บทที่ 19เสียถ้า
บทที่ 19เสียถ้า
อาเล็กซานเดอร์คำรามก่อนที่จะเคลื่อนร่างหลบใบมีด ชายหนุ่มสะบัดใบดาบเพื่อหวังว่ามันจะโดนตัวของอาสึนะ ทว่าเด็กสาวตรงหน้ากลับสามารถหลบการจู่โจมของเขาได้ หล่อนยกมีดขึ้นมาปัดป้อง ก่อนที่จะใช้มีดแทงสวนกลับมา เมื่ออาเล็กซานเดอร์เห็นดังนั้น เขาจึงวาดวงเวทบาเรียเพื่อใช้ห่อหุ้มร่างกาย เมื่อใบมีดโดนเวทอาณาเขตมันก็กระดอนกลับเข้าสู่มือของเด็กสาว
หญิงสาวในร่างของอาสึนะยิ้มอย่างชอบใจ หล่อนผนึกพลังเวทเข้าไปในใบมีดจนมีดถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังเวทสีเขียว ไอพลังแผ่พุ่งไปรอบ ๆ อาณาบริเวณ ถึงแม้พลังจะมีขนาดเล็ก แต่การควบแน่นพลังนั้นทำให้อาเล็กซานเดอร์ต้องตระหนก
เด็กสาววาดใบมีดไปช้า ๆ ทว่าไอพลังกลับทำให้รอบ ๆ บริเวณนั้นโดนใบมีดทำร้าย ต้นไม้ใบย่าล้วนถูกหันออกเป็นชิ้น ๆ อย่างง่ายดาย ชายหนุ่มเคลื่อนร่างหลบ ทว่าอาสึนะไม่หยุด
เด็กสาวตามติด อาเล็กซานเดอร์ยกดาบขึ้นมาปัดป้อง ทำให้การโจมตีที่พุ่มใส่ร่างกายนั้นไม่เกิดประสิทธิผล พลังสภาวะแผ่พุ่งไปรอบ ๆ แต่ถึงกระนั้นพลังเวทกลับไม่ได้โดนร่างกายของมายด์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น หญิงสาวในร่างของอาสึนะหันไปมองยังเด็กสาวผมทอง ก่อนที่จะใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนกล่าว
“ถ้าเมื่อยก็นั่งลงรอได้เลย พี่สาวได้ใช้เวทอาณาเขตล้อมรอบตัวของหนูไว้แล้ว ถ้าพี่ไม่ได้ฤปลดอาณาเขตก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้”
อาสึนะยิ้มก่อนจะหันไปมองยังอาเล็กซานเดอร์ เธอพูดเน้นย้ำทีละคำ “ไม่ มี ใคร สามารถ เข้าไปได้ ข้าหมายถึงเจ้าด้วยนะที่จะไม่สามารถเข้าไปแตะต้องเด็กน้อยคนนั้นได้”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นผมขอหยุดสู้กับท่านได้หรือไม่ ต่อให้ผมจะพยายามสู้กับท่านมากมายสักปานใด แต่พลังและการใช้พลังที่ต่างกันก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมคงไม่สามารถเอาชนะท่านได้ ต่อให้ผมจะสละชีวิตตนเองก็ตาม”
ดาบพุ่งเข้าไปยังหน้าของอาสึนะ ทว่าเด็กสาวก็สามารถหลบได้อย่างง่าย ๆ หญิงสาวที่อยู่ในร่างของอาสึนะยิ้มเยาะ ก่อนที่จะตวัดมีด เข้าใส่ดาบสีดำ ทว่าอาเล็กซานเดอร์ก็สามารถใช้ดาบป้องปัดได้อย่างฉีวเฉียด
“นับว่าฝีมือในการใช้ศาสตราของเจ้านี่มิใช่ชั่ว หากให้ข้าประเมินฝีมือเจ้าละก็ นับเป็นคนที่มีฝีมือดีเป็นอันดับต้น ๆ ที่ข้าเคยประมือ ว่าแต่ ใครส่งเจ้ามาให้ลักพาตัวเด็กหกขวบ แถมยังเข้ามาโจมตีเจ้าของร่างนี้อีก”
“แหมผู้อาวุโสนี่พูดจาวกไปวนมานะครับ ผมก็บอกแลเ้วว่าไม่สามารถบอกได้ ว่าแต่ผู้อาวุโสมีนามว่าอะไรงั้นหรือครับ”
“ส่วนใหญ่ข้าจะใช้นามเดียวกับเจ้าของร่างที่ข้าสิงสู่ แต่หากจะถามถึงนามเดิมของข้าตัวข้ามีนามว่า….”
