ตอนที่ 25 กลัวความมืด
“รินผิดเองค่ะ กว่าจะรู้ใจตัวเองก็สายไปเสียแล้ว ที่รินทำตัวห่างเหิน ทำไม่สนใจพี่วิน เพราะว่ารินเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นพี่วินอยู่กับคนที่พี่รัก แต่ไม่ใช่ริน ทุกอย่างมันคงเกิดขึ้นเพราะพรมลิขิตขีดเขียนให้ได้พบเจอ แต่มิได้ครองคู่จำต้องพลัดพรากไปจากกัน”
"นาริน" บอกถึงความในใจที่เก็บไว้มานานแสนนาน
“น้องรินก็ชอบพี่เหมือนกันใช่มั๊ย เราสองคนก็ใจตรงกันมาตลอดสินะ”
"อัศวิน" เอ่ยออกไปอย่างดีใจสุดๆ จนยิ้มกว้างอวดฟันขาวอย่างมีเสน่ห์
“รินก็แอบชอบพี่วินตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักกันแล้วล่ะค่ะ”
"นาริน" พูดอย่างเขินอายเล็กน้อยใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“พี่ไม่คิดว่าเราสองคนจะใจตรงกันมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เวลาที่ผ่านมาต่างคนต่างไม่ได้เอ่ยออกมาให้ชัดเจน วันนี้ได้ยินน้องรินพูดความในใจออกมาพี่เองก็ดีใจเป็นอย่างมาก พี่รักน้องรินนะครับ ตั้งแต่วันนี้ไปเราสองคนจะจับมือยืนเคียงข้างกัน ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เป็นกำลังใจให้กันอย่างนี้ตลอดไป และไม่ห่างจากกันไปไหนอีกแล้วนะครับ”
"อัศวิน" เอ่ยความในใจออกมามากมายด้วยน้ำเสียงที่หวานจับใจ แล้วก้มลงหอมแก้มขาวผ่องของสาวน้อยอย่างอ่อนโยน และนุ่มนวลเป็นที่สุด
“รินก็รักพี่วินมากเช่นกันค่ะ”
"นาริน" ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว นุ่มนวลไม่แพ้กัน แทบไม่ต้องคิดเลย เพราะมันอยู่ในใจของเธอมานานแสนนานมากแล้วสายตาของคนทั้งคู่จ้องสบกัน ก่อนที่ใบหน้าของทั้งคู่จะเคลื่อนเข้ามาหากันอย่างช้าๆ จุมพิตกันอย่างแผ่วเบาจากนั่นก็แนบชิด มาเป็นสนิทแนบแน่นไปตามลำดับ ตามแรงอารมณ์ปรารถนาของคนทั้งคู่ พร้อมหัวใจทั้งสองดวงที่พองโตสุขล้นไปด้วยความรักที่มีให้แก่กันและกันผ่านไปเนิ่นนาน "อัศวิน" ก็ผละออกจาก "นาริน" พลางมองสบนัยน์ตาที่หวานล้ำที่มีให้แก่กัน ชายหนุ่มพยายามเป็นอย่างมากในการควบคุมอารมณ์แรงปรารถนาที่มีในตอนนี้ให้สงบลง เขาก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา แล้วเอ่ยให้สาวน้อยนั้นรีบนอนหลับพักผ่อน ส่วนเขานั้นจะออกไปโดยไม่รบกวนเธออีกชายหนุ่มออกมาจากห้องนอนของสาวน้อยก็ตรงกลับมาที่ห้องนอนของตัวเองในทันทีด้วยใบหน้าหล่อคมคายที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มทางด้าน
"นาริน" ที่กำลังนอนเหม่อคิดถึงคำพูดสารภาพรักที่ยังก้องอยู่ถึงตอนนี้ไม่เสื่อมคลาย รอยยิ้มปรากฏเป็นระยะๆ คงเป็นเพราะโชคชะตาที่นำพาให้พี่วินและเธอได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แต่เธอก็ภาวนาขออย่าให้ได้พลัดพลากจากกันไปไหนอีกเลย เธอคงทนรับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว คิดไปคิดมาเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราหลับไปอย่างไม่รู้ตัวยามดึกสงัดเสียงลมกันโชคแรง ตามด้วยเสียงฟ้าร้องสนั่นดังก้องไปทั่วอาณาบริเวณ ฟ้าที่ผ่าลงมาจนเห็นแสงสว่างติดๆ กันทำให้ "นาริน" ที่กำลังหลับไหลอย่างเป็นสุขอยู่นั้นพลันก็ตกใจจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา เธอกลัวเสียงฟ้าร้องมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วในเวลานี้เธอคิดถึงแม่ขึ้นมาทันที ถ้าแม่อยู่ด้วยในตอนนี้แม่ก็จะกอดปลอบเธอไว้ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้ และรู้สึกปลอดภัย แต่ในเวลานี้เธออยู่ในห้องเพียงลำพังคนเดียว
