บทที่ 9...3/3
งานตกแต่งล็อบบี้ที่โรงแรมของภูบดีราบรื่นเป็นไปด้วยดี ทำให้มีนาไม่มีอะไรให้กังวล โดยในส่วนของรายละเอียดต่างๆ หญิงสาวได้เช็คจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรต่างจากแบบที่ได้ตกลงกับลูกค้าไว้ ถ้างานดำเนินไปแบบนี้อีกประมาณ 2 วัน โปรเจคนี้ของเธอคงจบลง คิดแบบนี้มีนาค่อยเบาใจเมื่อได้ปิดไปอีกงาน
มีนาอยู่ที่โรงแรมของภูบดีจนกระทั่งเลิกงานจึงออกมาพร้อมกับรถของทีมงาน ก่อนจะขอลงที่ห้างซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดนัก นั่งรถเมล์เพียง 3 ป้ายเท่านั้น
วันนี้มีนาอยากเดินเล่นพักสมองเพราะฉะนั้นร้านหนังสือการ์ตูนจึงเป็นเป้าหมายแรก เธอไม่ค่อยมีเวลาว่างแบบนี้สักเท่าไหร่ อย่างมากก็ซื้อของสดไปไว้ในตู้เย็นเผื่ออยากทำอาหารในบางมื้อ ฉะนั้นการได้มาละเลียดเลือกหนังสือจึงเป็นอะไรที่แสนจะมีความสุข
“โคนันเล่มล่าสุดมีไหมคะ” มีนาถามพนักงาน
“เพิ่งมาเมื่อวานค่ะ อยู่ตรงชั้นวางที่ 3 นะคะ”
มีนาเดินไปชั้นวางหนังสือตามที่พนักงานบอก รู้สึกดีว่าตัวเองมาถูกวันเสียด้วย เธอชอบอ่านนิยายกับการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก มีหนังสือเก็บใส่ตู้เอาไว้ในห้องจนแทบเอามานอนด้วย บางทีซื้อแล้วยังไม่มีเวลาอ่านก็ขอให้ได้ซื้อไปเก็บไว้ก่อน
มีโคนันเล่มล่าสุดเหลืออยู่ 3 เล่ม มีนาหยิบมาเล่มหนึ่ง พอนึกได้ก็หยิบมาเพิ่มอีกเล่ม
“พี่เขมมีหรือยังนะ” หญิงสาวไม่แน่ใจเพราะเขมินท์ก็ชอบอ่านการ์ตูนเหมือนกัน แล้วยังชอบเก็บสะสมเหมือนเธอด้วย “ซื้อไป 2 เล่มเลยแล้วกัน”
ถ้าเขมินท์ซื้อไปแล้วก็คิดเสียว่าเธอซื้อไปสำรองไว้ก็ได้ มีนาถือหนังสือไปหาพนักงานเพื่อจ่ายเงิน ที่เคาน์เตอร์กำลังโล่งไม่มีใครเสียด้วย
“มีน...มีนจริงๆ เสียด้วย”
มีนาหันไปมองตามเสียงเรียกจากข้างหลังพลางยิ้มให้ภูบดี ใครจะไปคิดว่าเธอไม่ได้พบเขาที่หน้างานวันนี้ แต่กลับมาพบเขาโดยบังเอิญที่ร้านหนังสือ
“คุณภูมาทำอะไรที่นี่คะ” มีนาถามแล้วก็หัวเราะพลางส่งเงินให้พนักงาน ภูบดีมาร้านหนังสือก็ต้องมาหาซื้อหนังสือน่ะสิ “เอ่อ มีนแปลกใจว่าทำไมคุณภูมาที่นี่น่ะค่ะ”
“ผมแวะมาซื้อหนังสือ แล้วจะไปซื้อภาพเขียนต่อน่ะ เจอมีนก็ดีละ ช่วยผมหน่อยได้ไหม” ภูบดีส่งหนังสือให้พนักงานพร้อมกับจ่ายเงินไว้รอ
“ช่วยเรื่องอะไรหรือคะ”
“ผมจะซื้อภาพเขียนไปให้หุ้นส่วนครับ พอดีไปรู้ว่ามาว่าหุ้นส่วนคนนี้ชอบ แต่ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้พวกนี้สักเท่าไหร่ มีนพอจะช่วยผมได้ไหม”
มีนาพยักหน้าหงึกๆ ไม่คิดอะไรมากนอกจากอยากช่วยเพื่อน “น่าจะพอได้นะคะ แต่ถ้าหุ้นส่วนคนนี้ไม่ชอบภาพเขียนที่มีนเลือก คุณภูห้ามโกรธมีนนะคะ”
