บทที่ 14 ล่า 1

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 14 ล่า 1

บทที่ 14 ล่า 1

หญิงสาวมองบุรุษผมทองที่มีสภาพบาดเจ็บกลับมาอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตา

สำหรับในยุคสมัยที่เวทมนตร์อยู่ระดับแค่จักรพรรดิเพียงเท่านั้นทำให้เธอไม่คิดอยากจะเชื่อว่ามีมนุษย์ในยุคนี้ที่สามารถทำร้ายให้วินบาดเจ็บขนาดนี้ได้มาก่อน

รินพยายามใช้พลังเวทตรวจสอบบาดแผลที่เป็นสีดำเหมือนกับว่าผู้ใช้พลังเวทนั้นได้ใช้เวทมนตร์ที่สาบสูญไปแล้ว

“นี่เป็นฝีมือใครกัน หรือว่าจะเป็นเมฆาที่ทำ”

วินพยักหน้า “จะบอกว่าเป็นเมฆาก็ใช่อยู่

แต่ว่าคงเป็นเมฆาด้านมืดอะไรประมาณนี้ละมั้ง”

“แล้วผลการต่อสู้เป็นไง หรือว่าพวกนั้นสามารถหนีไปได้”

“ใช่ พวกผู้ข้ามิติหนีไปได้ทั้งคนใช้วิชาข้ามมิติกับพวกเมฆานั่นแหละ

แต่ว่ามันไม่หน้าเป็นไปได้จริง ๆ ที่ยายตาสองสีนั่นจะมีวิชาแบบเดียวกับพวกเรา

ฉันไม่อยากจะเชื่อ”

วินกล่าวก่อนที่จะยกชาที่รินทำให้มาจิบ เขาเบ้ปากเมื่อหญิงสาวผมฟ้านำน้ำเกือมาเช็ดรอบ ๆ บาดแผล นาฬิกาตอนนี้เข็มยาวกับเข็มสั้นอยู่เคียงกันดั่งคู่รักที่รักกันมาเนิ่นนาน เหมือนคู่ของเขา ชายหนุ่มอายุเพียงยี่สิบต้น ๆ (หน้าตาเป็นเช่นนั้น) พยายามคำนวญการเคลื่อนไหวของศัตรูใหม่

“พวกอาณาจักรคงไม่อยู่เฉยเหมือนกัน ในโลกนี้มีผู้ที่สามารถข้ามมิติสำเร็จได้ไม่กี่คน ถ้าคิดไม่ผิดพวกนั้นตรงตามหายายนั่นแน่นอน”

“เดิมทีการห้ามข้ามมิติกับการย้อนเวลาก็เป็นสิ่งที่สามารถอาณาจักรกำหนดขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบพวกเรา ถ้าพวกเขารู้คงพยายามจะกำจัดคนข้ามมิติคนนั้นมากกว่า คงไม่คิดจะชวนมาเป็นพวกด้วยหรอก ว่าแต่ฟังดูแล้วขนาดวินใช้สิ่งนั้นยั้งกำจัดพวกเขาไม่ได้พวกเขาก็ฝีมือไม่เล็วเลย”

วินสั่นศีรษะ “ไม่หรอก พวกนั้นเก่งจริง แต่ว่าที่ฉันแพ้ก็เพราะว่ามันถึงขีดจำกัดกับการใช้พลังแบบนั้นแล้ว ถ้าใช้มากกว่านี้ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะสามารถควบคุมเจ้านั่นได้ไหม ทางที่ดีหากต้องปะทะกันครั้งหน้าฉันให้พวกโทระไปช่วยสู้ดีกว่า”

วินรู้สึกถึงมือที่กดสำลีที่ใช้เช็ดบาดแผลของเขาได้ เขามองหน้าของริน ถึงแม้ว่าตอนนี้หญิงสาวจะยิ้มแย้ม ทว่าหากเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่กับสาวผมฟ้าก็จะรับรู้ดีว่าครั้งนี้หล่อนรู้สึกโกรธจริง ๆ

“แล้วทำไมวินถึงไม่รอให้พวกโทระมาถึงก่อนละ”

“นั่นก็เป็นเพราะว่า ยายนั่นมีเป้าหมายที่เด็กๆ ของอาณาจักรแห่งนี้ แถมเด็กนั่นหนุ่งคนก็เป็นน้องชายของหนูไอ ส่วนอีกหนึ่งยังเป็นลูกหลานของยายนั่น ไม่สิน่าจะเป็นเหลนหรือไม่ก็เป็นโหลน”

“ใครกัน” รินกล่าว ก่อนที่จะเริ่มใส่ยาลงบาดแผล วินเบ้ปากอีกครั้งสำหรับเขาที่ใช้เวทมนตร์จนชิน พอต้องมาทำแผลแบบนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลก

