บทที่ 13 เริ่มแผนการ 2
บทที่ 13 เริ่มแผนการ 2
ศิลาว่าก่อนที่จะหันมามองยังไอยราที่มีท่าทางไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ศิลากล่าว เขาม่คิดว่าเด็กคนนี้จะมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบวิธีการของน้องเธอ แต่ว่าวิธีนี้มันไม่ได้ผิดกฎที่พวกเราได้ตั้งไว้ การสอบเข้ามีกฎอยู่แค่สองข้อเท่านั้น นั่นก็คือ ต้องเอาชนะผู้ทดสอบให้ได้ หรือไม่ก็ต้องให้ผู้ทดสอบประกาศยอมแพ้ ดังนั้นการที่น้องของเธอจะใช้วิธีเลวทรามต่ำช้าแบบที่น้องของเธอใช้ในการทดสอบในวันนั้นก็ไม่มีใครจะสามารถคัดค้านได้ แต่ว่าก็อย่างที่รู้กันว่าการทำแบบนี้ถึงแม้ว่าพวกเราผู้คุมกฎจะไม่มีอะไรที่จะคัดค้ายในการสอบเข้า แต่ว่าพอมันหลุดออกไปแล้วก็ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาสอบเข้าเหมือนกับน้องของเธอรู้สึกรับไม่ได้”
สุริยะเห็นพ้อง “ใช่แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะให้เด็กคนนั้นมาสอบใหม่ แต่ว่าก็ต้องแล้วแต่ผู้ที่จะลงชื่อ”
ศิลายิ้ม “ใช่ เดิมทีมันควรเป็นเช่นนั้น แต่ว่าตอนนี้เราคงไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้แล้ว”
ชายวัยกลางคนยื่นมือถือของตนให้ไอและสุริยะได้รับชม เมื่อทั้งสองคนได้เจอพวกเขาพลันต้องเบิกตาโพลง
“นี่มันใครเป็นคนทำกัน”
“ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำแบบสำรวจความคิดเห็นนี้ขึ้นมา แต่ว่าจากที่ลองคิดดูแล้วก็คงเป็นเด็กในโรงเรียนเวทมนตร์บางคนแน่ๆ มันไม่แปลกอะไรที่เขาจะทำแบบสำรวจแบบนี้ขึ้นมาจริงไหม”
สุริยะพยักหน้ารับ “ใช่ ฉันเข้าใจ เด็กส่วนใหญ่ที่สามารถสอบเข้ามาได้ด้วยความยากลำบากคงไม่รู้สึกเห็นด้วยกับการทดสอบในครั้งนี้ แล้วอีกอย่างการสอบในครั้งนี้เป็นการสอบเข้าพร้อมกับการเลื่อนระดับชั้นทำให้การสอบครั้งนี้ได้รับการจับตามอง”
ชายหนุ่มหันไปมองยังผอที่มีสีหน้าปั้นยาก ศิลาว่าต่อ “ต่อให้พวกครูอย่างเราไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ว่าพวกเราก็ควรรับฟังความคิดเห็นจากแบบสำรวจนี้ อย่างไรก็ตามโรงเรียนของเราก็เป็นโรงเรียนที่ได้ชื่อว่ารับฟังความคิดเห็นของนักเรียน เมื่อเป็นอย่างนั้นการที่นักเรียนส่วนใหญ่รู้สึกไม่เห็นด้วยแล้วยืนยันให้ไบรท์สอบปฏิบัติไหมนั้น ก็เป็นเรื่องที่ควรที่จะกระทำ แล้วอีกอย่างการสอบใหม่ก็จะทำให้เรื่องนี้มีความโปร่งใสมากขึ้น”