ก่อนที่หญิงสาวในร่างของอาสึนะจะกล่าวจบ จู่ ๆ รอบ ๆ ร่างกายของอาสึนะพลันปรากฏวงเวทประหลาด มันค่อย ๆ ล้อมรอบร่างกายของหญิงสาวแล้วค่อย ๆ แปลเปลี่ยนจากวงเวทกลายเป็นเวทอาณาเขต บาเรียสีฟ้าค่อยๆ ปรากฏขึ้นล้อมรอบร่างของอาสึนะ โซ่ดำค่อยๆ โผล่พ้นจากพื้นแล้วเข้าพันธนาการร่างของหญิงสาว
“เวทดึงวิญญาณ ไม่หน้าเชื่อคนในยุคสมัยนี้จะสามารถใช้มันได้”
หญิงสาวในร่างของอาสึนะมองรอบๆ อย่างอึ้ง ๆ หล่อนขมวดคิ้วจนเป็นโบ เธอไม่คิดเลยว่าจะโดนเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเล่นงาน “ข้าประมาทเกินไปจริงๆ ข้าน่าจะรีบกำจัดเจ้าให้สิ้นเสีย”
เส้นผมของอาสึนะปิวสยายตามแรงลม มือเท้าของเธอถูกพันธนาการจนไม่สามารถขยับร่างกายได้ เธอมองท่าทางของอาเล็กซานเดอร์อย่างโกรธา สำหรับคนที่เป็นวิญญาณชั้นสูงเช่นเธอ การที่จะถูกเด็กน้อยตรงหน้าจับมันเป็นเรื่องที่เสียเกียรติยศ ผู้ที่สามารถมีชีวิตอยู่นับพันปีกลับถูกเวทผนึกเช่นนี้จัดการได้อย่างง่ายดาย
โซ่ที่มัดตรึงร่างกายค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเสาเล็กๆแล้วพุ่งลงที่พื้นดิน มันค่อยๆดึงร่างของเด็กสาวผมสีน้ำตาลให้อยู่กับพื้น เธอสามารถทำได้อย่างเดียวนั่นก็คือการเบิกตามองสภาพของตนเอง หญิงสาวในร่างเด็กสาวผมทองกัดฟันอย่างโกรธแค้นก่อนที่จะมองไปยังบุรุษหนุ่มที่ยืนยิ้มเยาะหยัน
“มันคงสมใจเจ้าแล้วสินะที่สามารถเล่นงานข้าได้ ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าฝีมือระดับพวกเจ้าจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ไม่สิเจ้าคงมีใครที่ช่วยบอกวิชานี้ อักขระเวทมนต์ที่เจ้าใช้เป็นอักขระชั้นสูง ถ้าขาดไม่ผิดคนที่สามารถทำเช่นนี้ได้คงมีแต่เจ้านั่น”
อาเล็กซานเดอร์คำนับหัวเพื่อเป็นการรับกับสิ่งที่วิญญาณผู้อาวุโสกล่าว “ใช่แล้วล่ะครับ ผมถ่วงเวลาผู้อาวุโสตั้งนานเพื่อให้อักขระนี้ทำงาน อักขระนี้ไร้กลิ่นไร้รูปไร้เสียง ไร้ตาไร้เวทย์ไร้พลัง ดังนั้นจึงสามารถใช้กับผู้อาวุโสได้อย่างง่ายดาย ผู้อาวุโสถึงจะใช้ร่างของเด็กสาวผู้นี้ แต่พลังเวทย์นั้นก็ยังไม่ถึงกับนักรบเวทย์หรือจักรพรรดิเวทมนต์ เกณฑ์ในการวัดพลังเวทย์ถึงจะเป็นเกณฑ์ที่พวกเรากำหนดขึ้นก็ตาม แต่ว่าถ้าจะให้กล่าวให้ถูกต้องสำหรับผู้อาวุโส ที่มีระดับพลังแค่นักเวทฝึกหัดคงไม่สามารถรับมือกับตราเวทแบบนี้ได้เป็นแน่”
“เจ้ากล่าวไม่ผิด เรื่องทั้งหมดนี้ที่มันเกิดขึ้นนั่นก็เพราะความประมาทของข้า แต่ถึงกระนั้นต่อให้เจ้าจะสามารถดึงวิญญาณของข้าออกไปได้ แต่เจ้าก็ไม่สามารถทำร้ายเด็กที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้แม้เพียงนิดเดียว นั่นก็หมายความว่าถ้ายังรักษาสัจจะกับเด็กหญิงผู้นี้”
