รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 38 แอบจุ๊บแก้มเธอจะได้ไหม...

-A A +A

รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 38 แอบจุ๊บแก้มเธอจะได้ไหม...

 

ตอนที่ 38

 

                ทางทีมงานบอกปักษาว่า ปฏิการนั้นมาก่อนเวลาเสมอ มักจะพบเขามานอนรอเป็นประจำ วันนี้เธอจึงรีบมาให้เร็วเป็นพิเศษ เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องถ่ายทำรายการ มองเห็นชายหนุ่มนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้น หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องอย่างเบาที่สุด มาหยุดอยู่ที่โซฟาด้านข้างของห้อง ศีรษะของหนุ่มผมยาวเอียงซบอยู่กับพนักวางแขนของโซฟาด้านหนึ่ง มือสองข้างกอดอกหลวม ๆ เธอย่อตัวนั่งลง เพ่งมองใบหน้าด้านข้างของหนุ่มหน้าหวาน มองเห็นสันจมูกโด่งของเขาชัดมาก ริมฝีปากได้รูปสวย โดยเฉพาะเวลายิ้มน่ารักจนใจเธอแทบหลอมละลาย คางกลมกลึงน่ามอง แม้แต่ลำคอยังดูดี เรียกว่าหล่อยันลูกกระเดือกเลย หญิงสาวรู้สึกว่า ตัวเองหลงความหล่อของเขาจนบ้าไปแล้ว หล่อราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดก็ไม่ปาน หล่อทุกองศา มองได้ตลอดเวลาไม่มีเบื่อเลย ยิ่งแก้มขาวละมุนของเขานั้นน่าหยิก จนอยากยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บเหลือเกิน 

 

เขาจะว่าอะไรเธอไหม? หญิงสาวค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แก้มของชายหนุ่มอย่างช้า ๆ

 

                ปฏิการรู้สึกตัวเมื่อได้กลิ่นน้ำหอม สมองสั่งการว่าต้องมีผู้หญิงอยู่ใกล้ ๆ เขารีบขยับตัว คลายมือที่กอดอกอยู่ยกขึ้นมาเหนือศีรษะทันที พลางบิดขี้เกียจไปมา

 

                ปักษาสะดุ้ง! รีบถอยตัวออกห่างเมื่อคนหลับขยับตัว แล้วรีบลุกขึ้นยืน

 

                หนุ่มบนโซฟาลืมตา หันซ้ายหันขวา มองเห็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลยืนอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ยกเท้าที่เหยียดยาวลงจากเบาะมาที่พื้น

 

                “คุณปักษามาเร็วจังครับวันนี้” ซึ่งโดยปกติแล้วเธอมักจะมาถึงเป็นคนสุดท้าย

 

                “ษาโดนทีมงานต่อว่า ว่ามาสาย วันนี้เลยมาให้เร็วขึ้นค่ะ” หญิงสาวยิ้มแหยๆ ที่สำคัญอยากมาอยู่กับเขาตามลำพังสองต่อสองมากกว่า

 

                หนุ่มผมยาวมองไปรอบห้องถ่ายทำรายการ ยังไม่เห็นทีมงานแม้แต่คนเดียว ขณะนี้มีเพียงเธอและเขาสองคนเท่านั้น แล้วยกข้อมือขึ้นดูเวลา เหลือเวลาอีกราวครึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลานัด

 

                พิธีกรสาวเดินมาลงนั่งบนโซฟาข้างชายหนุ่ม 

 

                ปฏิการขยับตัวให้นั่งห่างจากเธออีกเล็กน้อย แต่ทว่าขยับไปไหนไม่ได้แล้วมันติดพนักวางแขน

 

                “คุณษา...ผมรู้สึกหิว เราไปหาอะไรทานกันดีไหมครับ” เขารู้สึกไม่อยากอยู่กับเธอตามลำพังสองต่อสอง

 

                “คุณการ ษามีทูน่าแซนวิส ทานซักอันไหมคะ”

 

                “ขอบคุณมาก ผมเป็นวีแกนครับ เดี๋ยวผมจะลงไปห้องอาหารหาอะไรทานหน่อย คุณษาไปด้วยกันไหมครับ”

 