“เราจะดูผลคะแนนของครูหรือไม่” ไอกล่าว เธอรู้ดีว่าตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของเธออีกต่อไปแล้ว แต่มันคือเรื่องของโรงเรียนเวทมนตร์ อีกอย่างหนึ่งถึงแม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะมีความเกลียดชังพวกเธอ ทว่าชายคนนี้ก็รู้จักแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน
“แต่ว่าเราจะยอมให้คนส่วนใหญ่มาวิภาควิจารณ์โรงเรียนเราฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ แล้วอีกอย่างการกระทำของไบรท์ก็ไม่ได้ผผิดอะไรด้วย”
“ทางฉันและคนอื่นรู้ดี ถึงแม้ว่ามันจะไม่ผิดกฎก็ตาม แต่ว่าเรื่องนี้คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดว่ามันผิดกฎ แต่พวกเขากับไม่พอใจที่การกระทำตอนสุดท้ายของไบรท์ทำให้สามารถผ่านการทดสอบได้อย่างง่ายดาย นี่แหละที่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาดูการประลองวันนั้นก็เป็นพยานเหมือนกันว่าไบรท์ได้ล้มลงแล้วแพ้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาใจหรือเปล่าไอ ตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องรักษาหน้าของโรงเรียนเรา มันไม่ใช่เรื่องของน้องเธอเพียงอย่างเดียวแต่มันเป็นเรื่องของโรงเรียนกับความไม่พอใจของคนส่วนมาก แล้วอีกอย่างหากน้องของเธอมีฝีมือจริง การสอบใหม่ครั้งนี้คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก
ตัดมายังไบรท์
เด็กหนุ่มมองการฝึกสอนของอาสึนะอย่างชื่นชม ข้าง ๆ ของเขามีจอนและคาเสะที่กำลังยืนอยู่ไม่ห่างกันนัก ณ ที่ห่างไปไม่มากน้องสาวที่น่ารักน่าชังกำลังตั้งใจวาดวงเวทโดยที่ไม่คิดจะสนใจว่าตอนนี้มายด์กำลังตกเป็นเป้าสายตาของพวกพี่ๆ
“ตอนเช้าฉันขอโทษจริงๆ ที่ไปขัดจังหวะพวกเธอ” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูของไบรท์
“ไม่ได้ขัดจังหวะอะไรหรอกเพื่อน ก็แค่นายเข้าไปแบบไม่คิดจะดูตาม้าตาเรือเลยทำให้ฉันไม่ได้รับจู้ยามเช้าของหญิงสาวสุดสวย”
ไบรท์กล่าวเขานำมือไปตบไหล่ของของจอน ก่อนที่จะว่าต่อ “ฉันไม่รู้สึกเสียดายอะไรมากมายหรอกน่า แค่รู้สึกว่าต่อไปนี้ฉันคงตรงหาเวทอาณาเขมาใช้บ้างแล้ว จะได้ไม่มีมารพจนเหมือนใครบางคนยังไงล่ะ แต่ว่านายไม่ต้องคิดมากหรอกนายไม่ได้ทำอะไรผิด”
สิ้นคำกล่าว ชายหนุ่มพลันมีท่าทางอึดอัดใจ เขารู้สึกสำนึกผิดที่สุดในชีวิต ไบรท์ยิ้มเมื่อเขาสามารถปั่นประสาทของจอนได้สำเร็จ หากถามว่าเขาอยากจูบกับคาเสะหรือไม่ ไบรท์ก็สามารถตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าคงไม่ได้อยากอะไรขนาดนั้น แต่ในเมื่อได้โอกาสจะแก้งจอนเขาก็ขอรับมันเอาไว้
เมื่ออาสึนะเห็นว่าทุกคนมารวมกันแล้ว เขาจึงหยุดฝึกเวทมนตร์ให้กับมายด์ หญิงสาวจูงมือน้องสาวของตนก่อนที่จะทักทายจอนที่มายังบ้านของตนเอง
