บทที่ 17 หาทาง 1/2
บทที่ 17 หาทาง ½
ไบรท์หลับตา หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัวเมื่อเสียงของฝีเท้าของชายหนุ่มแปลกหน้าเข้ามาใกล้ ถึงแม้ว่ามันจะดูน่ากลัวหรือน่ายำเกรงสักแค่ไหน แต่สำหรับเขาในตอนนี้เด็กหนุ่มสามารถทำได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือตั้งสติ
ไบรท์พยายามทำเหมือนว่าตนเองกำลังนอนหลับ ดูเหมือนว่าชายตรงหน้าจะไม่ได้กล่าวอะไรเพียงไม่นานเสียงประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง ไบรท์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าตอนนี้ห้องที่ตนเองถูกลักพาตัวมายังคงว่างเปล่า เขาหลับตาลงอีกครั้งเพื่อสำรวจพลังอีกสายที่เข้ามาสู่ร่างกาย
วงเวทสีฟ้าที่แสดงให้เห็นว่ามันคือธาตุน้ำถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะไม่ชัดเจน แต่ว่ามันก็ทำให้เขารับรู้ว่าสามารถดึงพลังนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไบรท์รอเวลาที่จะเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อเวลามาถึง
ออสตินยิ้มกับการกระทำของเด็กน้อยตรงหน้า เขาไม่คิดเลยเมื่อสิ่งที่ตนเองคาดการณ์จะเป็นจริง เด็กน้อยผมสีดำนัยน์ตาทับทิมสามารถขยับร่างกายแถมยังใช้โอกาสนี้รวบรวมพลัง เขาจับตาดูเด็กน้อยผู้นี้มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องของไบรท์การแสร้งแสดงว่าตนเองกำลังตกอยู่ในห้วงนิทราของไบรท์ทำให้ออสตินรู้สึกพึงใจ
สำหรับชายหนุ่มที่มีตำแหน่งจักรพรรดิ การได้สัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไร แต่ว่าการที่ได้รับสัตว์เลี้ยงที่มีความฉลาดเฉลียวมันเป็นเรื่องที่ดียิ่งกว่า ตอนนี้ต่อให้เด็กน้อยผู้นั้นจะทำอะไรออสตินก็จะไม่เข้าไปห่าม การได้ทาสรับใช้ใหม่ที่มีความเก่งเหนือผู้ใดนั้นมันย่อมิใช่เรื่องดีหรือเล็ว ชายหนุ่มละสายตาก่อนที่จะเคลื่อนร่างเพื่อไปดำเนินบางสิ่ง
ไบรท์ค่อยๆ เดินไปมองหน้าต่างเพื่อที่จะสำหรับรอบ ๆ ทหารจำนวนมากมายยืนเฝ้าอยู่หน้าปราสาทราชวัง ถ้าเขาจะใช้กำลังออกไปมันก็คงเป็นไปได้แต่คงจะยากลำบาก ไบรท์ไม่ใช่คนโง่เขารู้ดีว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟเสมอต่อให้ตนเองจะมีพลังมากกว่านี้ร้อยเท่าพันทวี เด็กหนุ่มต้องหาแผนการใหม่เพื่อจะสามารถออกไปได้ ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่เป็นศัตรูนั้นมีพลังประเภทอะไรและมีพลังมากมายสักแค่ไหน
เสียงของคุณปู่กับคุณย่าที่เคยสั่งสอนตนเองตั้งแต่เด็กดังขึ้นในศีรษะ พวกท่านเคยบอกกับเขาไว้ว่าหากไม่ได้รู้ว่าศัตรูมีพลังเช่นไร ก็ไม่ควรลงมือเคลื่อนไหวให้เสียประโยชน์ หากไม่รู้เรารู้เขาต่อให้จะลบสัก 100 ครั้งก็มิมีหนทางที่จะชนะได้ แต่ถ้าหากกลับกันถ้าหากรู้เขารู้เราแล้วต่อให้จะรบร้อยครั้งก็จะชนะร้อยครั้ง
