บทที่ 25 มุ่งหน้าสู่คุกนรก
อาสึนะค่อย ๆ หรี่ตาตื่นขึ้น หล่อนมองบางสิ่งที่ค่อย ๆ นำร่างเข้ามาใกล้ เด็กสาวกำหมัดแน่นก่อนที่จะหลับตาและปล่อยสวนออกไป โดยที่ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เธอไม่สนใจหรอกว่าผู้ที่กำลังนำริมฝีปากมาใกล้เธอจะเป็นใคร แต่มันเป็นสัญชาตญาณทั่วไปที่ควรจะป้องกันตัว
เสียงหมัดรุ่นปะทะเข้ากับใบหน้า ก่อนที่ร่างของเด็กหนุ่มจะล้มก้นจ้ำเบ้า เขากัดฟันระงับความเจ็บปวดก่อนที่จะมองไปยังเด็กสาวผมสีน้ำตาลด้วยท่าทางที่แสดงถึงความไม่พอใจ
“ในที่สุดก็ตื่นสักทีนะ แต่ว่าจะให้ดีกว่านี้ถ้าเธอไม่ใช้หมัดกับแรงช้างของเธอต่อยฉัน”
อาสึนะลืมตาขึ้นก็พบกับไบรท์ที่กุมแก้มของเขาอยู่ เด็กสาวผมน้ำตาลเบ้ปากอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะหันมองไปรอบๆ เธอรู้ได้ไม่ยากว่าไบรท์ จะไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ถ้าไม่มีใครให้คำแนะนำ
เพียงไม่นานเธอก็พบตัวการ เด็กสาวแหวใส่เนกิ เด็กหนุ่มผมแดงยาวที่กำลังยืนหัวเราะท้องคัดท้องแข็งอยู่ไม่ห่าง
“นี่นายเล่นบ้าอะไรเนกิ”
เนกิยิ้ม “ไม่ได้เล่นอะไรนี่นา ฉันไม่ได้ทำอะไรสักนิดเลย”
“อย่ามาพูดบ้า ๆ ถ้าไม่ใช่นายยุยงให้หมอนี่มาทำ คนอย่างไบรท์ก็คงไม่มีทางมาทำเรื่องแบบนี้เป็นอันขาด”
เนกิเลิกคิ้วของตนเองอยย่างสงสััย “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“สัญชาตญาณของผู้หญิงมันบอกฉัน แล้วอีกอย่างฉันรู้จักคนอย่างนายดีกว่าหมอนั่น นายเป็นคนที่ชอบเล่นอะไรแผลง ๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาฉันก็รู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นฝีมือของนาย ได้จะให้หมอนัดมาทำอะไรฉันมิทราบ”
เนกิยิ้มทะเล้น ก่อนที่จะทำถ้าตึกตรองและกล่าวอย่างทีเล่นทีจริงว่า
“ให้ทำอะไรอย่างนั้นหรอ ก็ไม่เห็นต้องขบคิดให้ยุ่งยากเปลืองพื้นที่ในสมองเลย การที่ผู้หญิงกับผู้ชายก้มหน้าไปชิดใกล้กัน ริมฝีปากของพวกเขาห่างกันแค่คืบมันยังจะมีเหตุผลประการใดได้อีก”
เขานำมือไปจับริมฝีปากของตนเอง ก่อนที่จะกล่าวอีกครั้ง “ สิ่งที่จะให้หมอนั่นทำกับเธอจะเป็นอะไรได้นอกเสียจากจุมพิต สิ่งที่ฉันจะให้หมอนั่นทำกับเธอก็คือการปลูกเจ้าหญิงสโนไวท์ให้ตื่นจากห้วงนิทราด้วยจูบอันดูดดื่มของเจ้าชายขี่ม้าขาวยังไงล่ะ”
อาสึนะชงัก เธอมีท่าทางตกใจ เด็กสาวผมน้ำตาลดำมือชี้นิ้วไปยังรุ่นพี่และเพื่อนของเธอ มือของเด็กน้อยสั่นด้วยความกลัวทาก่อนที่เธอจะตะโกนขึ้น
“นี่นายคิดจะภาพจูบแรกของสาวบริสุทธิ์ไปอย่างนั้นหรอ แบบนี้ให้อภัยไม่ได้ ถึงฉันจะยังไม่โดนตาซื่อซ่าบ้าบอคนนี้อยู่ก็ตาม แต่ถ้าฉันรู้สึกตัวช้ากว่านี้แมแต่นิดเดียว ริมฝีปากของฉันก็คงต้องตกเป็นของเจ้าโง่นี่แล้ว”
อาสึนะชี้นี้วไปยังไบรท์ ที่ยืนทำหน้าตาย เด็กสาวหยิบคทาเวทขึ้นมา ก่อนที่จะร่ายเวทลมซึ่งเวทชนิดนี้เป็นเวทมนตร์ธาตุของเด็กสาว สายลมค่อย ๆ ล้อมรอบบนฝ่ามือและกลายสภาพเป็นลูกบอลขนาดเล็ก
“พวกแกทั้งสองคน เตรียมตัวตาย”
ไบรท์รีบลุกขึ้นจากพื้นดิน เขาชี้นิ้วไปที่ตนเองก่อนที่จะถามอย่างสงสัย
“2 คนหรอ ฉันผิดอย่างนั้นหรอ เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าฉันเป็นคนที่โดนหลอกใช้นะเว้ย แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าให้ฉันเลือกฉันก็ไม่อยากลงไปจูบเธอหรอก”