“ไงจอน ทำไมมาอยู่นี่ได้ แล้วโมโมะล่ะอยู่ไหน ไม่ได้มาด้วยยังงั้นหรอ”
จอนมองไปยังอาสึนะที่ได้ชื่อว่าเด็กผู้มากความสามารถ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยกับอาสึนะโดยที่ไม่มีโมโมะ เดิมทีนั้นโมโมะกับอาสึนะนั้นสนิทกันมาก แต่ว่าเขาไม่ค่อยจะสนิทกับกลุ่มของอาสึนะสสักเท่าไร เขาจะอยู่กับเนกิมากกว่า หากเขาไม่ใช่สัตว์อสูรของโมโมะ จอนก็คิดว่าเขาก็คงไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่เอาใจยากเช่นโมโมะเหมือนกัน
“โมโมะไปส่งหนังสือพิมพ์น่ะ หลังจากนั้นคงต้องไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมากินข้าว”
“หาเงินค่าข้าวยังงั้นหรอ อ้าวแล้วเงินที่ได้จากโรงเรียนไปไหนหมด”
จอนยิ้มกับคำกล่าวของอาสึนะ ก่อนที่จะเรียกดาบขึ้นมาบนมือ เขาชี้ให้อาสึนะมองดูลูกแก้วทั้งแป็ดลูกที่ส่องแสงเป็นประกาย “ฉันเอามาใช้ใส่ดาบหมดแล้ว”
“แสดงว่าตอนนี้นายก็ไม่มีเงินไปกินข้าว แถมยังไม่มีเงินจ่ายค่าหอด้วยใช้ไหม”
อาสึนะกล่าวทำให้จอนพยักหน้ารับ “ใช่ ความจริงฉันก็จะชวนโมโมะไปสอนพิเศษอยู่นะ แต่ว่ายายนั่นไม่ชอบเป็นครูจำเป็นสักเท่าไร”
“ถ้าแบบนั้นทำไมไม่ไปที่หอกลางฟ้า ที่นั่นแค่ชนะการประลองได้ก็ได้เงินเยอะอยู่นะ”
“ไม่ได้หรอก ตอนนี้ฉันเป็นนักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์อยู่เลยไม่ได้รับอณุญาตให้ไปประลอง ถ้าต้องการไปก็ต้องไปทำเรื่องซึ่งมันยุ่งยากมาก พวกฉันเลยไม่ทำ ว่าแต่เธอล่ะอาสึนะ ใกล้จะเปิดเทิมแล้วเธอจะไปสอบเข้าเกรดสิบสองเลยไหม”
อาสึนะช่างใจ “ยังไม่ได้คิดเลย ตอนที่เรียนอยู่ก็รู้เลยว่าพอขึ้นมาเกรดสิบนี่มันยาก เลยคิดว่าคงสอบไม่ได้ง่าย ๆ วันนี้พวกเราจะไปดูโทรศัพท์ให้พวกไบรท์กัน”
ชายหนุ่มยิ้ม “ดีดีฉันคิดว่าจะไปหาคนในตลาดเหมือนกัน ว่าแต่พวกเธอจะไปกันตอนไหน”
อาสึนะมองไบรท์ที่ตอนนี้อาบน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ถ้าแบบนั้นพวกเราไปตอนนี้เลยดีไหม”
เวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรไม่สามารถทราบได้ พวกของไบรทืก็ได้มาถึงยังร้านขายโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก ระหว่างทางจอนได้ขอแยกทางไปหาเพื่อนของเขาทำให้ตอนนี้มีเพียงไบรท์ อาสึนะ คาเสะ และมายด์ที่กำลังมองดูโทรศัพท์ที่เรียงรายอยู่