ภูบดีรับถุงหนังสือมาพลางหัวเราะชอบใจ “ผมจะไปโกรธมีนทำไมล่ะครับ”
เป็นอันว่าเข้าใจตรงกัน สองหนุ่มสาวเดินไปด้วยกันจนถึงแกลเลอรีที่มีภาพเขียนมากมาย มีนาพอจะมีความรู้เรื่องภาพเขียนอยู่บ้าง แม้ไม่มีเงินจะซื้อภาพเขียนจากศิลปินดังๆ มาติดที่ฝาผนังบ้าน แต่เธอก็ตามอ่านตามดูผลงานของศิลปินบางท่านที่ชอบมาตลอด
หลังจากเดินดูอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง มีนาก็เลือกภาพเขียนจากศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงพอสมควร แต่งานมีเอกลักษณ์ไม่ซับซ้อน แต่ลึกซึ้ง ภูบดีชอบภาพเขียนที่มีนาเลือกเหมือนกันจึงซื้อมาแล้วให้แกลเลอรีช่วยจัดส่งไปที่โรงแรม มีนาเห็นว่ามืดค่ำมากแล้วจึงปฏิเสธคำชวนกินอาหารมื้อค่ำด้วยกัน แต่ยอมให้เขาไปส่งที่คอนโดแทนจะได้ไม่เสียน้ำใจ โดยใช้เวลาไม่ถึง 15 ที ภูบดีก็มาถึงคอนโดที่มีนาพักอาศัยอยู่
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“ผมเสียอีกที่น่าจะเป็นฝ่ายขอบคุณ จริงๆ แล้วผมควรเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนมีนด้วยซ้ำ” ถ้าเขาไม่ได้ไปร้านหนังสือพอดี คงคลาดกับเธอไปแล้ว
“เรื่องแค่นี้เองค่ะคุณภู มีนไปก่อนนะคะ” มีนาบอกก่อนลงจากรถ เรื่องที่จะชวนเขาขึ้นไปดื่มกาแฟนั้นมันยังเร็วเกินไป โชคดีที่เขาไม่ขออะไรแบบนั้น
ภูบดีจะขอเดินไปส่งก็ไม่ทันแล้ว มีนาเดินลิ่วไปถึงประตูที่ผ่านโดยต้องมีคีย์การ์ดมาสแกน เขาทำได้แค่รอจนเธอเข้าไปในลิฟต์เรียบร้อยแล้วถึงได้ขับรถออกไป เธอไม่ซับซ้อนแต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าถึงได้ง่ายๆ ชายหนุ่มยิ้มรู้สึกอยากค้นหาผู้หญิงคนนี้
เสียงแอร์คอนดิชั่นทำงานเบาๆ ในห้องซึ่งเงียบเหมือนทุกวันที่ผ่านมา เบญญาไม่มีงานเดินแบบมาหลายวันแล้ว ในอนาคตก็ยังไม่รู้ว่าจะมีใครจ้างเธอให้ไปเดินแบบอีกหรือเปล่า เธออยากกินเหล้าให้มึนจนหลับ แต่ก็ทำไม่ได้ เธอยังต้องดูแลรูปร่างและหน้าตาเพื่อใช้ในการทำมาหากิน เธอนอนไม่ค่อยหลับ ไม่รู้จะทำอะไรจนเบื่อ แต่ก็ไม่อยากจะออกไปไหน ตอนนี้เงินของเธอพร่องไปมากและอาจจะหมดในอีกไม่กี่วัน ครั้นจะขอหยิบยืมจากเพื่อนก็พากันตัดสายการโทรจากเธอกันหมด
...ทำอย่างไรถึงจะกลับมามีงานเหมือนเดิมนะ
เบญญาถอนใจอยากจะโทรหาภาคิน แต่เธอรู้ดีกว่าไม่มีประโยชน์เพราะเขาบล็อกเบอร์ของเธอไปแล้ว ส่วนไอ้พิธยา หลังจากวันนั้นมันก็หายเงียบไม่รับสายจากเธออีกเลย ทั้งที่มันเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ภาคินบอกเลิกเธอรองจากนังมีนา
ติ๊ง...