เธอกลัวมากจนไม่สามารถหลับต่อไปได้อีกแล้ว ภายในห้องที่มืดมิด เพียงครู่เดียวเสียงฝนก็ตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง "นาริน" คิดได้ว่าถ้าห้องสว่างก็ยังดีกว่าห้องที่มืดๆ แหละนะ ถึงห้องจะมีแสงสว่างก็ยังพอทนๆ หลับตาต่อไปได้ก็ยังจะดีกว่า เธอจะได้ไม่กลัวไปมากกว่านี้ด้วย คิดได้ดังนั้นเธอก็เอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟที่หัวนอนทันที แป๊กๆๆ เปิดเท่าไหร่ไฟก็ไม่ติดสักที ตาเธอเบิกกว้างทันใดในใจก็มีคำพูดขึ้นมาว่า "ไฟดับ!" เธอตัวสั่นไปหมดด้วยความกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาลงไปจากเตียงด้วยซ้ำ เธอกอดผ้าห่มเอาไว้แน่นทันใดนั้นเองเหมือนได้ยินเสียงระฆังสวรรค์ ไม่ใช่สิเสียงเคาะประตูเรียกเธอตอนแรกเธอสะดุ้งและตกใจมากอยู่เหมือนกันจนกลั้นหายใจเอาไว้ แต่พอตั้งใจฟังเสียงนั้นที่คุ้นเคย น้ำเสียงที่เอื้ออาทร ห่วงใยเธอจริงๆ ทำให้เธอถึงกับถอนหายใจออกมาเสียยกใหญ่ แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“น้องรินหลับอยู่หรือเปล่าครับ เห็นไฟดับพี่เป็นห่วงเลยเดินออกมาดู”
"อัศวิน" เอ่ยถามด้วยความน้ำเสียงที่ห่วงใยยิ่งนัก ในมือก็ถือไฟฉายที่ทำให้บริเวณนั้นสว่างไสวไปด้วย
“รินตกใจตื่นน่ะค่ะ แล้วก็หลับไม่ลงอีกเลย เพราะว่ารินกลัวค่ะ”
"นาริน" บอกไปแต่สายตาของเธอกลอกไปมามองตามสายฟ้าที่แลบไปด้วย พลางยกมือขึ้นมากอดอกตัวเองไว้แน่นอย่างตื่นกลัวสิ่งรอบข้าง
“กลัวมากขนาดนั่นเลยหรือ”
"อัศวิน" เอ่ยแซวเล็กน้อยไม่จริงจังอะไร มองดูสาวน้อยตรงหน้าแล้วคงจะกลัวจริงๆ สินะ
“รินกลัวเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่ามาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะค่ะ ไฟก็มาดับแบบนี้ด้วย ยิ่งทำให้รินกลัวมากขึ้นไปอีก”
"นาริน" บอกออกไปอย่างไม่อาย
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนน้องรินก็ได้”
"อัศวิน" พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ อ่อนโยนมาก
“อืมมม ไม่เป็นไรก็ได้ค่ะ รินเกรงใจ”
"นาริน" บอกออกไปด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว ใจหนึ่งก็อยากให้ชายหนุ่มอยู่เป็นเพื่อนเธอจะได้ไม่กลััว แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากที่จะอยู่ด้วยกันแบบสองต่อสองกับชายหนุ่มเลย
“ถ้ากลับไปที่ห้องตอนนี้ พี่ก็นอนไม่หลับอยู่ดี น้องรินไม่ต้องเกรงใจพี่หรอกนะ พี่เต็มใจที่จะอยู่เป็นเพื่อน ว่าแต่น้องรินคงไม่ได้กลัวพี่หรอกใช่มั๊ย”
"อัศวิน" พูดแซวยกยิ้มมุมปากเชิงล้อเลียน
“ใช่ที่ไหนกันล่ะค่ะ รินไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย"
"นาริน" รีบปฏิเสธออกไปกลัวชายหนุ่มเข้าใจผิด
“โอเคครับ พี่เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนล่ะกันนะ”
"อัศวิน" กล่าวยิ้มอ่อนรอเธอเปิดทางให้เขาเดินเข้าไป
“เข้ามาข้างในสิค่ะ”
"นาริน" บอกออกไปพร้อมเบี่ยงกายไปอีกทางหนึ่งเพื่อให้ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้านในได้สะดวกยิ่งขึ้น ในใจก็เต้นแรงกระวนกระวายว้าวุ้นไปหมด อุ่นใจที่มีพี่วินอยู่ข้างๆ แต่ก็แอบกลัวในความใกล้ชิดของกันและกันอีกด้วย คิดจนสับสนไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีได้แต่เดินมานั่งบนเตียงนอนอีกฝั่งหนึ่งอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ไว้ก่อนจะดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน
“น้องรินทำไมไปนั่งอยู่ตรงนั้นล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า”
"อัศวิน" เอ่ยอย่างขบขันในท่าทางที่สาวน้อยแสดงออกมา