“ฉันไม่รู้ เนกิ ไบรท์ พวกแกทั้งสองคนถ้าไม่เจ็บอย่าเรียกฉันว่าอาสึนะนักเวทธาตุลมที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนเวทมนต์ ไม่สินักเวทย์อัจฉริยะแห่งรุ่น”
สิ้นคำกล่าวของเด็กสาวผมน้ำตาล เวทมนตร์ลมขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนะก็พุ่งใส่ร่างของชายหนุ่มทั้งสอง ชายผมแดงสามารถกระโจนร่างหลบได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเขามีประสบการณ์ในการต่อสู้มากมาย แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นสำหรับชายผมดำนัยน์ตาดุจทับทิม ไบรท์ผู้ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการต่อสู้สิ่งมากนัก ไม่สามารถเคลื่อนร่างกายพริ้วไหวดุจใบไม้เช่นเนกิ เมื่อเป็นดังนั้นเด็กหนุ่มจึงโดนบอลลมอัดเข้าไปยังใบหน้าเต็ม ๆ เด็กหนุ่มยังไม่ทันจะพูดจาแก้ตัวร่างกายของเขาก็ลอยไปไกล
‘จำไว้เลยนะเว้ย ฉันจะหาทางเอาคืนเธอให้ได้’ นี่คือเสียงในใจของเด็กหนุ่ม
อาสึนะละสายตาออกจากไบรท์ เด็กสาวผมน้ำตาลสบัดมือก่อนที่จะจับจ้องไปยังชายหนุ่มผมแดง เธอรวบพลังเวทที่อยู่ในร่างกายอีกครั้ง ถึงแม้ตอนนี้พลังเวทย์ของเด็กสาวจะน้อยลงมากก็ตาม แต่สำหรับเธอมันก็ไม่ใช่ปัญหาที่หนักหน่วงอะไรมากนัก
เด็กสาวผนึกพลังเวทย์เข้าไปที่ฝ่าเท้า เพียงไม่นานเธอก็ดีดร่าง หลังจากนั้นลากของเด็กสาวก็โผล่ขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่มผมแดง เนกิรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะต้องเป็นในรูปแบบนี้ เขาจึงเตรียมตัวที่จะเคลื่อนร่างหลบการโจมตีที่จะมาถึง
แต่ทว่าเด็กหนุ่มก็ต้องประหลาดใจ นั่นก็เป็นเพราะว่าร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้ดั่งใจ เขาหันขวับไปมองยังอาจารย์ไอยราที่ยืนอยู่ไม่ห่าง แต่เขาก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อพบว่าอาจารย์ของตนไม่ได้ร่ายวงเวทอะไรไว้เลย เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว
ก่อนที่เขาจะได้ขบคิดต่อ บัตรรุ่น ๆ ของเด็กสาวผมน้ำตาล ก็พุ่งตรงมาปะทะใบหน้าของเด็กหนุ่มผมแดงอย่างจัง เนกิไม่ทันเยี่ยวตัวหลบ เขาโดนหมัดของเด็กสาวเต็มๆก่อนที่เด็กหนุ่มจะล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ทุกคนล้วนมองอาสึนะ ย่างแปลกประหลาดใจ เมื่อเด็กสาวมองไปรอบๆแล้วเห็นสายตาฉงนของทุกคน เธอจึงยิ้มอย่างพึงพอใจ
“เป็นยังไงล่ะ จะยอมแพ้แค่นี้ดีหรือเปล่า หรือว่านายจะสู้กับฉันต่อ”
เนกิยกมือเป็นเชิงยอมแพ้ เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย “เป็นยังไงบ้าง พลังเวทย์กับคืนมาเหมือนเดิมหรือยัง แต่ว่าจากที่ดูการต่อสู้ที่เธอสู้กับฉัน แสดงว่าพลังเวทย์เริ่มกลับคืนมาแล้วใช่หรือเปล่า “
อาสึนะพยักหน้ารับ “พลังเริ่มกลับมาเหมือนเดิมแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่กลับคืนมาทั้งหมด จากที่คาดการณ์ฉันคิดว่าพลังเวทของฉันน่าจะกลับคืนมาเหมือนเดิมอีก 1 วัน”
“การปลดผนึกวิญญาณประจำตระกูลมันมีความเสี่ยง เธอก็รู้ดีไม่ใช่หรือไงเรื่องนี้”
อาสึนะพยักหน้า “เรื่องนี้ฉันรู้ดี แต่ว่าฉันจำเป็นต้องทำเพราะว่ามันไม่มีทางเลือก ถ้าฉันไม่ทำอะไรน้องสาวของอาจารย์ไอยราก็จะตกอยู่ในอันตราย ถ้าฉันไม่ต้องปกป้องใครฉันจะสามารถหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าฉันต้องปกป้องน้องสาวของอาจารย์ไอยรา”