แค่เสียงข้อความเข้าก็แทบทำให้เบญญาดีใจมีความหวัง บางทีผู้จัดการส่วนตัวอาจจะหางานเดินแบบให้เธอได้แล้ว เธอเห็นว่ามีข้อความ แต่คนส่งไม่รู้เป็นใครก็ถอนใจเซ็ง เธอเปิดข้อความอ่านดูเผื่อจะมีข่าวดีอะไรบ้าง
‘เห็นหรือยังว่าเธอมันขี้แพ้แค่ไหน เธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ทั้งคิน ทั้งพี่เขมเข้าข้างฉันทั้งนั้น ถ้าอยากเลิกแล้วต่อกัน มาเคลียร์ให้จบๆ ฉันจะรอ แต่แน่จริงก็หาฉันให้เจอก่อนสิ’
“นังมีน นังงูพิษ แกท้าฉันเหรอ”
แม้ไม่ได้ระบุว่าคนส่งเป็นชื่อมีนา แต่เนื้อความที่สื่อออกมาเบญญาคิดถึงใครไม่ได้อีกแล้ว จากเหตุการณ์วันนั้นเธออุตส่าห์ยอมหยุดไม่ไปก่อกวนนังนั่น แทนที่มันจะต่างคนต่างอยู่ ยังกวนโมโหด้วยการส่งข้อความหาเรื่องท้าทาย คิดว่าคนอย่างเบญญาจะยอมอยู่เงียบๆ ให้คนอย่างมันเยาะเย้ยดูถูกได้อีกต่อไปงั้นเหรอ
เบญญาโทรไปยังเบอร์ที่ส่งข้อความมา แม้ว่าเธอจะเคยมีเบอร์ของมีนา แต่ก็ลบไปจากเรื่องตั้งนานแล้ว หลังจากรอสายอยู่นาน อีกฝ่ายกลับไม่รับสาย เบญญาก็ยิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีก
“ถ้าแกแน่จริงทำไม่รับโทรศัพท์ นังบ้า”
เบญญาเขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนที่นอนแล้วเดินงุ่นง่าน ในสมองมีแต่คำถามว่าเธอจะหาตัวมีนาเจอได้ยังไง หญิงสาวนึกขึ้นได้คว้าโทรศัพท์ไปกดเสิร์ชเพื่อหาบริษัทที่มีนาทำงานอยู่ จนกระทั่งเจอเบอร์บริษัทรักษ์บ้าน
“คิดว่าฉันจะหาตัวแกไม่เจอเหรอ”
เบอร์ที่เบญญาหาได้กำลังถูกโทรออกไป รออยู่นานเหมือนกันกว่าทางนั้นจะรับสาย
“มีนาอยู่ไหม...คะ”
“น้องมีนไม่อยู่ค่ะออกไปพรีเซนต์งาน ไม่ทราบว่าใคร...”
เบญญากดวางสายทันที เรื่องอะไรจะบอกล่ะว่าเธอเป็นใคร ถ้ามีนาไม่อยู่ที่บริษัท แล้วตอนนี้มันไปพรีเซนต์งานที่ไหนล่ะ เบญญากลับมาหงุดหงิดอีกรอบ แต่แล้วเสียงข้อความเข้าก็ดังอีกครั้ง
เบญญากดดูแชทแล้วยิ้มออกมา ไม่คิดว่ามีนาจะเป็นนังตัวแสบขนาดนี้
“ไม่รับสาย แต่ส่งโลเคชั่นมาให้แทน นังนี่วอนโดนตบ” เบญญาส่ายหน้า คราวก่อนเธอเมาและใช้อารมณ์จนเสียหายไม่มีงาน คราวนี้เธอต้องเปลี่ยนวิธีเสียใหม่ “ไม่สิ ฉันจะไม่ตบแก หนามยอกต้องเอาหนามบ่งมันถึงจะสนุก”
เบญญามีแผนแก้แค้นมีนาและทำให้ตัวเองกลับมามีงานอีกครั้งแล้ว ทำให้นางแบบสาวรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จงใจไม่แต่งหน้า แล้วรีบเดินทางไปยังโลเคชั่นนั้น มีนาคงไม่รู้ตัวว่าพลาดเสียแล้วที่ท้าทายกันแบบนี้ คนที่จะถูกกระแสตีกลับต้องเป็นมีนา แล้วคนที่ได้รับความเห็นใจต้องเป็นเบญญาเท่านั้น
ตรวจต้นฉบับเรียบร้อยแล้ว ถ้าลงเป็น E-BOOK ใน MEB จะมาแจ้งให้ทราบนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 259
แสดงความคิดเห็น