“ใช่แล้วล่ะครับ แต่ท่านก็ยังคงลืมไปสินะครับว่าเวทมนตร์ชนิดนี้จะทำลายวิญญาณของเด็กสาวผู้นี้
วิญญาณที่ถูกดึงออกมาจะเป็นข้าทาสของอักขระต้องสาป ถ แต่งอย่างนั้นวิญญาณที่เราไม่ต้องการก็จะดับสูญสิ้นไป เด็กคนนี้จะไม่มีทางไปยังดินแดนสุขาวดี วิญญาณของหล่อนจะค่อยๆสูญสิ้นไปและสลายหายไป ไม่ทันท่านผู้อาวุโสท่านยอมได้อย่างนั้นเหรอ.”
สิ้นคำของบุรุษหนุ่มตรงหน้า หญิงสาวก็ยิ้มเยาะหยัน “มันไม่ขึ้นอยู่กับข้าว่าจะยอมรับชะตากรรมครั้งนี้หรือไม่ แต่ว่า สิ่งที่ข้าจะบอกพวกเจ้าก็คือเจ้าไม่สามารถทำอะไรฆ่าได้แม้แต่นิดเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่าข้ายังมี นักเวทย์อัจฉริยะที่อยู่ณที่นี้อีก 1 คน”
“ท่านหมายถึงนักเวทย์อัจฉริยะแห่งโรงเรียนบาบิโลเนีย ที่มีนามว่าไอยรา ตอนนี้พรรคพวกของกระผมกำลังถ่วงเวลาหล่อนอยู่ ถ้ากระผมคาดไม่ผิดเธอคงไม่สามารถมาที่นี่ได้เร็วๆนี้เป็นแน่”
อาเล็กซานเดอร์หยิบมีดที่เต็มไปด้วยอักขระขึ้นมาก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ยังร่างของอาสึนะ ก่อนที่ใบมีดจะค่อยๆแทงเข้าไปที่ท้องของหญิงสาวเพื่อดูดวิญญาณ เมื่อใบมีดที่เต็มไปด้วยอักขระเวทมนต์สัมผัสร่างกายวิญญาณก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 หลังจากนั้นวิญญาณก็จะถูกทำร้าย จะเหลือไว้เพียงวิญญาณที่แข็งแกร่ง
“หลับตาซะเถอะผู้อาวุโส หลังจากนั้นพอท่านรู้สึกตัวอีกครั้ง ท่านก็จะพบกับความหฤหรรษ์ ขอดูเตียงล่างเทียมไว้ให้กับท่านเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรของเรา จะเป็นเครื่องมือและอาวุธมนุษย์ที่สำคัญขององค์กรของพวกเรา และท่านก็ยังจะเป็นลูกน้องของท่านผู้นั้นแด่อาณาจักรใหม่แด่ดินแดนใหม่”
ชายหนุ่มค่อยๆนำมีดมา และวาดตราสัญลักษณ์ลงไปในร่างกายของอาสึนะ เขาแปลกใจที่ผู้อาวุโสตรงหน้าไม่คิดขัดขืน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เลิกสนใจ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า การกระทำของเขาในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต หญิงสาวในร่างเด็กสาวผมน้ำตาล มองเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนที่จะคำนึงถึงเรื่องในอดีต
เมื่อเวลาอันนานแสนนาน ก่อนที่เธอจะถูกผนึกวิญญาณ เธอได้ปะทะกับเด็กหนุ่มผมสีทองนัยตาสีฟ้า เด็กหนุ่มมีหญิงสาวทั้ง 4 ที่ตามติดไม่ห่าง ชายหนุ่มคนนั้นเคยกล่าวกับเธอไว้ว่า