เนกิส่ายศีรษะปฏิเสธคำกล่าวของอาสึนะ เขามองไปในแววตาของเด็กผมน้ำตาล ก่อนที่จะกล่าวอยากรู้ทัน “อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลย เธอคิดว่าฉันไม่รู้ทันเธอหรือยังไง เธอไม่คิดจะหนีตั้งแต่แรกอยู่แล้วสิ่งที่เธอทำก็คือการต่อสู้ให้มันรู้ดำรู้แดงต่างหาก”
อาสึนะไม่คิดจะปฏิเสธคำกล่าว ทำให้เนกิกล่าวต่อ “สิ่งที่เธอทำขัดใจฉัน เธอลืมไปแล้วหรือไงเรื่องการร่ำเรียนในโรงเรียนเวทมนต์บาบิโลเนีย หากเราไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีระดับพลังและฝีมือที่สูงกว่า สิ่งที่นักศึกษาควรที่จะทำก็คือการหลีกหนีไปให้ไกล เพราะการถอยยังจะสามารถมาเตรียมตัวและคิดแผนต่อสู้ใหม่ได้ สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือในฐานะที่ฉันเป็นรุ่นพี่ของเธอ และยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ”
เนกิหยุดกล่าว ก่อนที่จะตัดสินใจพูด “ถ้าหากนี้เป็นภารกิจเธอก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง”
“ฉันรู้อยู่แล้ว”
“อย่างนั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด”
การกระทำของเด็กน้อยทั้งสาม ล้วนอยู่ในสายตาของ ไอยรา ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าจะเอ่ยห้าม แต่าว่าเพียงไม่นานเธอก็เปลี่ยนใจ เธอละสายตาไปจากอาสึนะที่กำลังยิ้มอย่างสะใจ ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตาไปมองยังไบรท์ที่มองเนกิด้วยตาเขียวปัด ก่อนที่ไบรท์จะเอาคืนเนกิ เมื่อไอเห็นดังนั้นเธอจึงโบกมือห้าม หลังจากนั้นหญิงสาวก็กล่าวตัดบท
“เห๊อ หยุดได้แล้ว ขืนยังเล่นกันอยู่พวกเราจะไปทำภารกิจที่คุกนรกไม่ทัน”
ไบรท์มองเนกิ ก่อนที่จะพูดพึมพำกับตนเอง “ฝาว้ก่อนก็แล้วกัน”
เนกิยิ้ม “แล้วอย่าลืมมาเอาคืน”
ไอมีสีหน้าท่าทางที่จริงจัง ก่อนที่เธอจะเริ่มชี้แจงภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาอีกครั้ง ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาก็คือการไปตรวจสอบเรียนคุกนรก ผู้ร่วมภารกิจก็จะมี ไอ ไบรท์ เนีกิ อาสึนะ นากิ ที่เพิ่งมาหญิงสาวก็ได้ขออนุญาตไปยังเฟรย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้น้องสาวของเนกิสามารถเดินทางไปกับพวกเขาได้ และรูรุ
เมื่อเธอชี้แจงภารกิจเสร็จสิ้น พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางในทันที โดยที่ โดยที่ค่าเดินทางก็จะใช้ยานพาหนะของลูรูรุ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สิ้นการชี้แจง รูรุจึงได้เรียกรถยนต์เวทมนตร์ รถยนต์เวทย์มนต์มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนะ แต่สามารถบรรจุคนได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป รถยนต์คันนี้แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปตรงที่มันใช้พลังงานนั้นก็คือหินเวทย์มนต์
รถกระบะที่มีแคปทำให้การขนย้ายสัมภาระเป็นไปได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าด้วยจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้นทำให้พวกเขาไม่สามารถนั่งด้วยกันได้ เพียงไม่นานพวกเขาก็ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ชายแดน
