บทที่ 13 เริ่มแผนการ 1

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 13 เริ่มแผนการ 1

บทที่ 13 เริ่มแผนการ 1

เช้าวันหนึ่ง

วันนี้เป็นวันที่สดสัยอากาศเย็นสบายผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านของอาสึนะนั้นตื่นมารับแสงอาธิตย์ที่อบอุ่น

ทว่ามีคนผู้หนึ่งที่ไม่คิดที่จะออกมารับอากาศอันบริสุทธิ์

คนผู้นั้นนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนของตนเอง

เวลาผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่มีใครคิดจะสนใจ ไบรท์ไม่คิดจะลืมตาขึ้นมามองต่อให้นาฬิกาจะดังเพื่อเตือนว่าเวลาใกล้จะเลยเวลารับประทานอาหารเช้า

เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาที่ดังไม่หยุดโดยที่ไม่คิดจะลืมตามองแม้แต่นิด มันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไบรท์สามารถนอนหลับได้อย่างเป็นสุข ทำให้เขาไม่คิดจะตื่อมา อากาศจากเครื่องปรับอากาศที่ปิดแต่ถึงกระนั้นมันยังคงมีความเย็นประกอบกับความขยันที่เขาไม่ค่อยจะมี เดิมทีเด็กหนุ่มเป็นคนตื่นเช้า ทว่าวันนี้เขาขอเป็นคนตื่นสายเสียบ้าง

เสียงประตูดังขึ้นแต่ไบรท์กลับไม่คิดจะไปเปิดให้เสียเวลา

เขาหลับตาปี๋แสร้งแสดงเป็นว่ากำลังหลับใหลสิ้นสติสมประดีอยู่ ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงบ่นที่แสนคุ้นเคยของพี่สาวอีกคนของเขา ถึงแม้ว่ราคาเสะจะไม่ได้เป็นพี่สาวแท้แต่ด้วยอายุอานามที่ห่างกัน ทำให้ตอนนี้หญิงสาวเปรียบเสมือนพี่สาวของเขาอีกคนไปเสียวแล้ว 

“การตื่นเช้าเป็นกำไรชีวิตหรู้อหรือเปล่า นายจะนอนอะไรกันนักกันหนาเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้นอนดึกอะไรนี่นา”

หญิงสาวว่าพลางนำมือไปดึงผ้าห่มของไบรท์ออก คาเสะมองท่าทางของไบรท์ที่แสดงเป็นว่ายังหลับใหล หญิงสาวรู้สึกหมั่นไส้ เธอโน้มหน้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่อายุอนามห่างกันไม่กี่ขวบปีแล้วตะโกนสุดเสียง

“ตื่นได้แล้วเว้ย คิดหรือว่าฉันไม่รู้ว่านายแก้งหลับอยู่”

คาเสะมองไบรท์ที่ไม่คิดที่จะขยับร่างเคลื่อนไหว เธอค่อยๆ

โน้มหน้าเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มก่อนที่จะก้มลงกระซิบที่ใบหู 

“ถ้ายังไม่ตื่นฉันจะจูบนายเอาไหมหะ”

ไบรท์ได้กลิ่นเส้นผมที่หอมหวนของหญิงสาวผมสีเขียว ใบหน้าที่เข้ามาใกล้ของคาเสะทำให้เขารู้สึกประหลาด เด็กหนุ่มบิดร่างแล้วค่อย ๆ ปรือตามองคนที่มารบกวนการนอนของเขา ตอนนี้เขายังรู้สึกง่วงอยู่ หากเป็นไปได้เด็กหนุ่มยังไม่อยากรีบตืน ณ เวลานี้

คาเสะนั่งมองไบรท์ที่ไม่คิดจะกล่าวอันใด  หญิงสาวค่อย ๆ โน้มร่างเข้าไปไกล้พวงแก้มของหล่อนเริ่มเป็นสีแดงด้วยความกระดากอาย ทว่าก่อนที่จะได้เกิดเรื่องอันใดขึ้นประตูห้องพลันเปิดออกอย่างแรง การกระทำของหญิงสาวผมเขียวพลันหยุดชะงัก

ไบรท์และคาเสะมองยังผู้บุกรุก ชายหนุ่มผู้ที่มีร่างกายกำยำมองภาพตรงหน้าก่อนที่จะกล่าว

“ไงไบรท์วันนี้เรามาฝึกดาบกัน” 

จอนมองสถานการณ์ตรงหน้า ภาพเบื้องหน้าคือหนึ่งหญิงสาวหนึ่งชายหนุ่มกำลังทำอะไรบางอย่าง ใบหน้าของคาเสะอยู่ห่างจากไบรท์แค่คืบเท่านั้น ชายหญิงทั้งสองหลับตาพริ้ม ต่างกันแค่เพียงอีกผู้นึงหลับ ส่วนอีกผู้นึงกำลังจะจุมพิต
“ขอโทษครับ ผมเข้าห้องผิดครับ” เสียงของจอนดังขึ้นก่อนที่จะรีบปิดประตูอย่างแรง คาเสะพลันดีดร่างขึ้นทันที