ใจจริงเขาไม่อยากชวนหญิงสาวไปด้วยกันเลย แต่โดนพ่อตำหนิว่า ไม่ใส่ใจไม่ดูแลเธอบ้างเลย ให้หาเวลาทานข้าวกับเธอบ้าง อดรู้สึกงงมากไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ถึงขนาดไปบ่นกับพ่อของเขาหรือไง บิดาของเขาก็เข้าก็ช่างกระไรอยากได้เธอเป็นสะใภ้จนตัวสั่นแล้ว ถ้าไม่ติดว่า ต้องขอร้องพ่อให้ช่วยพูดเรื่องการโอนเงินให้ปริมากับทางโรงพยาบาล เขาจะไม่ยอมทำตามเด็ดขาดเลย พาลไม่ชอบผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่พยายามคิดบวก อย่างไรปักษาก็เป็นเพื่อนร่วมงาน เธอยังดีกับเขามากตลอดมา จึงพยายามให้ความเป็นเพื่อนกับเธอให้มากขึ้น

 

ปักษาทำสีหน้าดีใจที่เขาชวนเธอไปด้วย 

 

“ได้ค่ะ” พิธีกรสาวรีบตอบรับทันที แม้จะรู้สึกเสียดายโอกาสที่จะได้อยู่กับเขาตามลำพังสองต่อสองมากกว่าก็ตาม

 

 

 

 

กว่าทั้งคู่จะเดินถึงศูนย์อาหารของโรงพยาบาล เมื่อเดินผ่านคุณหมอและพยาบาล ทุกคนต่างทักทายและกล่าวชื่นชมรายการสุขภาพดีวิถีใหม่ไปตลอดทาง แม้แต่คนไข้ที่ดูรายการแล้วจำได้ยังเข้ามากรี๊ด มาขอถ่ายรูปด้วยเลย เขาและเธอกลายเป็นคู่ขวัญคู่จิ้นที่มีคนรู้จักมากขึ้นทุกวัน ทำให้เรทติ้งของช่องโรงพยาบาลพุ่งขึ้นไม่น้อย 

 

เจ้าของรายการคนสวยเดินยิ้มตลอดเวลา เมื่อมีหนุ่มหน้าหวานเดินอยู่ข้าง ๆ ที่สำคัญเธอได้รับคำชมจากพ่อที่ดูพอใจกับผลงานนี้มาก และให้การสนับสนุนทุกอย่าง เร็ว ๆ นี้ขออนุมัติเปิดร้านขายสินค้าสุขภาพต่าง ๆ ซึ่งพอรายการแนะนำอาหารอะไร สินค้านั้นจะขายดีมีลูกค้าถามหาทันที รวมทั้งยังทำเป็นซีดีและเป็นหนังสือรวบรวมเคล็ดลับสุขภาพที่ทางรายการออกอากาศไปแล้วอีกด้วย ซึ่งมีลูกค้ามาถามหามากมายเช่นกัน

 

เมื่อเดินมาถึงศูนย์อาหารของโรงพยาบาล หนุ่มหน้าหวานเดินไปซื้อสลัดแขกเติมลูกเดือยและข้าวโพดมาเต็มจานเลย และซุปผักอีกหนึ่งถ้วย ด้านบนของร้านจะมีจอขนาดใหญ่ชัดแจ๋ว นำเสนอคลิปตอนเขากำลังทานซุปผักโชว์ในรายการ และโปรเตอร์ติดเป็นรูปเขาและเธอหราอยู่ด้านหน้าเลย ได้รับคำชมจากแม่ค้าว่า ซุปที่เขาทานโชว์ในรายการขายดีมาก ลูกค้าจะเรียกว่า ซุปผักคุณการไปแล้ว ลูกค้ามักมายืนตาค้างมองเขาทานซุปกันเป็นแถว โดยเฉพาะสาว ๆ แต่ละคนจะชมเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาหล่อมาก และทานอะไรก็น่าอร่อยไปหมด 

 

มีป้ายขนาดเล็กตั้งไว้เป็นวิธีทำสูตรซุปผักของทางรายการ ส่วนประกอบคร่าว ๆ ได้แก่ ผักกวางตุ้ง หอมใหญ่ มะเขือเทศ ฟักทอง แครอท ข้าวโพด นำมาหั่นให้เป็นลูกเต๋า แล้วนำมาต้มรวมกัน ต้มใส่น้ำพอประมาณ พอสุกน้ำไปทานได้เลย หรือจะนำไปปั่นเป็นซุป หรือจะเติมข้าว เติมมันฝรั่งทำเป็นโจ๊ก เติมขิง เติมธัญพืชก็ได้เช่นกัน

 

