ตอนที่ 72: เฮอร์มิท
ตอนที่ 72: เฮอร์มิท
เฒ่าเคยืนอยู่ที่หน้าต่างมองดูชายหนุ่มที่ชื่อชานหยิงขับยานอวกาศออกไป จากนั้นเขาก็กลับมานั่งบนโซฟาพร้อมกับชั่งน้ำหนักกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบเล็ก ๆ ภายในมือ ก่อนที่เขาจะเปิดกระเป๋าและจ้องดูสิ่งที่อยู่ภายในเป็นเวลานาน
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยอยู่ด้านหลังชายชรา เขาจึงมองไม่เห็นสิ่งที่ถูกเก็บเอาไว้ภายในกระเป๋า
เฒ่าเคลุกยืนขึ้นพร้อมกับมีท่าทางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าภาพสีน้ำมันที่มีร่างผู้หญิงอันเปลือยเปล่า
ทันทีที่ชายชราคนนี้ได้กดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ภาพวาดก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเผยให้เห็นตู้เซฟที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง
เฒ่าเคนำมือขวาไปวางไว้บนเครื่องอ่านฝ่ามือ ขณะเดียวกันมันก็มีแสงสีแดงส่องลงมาสแกนดวงตาของเขา เมื่อทุกอย่างได้รับการยืนยันแล้วตู้เซฟก็ถูกเปิดออก
“ของนั่นมันคืออะไรกันแน่? ทำไมมันถึงต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขนาดนี้ด้วย?” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาภายในใจ
หลังจากเฒ่าเคปิดตู้เซฟเขาก็หันหลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านไปไม่นานเซี่ยเฟยก็ได้ยินเสียงน้ำไหลตามมา
เมื่อเห็นโอกาสเซี่ยเฟยก็ออกจากลิฟต์พร้อมกับเดินเอาตัวไปพิงแนบกับผนังห้องน้ำ
ประตูห้องน้ำเป็นประตูโปร่งแสงทำให้เซี่ยเฟยสามารถมองเห็นร่างที่นอนอยู่ในอ่างอาบน้ำได้อย่างชัดเจน โดยในตอนนี้เฒ่าเคกำลังนอนอยู่ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและมีผ้าขนหนูอุ่น ๆ คลุมใบหน้าของเขาเอาไว้
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปเบา ๆ จากนั้นเขาก็ใช้เชสซิ่งไลท์จี้คอของชายชราพร้อมกับใช้มือซ้ายดึงผ้าขนหนูที่ปิดหน้าออก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะได้เจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแต่ใบหน้าของเฒ่าเคยังคงสงบอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยเฟยอดที่จะรู้สึกชื่นชมชายชราคนนี้ขึ้นมาไม่ได้และยอมรับว่าเขาสมควรที่จะถูกยกย่องว่าเป็นโจรสลัดรุ่นเก๋าที่มีอำนาจปกครองพื้นที่แถบนี้อย่างแท้จริง
“ชานหยิงส่งแกมาหรอ?” เฒ่าเคถาม
“ผิดแล้ว ชิงชิงเป็นคนขอให้ฉันมาต่างหาก” เซี่ยเฟยตอบกลับพร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ
“ชิงชิง?” เฒ่าเคอุทานออกมาด้วยความงุนงงพร้อมกับขมวดคิ้วจนเกิดรอยย่นบนหน้าผาก
ถึงแม้ว่าชายชราจะพยายามคิดเป็นเวลานานแต่เขาก็จำไม่ได้จริง ๆ ว่าชิงชิงคือใคร ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจและกล่าวออกไปว่า
“ขอโทษทีทั้งชีวิตนี้ฉันหาเรื่องคนมาเยอะเกินไปและมันก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะจำชื่อของคู่กรณีได้ทุกคน”
“ที่แกจำไม่ได้ก็เป็นเพราะชิงชิงเป็นหมา” เซี่ยเฟยกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
“นี่แกบอกว่าแกจะมาฆ่าฉันเพราะหมาตัวเดียวงั้นหรอ!?” เฒ่าเคอุทานพร้อมกับปล่อยแรงกดดันอันรุนแรงที่ไม่เหมาะสมกับอายุของเขาเลย
“เรื่องนี้มันไร้สาระจริง ๆ ฉันอยู่ได้มาตั้ง 70 ปีแต่ต้องมาตายเพราะหมาตัวเดียวเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลย!” เฒ่าเคตัดพ้อด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือซึ่งภายในน้ำเสียงนั้นก็มีความอัปยศซ่อนอยู่เล็กน้อย