“ฉันก็ไม่ค่อยรู้จักชื่อ แต่ว่าจากที่ดูแล้ว เหมือนกับว่ายายนั่นจะเป็นคนที่มาจากอนาคต ยายนั่นรู้จักตัวของฉันเป็นอย่างดี แถมน่าจะมีข้อมูลของเธอกับจีน่าและอาโออิด้วย ฉันเลยไม่อยากจะปล่อยให้ยายตาสองสีนั่นมีชีวิตอยู่ หากยายนั่นสามารถเข้าถึงสิ่งนั้นแล้วยังสามารถทำลายความสมดุลของสามอาณาจักรโลกนี้คงวุ่นวายพอดูเลย”

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็ตาม แต่ว่าการที่ปล่อยให้ยายตาสองสีสามารถหลุดรอดไปได้นั่นก็ยังเป็นความผิดของคุณอยู่ดี”

เสียงที่ดังขึ้นทำให้วินหันไปมองชายหนุ่มที่เดินมาท่าทางกวนโทโสนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น “นายมาทำอะไรที่นี่ นายน่าจะอยู่กับพวกโทระกับเนโกะไม่ใช่หรือ”

“ผมมีเรื่องที่จะมาบอกคุณ ตอนนี้พวกเราได้ตัดสินใจแล้วพวกเราจะออกล่า”

รินละจากการทำแผลของวิน สำลีของหล่อนตกลงสู่พื้นก่อนที่หญิงสาวจะนำมือทาบอก “วันนี้มาถึงแล้วสินะ”

วินยันร่างขึ้น เขามีท่าทางจริงจังก่อนที่จะกล่าว “นี่คิดดีแล้วหรอที่จะเปิดเผยเรื่องนั้น หากทำแบบนั้นพวกเธอจะดึงคนจำนวญมากมาเกี่ยวข้อง”

“พวกเราไม่สามารถรับมือมันได้อีกต่อไป ไม่สิต่อให้รับมือได้พวกเราก็คงไม่สามารถปกปิดมันได้แล้ว คนเองก็น่าจะรู้ดีว่าเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสามอาณาจักรรับรู้แล้วว่าที่แห่งนั้นยังไม่ได้ถูกผนึกโดยสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าคุณอยากจะปกป้องคนของมิตินี้มากสักเท่าไร แต่ว่ามันคงไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม แล้วอย่าลืมว่าสิ่งที่ชาวต่างมิติได้ให้สิ่งที่เรียกว่าวิทยาการทำให้ข้อมูลข่าวสารถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการปะทะของคุณทำให้ผู้คนในสามอาณาจักเริ่มระแคะระคายถึงวิธีการเปิดสิ่งนั้นแล้ว”

“ฉันคงไม่สามารถยับยั้งเหตุการณ์แบบนี้ได้จริง แต่ว่าหากเลือกได้ฉันก็อยากให้มันยังมีเวลาที่พวกเราจะสามารถรับมือได้ หากมันถูกเปิดออกทั้งพวกเทพและมารก็จะสามารถใช้ช่องว่างข้ามมายังโลกแห่งนี้ได้ พวกเราจะไม่ได้มีศัตรูเพียงแค่สัตว์อสูรเพียงเท่านั้น พวกผู้ทรงปัญญาจะเข้ามา โลกจะกลับสู่ยุคแห่งความโกลาหลอีกครั้ง หากเป็นแบบนั้นเลือดได้นองพื้นแน่”

วินถอนหายใจ ชายหนุ่มคิดไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องมาถึงอีกครั้ง เพียงแต่สิ่งที่เขาไม่คิดก็คือมันจะมาถึงเร็วเพียงนี้ “หรือว่าจะต้องไปจัดการพวกผู้นำทั้งสามอาณาจักรทิ้ง หลังจากนั้นก็หาคนที่สามารถเป็นหุ่นเชิดขึ้นมาปกครอง หลังจากนั้นก็ทำให้ข้อมูลและวิธีการเปิดประตูนั้นให้หายไป”

“ต่อให้วินไม่อยากจะเปิดประตู แต่ว่ามีคนอื่นอยากจะเปิดมันอยู่ดี นายอย่าลืมว่ายังมีพวกเมฆาอยู่ การที่จะทำให้ชีวิตของมนุษย์เข้าสู่ขอบเขตของพระเจ้านั้น จำเป็นต้องใช้สิ่งนั้นของเทพและมารมาปลูกถ่ายให้กับมนุษย์”

วินพยักหน้ารับ เดิมทีพวกของเมฆาเองก็คงมีวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับผู้ที่เป็นนักข้ามเวลา หากเวลาและประวัติศาสตร์ถูกเปลี่ยนไป อนาคตก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนวินจะเคยทำมาแล้ว ทว่าชายหนุ่มยังสามารถทำให้โลกกลับมาเป็นดังเดิมได้ แต่ว่าหากผู้อื่นได้ทำเขาก็มสามารถรู้ได้ว่าการกระทำจะเป็นเช่นไร

“แล้วนายพอรู้หรือไม่ว่าทำไมผู้ข้ามเวลาถึงเดินทางมายังโลก และมีเป้าหมายที่น้องของไอและเด็กอีกคนที่ตกเป็นเป้ามีความเกี่ยวข้องอะไร”

