2 Prinz Island สู่เกาะสวรรค์ที่เงียบสงัด
เหตุการณ์เมื่อสองเดือนก่อน
เมื่อผมขับมอเตอร์โบ๊ทเข้าเทียบท่าได้สำเร็จ ผมก็กระโดดขึ้นจากเรือทันที ผมรู้สึกแปลกใจที่ท่าเรือของเกาะนี้ไม่มีเรือของพ่อผมจอดอยู่ ผมมองไปรอบๆ พบเรือสองสามลำจอดอยู่ไกลๆ แต่ก็ไม่ใช่เรือของพ่อผม
พ่อของผมขับเรือออกมาตั้งแต่ช่วงสายๆ ของวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อจะมารับลูกค้าจากเกาะนี้กลับไปส่งที่หมู่บ้านตามที่ตกลงกันไว้ วันนี้ก็วันพุธแล้วที่พ่อของผมยังไม่กลับบ้าน แม้จะมีความเป็นไปได้ว่าลูกค้างอแงอยากจะอยู่ต่อ แต่พ่อของผมก็ควรจะขับเรือกลับบ้านไปก่อนและกลับมารับอีกครั้ง แต่พ่อของผมก็ไม่ได้กลับบ้านเลยตลอดสองวันที่ผ่านมา
ผมอยู่กับพ่อมาตลอดสิบเก้าปี ถึงแม้ว่าแม่จะจากไปแล้วเก้าปี ผมก็มีความสุขดีที่ได้อยู่กับพ่อ เขาเป็นคนอารมณ์ดีแทบจะตลอดเวลา เก้าปีที่แม่จากไปก็ไม่ได้ทำให้บ้านเราเงียบเหงาลงไปเลย ดังนั้นสองคืนที่ผ่านมาที่ผมต้องอยู่บ้านคนเดียว จึงถือว่าหดหู่มากที่สุดในชีวิต
ผมเดินตรงออกจากท่าจอดเรือมายังถนนแคบๆ มันเป็นถนนหลักที่เชื่อมจุดต่างๆ ของเกาะเข้าไว้ด้วยกัน นาฬิกาข้อมือบอกเวลาแปดโมงเศษๆ ทิวทัศน์รอบเกาะยังคงสวยงาม ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสว่าง มีเมฆขาวลอยตัวอยู่ประปราย อากาศสดใส แสงแดดยังไม่แรงมากนัก ลมแรงพาคลื่นสูงซัดเข้าหาท่าจอดเรือตลอดเวลา หาดทรายสีอ่อนที่อยู่ไกลๆ ยั่วยวนให้ไปย่ำเท้าเดินเล่น ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะลที่พยายามจู่โจมชายหาด มันสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย ระยิบระยับ ผมเดินสบายๆ มาจนถึงป้ายแสดงแผนที่โรงแรมและรีสอร์ท
จุดที่ผมยืนอยู่คือท่าจอดเรือของโรงแรม มันเป็นที่ส่วนบุคคลจึงไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมามากนัก ผมมองตัวโรงแรมที่สูงตะหง่านที่สะท้อนแสงแดดอยู่ข้างหน้า คนออกแบบใช้กระจกแทนผนังเพื่อให้บรรยากาศภายในโรงแรมดูโปร่ง ลูกค้าจะได้ชื่นชมทิวทัศน์ของเกาะไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโรงแรม ส่วนด้านในก็ติดม่านสองชั้นไว้ให้ด้วย เผื่อลูกค้าคนไหนไม่ชอบแดดแรงๆ ก็เลื่อนเข้าออกได้ตามใจชอบ
ส่วนรีสอร์ทจะเป็นบ้านเดี่ยว Tropical ที่หรูหราจนชวนให้ลืมไปเลยว่าบ้านจริงๆ ที่เราอยากจะอยู่เป็นอย่างไร มันถูกสร้างแยกจากพื้นที่โรงแรม ถัดออกไปทางตะวันออกของเกาะ เลียบไปตามชายหาด
เกาะปรินซ์ คือชื่อของเกาะนี้ ขนาดประมาณสิบตารางกิโลเมตร มันเป็นเกาะที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณห้ากิโลเมตร เดิมเป็นเกาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกๆ คนที่อยากแวะมาว่ายน้ำเล่น แต่ปัจจุบันมันกลายเป็นสถานที่พักผ่อนของคนที่มีฐานะการเงินที่ดีพอสมควร เพราะค่าห้องพักของโรงแรมและรีสอร์ทที่นี่ค่อนข้างแพง ขนาดพ่อและผมที่มักจะได้รับทิปเยอะก็ยังไม่กล้านอนเล่นที่นี่แม้แต่คืนเดียว ที่ทำได้ก็แค่สั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้วและออกมานั่งชมวิวด้านนอกเท่านั้น