“ถึงแกจะไม่เชื่อ แต่เหตุผลที่ฉันมาฆ่าแกเป็นเพราะหมาที่ชื่อชิงชิงจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าว
เฒ่าเคพยายามพิจารณาคำพูดของเซี่ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเขาก็ได้พบว่ามันไม่ได้มีท่าทีโกหกหลุดออกมาจากชายหนุ่มตรงหน้าของเขาเลย
ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงชั่วขณะ ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดและในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่มีสีเขียวอยู่เล็กน้อย
ใครจะไปรู้ว่าสุดยอดโจรสลัดที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งจักรวาลจะต้องมาจบชีวิตลงเพราะหมาตัวเดียว มันจึงทำให้เฒ่าเคที่ยกย่องชีวิตตัวเองอย่างแรงกล้ารู้สึกเสียหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ในตู้เซฟมีของล้ำค่าอยู่มากมาย มันพอจะช่วยซื้อชีวิตคนแก่คนนี้ได้ไหม?” เฒ่าเคกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงของคนชรา
“ชีวิตของแกมันไม่ได้มีค่าอะไรหรอก สิ่งที่สำคัญคือชีวิตของชิงชิงที่แกพรากไปต่างหาก!” เซี่ยเฟยกล่าว
“แล้วถ้าฉันขอแลกชีวิตกับไอ้นี่ล่ะ?” เฒ่าเคกัดฟันพร้อมกับยกมือซ้ายที่สวมแหวนมิติขนาดใหญ่เอาไว้
โดยปกติแหวนมิติจำเป็นจะต้องใช้หินมิติเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงมิติทั้งสองแห่งเข้าด้วยกัน ดังนั้นยิ่งขนาดของหินมิติมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ คุณภาพของมิติที่อยู่ภายในก็จะยิ่งมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วทุก ๆ ครั้งที่มีการเปิดใช้งานแหวนมิติมันก็จำเป็นที่จะต้องเชื่อมช่องทางระหว่างมิติทั้งสองแห่งเข้าด้วยกัน ดังนั้นถ้าหากว่าช่องทางการเชื่อมมิติไม่เสถียร มันก็มีโอกาสที่สิ่งของที่เก็บเอาไว้ในแหวนมิติจะเสียหายหรือในกรณีที่เลวร้ายมิติที่เชื่อมโยงอาจจะพังทลายลงไปได้เลย
แหวนมิติภายในมือของเฒ่าเคมีขนาดใหญ่กว่าแหวนมิติทั่ว ๆ ไปมากและหินมิติที่ติดเอาไว้บนแหวนยังมีสีฟ้าสดใสไร้ซึ่งร่องรอยความด่างพร้อย
“แหวนมิติวงนี้มีพื้นที่มากกว่า 20 ลูกบาศก์เมตร แกน่าจะรู้ดีว่ามันมีค่ามากขนาดไหน” เฒ่าเคกล่าวขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง
ราคาของแหวนมิติจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามขนาดของพื้นที่ภายในแหวน ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยเดาไม่ผิดแหวนมิติวงนี้ก็สมควรที่จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านสตาร์คอยน์!
เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้สามารถซื้อทวีปออสเตรเลียได้ทั้งทวีป ดังนั้นถึงแม้ว่าภายนอกเซี่ยเฟยจะดูสงบแต่ในความจริงแล้วเขากำลังรู้สึกตกใจกับขนาดพื้นที่ของแหวนมิติตรงหน้าเป็นอย่างมาก
“ไม่มีปัญหา ฉันสัญญาว่าแกจะตายอย่างไม่เจ็บปวดมากเกินไป” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างร่าเริง
ในที่สุดเฒ่าเคก็เข้าใจแล้วว่าเขาไม่สามารถจะโน้มน้าวชายหนุ่มคนนี้ได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงหลับตาและแสร้งทำเป็นสงบแต่หน้าอกของเขายังคงสั่นไหวตลอดเวลาซึ่งเผยให้เห็นความกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย
ชิ้ง!
เชสซิ่งไลท์ตัดผ่านลำคอของเฒ่าเคไปอย่างแม่นยำทำให้เลือดไหลออกมาช้า ๆ และย้อมอ่างอาบน้ำให้กลายเป็นสีแดง
หลังลงมือเซี่ยเฟยก็ถอดแหวนมิติออกจากศพ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง
“คุณเคครับ! คุณเค!”
