บทที่ 6 ทะเลาะ
บทที่ 6 ทะเลาะ ½
ชายหนุ่มหน้าตาคับคล้ายคับคากับอิสตรีปรากฏขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลกวาดมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ ยกยิ้ม เขาทักทาย
“วันนี้มันเป็นวันรวมญาติหรือเปล่าเนี่ย มีทั้งสตรีศักดิ์สิทธิ์ เทพสงครามผู้แข็งแกร่ง ผู้สรรค์สร้าง เทพแห่งความโกลาหลและฮาเร็มของเทพแห่งความโกลาหล”
ชายหนุ่มผู้มาใหม่กวาดสายตามองเด็กสาวผมฟ้า และเปลี่ยนสายตามามองยังเด็กสาวผมทอง และเปลี่ยนสายตามามองยังชายหนุ่มผมทองนัยน์ตาฟ้าที่มองกลับมา หลังจากนั้นก็มองยังชายหนุ่มที่มีนัยน์ตาดุจรัตติกาลผมสีขาวที่นั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ชายหนุ่มนามว่าเคออสทักทายกลับ “ไงพระเจ้า ทำไมมาที่นี่ได้ล่ะ ไม่ใช่ว่านายกำลังช่วยเปิดประตูมิติให้เด็ก ๆ จากบาบิโลเนียอยู่นี่นา หรือว่าสามารถส่งเจ้าพวกนั้นกลับไปยังอาณาจักรได้แล้ว”
ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าพระเจ้าส่ายหัวปฏิเสธ ก่อนที่จะสบัดมือเพื่อสร้างเก้าอี้ขึ้นมา หลังจากนั้นค่อย ๆ นั่งอย่างช้า ๆ เขาปลายตาไปมองยังหญิงสาวผมฟ้านัยน์ตาสีครามสดใส ก่อนที่จะกล่าว ทว่าสตรีนางนั้นกลับกล่าว
“เดี๋ยวฉันไปชงชามาให้นะ คุยกันไปก่อนเลยก็ได้”
พระเจ้าหันไปส่งสายตากับหญิงสาวทั้งสามที่อยู่ในนี้ เขาไม่อยากให้ใครนอกจากพวกเขาทั้งสามคนได้รับรู้เรื่องราวที่จะกล่าวต่อไป เมื่อหญิงสาวทั้งหมดเห็นดังนั้นพวกหล่อนจึงค่อยๆเดินออกไป ยกเว้นแต่หญิงสาวผมทองผิวสีแทนที่ยักไหล่อย่างไม่สนใจ
คาออสทำท่าทางไม่พอใจ เขาไม่อยากให้หญิงสาวที่อยู่ในฮาเร็มของตนเองออกไปไหน มันก็เพราะว่าเมื่อเขาขาดสาวอยู่ร่างกายหัวสมองของชายหนุ่มจะคิดอะไรไม่ค่อยออก ชีวิตนี้เขาอยู่เพื่อผู้หญิงเท่านั้น เพราะผู้หญิงจะนำพาความหฤหรรษ์สุดพิเศษมาให้ ผู้หญิงไม่ได้เป็นเครื่องบำเรอความสุขแต่พวกผู้หญิงนั้นมีสติปัญญาและไหวพริบที่ตัวของเขานั้นไม่มี
ชายหนุ่มรู้ดีว่าการประชุมมันเป็นเรื่องของเทพสูงสุด ผู้ที่ได้ชื่อว่าเทพสูงสุดคือผู้ที่กุมชะตากรรมของโลกนี้ไว้ ดังนั้นเรื่องบางเรื่องจึงไม่สามารถให้คนนอกรับรู้ได้
เทพสูงสุดทั้ง 3 องค์1 นี้คือตัวแทนของมนุษย์ ส่วนอีกหนึ่งนั้นคือตัวแทนของสรวงสวรรค์ และอีกหนึ่งนั้นคือตัวแทนของคนนรกอเวจี แม้จะบอกว่าเทพคือตัวแทนของสวรรค์และนรกก็ตาม แต่เทพทั้ง 3 นี้อดีตนั้นก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อน
หลังจากสงครามเมื่อ 100 ปีก่อน พวกเขาก็ได้ขึ้นรับตำแหน่งแทน 3 เทพผู้อาวุโสที่ควบคุมชะตากรรมของโลกนี้ไว้ ชายหนุ่มผมทองเป็นเทพที่มีคุณธรรมและใฝ่ฝันให้โลกนี้ดียิ่งขึ้น ส่วนพระเจ้านั้นเป็นเทพสูงสุดที่ปกครองเหล่าเทวดา เพื่อไม่ให้กฎเกณฑ์ถูกทำลาย
