ฝันบอกเล่า
ฉันหลับๆ ตื่นๆ จ้องหน้าจอในความมืดทำให้สายตาที่สั้นอยู่แล้วแย่กว่าเดิมแต่ฉันก็ทำมัน พลิกตัวไปมาอย่างระส่ำระสาย ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงแคร์เขามากขนาดนี้ Last Seen ของเขายังหยุดที่เดิม เหมือนเวลาที่ถูกแช่แข็ง ชั่วขณะฉันเห็นเวลาที่เปลี่ยนไปบนหน้าจอแต่ก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะอ่านข้อความอันมากมายของฉันที่เขียนทีเล่นทีจริงเพราะไม่อยากให้เขารู้สึกแย่มากถ้าได้อ่านมันจริงๆ ในใจฉันหวังลึกๆ ว่าเขาจะยอมหาเพลงสักเพลงให้ฉันฟัง ให้ฉันได้ลองวิเคราะห์ว่าเขากำลังคิดอะไร ให้ฉันได้พอมีจุดหมายได้เดินต่อไปเพราะตอนนี้เหมือนฉันกำลังยืนที่ปากเหว ไม่มีอะไรให้ฉันทำอีกต่อไปแต่เวลาที่เงยหน้าขึ้นมอง ฉันเห็นจุดสีขาวๆ ตรงนั้น บางทีนั่นอาจหมายถึงว่าฉันอาจจะแค่เก่งแต่ปาก อาจจะภาวนาให้แฟนของฉันไม่เออออตามอารมณ์ที่บิดเบี้ยวของฉัน
ฉันเผลอหลับไป แค่ชั่วขณะเหมือนผ่านไปนาน คงเพราะร่างกายที่เหนื่อยล้า รู้ไหมว่าฉันไม่อยากทำอะไรเลยตั้งแต่ที่ส่งข้อความหาเขา ฉันเข้านอนเร็วกว่าปกติ ตอนนี้เวลาตี 5 มีข้อความหนึ่งปรากฏบนหน้าจอ เป็นข้อความของเขา ฉันลุกขึ้นไปเปิดไฟและเปิดอ่านมันอย่างตั้งใจ ใจความสำคัญของเนื้อหาไม่ได้มีอะไรมาก ไม่มีแม้แต่เพลงที่ฉันขอร้องให้เขาหา ดูเหมือนเขาจะเมินฉันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาตอบข้อสงสัยของฉัน ว่าเวลาที่เขามีก่อนเริ่มงานกะดึกและในวันหยุดจะทุ่มเททั้งหมดให้น้องชายตัวน้อย Meme King เพราะเขารู้ว่าหากวันใดวันหนึ่งที่เขาต้องเดินทาง เขาจะไม่มีเวลากลับไปหาครอบครัว ที่เขากลับมาที่อังกฤษเพราะเขาต้องหาเงินป้อนให้โรงแรมที่เขาเป็นเจ้าของและผู้จัดการที่อินเดียหลังถูกปิดลงด้วยพิษโควิด เขาบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าวันไหนที่จะได้มาและเขาเคารพในการตัดสินใจของฉัน บอกว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะเดินจากไปแต่ขออย่างหนึ่งได้ไหม ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังร้องให้เพราะเสียใจที่เขาไม่ยอมยื้อฉันไว้ในความสัมพันธ์หรือเพราะฉันกำลังดีใจที่จะได้เริ่มใหม่กับใครที่ฉันก็ยังไม่ได้เริ่มหา เขาบอกฉันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ไป เขาอยากจะให้พวกเราคุยกันไปแบบนี้เรื่อยๆ เหมือนทุกวันที่ฉันมักส่งลิงก์ตลกโง่ๆ ของสัตว์โลกไปให้เขา ไม่รู้ว่าเขาจะเปิดอ่านบ้างไหม
ฉันตอบเขาไปสั้นๆ และคลุมเครือ ว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ว่าเขาเป็นคนที่รักครอบครัวมากและเขาจะโอเคกับชีวิตหลังจากนี้ ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะสัญญาเพราะครั้งสุดท้ายที่ฉันทำ มันไม่ได้ลงเอยด้วยดีนักเพราะฉันก็แค่พูดออกไปให้เพื่อนที่มากกว่าแฟนในสายตาของฉันฟังว่าฉันจะอยู่รอเขา จะไม่ไปไหนแต่หลังจากคืนนั้นที่เราเลือกที่จะเป็นเพื่อนกัน ฉันก็โหลดแอพนั้นกลับมาและได้เจอกับแฟนคนนี้ที่ฉันรักเขาอย่างหมดหัวใจ ฉันรู้ว่าฉันมันก้านโลกและเห็นแก่ตัวที่จะดึงเขาออกมาจากความรักที่แสนอบอุ่นของครอบครัว สายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพวกเขามันมากกว่าความรักจับต้องไม่ได้ของฉัน