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วพร้อมกับเดินออกไปจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เลือกซ่อนตัวอยู่ด้านหลังตู้หนังสือ
เมื่อคนจากด้านล่างส่งเสียงตะโกนและไม่มีเสียงตอบรับ พวกเขาจึงเปิดประตูเดินเข้ามาภายในห้องอย่างระมัดระวัง โดยผู้ที่เดินเข้ามานั้นก็คือชายผมสีบลอนด์และบอดี้การ์ดที่เคยยืนเฝ้าบันได
เซี่ยเฟยที่ซ่อนตัวอยู่หลังตู้หนังสือเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บนเชสซิ่งไลท์กับเสื้อผ้าของตัวเองพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อเตรียมตัวเคลื่อนไหวตลอดเวลา ขณะเดียวกันสมองของเขาก็เร่งหากลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งสองค่อย ๆ เดินไปที่ห้องน้ำอย่างลังเลก่อนที่ชายผมสีบลอนด์จะตัดสินใจยื่นมือออกไปผลักประตูเบา ๆ
“เฮ้ย! มีนักฆ่า! รีบเปิดสัญญาณเตือนภัยเร็วเข้า!!” ชายผมบลอนด์อุทานออกมาด้วยความตกใจหลังจากที่เขาได้พบศพของเฒ่าเค
แต่ในทันใดนั้นเองบอดี้การ์ดผมสั้นที่ยืนรออยู่ด้านหลังก็ยื่นมือออกไปคว้าคอของชายผมบลอนด์เอาไว้ด้วยมือเดียว
กร๊อบ!
กระดูกคอของชายผมบลอนด์ถูกหักลงอย่างง่ายดายจนทำให้ศีรษะของเขาเอียงลงไปคล้ายกับไก่ที่โดนหักคอ
ปั่ก!
ชายผมสั้นโยนศพเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่เขาจะปิดประตู จากนั้นเขาก็นำเครื่องสื่อสารออกมาด้วยท่าทางอันสงบ ราวกับว่ามันไม่มีเรื่องแปลกประหลาดอะไรเกิดขึ้นเลย
“คุณเคกำลังอาบน้ำ ให้ยานของคุณชานหยิงลงจอดก่อน แต่ให้เขารอข้างล่างสักพักแล้วค่อยขึ้นมา” ชายผมสั้นสั่ง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้วเพราะสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นมามันเกินกว่าความคาดหมายของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
“ฉันรู้ว่าแกยังอยู่ จะออกมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลากคอแกออกมาดี?” ชายผมสั้นกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
ทันทีที่เขาพูดจบมันก็มีแรงกดดันที่ทรงพลังกระจายออกไปทั่วทั้งห้องราวกับว่าเขาคนนี้กำลังค้นหาตำแหน่งของเซี่ยเฟยอยู่
“เขารู้ว่าฉันอยู่ที่นี่หรอ!?” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ทันใดนั้นชายผมสั้นก็พุ่งตัวไปยังตำแหน่งที่เซี่ยเฟยได้ซ่อนตัวอยู่และร่างกายของเขาก็เคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวราวกับสายฟ้า!
ในเวลาต่อมามือของชายผมสั้นก็เปลี่ยนไปเป็นของเหลวที่พยายามคว้าใบหน้าของเซี่ยเฟยเอาไว้ ทำให้เซี่ยเฟยต้องเอนหลังหลบการจู่โจมอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ร่างกายของเซี่ยเฟยกำลังจะสูญเสียการทรงตัว จู่ ๆ ร่างของชายหนุ่มก็บิดไปทางด้านขวาพร้อมกับกลับมาทรงตัวอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว
แขนของชายผมสั้นชนเข้ากับหนังศีรษะของเซี่ยเฟยแล้ว แต่เขาไม่สามารถที่จะคว้าจับเซี่ยเฟยเอาไว้ได้ ถึงกระนั้นเขาก็เปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลันโดยการตวัดขาขวาเตะไปที่หน้าท้องของชายหนุ่ม
ขวับ!
ปฏิกิริยาการตอบสนองของเซี่ยเฟยก็ไม่ได้เชื่องช้าเช่นกัน ในทันใดนั้นเขาก็ใช้มือขวาตวัดเชสซิ่งไลท์เข้าใส่ขาของเป้าหมาย
“หะ!” ชายผมสั้นอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ มันได้มีดาบกลพุ่งออกมาจากแขนขวาของเซี่ยเฟย
ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจงอขาด้านซ้ายเพื่อทรุดตัวลงมาและทำให้ขาขวาของเขารอดพ้นจากใบดาบของเซี่ยเฟยไปได้อย่างเฉียดฉิว
การลงมือของชายตรงหน้าทำให้หัวใจของเซี่ยเฟยสั่นระรัว เพราะคนที่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมีแต่เหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญสูงกว่าเขามาก
หลังประเมินสถานการณ์ เซี่ยเฟยก็ตัดสินใจกระโดดถอยกลับไปยังบริเวณหน้าต่าง
ด้านนอกมีทหารยามอยู่หลายสิบคน ถ้าหากว่าเขาตัดสินใจกระโดดออกไปเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมทันที ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงยังไม่พังหน้าต่างออกไปเว้นแต่ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ
ขณะเดียวกันชายผมสั้นคนนี้ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่อันตรายและเขาก็คงจะไม่มีทางปล่อยให้นักฆ่าหนุ่มหลบหนีกลับไปทางลิฟต์ส่งอาหารอย่างเด็ดขาด
เมื่อชายผมสั้นได้เห็นการตัดสินใจของเซี่ยเฟยมันก็ดูเหมือนกับว่าเขาไม่ต้องการให้นักฆ่าหนุ่มคนนี้พังหน้าต่างออกไป เขาจึงตัดสินใจถอยหลังกลับไป 2 ก้าวพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า
“นี่คือการทำงานของเฮอร์มิท คุณอย่าเข้ามาขัดขวางดีกว่า!”