ร้านแห่งนี้เป็นร้านขายโทรศัพท์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ผู้ขายเป็นผู้หญิงหน้าตาดีพอใช้ซึ่งตอนนี้เจ้าหล่อนได้ไปแนะนำโทรศัพท์ให้กับพวกสาว ๆ ทิ้งชายหนุ่มไว้เพียงลำพัง อาสึนะกำลังเลือกโทรศัพท์ให้กับมายด์และคาเสะ ส่วนชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดงก็กวาดตามองโทรศัพท์ที่ราคาไม่เกินหมื่นเหรียญ ทันใดนั้นเองไบรท์พลันรู้สึกบางอย่างทำให้เขากวาดตาไปมองยังหญิงสาวผมเขียว ไบรท์พลันรู้ได้ทันทีว่าเขาเองนั้นก็โดนคาเสะแก้งเข้าแล้วเหมือนกัน หญิงสาวผมเขียวส้อนยิ้มไว้นัยน์หน้าของตนเองก่อนที่จะทำท่าทางปฏิเสธ
“นี่เธอใส่อะไรไปในข้าวเช้า”
คาเสะยิ้ม แต่ทว่ากับไม่คิดจะสนใจมองมายังไบรท์ เมื่อเห็นดังนั้นไบรท์จึงไม่คิดจะสนใจ หากเขาคิดไม่ผิดเวทที่โดนนาจะเป็นประเภทคำสาปดังนั้นหากหาวิธีแก้ได้ก็จบ
ไบรท์มองโทรศัพท์ที่ราคาไม่เกินหมืนก่อนที่ไบรท์จะได้หยบโทรศัพท์รต่อพลันมีเสียงของชายฉกรรจ์ดังขึ้น
“ทุกคนก้มหน้าลง อย่าขยับนี่คือการปล้น”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ไบรท์หันขวับไปมอง เขาเตียมตัวที่จะใช้พลังเวททว่าก่อนที่ไบรท์จะได้ขยับร่างเสียงของพวกโจรพลันกล่าว “อย่าคิดใช้พลังเวทให้เสียเวลา ตอนนี้พวกเราได้ทำให้พลังของพวกแกไร้ผลด้วยเวทอาณาเขตแล้ว หากพวกแกไม่เชื่อก็ลองใช้ได้แต่ว่าพวกแกอาจจะต้องตาย”
ไบรท์ทะยานร่างเข้าหากลุ่มของชายฉกรรจ์ที่มีประมาณห้าถึงหกคน เขาเหวี่ยงหมดเข้าใส่ชายที่อยู่ใกล้ที่สุดเสียงหมัดปะทะเข้าหน้าดังสนั่น ชายคนนั้นล้มลงไปยังพื้น ก่อนที่ไบรท์จะทะยานเข้าหาชายอีกผู้ ทันใดนั้นเองเสียงดังดุจฟ้าคำรนพลันดังขึ้นทำให้ร่างกายของเด็กหนุ่มพลันหยุดชะงัก
ณ ที่แห่งหนึ่ง หญิงผลแดงกับแพทย์เทวะมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสองยิ้มพร้อมกันก่อนที่ชายหนุ่มจะกล่าว
‘แผนการของเจ้านี่ไม่เล็วเลยจริง”
“นายแห่งข้าก็ชื่นชมเกินไป ตอนนี้พวกเราได้เริ่มแผนการนั้นแล้ว แถมยังตอนนี้เรายังได้กำลังใหม่มาอีกด้วย”
Writer talks
สวัสดีครับนักอ่าน โทษทีที่หายไปนานนะครับ พอดีช่วยนี้ผมต้องทำ module ประกอบกับมีปัญหาชีวิตเลยไม่ได้เขียน แต่ว่าก็มาแล้วน้า ผมก็เขียนประมาณสามหน้าเพื่อจะให้ลงทุกว้นจะได้ไม่ค้างคา แต่ว่าผมจะมาแจ้งข่าวครับ พอดีว่าวันศุกร์นี้ถึงวันอังคารนี้ผมต้องเดินทางไปทำธุระที่เชียงใหม่ครับ ผมเลยไม่สามารถเขียนได้ครับ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับทุกคน จะบู๊รัวๆๆแล้วนะครับ ตัวละครก็จะค่อย ๆ ออกมาแล้วนะครับ วันนี้ที่เขียนไวเพราะว่าจะพยายามเขียนให้ได้สามตอน แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้ได้ไหมฮ่าๆๆๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 135
แสดงความคิดเห็น