โดยที่ไอยราเป็นคนขับ อาสึนะและมายด์นั่งตักอยู่ข้างหน้า รูรุ นากิ เนกิ คาเสะที่เป็นอสูรอัญเชิญของไบรท์นั่งด้วยกัน และไบรท์นั่งตักคาเสะ เพราะว่าเขามีขนาดตัวที่เล็กกว่าคาเสะ
การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่น 2 วันผ่านไปพวกเขาก็เดินทางมาถึงจุดหมาย เพียงไม่นานพวกเขาก็มาถึงชายแดน กลุ่มของพวกไบรท์รีบเดินทางไปยังเครื่องเคลื่อนย้าย มิติ เครื่องเคลื่อนย้ายไม่ติตั้งอยู่ในห้องศูนย์บัญชาการของอาณาจักรบาบิโลเนีย
ห้องที่ตั้งของเครื่องเคลื่อนย้ายนี้ไม่มีผู้เฝ้าระวัง เนื่องจากการใช้เวทเคลื่อนย้ายมิติจำเป็นต้องมีพลังเวทย์อันมหาศาล และการเปิดเข้าห้องนี้ได้จำเป็นต้องมีลายนิ้วมือและใช้การสแกนม่านตา
พอพวกไบรท์มาถึงประตูสีขาวขนาดใหญ่ ไอสภาพนิ้วลงไปกับประตู เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจสอบว่านี่เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเวทย์มนต์ ประตูก็เปิดออกอย่างอัตโนมัติ
ห้องนี้เป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากนะ ตรงหน้าของพวกเขามีบางสิ่งตั้งแต่งานอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นดังนั้นพวกเขาจึงเดินตรงไปหาเครื่องวงกลมสีขาวในทันที
พอพวกเขามาถึงยังจุดหมาย พวกเขาก็พบกับ ครึ่งวงกลมสีขาวขนาดใหญ่ ครึ่งวงกลมสีขาวคือเครื่องที่สามารถย้ายสสารหรือสิ่งมีชีวิตไปยังเป้าหมายที่กำหนดได้ แต่ทว่าเครื่องนี้จำเป็นต้องมีเเครื่องอีกแบบหตั้งอยู่ในสถานที่ที่จะส่งคนไป การเปิดใช้เครื่องนี้จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์อันมหาศาล แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาของพวกไบรท์
ไอเดินตรงไปยังเครื่องวงกลมสีขาวขนาดใหญ่ ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆทำมือลงไปกับแป้นสัมผัส หญิงสาวค่อยๆถ่ายพลังเวทย์ลงไปเพียงไม่นานเครื่องสีขาวก็ปรากฏแสงสว่าง แสงสีขาวล้อมรอบตัวของกลุ่มของไบรท์ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ส่งแสงออกมา เมื่อการเดินเครื่องเริ่มดำเนินขึ้น พวกเขาก็จะถูกย้ายไปยังเกาะที่ตั้งของคุกนรก จากสีขาวค่อยๆส่องเจิดจ้าไปรอบๆบริเวณ นอกจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบ ๆ อาณาเขต แล้ว สิ่งอื่นก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายตามไปได้
riter talk
สวัสดีครับ ภาคแรกก็จบไปแล้วนะครับ ส่วนใครอยากอานภาคสองต่อก็เชิญได้เลยครับ ภาค 2 จะแบ่งออกเป็น บทละ 2 ตอนย่อย
เช่น บทที่ 1/1 บทที่ ½
จะลงทุกวัน นะครับ
สวัสดีนักอ่านที่กำลังติดตามผลงานทุกท่านนะครับ ผมจะทยอยอัพนิยาย 3 วันต่อตอน ถ้าใครสนใจก็ติดตามอ่านเรื่องนี้ไม่เทแน่นอนครับ ส่วนคนที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลกต่อ มันก็เป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังทำการแก้ไขและปรับปรุงเนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก
2 เนื่องจากการเขียนนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2 ทำให้สำนวนคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำนวนครับ แต่ว่าเนื่องจากดร๊าฟนี้เป็นดร๊าฟแรก หากมีคำผิดหรือคำตกหล่นประการใดผมก็ขอประทานอภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 245
แสดงความคิดเห็น