เลโอมองชายเบื้องหน้า เขาทำท่าทางตรึกตรองก่อนที่จะกล่าว “เด็กทั้งสองที่ตกเป็นเป้ามีส่วนที่เกี่ยวข้องกันอยู่อย่างนึง นั่นก็คือทั้งสองคนเคยไปยังดันเจี้ยนมาก่อน เด็กคนหนึ่งโดนเวทคำสาปของจักรพรรดิหนุ่มนามว่าออสติน ส่วอีกคนหนึ่งได้แหวนในมิติมา”

วินพยักหน้ารับ “เวทคำสาปน่าจะหายไปหลังจากที่ผู้ร่ายได้ตายลง แล้วทำไมมันยังมาตามล่าน้องชายของไออีก หากคิดไม่ผิดเป้าหมายของนักข้ามเวลาก็ต้องมีแค่เด็กที่มีผมสีฟ้าไม่ใช่หรอ”

“เจ้าจักรพรรดินั่นยังไม่ตายหรอก ที่ผมกำจัดก็เป็นแค่ร่างแปลงของมันเท่านั้น”

คำกล่าวของเลโอทำให้วิ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก “นายรู้ว่ามันยังอยู่ แต่ว่านายกลับปล่อยมันเนี่ยนนะ”

“ใช่ แต่ผมมีเหตุผลที่ปล่อยมา อย่างแรกภารกิจให้ผมไปช่วยเหลือพวกเด็ก ไม่ได้ให้ผมไปจัดการจักรพพรดิเวทมนตร์ ส่วนอย่างที่สองพอร่างแปลงของมันถูกกำจัดยายนั่นก็รีบเก็บพลังเวทแล้วหายตัวไปในทันที ต่อให้ผมอยากจะกำจัดก็คงไม่สามารถทำได้ อย่างที่สามารถตรงนั้นไม่ได้มีแค่ผม แต่ยังมีตัวตนอีกหนึ่งตัวตน หากให้ตัวตนนั้นเจอกันน่านไปกว่านี้ ตัวตนของคนไดคนหนึ่งอาจจะหายไป”

“ตัวตนคู่ขนานยังงั้นหรอ”

เลโอพยักหน้ารับ “ใช่ตัวตนคู่ขนาน ผมคิดว่าเพราะจักรพรรดินั่นรู้เลยรีบกำจัดตัวตนนั้นเสีย แตอย่างไรก็ตามเจ้านั่นก็ยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการข้ามมิติดีจึงไม่พาเด็กผมดำออกจากมิติของตน”

วินพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะกล่าว “อย่างนี้นี่เอง ตัวตนที่ว่าคือน้องชายของอาสึนะ แสดงว่ามิติที่พวกเธอได้ไปมาก็ตคือ มิติของเทพแห่งความโกลาหล เทพคาออส มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่”

เลโอพยักหน้ารับ “เพราะแบบนั้นผมเลยต้องรีบกลับมา ยังโลกเดิม”

วินพยักหน้า “ดีแล้วละ หากพวกเธออยู่ต่อคงไม่เป็นผลดี แต่ว่าร่างแปลงยังงั้นหรอ ไม่ได้ยินชือเวทบทนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันได้ปะทะกับชายผู้นั้น”

“เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ว่าการที่ผมมาในครั้งนี้ผมก็แค่จะมาบอกอดีตอาจารย์อย่างคนว่า พวกเราจำเป็นต้องออกล่าแล้ว ผมไม่ได้ต้องการความคิดเห็นจากคุณ แล้วอีกอย่างนึงหหากคุณไม่คิดจะทำอะไรกับพวกเมฆาผมก็คงต้องจัดการเอง หากพวกนั้นมายุ่งกับเวลา”

สิ้นคำกล่าวเลโอพลันเปิดมิติแล้วเดินเข้าเวทของตนไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เขาไม่คิดจะหันมามองท่าทางของวินที่กำลังเริ่มมีออล่าขนาดเล็กปกคุมตามตัว

“ไอ้เด็กเปตเอ้ย“

Writer talks

สวัสดีครับนักอ่าน โทษทีที่หายไปนานนะครับ พอดีช่วยนี้ผมต้องทำ module ประกอบกับมีปัญหาชีวิตเลยไม่ได้เขียน แต่ว่าก็มาแล้วน้า ผมก็เขียนประมาณสามหน้าเพื่อจะให้ลงทุกว้นจะได้ไม่ค้างคา แต่ว่าผมจะมาแจ้งข่าวครับ พอดีว่าวันศุกร์นี้ถึงวันอังคารนี้ผมต้องเดินทางไปทำธุระที่เชียงใหม่ครับ ผมเลยไม่สามารถเขียนได้ครับ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับทุกคน จะบู๊รัวๆๆแล้วนะครับ ตัวละครก็จะค่อย ๆ ออกมาแล้วนะครับ วันนี้ที่เขียนไวเพราะว่าจะพยายามเขียนให้ได้สามตอน แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้ได้ไหมฮ่าๆๆๆ

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.