“รีบตื่นได้แล้ว วันนี้เราต้องไปทำธุระกัน”

ไบรท์ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นก่อนที่จะใช้สายตาเป็นเชิงถามมองไปยังคาเสะ “ธุระอะไรหรอ”

“วันนี้พวกเราต้องไปซื้อโทรศัพท์กัน มีของน้องมายด์ ของฉันและของนาย”

“โทรศัพท์หรอ เราต้องใช้ด้วยหรอ ไม่สิเธอรู้จักโทรศัพท์ได้ไง”

“ต้องรู้อยู่แล้วสิยะ เมื่อหลายวันที่นายความจำหายไปฉันเล่นทรศัพท์ของอาสึนะทุกวันเลยยะ ถ้านายได้ใช้โทรศัพท์นายจะรู้ว่ามันสุดยอดแค่ไหน วิธียาการนี่มันสุดยอดจริงเลย”

ไบรท์พยักหน้ารับ เขาลุกออกจากที่นอนของตนโดยที่ไม่คิดจะพับผ้าห่มของตนเอง  “ถ้ายังงั้นก็ลงไปกินข้าวกันเถอะ”

“ทำไมนายไม่พับผ้าห่มละ”

ไบรท์หันมามองยังคาเสะ ก่อนทีจะเริ่มสาธยาย “ก็นะ ฉันไม่อยากทำ แล้วอีกอย่างเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับมานอนอีกอยู่ดีนี่นา”

“ทำแบบนั้นไม่ได้ นายไม่รู้หรือไงว่าการเก็บที่นอนเป็นเรื่องที่สำคัญขนาดไหน”

ไบรท์ตัดสินใจไม่ต่อความยาวสาวความยืด เขามองที่นอนของตนก่อนที่จะเดินตรงไปที่ประตู ไบรท์เดินลงมายังด้านล่างโดยที่มีเสียงบ่นของคาเสะอยู่เบื้องหลัง เด็กหนุ่มมองหากาน้ำร้อนก่อนที่จะเดินไปหยิบแก้วแล้วเริ่มชงกาแฟดำ

สำหรับไบรท์ข้าวเช้านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีความจำเป็นต่อชีวิตสักเท่าไร เนื่องจากเขาชอบจิบกาแฟยามเช้ามากกว่า

วั้นนี้เป็นวันแรกที่ไบรท์รู้สึกว่าการนอนนอนนั้นช่างเป็นเรื่องแสนพิเศษ ตอนนี้ฝันร้ายที่เคยตามหลอกหลอนได้หายไปเสียสิ้น ถึงแม้ว่าตอนนี้ไบรท์ยังไม่ได้ฝั่นอันใดอีกก็ตาม

เขามองบ้านที่เงียบสงบของตนก่อนที่เสียงของคาเสะจะกล่าวทำให้ความข้องใจของไบรท์หายไป

“นายคงสงสัยใช่ไหมว่าทุกคนหายไปไหน”

ไบรท์พยักหน้ารับคำ ทำให้คาเสะว่าต่อ“มายด์ไปฝึกเวทมนตร์กับอาสึนะด้านนอก

ส่วนย่าแอนนากับปู่โยดาของนายไปทำธุระ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดิน”

“แล้วเธอจะเอายังไงต่อ”

“หมายความว่าไง”

ไบรท์มองคาเสะก่อนที่จะกล่าว “ก็เรื่องบ้านของเธอ

ตอนนี้เธอยังกลับบ้านไม่ได้ใช่ไหมล่ะ”

“ไม่รู้ดิแต่ว่าจากที่ฉันลองถามพี่สาวของนายทำให้รู้ว่าตอนนี้เวทพันธะของพวกเรานั้นไม่เหมือนกับเวทพันธะแบบอื่นที่มีในอาณาจักรแห่งนี้ทำให้พี่ของนายยังไม่รู้วิธีที่จะส่งฉันกลับไปยังทวีปมืด ดังนั้นตอนนี้ระหว่างที่กำลังหาวิธีฉันก็ต้องอยู่ดูแลนายไปก่อน”

“หา” ไบรท์อุทาน

“เธอนี่นะที่จะมาดูแลฉัน บ้าไปแล้ว” 

คาเสะพยักหน้ารับ “ตอนนี้ฉันมีอายุมากเป็นอันดับสองของบ้าน

ถ้านับจากพี่ไอ ก็เป็นฉัน หลังจากนั้นก็เป็นอาสึนะ แล้วก็เป็นนายยังไงละ ดังนั้นสามารถสรุปได้ว่านายเป็นน้องเกือบคนสุดท้องในบ้าน”

เด็กหนุ่มตบมือดังฉาด “อ้อ คิดแบบนี้นี่เอง สมเหตุสมผล ถ้าแบบนั้นพี่สาวช่วยไปหาขาวมาให้กินหน่อยดิ