เวทมนต์อัญเชิญย้อนกลับที่สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งและร่างกายต่อให้อยากจะใช้ก็ไม่สมควร หากถามว่าทำไมนั่นก็เพราะว่าตอนนี้ไบรท์ยังไม่รู้สถานการณ์ตรงหน้าของพวกคาเสะ ถ้าเขาสามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้พวกนั้นปลอดภัยก็คงดี แต่ว่าถ้ายังไม่รู้อะไรก็ไม่ควรเคลื่อนไหวให้เสี่ยง มีสุภาษิตหนึ่งเคยกล่าวไว้ วันหนีเสืออาจจะปะจระเข้ ตอนนี้แค่เสือตัวเดียวเด็กหนุ่มก็ไม่สามารถเอาชนะได้ หากต้องไปเจอจระเข้อีกเส้นทางนี้ก็คงมีแต่ตายกับตาย สู้เขาอดกลั้นรอคอยโอกาส ใช้วิธีรวบรวมพลังธาตุ และเข้าใจพลังเวทย์มนต์ เพื่อยกระดับพลังของตนเองจะไม่ดีกว่าหรือ ถึงแม้ว่ามันจะอันตรายไปสักหน่อยแต่ว่ามันก็คงดีกว่าที่จะต่อสู้ทั้งเสือและจระเข้พร้อมเพียงกัน
เมื่อเขาคิดคำนึงกับตนเองเรียบร้อยแล้วนั้น เด็กหนุ่มก็เริ่มเคลื่อนไหวในทันที ไบรท์ใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดรวบรวมพลังธาตุล่าสุดคือพลังของตนเอง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเขาตกอยู่ในสายตาของบุรุษทั้งสอง
สำหรับบุรุษคนแรกนั้น สำหรับชายหนุ่มรู้สึกยินดีปีดาอย่างยิ่ง นันก็เพระว่าสิ่งที่ชายหนุ่มอยากได้นั้นก็คือชายหนุ่มที่สามารถเป็นทาสที่แกร่งกล้าสามารถและเป็นคู่เคียงให้กับตนได้ เพียงแค่ร่างกายที่ยังเยานี้เจริญภัณฑ์ขึ้นเพียงนิด แผนการของจักรพรรดิหนุ่มก็จะเป็นความจริง
ส่วนบุรุษหนุ่มคนที่สองนั้น ปลื้มปิติมากกว่าบุรุษหนุ่มคนแรก เขาไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถเรียนรู้เรื่องของโลกนี้ได้ไว้เพียงนี้ ถ้าเขาสามารถทำให้เด็กหนุ่มผู้นี้มีพลังธาตุสะสมอยู่ในร่างกายมากกว่านี้ได้ แล้วส่งกลับไปยังมิติอื่น คงจะเกิดเรื่องโกลาหลและเรื่องวุ่นวายอย่างไม่จบสิ้นเป็นแน่ เท่านี้ชีวิตอันแสนน่าเบื่อของเทพแห่งความโกลาหล คาออสก็จะมีเรื่องตื่นเต้นและเรื่องน่าสนุกให้ได้รับชมทุกวัน
โดยที่ชายหนุ่มคนนี้ไม่รู้เลยว่ามีอีกผู้หนึ่งที่กำลังดำเนินการแบบนี้เช่นเดียวกันอยู่ หากชายหนุ่มรู้เจตนารมณ์ของคนอีกผู้หนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้ก็คงจะชักชวนให้มาร่วมมือเป็นแน่
แสงอาทิตย์สาดส่องทำให้ชายหนุ่มลืมตาตื่นอีกครั้ง ระยะเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้เขาสามารถทำให้ธาตุน้ำในร่างกายกลายเป็นพลังเวทย์น่าจะอยู่ในระดับ 2 ของนักเวทย์ฝึกหัด ตอนนี้ชายหนุ่มสามารถสร้างบอลน้ำเพื่อใช้โจมตีศัตรูได้แล้ว ในขณะเดียวกันพลังเวทย์ลมก็ขึ้นอยู่ในระดับ 4 เท่ากับพลังเวทย์อัคคี ทำให้เวลาใช้พลังนั้นจะรุนแรงมากกว่าเดิม การเคลื่อนไหวด้านนอกยังไม่มีอะไรน่าห่วง พลังเวทย์ที่ลดลงเมื่อวานนี้ตอนนี้เริ่มกลับมาอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มลืมตามองตอนนี้เขาเปลี่ยนกลยุทธ์ หากตนเองทำเสมือนว่ายังไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้คงจะเป็นที่พิรุธ แต่ตรงกันข้ามหากเขาทำเสมือนว่าร่างกายของตนเองนั้นยังกลับมาไม่เหมือนเดิม ทำให้พวกศัตรูประมาทคงจะเป็นผลดีมากกว่า