“อ๋อออ รินร้อนน่ะค่ะ และก็กลัวว่าพี่วินจะนอนไม่สบายตัวด้วย”
"นาริน" พูดตะกุกตะกักแก้ตัวไม่ทัน ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี โดยไม่ให้ชายหนุ่มจับพิรุธได้ แต่ลืมไปรึเปล่าว่าฝนตกลมกระโชกรุนแรงขนาดนี้จะร้อนไปได้ยังไงกัน
“หืมมม พี่ว่าอากาศตอนนี้หนาวมากนะครับ พี่ยังต้องหาชุดนอนหนาๆ มาใส่เลยนะนี่”
"อัศวิน" เอ่ยตามจริงแต่ก็แอบแซวไปด้วย ขยับเข้าไปหาสาวน้อยช้าๆ มองสบนัยน์ตาหวานที่ไหวระริกด้วยประกายตาเว้าวอนกลายๆ
“น้องรินไม่ต้องกลัวพี่นะครับ พี่จะไม่มีวันทำร้ายน้องรินเป็นอันขาด พี่สัญญา”
"อัศวิน" กล่าวอย่างจริงใจ ชายหนุ่มกรอบกุมมือนุ่มเอาไว้อย่างทะนุถนอม ให้เธอผ่อนคลายความตึงเครียดลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
“รินเชื่อค่ะ ว่าพี่วินจะไม่มีวันทำร้ายริน ถ้าพี่วินเป็นคนไม่ดีรินคงไม่รักและคงไม่อดทนรอพี่วินมาจนถึงวันนี้ได้”
"นาริน" เอ่ยอย่างเขินอาย
“หัวใจดวงนี้จะเป็นของน้องรินคนเดียว และคนสุดท้ายจากนี้และตลอดไปครับ พี่จะดูแลปกป้องน้องรินเองไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลอะไรนะครับ พี่จะคอยอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้เสมอ”
"อัศวิน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง สายตาที่ส่งมาหวานเปล่งประกายสม่ำเสมอ
“ขอบคุณนะค่ะ พี่วิน”
"นาริน" ตอบรับออกไปเผลอมองสบตาคม จนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวดึงร่างบอบบางเข้ามาสวมกอดอย่างแสนรัก พร้อมก้มลงหอมแผ่วเบาที่ศีรษะของสาวน้อย ชายหนุ่มรู้สึกสดชื่นมีพลังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ดึกมากแล้ว พี่ว่าพี่กลับไปนอนที่ห้องดีกว่านะครับ”
"อัศวิน" จำใจเอ่ยลา ก่อนไปขอหอมแก้มนางสักหน่อยให้ฝันดีคงไม่เป็นไรมั่ง คิดได้ดั่งนั้นก็ก้มไปสูดดมความหอมนั้นทันทีด้วยความเชื่องช้า เขาไม่ยากจะออกไปเลย แต่ก็กลัวจะหักห้ามใจตัวเขาเองเอาไว้ไม่ไหวยามเมื่อได้ใกล้ชิดกับร่างกายสวยงามเย้ายวนนี้ เหมือนว่าเธอมีแรงดึงดูดมหาศาลจนไม่สามารถจะแยกจากไปได้ง่ายๆ
“เดี๋ยวค่ะ รินไม่อยากอยู่คนเดียว พี่วินอย่าเพิ่งไปจะได้มั๊ยค่ะ รอให้ไฟมาก่อนแล้วค่อยไปนะค่ะ รินขอร้อง”
"นาริน" ขอร้องด้วยความหวาดกลัวจริงๆ พลางเหลียวหันไปมองที่หน้าต่างบานใหญ่บ่อยครั้งทั้งๆ ที่มีม่านหนาปิดบังไว้แต่ก็ไม่วายเห็นแสงที่แว๊บๆ รอดผ่านเข้ามาเป็นระยะๆ ตามด้วยเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าชวนให้สะดุ้งตกใจทุกครั้งที่ได้ยิน
“น้องรินแน่ใจนะครับ ว่าจะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนน่ะ”
"อัศวิน" ถามออกไปนัยน์ดวงตาคู่คมที่มองสบดวงตาคู่หวานนั้นส่องแสงประกายระยิบระยับอย่างไม่ว่างตา ในความคิดก็เกินกว่าที่ใครจะคาดเดาได้
“แน่ใจสิค่ะ นะค่ะ พี่วินอยู่เป็นเพื่อนรินก่อนนะค่ะ รินขอร้องนะ นะค่ะ พี่วิน”
"นาริน" อ้อนวอนกอดแขนชายหนุ่มไว้แนบแน่น กลัวชายหนุ่มทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
“โอเคๆ ก็ได้ครับ พี่อยู่เป็นเพื่อนก็ได้ แต่พี่ไม่แน่ใจนะว่า ต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง”
"อัศวิน" แกล้งหยอกเย้าแต่สายตาที่สื่อออกไปนั่นเจ้าชู้ยิ่งนัก
“รินไม่เข้าใจค่ะ ที่พี่วินพูดออกมามันหมายความว่ายังไงกันแน่ค่ะ”
"นาริน" ถามออกไปอย่างอดที่จะสงสัยในคำพูดนั้นไม่ได้
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะค่ะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 249
แสดงความคิดเห็น