“แม้ฝีมือของท่านจะสูงส่งปานใด แต่หากท่านยังมีความประมาทความ พ่ายแพ้ก็จะมาสู่ท่าน เหมือนกับที่ท่านแพ้ผมในวันนี้ผมจะจองจำวิญญาณของท่านไปตลอดกาล”
—------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ผู้ใช้ศาสตรา แถมยังเป็นนักเวทอัจฉริยะอีกตั้งหาก แบบนี้ผมก็สู้ด้วยไม่ได้น่ะสิอันตรายจริงๆนะเนี่ย “
ชายหนุ่มกล่าวก่อนที่จะสะบัดดาบเข้าใส่ไอยรา แต่ทว่า หญิงสาวก็สามารถรับการโจมตีได้อย่างง่ายดาย หล่อนคิดพินิจพิจารณาก่อนที่จะจ้องมองไปยังสิ่งที่ชายหนุ่มถืออยู่บนมือ
ไอยราพินิจพิจารณาศิลาจารึกตรงหน้า ในมือของหล่อนถือศาสตราส่วนมืออีกข้างเตียมปล่อยพลังเวท ไอสูดหายใจ ชายตรงหน้าที่มีท่าทางไม่ยี่หระทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาด
‘นี่มันแปลก ทำไมกัน มันเป็นการถ่วงเวลาเราอย่างเดียวหรือ ไม่สิ เจ้านี่ต้องมีอะไรแอบแฝง หรือว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการถ่วงเวลาเราก็คือ’
อาเล็กตบมือ เขายิ้ม “ดูเหมือนว่าจะนึกออกแล้วสินะครับ เป้าหมายของพวกผมไม่ใช่คุณหรือน้องสาวของคุณ แต่เป้าหมายของผมคือสิ่งที่อยู่ในตัวของเด็กผมน้ำตาล”
‘เป้าหมายของพวกมันก็คือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 วิญญาณพูดที่อยู่ในร่างกายของขีดจำกัดสายเลือด กลุ่มพวกเด็กต้องสาปสินะ บ้าที่สุดเลย เราประมาทเกินไปจริงๆ เราคิดว่ามันจะมาเล่นงานพวกเรา แต่ว่าถ้าแบบนี้แสดงว่ามันก็ยังไม่รู้เรื่องของ‘
—-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ปราสาทที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางป่าลึก ในคฤหาสน์หลังใหญ่มีชายหนุ่มที่นั่งมองทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างไม่ยี่หระ ชายหนุ่มผมดำมองลูกแก้เวทมนตร์ที่เรืองแสงอยู่ ลูกแก้ววิเศษรูปนี้สามารถเจาะจงเป้าหมายทำให้เห็นสภาพแวดล้อม และอาณาเขตรอบอาณาจักรบาบิโลเนีย แต่ก็ไม่สามารถใช้กับใครก็ได้
เขานำมือมาท้าวคางก่อนที่จะกวักมือ หลังจากนั้นรูปแก้วเวทมนตร์ก็ฉายภาพการต่อสู้ของไอยรา และแปรเปลี่ยนไปเป็นการต่อสู้ของไบรท์และอาสึนะ ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่จะคิดและพูดพึมพำออกมา
“จงดิ้นกันให้เต็มที่ จงตะเกียดตะกายกันให้เต็มที่ หลังจากนั้นก็จงมหาค่าพวกเด็กอัจฉริยะแห่งโลกเวทมนตร์”
writer talk
อ่านแล้วรูสึกว่านิยายเรื่องนี้เป็นยังไงก็ comment กันได้นะ
นิยายเรื่องนี้เป็นดราฟแรกอาจจะมีคำผิดเล็กน้อยก็ขออภัยมาณที่นี้ด้วย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 264
แสดงความคิดเห็น