ชายหนุ่มที่เคาะประตูค่อยๆเดินมาหา ในมือของเขาถือข้าวต้มแก้วน้ำมีน้ำเปล่าและนม ในถาดอาหารนั้นนอกจากข้าวแล้วก็ยังมีผลไม้หน้าตาน่ากิน ชายหนุ่มนำมันวางไว้ก่อนที่จะเงยหน้า ท่าทางของเขาราวกับหุ่นยนต์ ที่เคลื่อนไหวและทำงานโดยที่ไม่มีจิตใจและชีวิตชีวา
“พี่ชายเป็นใครอย่างนั้นหรือ แล้วทำไมตัวของผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ พวกพี่ชายมีวัตถุประสงค์อะไรจะทำอะไรกับผม” ไบรท์กล่าวอย่างหวาดกลัว
เขาพยายามแสร้งแสดงละครให้แนบเนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ที่นี่คืออาณาจักรของจักรพรรดิออสติน ไม่ต้องกลัวหากเจ้าไม่ได้ทำความเดือดร้อนและเป็นสัตว์เลี้ยงให้กับจักรพรรดิของพวกเรา เจ้าก็จะไม่มีอันตราย เจ้าเป็นเด็กหนุ่มที่มาจากต่างโลกใช่หรือไม่”
ไบรท์พยักหน้ารับ “ใช่แล้ว พวกเพื่อนๆของผมอยู่ที่ไหน ยังปลอดภัยกันดีใช่หรือไม่”
ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เขาชักชวนให้ไบรท์กินข้าวเสีย แต่มีหรือว่าเด็กหนุ่มจะกล้ากล้ำกลืนมันลงท้อง เขาไม่รู้เลยว่าในอาหารนั้นจะใส่ยาพิษหรือยาระงับพลังเวทย์อะไรไว้บ้าง เมื่อชายหนุ่มเห็นสายตาที่แสดงความระแวงและหวาดกลัวของเด็กหนุ่มเขาก็ตัดสินใจยกอาหารขึ้นไปชิม
ไบรท์รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่นักหากอาหารนี้ยังมียาพิษที่อันตราย รวมไปถึงยาระงับพลังเวทย์มนต์ ชายหนุ่มผู้นี้ก็คงไม่สามารถกล้ำกลืนมันลงท้องได้อย่างแน่นอน เขาตัดสินใจบอกกับชายหนุ่มว่าตนเองไม่สามารถรับประทานอาหารได้เนื่องจากเขารู้สึกอาย เมื่อชายหนุ่มรับทราบดังนั้นแล้วเขาจึงละจากอาหาร แล้วตัดสินใจปล่อยให้เด็กน้อยผู้นี้รับประทานอาหารอยู่เพียงลำพัง
ชายหนุ่มเดินลงมาจากห้องนอนของไบรท์ เข้าพบกับจักรพรรดิของตนเองที่กำลังมองการกระทำของเขาอยู่ ชายหนุ่มขณะก่อนที่จะเริ่มกล่าว
“ข้าพเจ้ามีเรื่องจะกล่าวรายงานต่อท่านนายเหนือหัวแห่งข้า”
“กลับมาได้”
“เนื่องจากเด็กผู้นี้กล่าวว่าตนเองรู้สึกกระดากอายหากมีคนดูการรับประทานอาหารอยู่ใกล้ๆ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจปล่อยให้เด็กผู้นี้รับประทานอาหารอยู่เพียงคนเดียว หลังจากนี้ข้าพเจ้าจะกลับไปเก็บถาดอาหาร”
ออสตินพยักหน้ารับรู้ “รอสัก 2 ชั่วโมงแล้วค่อยเข้าไป ข้าอยากจะรู้นักว่าเมื่อ” จักรพรรดิหนุ่มหยุดกล่าวก่อนที่จะเดินออกไป
ทางฝั่งของพวกไอ
สายได้มารายงานถือว่าตอนนี้พวกศิลากำลังเตรียมการเปิดไม่ติดเพื่อไปช่วยพวกอาสึนะตามคำสั่งของผู้อำนวยการเวทมนต์ รูปไปถึงฝ่ายความมั่นคงเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเหมือนกัน พวกเขาเริ่มตามหาฐานทัพของพวกผู้ก่อการร้ายที่ได้ลักพาตัวนักเรียนในโรงเรียนเวทมนต์ไป การดำเนินการคงไม่รวดเร็วเพียงนี้หากพวกเด็กๆพวกนั้นไม่ได้เป็นลูกคนใหญ่คนโตรวมไปถึงลูกคุณนางที่มีตำแหน่งในวัง