ส่วนอีกตนนั้นที่ได้ชื่อว่าเทพแห่งความสับสนคงไม่ต้องสาธยายเรื่องที่เขาทำ เทพองค์นี้ไม่สนใจกฎระเบียบกฎเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น เน้นความสนุกและความมันของตัวเองเป็นที่ตั้ง ในหมู่เทพทั้ง 3 นี้เทพองค์นี้เป็นเทพที่น่าเอือมระอาที่สุด
คาออสกล่าวอย่างไม่พอใจ “ถ้ามาแบบนี้ไม่ต้องมาซะดีกว่า ให้พวกคุณเคโกะออกไปได้ยังไงกันล่ะ ถ้าฉันไม่มีสาวๆสวยๆนั่งอยู่ข้างๆหัวฉันก็คิดอะไรไม่ออกพอดีสิ”
“ไอ้ผู้ชายหื่นกาม ชีวิตมึงจะมีแต่สาวๆหรือไงอีบ้า” เสียงของเด็กหญิงผมทองผิวสีแทนดังขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีคำสั่งของพระเจ้าให้ออกไป แต่สำหรับหญิงสาวที่ไม่คิดจะฟังใครนี่มันก็ไม่ต่างกับการผายลม
ทำไมเธอต้องฟังคนอื่นด้วยในเมื่อเธอก็เป็นเทพสงคราม ผู้ที่ได้ชื่อว่าเทพธิดาที่แข็งแกร่งที่สุด พี่สาวของเธอได้ชื่อว่าเทพพยากรณ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเพื่อนของเธออีกคนได้ชื่อว่าเทพแห่งศาสตรา ผู้ที่เ****วชาญวงเวทย์อัญเชิญ ถึงเธอจะไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนตัวแสบไปที่ไหนก็ตาม
แต่เธอก็รู้ดีว่าถ้าหากพวกเธอทั้ง 3 คนมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ต่อให้เป็นพระเจ้าองค์นี้ก็คงจะโดนพวกเธอทั้งสองคนรุมด่าแน่ ต่อให้เป็นเทพแห่งความสับสนเธอยังไม่เคยเกรงใจ
“ไม่คิดจะออกไปหน่อยเหรอครับ” ผู้ที่ได้ชื่อว่าพระเจ้ากล่าวด้วยท่าทางเจื่อน ๆ เขามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ถึงนายจะได้ชื่อว่าพระเจ้าก็เถอะนะ แต่ว่านายก็ไม่มีสิทธิ์สั่งฉัน นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใครฉันเป็นเทพสงครามที่แข็งแกร่งที่สุดเลยนะ ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนของเทพทั้งสวรรค์และนรกไม่มีผู้ใดต้านทานฉันได้ แล้วนายคิดว่าฉันจะกลัวนายหรือยังไงพระเจ้า”
พระเจ้าโบกมือปัดเขามีท่าทางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าจะหาคำอะไรมาพูดกับหญิงสาวตรงหน้า ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนสายตามาจ้องบุรุษหนุ่มทั้ง 2 ที่นั่งซังกะตายอยู่ไม่ห่าง
“จะมาทำไมอ่ะ จะมาชวนคุยเรื่องอะไรกันแน่ และอีกอย่างถ้าจะไปโทษก็ไปโทษเด็กพวกนั้นที่ใช้เครื่องย้ายมิติ ฉันก็แค่เปิดมิติดทิ้งไว้แล้วให้เด็กพวกนั้นเข้ามาในมิตินี้เองต่างหาก”