ผมเดินข้ามถนนมาถึงกำแพงหินเตี้ยๆ และมองไปยังส่วนที่เป็นสระว่ายน้ำและสวนน้ำของโรงแรม มันเป็นส่วนที่ผมชอบเดินไปเยี่ยมชมบ่อยๆ รองจากชายหาดที่เงียบสงบ สระว่ายน้ำและสวนน้ำเป็นโลกไม่เคยเหงาหงอย นักท่องเที่ยวชายหญิงเดินไปเดินมาทั้งวันและว่ายน้ำกันทั้งคืน ความจอแจของที่นี่คือเสน่ห์ที่ผมชอบและการได้เห็นนักท่องเที่ยวชายในกางเกงว่ายน้ำที่รัดติ้วเดินไปเดินมา มันก็ช่วยฆ่าเวลาได้ดี แม้เขาคนนั้นจะเป็นหมียักษ์แต่ถ้าใส่กางเกงว่ายน้ำแล้วละก็ เราก็เจรจากันได้เสมอ
แต่… เช้านี้ผมยังไม่เห็นวี่แววนักท่องเที่ยวเลย ไม่มีเงาของนักท่องเที่ยวตัวน้อยที่ปกติจะตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาว่ายน้ำก่อนคนอื่นๆ จะว่าเป็นช่วง โลว์ซีซั่น ก็ไม่น่าจะเกี่ยว เกาะนี้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวตลอดเวลา
อืม! จะว่าไป ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในบริเวณนี้เลยสักคน
ผมกระโดดข้ามกำแพงหินริมถนน เดินตัดสวนตรงไปยังสระว่ายน้ำกว้าง เผื่อว่าจะได้เจอผู้คนบ้าง แต่ในระยะสายตาผมไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆ ผมเดินไปเรื่อยๆ ในความร่มรื่นของสวน แล้วหูก็ได้ยินเสียงตึงตังแว่วมาจากด้านซ้ายมือ
เสียงตึงตังแผ่วๆ นั้นน่าจะมาจากประตูด้านหลังโรงแรมที่เชื่อมกับลานจอดรถ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ผมคงไม่ได้ยิน แต่วันนี้มันเงียบเหลือเกิน เสียงตึงตังเบาๆ ก็ดังพอให้ผมจับสังเกตได้ ผมจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปทางนั้น เสียงดังตึงตังเป็นจังหวะยังคงดังออกมา
ผมวิ่งเหยาะๆ มาจนถึงประตูกระจกบานที่ว่าและกำลังจะยื่นมือไปเปิดออก ก็พอดีมองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านตรงข้าม
เขาเป็นผู้ชายผิวขาวซีด ตาลึก ดูเหม่อลอย สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำสีเข้ม ทำให้เห็นว่าตามตัวมีรอยคล้ำเป็นจ้ำๆ การเดินของเขาคล้ายกับคนเมาที่ไม่มีสติ เขาทำท่าทางเหมือนอยากจะเดินออกมา แต่พอติดประตูกระจกก็เดินเบี่ยงออกไปนิดหน่อยแล้วก็เดินกลับมาอีก เสียงตึงๆ ก็คือเสียงตอนที่เขาเดินชนกรอบกระจกหนานี่เอง ผมกำลังจะดึงบานประตูออก ก็พอดีเห็นกลุ่มคนที่เดินอยู่ด้านหลังชายผิวขาวคนนี้
+-------------------------------------------+
เพิ่มคำติชมด้านล่างได้เลย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 390
แสดงความคิดเห็น