน่าจะเข้าไปด้านในได้”
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 213
แสดงความคิดเห็น