“ฉันไม่ได้จะโทษนายสักหน่อยคาออส ยังไงเด็กของฉันก็สามารถพาน้องของเขากลับไปยังมิติเดิมได้อยู่แล้ว เรื่องนั้นฉันไม่ได้ห่วง แต่ฉันห่วงเรื่องอื่น”
ผู้ที่ได้ชื่อว่าพระเจ้าหยุดกล่าว ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตามาจ้องยังบุรุษหนุ่มผมทอง
“คือว่าอย่างนี้ โลกที่มาสร้างขึ้นมาน่ะมันดีเลยนะ แต่ว่ามันมีปัญหาอยู่ปัญหานึงผู้คนในโลกที่นายซากมาน่ะมีอายุที่ยืนยาว รู้สึกว่าอายุที่นายตั้งว่าจะร้อยปี แล้วถ้าเกิดคนคนนั้นได้รับบาดเจ็บมากมายอะไรก็จะไม่ตายใช่ไหม”
บุรุษหนุ่มผมทองพยักหน้า “ระบบที่ฉันเขียนไว้ประมาณนี้นะถ้าจำไม่ผิด คนที่จะตายก็คือผู้ที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป ส่วนถ้าผู้ที่มีอายุต่ำกว่านั้นได้รับอุบัติเหตุ การเสียชีวิตจะลดลงตามความหนักหน่วง แต่ว่าจะตัดไว้ที่ 80 เปอร์เซ็นต์น่ะ ถ้าจะพูดง่ายๆก็คือถ้าผู้คนที่มีอายุ 99 ปีลงไปได้รับบาดเจ็บจากการสงครามก็จะมีโอกาสไม่ตายถึง80%”
บุรุษหนุ่มผมสีทองชงัก เขาตัดสินใจดีดนิ้วหลังจากนั้นสมุดสีทองก็โผล่ขึ้นมา เขากว่าตามมันก่อนที่จะบ่นพึมพำอยู่ในใจ
‘ทำไมสมุดเขียนชะตากรรมไม่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย สมัยนี้มันต้องใช้คอมพิวเตอร์สิวะยังมาใช้รูปแบบสมุดอยู่ได้ แล้วเราเขียนกดอะไรลงไปในโลกนี้บ้างวะเนี่ย’
เขาพิจารณาอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจกล่าวต่อ “ฉันยกเลิก มหาภัยพิบัติทั้ง 4 เพื่อทำให้ผู้คนไม่ล้มตายง่ายๆ หลังจากนั้นก็ตัดสินใจสร้างอาณาจักรเพื่อมาคานอำนาจกันเอง อาณาจักรแรกคืออาณาจักรวิทราเรีย อาณาจักรที่สองคืออาณาจักรแพนเจีย อาณาจักรที่ 3 ก็คืออาณาจักรบาบิโลเนีย”
“หลังจากนั้นฉันก็แบ่งแยกเผ่าเทพกับมาร แล้วก็ให้พวกนายมาดูแล เผ่าเทพให้พระเจ้าเป็นคนดูแล ชนเผ่ามันก็ให้คาออสเป็นคนดูแล หลังจากนั้นพวกนายก็สร้างสรรค์โลกของพวกนายโดยที่”
บุรุษหนุ่มผมสีทองหยุดกล่าว เขามองซ้ายมองขวาเมื่อพบว่าชายทั้งสองไม่ได้กล่าวอะไร เขาจึงค่อยๆหยิบชาขึ้นมาจิบ กลิ่นหอมของชาทำให้เขาใจเย็นลง การประชุมแบบนี้เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก
เขาก็นิสัยเหมือนกับเทพแห่งความสับสน นั่นก็เพราะว่าพลังส่วนหนึ่งนั้นได้รับมาจากชายหนุ่มผู้นั้น ส่วนอีกเสี้ยวหนึ่งก็ได้รับมาจากพระเจ้า หากกล่าวให้ถูกชายหนุ่มมีพลังทั้ง 2 สายอยู่ในร่างกาย ถ้าจะสรุปง่ายๆเขามีพลังแห่งการสรรค์สร้าง ที่ได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้า ส่วนอีกเซี่ยวหนึ่งก็มีพลังของเทพแห่งการสับสนหรือพลังแห่งการทำลายล้าง