ไม่ว่าฉันจะพยายามเอื้อมมือ จะเห่าหอนดังแค่ไหนก็ไปไม่ถึง ฉันยังจำได้ว่า 2 เดือนแรกนั้นมันชั่งหอมหวาน เขาบอกว่าเขาจะบินมาหาฉันในทันทีที่ประเทศเปิด ฉันตั้งตารอข่าวดีจากประเทศของพวกเรา ปีที่แล้วฉันถามเขา เขาบอกว่าเดือน 6 ฉันรอจนถึงเดือนนั้นอย่างใจเย็น ข่าวร้ายประเดประดังและสุดท้ายก็นำมาสู่การปิดประเทศโดยสมบูรณ์ ฉันเข้าใจดีว่ามันยากเกินไปและถึงแม้ช่วงปลายปีมาตรการจะเริ่มผ่อนผันแต่ก็ต้องใช้เงิน
บางครั้งฉันก็อยากจะเก็บเงิน ฉันอยากบินไปหาเขาเองแต่ต้องเก็บกี่ปีฉันถึงจะได้ไปกันล่ะ? งานใหม่ที่ทำมันได้เงินน้อยเหลือเกิน อยากหาใหม่ก็หาไม่ได้สักที ฉันควรทำยังไง? รู้ไหมเวลาที่ฉันรอเขามาเกือบ 2 ปี ถ้าฉันตั้งใจหางาน ไม่เป็นแต่ฝ่ายที่รอเขา บางทีฉันอาจได้เจอเขาไปแล้วก็ได้ แต่ฉันกลัวไง ฉันไม่เคยไปไหนคนเดียว ฉันกลัวที่จะต้องเดินทางไปที่ไหนไกลๆ ต่างประเทศหรือ? ฉันต้องออกประตูไหนเมื่อไปถึง ฉันจะเดินทางไปโรงแรมยังไง? ฉันจะทำอะไรที่นั่นได้ถ้าไม่มีเขาอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา? ฉันอ่อนแอและไร้เดียงสาแต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะมองคนรอบข้าง ฉันแค่รู้สึกว่าฉันรักเขา ก็แค่ในตอนนี้ศรัทธาของฉันมันน้อยเกินกว่าปกติ เขาอ่านข้อความนั้นของฉันโดยไม่ตอบอะไร ตอนนี้มันก็ 7 โมงกว่าแล้ว ฉันรอจนแม่ลงมาจากชั้น 2 และขึ้นไปนอนห้องนอนนั้น ฉันรูดม่านปิดจนมิด ฉันไม่อยากเห็นแสงจากด้านนอกและนอนลง จ้องหน้าจอที่ยังไม่มีการตอบกลับจากเขาคนนั้นก่อนจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวและฉันก็ฝัน ปกติฉันไม่ฝัน
มันยากที่ฉันจะฝันแต่มันก็เกิดขึ้นในเช้าวันนั้นที่ฉันหมดแรงที่จะทำอะไร ในความฝันฉันอยู่บนรถคันเก่าของพ่อที่เสียไปหลายสิบปี นั่งกับเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อซัน เป็นเกย์นะ ส่วนอีกคนฉันไม่รู้จัก พวกเราแวะกันที่โรงแรม ฉันนั่งมองเวลาอยู่บนเตียงก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็กำลังยืนอยู่บนถนนเปียกแฉะและเห็นรถคันนั้นที่ขับออกไปโดยไม่มีฉัน ความเศร้า สับสนและเสียใจประเดประดัง ฉันพยายามจะวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน มันเร็วเกินไป รู้ตัวอีกทีก็กำลังจูงจักรยานขึ้นไปบนสถานีรถไฟ BTS ที่นั่นฉันเห็นบันไดเลื่อน 2 ฝั่ง โดยฝั่งแรกฉันรู้ด้วยสัญชาตญาณว่ามันคือเส้นทางที่ถูกต้องและฉันควรจะใช้มันแต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงเลือกที่จะลงไปอีกฝั่งตรงข้ามพร้อมกับจักรยานคนนั้น ฉันลงมาที่ถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายของ เผลอวางกระเป๋าเป้ไว้ในตรอกอันดำมืดในขณะที่เดินผ่านพ้นมันออกมาและพบว่ามันเป็นถนนคนเดินที่สว่างกว่าในซอกนั้น ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอโดยรอบ ในภาพที่ฉายผ่านกล้องโทรศัพท์ อาคารและสิ่งต่างๆ มันเปลี่ยนเป็นของโบราณ เหมือนเวลาที่มีภาพที่ไม่เกี่ยวกับความจริงเข้าแทรกความจริงก่อนที่ไม่นานรถของพ่อจะขับกลับมาจากอีกฝั่งที่ฉันควรลง ตอนนั้นฉันขึ้นรถไปและไม่เห็นกระเป๋าเป้ของตัวเอง ฉันรู้ทันทีว่าฉันทำของที่มีค่ามากที่สุดหายไปตลอดกาล โน๊ตบุ๊คที่ฉันซื้อด้วยเงินตัวเอง ฉันเสียใจที่จะไม่ได้เห็นและใช้มันอีก พอถึงบ้านฉันเดินเข้าไป เหนื่อยล้าจากทุกสิ่งที่พบเจอแต่แล้ว ฉันเห็นมัน กระเป๋าเป้ที่ทำหายมันวางอยู่ตรงนั้น ตรงโต๊ะไม้ที่วางของอย่างรกรุงรังและฉันดีใจที่ได้เจอมันอีก