ทุกคนรอฟังคำตอบของไอยราว่าตอนนี้หญิงสาวจะเริ่มดำเนินการอย่างไร หากถามว่าทำไมนั่นก็เพราะว่าพวกเธอไม่อยากให้หญิงสาวผู้นี้ไปช่วยเหลือน้องชายและเด็กในโรงเรียนเวทมนต์ที่ไม่ใช่ลูกขุนนาง
พอหญิงสาวรับรู้ได้เช่นนั้นเธอก็ถอนหายใจกับระบบของประเทศและอาณาจักรแห่งนี้ การตัดสินใจของเธอมันช่างทำได้ยากลำบาก แต่ว่านั่นมันในกรณีที่เธอมีเพียงแค่คนเดียว
หญิงสาวรู้ดีตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าต่อให้เธอจะเก่งและมีความสามารถมากมายสักแค่ไหน แต่ในโลกนี้ไม่มี สิ่งใดที่จะสามารถยืนเพียงลำพัง นั่นรวมไปถึงไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถประสบความสำเร็จอยู่ได้เพียงผู้เดียว
ขนาดบิดาของเธอที่เป็นอาชญากรที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกนี้ ก็ไม่เคยเคลื่อนไหวอยู่เพียงคนเดียว ตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้ก็คือรอเวลาและทำให้ทั้งหน่วยความมั่นคงรวมไปถึงทางโรงเรียนเวทย์มนต์แปลกใจและตั้งตัวไม่ถูก
เรื่องอะไรที่เธอจะยอมตกเป็นเบี้ยล่างและเดินตามเกณฑ์ของคนอื่น จากที่เธอได้รับทราบจะสายข่าว หญิงสาวรับรู้แล้วว่าตอนนี้พวกนั้นกำลังจะไปช่วยพวกลูกขุนนางก่อน
“เริ่มดำเนินการได้ ฉันจะทำให้พวกแกได้รู้ ว่าการที่มาเล่นกับคนอย่างฉัน จะได้รับผลอะไร”
ทางฝั่งศิลา
ชายหนุ่มได้ใช้เวทตรวจสอบเพื่อค้นหาประตูมิติที่ถูกเปิดล่าสุด ทำให้ตอนนี้เขาค้นพบแล้วว่านักเรียนที่ถูกดูดไปจะขึ้นย้ายนั้นอยู่ที่ไหน แต่ชายหนุ่มก็พยายามยื้อเวลาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากถามว่าทำไมนั่นก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้หญิงสาวที่เก่งที่สุดได้ตัดสินใจอย่างง่ายดาย
“จงใช้เวลาให้คุ้มค่า ส่งบินให้คุ้มค่า ต่อให้เธออยากจะทำอะไรแผนการของเธอฉันก็ดูออก ฉันจะรอเธอจะรอดูเธอไอยรา”
สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน เนื่องจาก Dark นี้เป็นดร๊าฟแรก หากมีคำผิดพลาดหรือคำตกหล่นประการใดกระผมก็ขอประทานอภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ หากนักอ่านทุกท่านคนใดชอบนิยายเรื่องนี้รบกวนช่วยกดติดตามและช่วยกดแชร์ให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล ผมจะพยายามอัพให้ได้ทุกวันนะครับ แต่ว่าช่วงนี้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีเลย มีอาการป่วยและน้ำตาลในเลือดสูงมากครับ ถ้าวันใดที่ผมหายไปแสดงว่าผมอาการทรุดหนักจริงๆครับ ถามว่าอย่างไรก็ตามถ้าผมมีอาการป่วยผมจะมาแจ้งข่าวให้ทราบนะครับว่าผมไม่สะดวกลงนิยาย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 249
แสดงความคิดเห็น