“เฮอร์มิท? เขาคนนี้เป็นสมาชิกของสมาพันธ์เฮอร์มิทงั้นหรอ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
สมาพันธ์จัสทิสกับสมาพันธ์เฮอร์มิทเป็น 2 สมาพันธ์นักรบที่ทรงอิทธิพลที่สุดภายในพันธมิตรมนุษย์ระหว่างดวงดาว ความแตกต่างเดียวระหว่างทั้งสองสมาพันธ์นี้คือเฮอร์มิทมักที่จะไม่ทำตัวโดดเด่นและปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็นน้อยมาก
ถึงแม้ว่าในฉากหน้าทั้งสองสมาพันธ์นี้จะดูเป็นเหมือนพันธมิตรกัน แต่ฉากหลังพวกเขากำลังแข่งขันกันอย่างลับ ๆ
‘ถ้าชายคนนี้เป็นเฮอร์มิทจริง ๆ แล้วเขามาที่นี่ทำไม?’
เซี่ยเฟยยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อไปแม้ว่าชายคนนี้จะบอกว่าเขาเป็นคนจากสมาพันธ์เฮอร์มิทก็ตาม
เมื่อชายผมสั้นเห็นว่าเซี่ยเฟยไม่เชื่อคำพูดของเขา เขาจึงตัดสินใจหยิบตราสัญลักษณ์รูปโล่สีเงินออกมาจากแหวนมิติพร้อมกับส่ายตราไปมาตรงหน้าของนักฆ่าหนุ่ม
บนตราสีเงินมีสัญลักษณ์เป็นรูปโล่ลายมาเชเต้ไขว้ธนูสั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเฮอร์มิทจริง ๆ และเมื่อพิจารณาจากจำนวนคลื่นที่อยู่ในสัญลักษณ์แล้วระดับของเฮอร์มิทคนนี้ก็ควรที่จะอยู่ในระดับเงินขั้นกลาง
“คุณเป็นใครกันแน่? เป็นศัตรูหรือเป็นมิตร?” ชายผมสั้นกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เซี่ยเฟยใช้เวลาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตัดสินใจหยิบตราสัญลักษณ์ของจัสทิสฝึกหัดออกมา
ตราสัญลักษณ์ของเซี่ยเฟยเป็นเพียงแค่ตราสัญลักษณ์สีดำชิ้นเล็ก ๆ ที่ประดับสัญลักษณ์ของสมาพันธ์จัสทิสเอาไว้ ซึ่งมันเป็นตราสัญลักษณ์ของจัสทิสฝึกหัดระดับต่ำที่สุดในบรรดาสมาพันธ์จัสทิสทั้งหมด
“จัสทิสฝึกหัด? สมาพันธ์ของคุณส่งจัสทิสฝึกหัดออกมาทำภารกิจนี้หรอ?” ชายผมสั้นพิจารณาตราสัญลักษณ์ของเซี่ยเฟยอย่างระมัดระวังและเขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะต้องหัวเราะออกมาดีหรือเปล่า
ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่ยังคงจ้องมองไปยังชายผมสั้นอย่างไม่วางตา
ในทันใดนั้นเองมันก็มีเสียงร้องคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้า ก่อนที่ยานของชานหยิงจะค่อย ๆ เคลื่อนที่ลงมาจอด
ชายผมสั้นเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความกังวล ก่อนที่เขาจะกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเคร่งขรึมว่า
“ผมไม่สนหรอกนะว่าสมาพันธ์จัสทิสของคุณกำลังคิดจะทำอะไร สิ่งที่ผมอยากรู้เพียงอย่างเดียวคือชานหยิงได้มอบกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบเล็ก ๆ ให้กับเฒ่าเคหรือเปล่า?”
***************
เอาว่ะ! จัสทิสปะทะเฮอร์มิทว่ะ!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 217
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น