ฉันตื่นจากฝันอันไร้สาระ เหมือนว่าฉันนอนไปนานแต่ความจริงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันพิมพ์ทุกอย่างลงไป ทุกข้อความในฝันที่ฉันจำได้ให้เขาดูและวิเคราะห์อย่างเข้าข้างตัวเองว่าความจริงแล้วฝันนี้อาจจะมาจากการที่หัวใจของฉันอยากสื่อสารกับฉัน ว่าความเศร้า สับสนและเสียใจที่ถูกทิ้งไว้กลางทางก็เหมือนตอนที่เขาได้อ่านข้อความเมื่อคืนของฉัน เขาคงจะตกใจหรือชินชาที่ได้รับรู้ว่าลิมิตที่ฉันมีมันหมดลงและหลังจากนี้พวกเราจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ว่าบันไดเลื่อนอีกฟากที่ฉันใช้คือสิ่งที่หัวใจปรารถนาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ความถูกต้องที่สมองชี้นำ ว่าพ่อที่ตายไปแล้วของฉันก็คงอยากให้ฉันมีความสุขกับการเริ่มต้นใหม่ ว่าภาพที่แทรกขึ้นในระหว่างการอัดวิดีโอคือสิ่งลวงตาที่ฉันคิดขึ้นมาเอง ว่าการที่ฉันลืมสิ่งสำคัญในเงามืดของตรอกไร้ผู้คน ว่าการที่ฉันมองเห็นแสงสว่างและผู้คนและคิดว่าฉันควรเหมือนพวกเขา ว่าความรู้สึกที่ได้เจอของรักที่พลัดพรากอีกครั้งมันดีแค่ไหน บางทีโน๊ตบุ๊คตัวนั้นอาจไม่เคยจากไปไหนไกล ความรักที่ฉันทิ้งไว้ในเงามืดมัวไม่ได้หายไปไหน มันยังอยู่ในบ้าน บ้านที่ฉันชอบอยู่และไม่อยากจะจากไปไหน
แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น เขาอยากให้ฉันไป ไปเจอคนที่ดีกว่าเขา คนที่ฉันสามารถจับมือ คนที่ฉันสามารถมอบความบริสุทธิ์ที่เหลือให้ได้ คนที่จะไม่ทำให้ฉันต้องเสียใจ คนที่มีเวลาให้ฉันมากกว่าครอบครัวและงาน เป็นฉันเอง.....เป็นฉันเองที่เลือกที่จะอยู่เพราะหัวใจฉันมันเลือกแล้ว กับเส้นทางต่อไปนี้ที่ฉันเกลียด ฉันอาจจะมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าว่ามันไกลแค่ไหน ไม่มีหลักกิโลให้ฉันมอง ไม่มีแม้แต่ป้ายบอกทาง ฉันก็แค่ต้องขับไปเรื่อยๆ พอถึงที่หมายฉันก็จะรู้เองหรือบางทีฉันอาจจะหยุดที่ไหนสักแห่ง หันกลับมามองตัวเองอีกครั้ง รักตัวเองให้มากขึ้น ให้มากกว่าที่ฉันรักเขา ให้มากกว่าที่ฉันมักคอยปกป้องเขาจากเพื่อนสนิทและคนอื่นๆ ที่รับรู้เรื่องราวของฉัน บางทีพวกเขาอาจคิดถูก บางทีฉันและเขาอาจจะไม่ได้เจอกัน อาจจะมีวันหนึ่งที่เขายอมปล่อยฉันไปด้วยใจจริง อาจมีวันหนึ่งที่เขาต้องยอมแพ้ ที่เขาจะไม่สามารถทำหน้าที่ที่ฉันเรียกร้องได้ แต่รู้อะไรไหม ขอฉันเดินต่อไปนะ เพื่อน ขอให้ฉันได้พยายามอีกครั้ง จนกว่าฉันจะหมดแรง จนกว่าเขาจะหมดศรัทธา และไม่ว่ายังไงฉันก็ยังอยากให้เพื่อนของฉัน ทั้งฟาร่าและเพื่อนสเปนออนไลน์ที่ได้อ่าน อวยพรให้ฉัน เดินตามข้างๆ ฉัน โอบกอดฉันและบอกฉันว่าฉันทำได้ดีมากแล้ว ไม่ว่าจุดสุดท้ายนั้นฉันจะไปถึงเส้นชัยนั้นไหม ไม่ว่าจุดสุดท้ายนั้นฉันจะเห็นเขารอฉันอยู่รึเปล่า
ฉันเลือกคุณค่ะ Joshua McGurk ฉันเลือกที่จะรอคุณต่อไป
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 276
แสดงความคิดเห็น