คาออสผายมือออก “ทำขนาดนั้นเลยหรอ ไม่น่าล่ะเทพแห่งนรกมันถึงบอกว่าจะลาออกนะ นายทำแบบนี้แล้วจะมีใครตายแล้วเกิดใหม่วะ แบบนี้ประชากรในโลกมันก็คงตัวน่ะสิ ให้ฉันไปเกิดใหม่แล้วก็ไปทำร้ายลูกแบบนี้ดีไหม”
คำกล่าวของเขาทำให้ทั้งพระเจ้าและชายหนุ่มผมทองชักสีหน้าไม่พอใจ ชายหนุ่มผมทองในตาสีฟ้ากวาดมองเทพแห่งความสับสนก่อนที่จะกล่าว
“ให้นายลงไปทำลายล้างโลก แล้วก็ให้ฉันกับพระเจ้าเป็นคนสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ หลังจากนั้นก็ให้นายลงไปทำร้ายล้างโลกเล่นอีก แล้วก็ให้ฉันกับพระเจ้าเป็นคนสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอีกแล้วเหรอ “
“มันคือรู้ฟโปรแกรมที่ไม่มีวันจบสิ้น ฉันจะไม่ยอมทำหรอก แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่เบ๊ของนายนะเว้ย”
เขามองไปยังพระเจ้า หลังจากนั้นก็มองยังเทพแห่งความสับสน ก่อนที่จะตะเบ็งคอตะโกนสุดเสียง ระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจมาตลอด 200 ปี
“พูดก็พูดเถอะ เดิมทีโลกทั้งสามันรวมกันเป็นหนึ่ง หลังจากนั้นพอฉันมาฉันก็ทำให้โลกสมดุลโดยการแยกมันออกจากกัน พลังเวทย์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆจะได้สมดุลมากขึ้น เมื่อก่อนนี้เทพต้องไปสู้กับมนุษย์มนุษย์ต้องไปสู้กับมาร แถมพวกเทพก็บงการมนุษย์อีกวุ่นวายจะตายชัก ยังไม่จบนะยังมีพวกต่างมิติที่เข้ามาบุกรุก ต้องการพลังเวทย์และเวทมนตร์ของโลก เพื่อไปเติมเต็มพลังงานที่ขาดหายไป ถ้าไม่ใช่เพราะฉันโลกก็คงไม่สงบสุขเหมือนทุกวันนี้หรอก”
เทพแห่งการสับสนยักไหล่ “เรื่องแบบนั้นน่ะมันมีแต่พวกมนุษย์ที่คิดต่างหากล่ะ นายที่เคยเป็นอดีตมนุษย์กับสาวๆของนายน่ะถึงคิดเรื่องแบบนี้ได้ ฉันที่เป็นเทพมาหลายร้อยปีแล้วน่ะ อยากจะคิดเรื่องแบบนี้ก็คิดไม่ออกหรอกนะ ให้พวกมนุษย์กับพวกเทพและพวกมารอยู่ด้วยกันก็ดีแล้วโลกจะได้สนุก ฉันก็จะได้ลงไปเกิดใหม่ไปเล่นทำให้โลกนี้น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น”
พระเจ้ายิ้ม “ความจริงฉันก็เห็นด้วยนะ ที่จะให้เทพกับเผ่ามารกลับมาอยู่ด้วยกันกับมนุษย์ แต่ว่านายก็คงไม่เห็นด้วยสินะวิน”
ชายหนุ่มผมทองพยักหน้ารับ วินมองหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าพระเจ้า ตั้งแต่ที่เขาจำได้ชายคนนี้ไม่ค่อยที่จะเรียกชื่อจริงของเขานัก น่าจะเพราะว่าหลังจากที่ได้มาจุติเป็นเทพ นามเดิมก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร
“ถ้าตอนที่ฉันยังเป็นมนุษย์อยู่ฉันก็คงเห็นด้วย โลกใบนี้ไม่ควรที่จะแบ่งแยกตั้งแต่แรก แต่ว่าหลังจากที่ได้ลองมันก็ให้ผลตรงกันข้าม มนุษย์ที่เป็นเถาที่อ่อนแอกับถูกเผ่าเทพและเผ่ามารไล่ล่าสังหาร หลังจากนั้นมนุษย์กับสัตว์ที่ผสมพันธุ์กันและให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ครึ่งสัตว์ออกมา ก็ถูกมนุษย์สังหาร มนุษย์ไปสังหารสัตว์ที่อ่อนแอกว่า เทพกับเผ่ามาร ก็ดันไปไล่ล่าสังหารพวกมนุษย์ ดังนั้นการแบ่งเผ่าพันธุ์มันจึงเป็นเรื่องจำเป็น ต่อให้มนุษย์จะฝึกฝนเวทขนาดไหนก็ไม่มีทางเทียบเท่าพวกเทพได้หรอก”
สวัสดีนักอ่านที่กำลังติดตามผลงานทุกท่านนะครับ ผมจะทยอยอัพนิยาย 1 วันต่อตอน ถ้าใครสนใจก็ติดตามอ่านเรื่องนี้ไม่เทแน่นอนครับ ส่วนคนที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลกต่อ มันก็เป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังทำการแก้ไขและปรับปรุงเนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก
2 เนื่องจากการเขียนนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2 ทำให้สำนวนคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำนวนครับ แต่ว่าเนื่องจากดร๊าฟนี้เป็นดร๊าฟแรก หากมีคำผิดหรือคำตกหล่นประการใดผมก็ขอประทานอภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
3 เนื่องจากผมต้องการหารายได้จากการเขียนนิยาย แต่ว่าก็ยังลังเลใจอยู่ว่าจะติดเรียนเลยดีไหม ดังนั้นผมเลยทำอย่างนี้ครับผมจะติดเหรียญจะลงตอน ให้อ่านก่อน 3 วัน หลังจากนั้นก็จะติ่งเหรียญ 2 เหรียญ จุดประสงค์ของผมก็คืออยากให้ทุกคนอ่านนิยายเรื่องนี้อย่างมีความสุข และไม่ต้องเสียตังค์ ดังนั้นถ้าใครอยากอ่านโดยที่ไม่ต้องกดซื้อก็อ่านก่อนเลยนะครับ แล้วช่วงนี้ผมต้องสอบเตรียมตัวสอบ จบ และสอบ toeic กับ jlpt และ shkk ดังนั้นผมจะเขียนน้อยแต่จะอัพสม่ำเสมอนะคครับ จะเขียนประมาณ 3 หน้า A4 ตัวอักษร 14 อยู่ใน Google doc
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามนะครับ
4 เนื่องจากผมเป็นผู้ที่บกพร่องทางการเห็นดังนั้นถ้าการจัดหน้าไม่ถูกไม่ควรอย่างไร หรือเพื่อนๆมีความรู้สึกว่าอ่านยากกรุณา comment บอกได้เลยนะครับเดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนการจัดหน้าให้ เพราะว่าโปรแกรมอ่านหน้าจอของผมมันไม่แจ้งเตือนว่าการจัดหน้าเป็นอย่างไร แต่จากการที่ผมสันนิษฐานคิดว่าเว็บที่เอาไปลงน่าจะมีระบบจัดหน้าให้อัตโนมัติ ขอบคุณนักอ่านทุกคนอีกครั้งครับ
ผมต้องขอโทษนักอ่านทุกคนที่รออ่านด้วยนะครับพอดีผมเขียนเสร็จแล้วแต่ผมลืมอัพโหลด ดังนั้นผมจะอัพโหลดวันนี้ 3 ตอน แล้วพรุ่งนี้จะอัพลง 2 ตอนนะครับ เวลาการติดเหรียญจ๊ะตั้งไว้ที่ 10 วัน หลังจากนั้นก็จะติด 2 เหรียญเหมือนเดิมนะครับ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 324
แสดงความคิดเห็น