น้องชายคนนี้หิวแล้ว”

“ได้ดิ เดี๋ยวฉันไปทอดไขมาให้นายแดกเอง”

เพียงไม่นานไขดาวท่าทางหน้ารับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า หญิงสาวผมเขียวยิ้มพลางถาม “ให้ฉันตักข้าวป้อนนายด้วยไหมล่ะ”

ไบรท์นำเท้าขึ้นมาก่อนที่จะกระดิกมัน ท่าทางของเด็กหนุ่มช่างกวนโทโสยิ่งนัก ทว่าคาเสะกลับยิ้มรับกับท่าทางดังกล่าว นั่นก็เป็นเพราะว่าหญิงสาวได้ทำบางสิ่งกับอาหารจานนี้ หลังจากที่ไบรท์ได้รับประทานมันลงท้องไปเขาต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งเลยทีเดียว

คาเสะตกข้าวขึ้นมาพลางกล่าว “อ้าม”

เด็กน้อยอ้าปากก่อนที่จะกืนอาหารลงท้องไปอย่างรวดเร็ว ในระหว่างที่หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวกำลังทำท่าทางเหมือนมีความสุข  ทางฝั่งของไอยราก็ต้องเจอกับเรื่องที่หน้าปวดหัว

ณ โรงเรียนเวทมนตร์หญิงสาวยืนมองสุริยะด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก “หมายความว่ายังไงคะที่บอกว่าผลการสอบของไบรท์ไม่เป็นที่ยอมรับ”

“ก็อย่างที่ว่าไป คนที่ได้ดูการสอบของไบรท์รู้สึกรับไม่ได้กับการสอบในครั้งนี้ ทางภาคทฤษฎีนี้เป็นที่ปรากฏอย่างชัดเจน แต่ว่าทางด้านปฏิบัติมีคนส่วนหนึ่งรู้สึกไม่เห็นด้วย พวกนั้นเลยส่งเรื่องร้องเรียนมาทางฉัน ดังนั้นพวกเราจึงต้องเรียกประชุมด่วนกันในวันนี้ยังไงล่ะ”

“แล้วปัญหาก็มีอยู่ว่า เสียงสองในสามที่สามารถลงมติได้นั้นจะไม่มีฉันและเธอ ดังนั้นพวกเราจึงต้องใช้วิธีให้ครูทั้งโรงเรียนลงคะแนนอนุมัต หากผ่านไบรท์ก็จะสามารถเรียนในโรงเรียนนี้ได้ แต่ถ้าไม่ไบรท์ก็แค่ต้องสอบไหมมันก็มีแค่นั้น”

“แต่ว่าการสอบควรจะจบได้ไม่ใช่หรอ”

“เมื่อคืนนี้มีใครบางคนได้ตั้งกระทู้นี้ในแช็ดกลุ่ม เธอกับฉันที่ไม่ได้เก่งเทคโนโลยีเลยไม่รู้เรื่องนี้ แถมมีเรื่องที่หน้าปวดหัวมากกว่าเรื่องนั้นอีก”

ชายชราหยุดกล่าว ก่อนที่จยื่นโทรศัพท์ให้กับหญิงสาวได้ดู ภาพเบื้องหน้านั้นเป็นแอปที่ใช้แรกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้คนทั้งหลาย เมื่อหญิงสาวกวาดตามองก็พบว่ามีผู้คนส่วนใหญ่ได้แสดงความคิดเห็นกับวีดีโอการต่อสู้ของเด็กผู้หนึ่ง หญิงสาวกวาดตามองคลิปเพียงไม่นานสีหน้าของหล่อนก็เริ่มซีดเผือด ก่อนที่เธอจะอุทานออกมา

“ฉิบหายแล้วถ้าทำแบบนี้มันจะเป็นผลเสียต่อโรงเรียนของเรานะ”

“ใช่แล้วละ” เสียงของบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งพลันดังขึ้น ทำให้สายตาของไอนั้นไปจ้องมอง

“ศิลา ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”

“ฉันเห็นเรื่องราวที่แชกันทั้งหมดแล้วเรื่องนี้หากจะกล่าวให้ถูกทางโรงเรียนของเราไม่มีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าการแชคลิปนี้ไปทำให้ผู้คนที่ได้ชมคิดว่าโรงเรียนของเราช่วยเด็กคนนี้ในการเข้าสอบ เพราะว่าผู้ที่ทดสอบตอนนี้ก็เป็นเพื่อนของไบรท์ไปแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงต้องหาวิธีที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ ดังนั้นเธอต้องมาช่วยฉํน”

“ทำไมจู่ๆ เจ้าถึงช่วยเด็กคนนั้น”

ศิลามองยังผู้อำนวยการของโรงเรียนก่อนที่จะกล่าว “ผมไม่ได้ช่วยน้องจของไอ แต่ผมกำลังช่วยโรงเรียนเวทมนตร์ตั้งหาก”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.