ปฏิการมองเห็นคลิปตัวเองทานซุปโชว์อดเขินไม่ได้เลย 

 

“คุณษา ต้องขนาดนี้เลยเหรอครับ” เขารู้ว่าเป็นความคิดของลูกสาวผู้อำนวยการ

 

พิธีกรสาวหันมามองผู้ช่วยพิธีกรพลางอมยิ้ม

 

“คุณการทานอะไรก็น่าอร่อยค่ะ ขายดีมาก ๆ เลยนะคะ”

 

หนุ่มหน้าหวานเดินถือถาดอาหารไปวางที่โต๊ะ

 

“ธัญพืชทำให้เราอิ่มนานและอยู่ท้อง ไม่อ้วนนะครับ” เขาเคยเสนอเธอไปว่า โรงพยาบาลเป็นสถานที่รักษาคนป่วยควรมีมุมอาหารสุขภาพ ไม่นึกว่าเธอจะเห็นด้วย หลังจากนั้นไม่นานร้านอาหารสุขภาพก็มา มีอาหารหลากหลายและอร่อยมากด้วย

 

“ร้านนี้ฝีมือใช้ได้ไหมคะ” หญิงสาวเอียงคอถามเมื่อนำอาหารมาวางที่โต๊ะอาหาร

 

หนุ่มหน้าหวานยกนิ้วโป้งให้ แม่ค้ามักจะแถมอาหารให้อีกเวลาเขามาซื้อ หรือไม่ก็ตักให้เยอะมาก เพราะทุกครั้งที่ทางรายการแนะนำเมนูอาหารของร้านนี้ คนจะแห่มาชิมกันใหญ่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว 

 

“อาการกรดไหลย้อนของคุณษาหายดีหรือยังครับ” เขาอยากรู้ว่าขมิ้นชันที่เธอทานอยู่นั้นได้ผลหรือไม่

 

“หายแล้วค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงษานะคะ” หญิงสาวอมยิ้มน้อย ๆ ที่ชายหนุ่มถามไถ่และดูเป็นห่วงเธอบ้าง

 

“ผมเป็นห่วงคุณนะ” หนุ่มหน้าหวานพูดแล้วหยุดไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อให้ชัดขึ้น สายตานั้นจ้องหน้าอีกฝ่าย

 

“ในฐานะเพื่อนนะครับ” น้ำเสียงนั้นเน้นหนักชัดเจนกว่าประโยคแรก ทำให้รอยยิ้มบนสีหน้าหญิงสาวจางลงอย่างเห็นได้ชัด

 

คนฟังถอนหายใจเบา ๆ น้ำเสียงที่แจ่มใสก่อนหน้านี้ของพิธีกรสาวหงอยลงไปถนัดตา

 

“คุณษาไม่ลองเสนอคุณพ่อให้เปิดแผนกการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยหรือแพทย์ทางเลือกดูบ้างครับ คนไข้จะได้มีทางเลือกในการรักษา”

 

“ก็น่าสนใจนะคะ”

 

“คุณษาทานขนมครองแครงกรอบผสมผักครับ ขนมใหม่ของปริม อร่อยมากครับ” หนุ่มนักดนตรีหยิบกล่องขนมออกมาจากระเป๋าเป้

 

ปักษารู้สึกเบื่อชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามกับเธอเหลือเกิน มากับเธอแท้ ๆ แต่ชอบพูดถึงแต่ปริมา เล่าแต่เรื่องของสาวชาวสวนให้เธอฟังอยู่นั่นแหละ เหมือนใจของหนุ่มหน้าหวานไม่มีที่ว่างสำหรับเธอเสียเลย ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะไม่เล่าถึงแม่สาวคนนี้

 

“ผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณษาหน่อยครับ” สีหน้าคนพูดดูจริงจังมาก

 

“เรื่องอะไรคะ”

 

“ผมอยากให้คุณษาช่วยหน่อยจะได้ไหม” ถ้าเขาจะขอร้อง เธอจะยอมช่วยไหม...?

 

คนฟังยิ่งขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเต็มที่

 

“ถ้าษาช่วยได้ ษายินดีช่วยนะคะ” เธอมองหน้าชายหนุ่มรอฟังสิ่งที่เขากำลังจะบอก

 

“คุณษาช่วยคุยกับการเงินให้เขาโอนเงินค่าผักให้ปริมาเลื่อนมาเร็วขึ้นไม่เกินเจ็ดวัน แทนสิบห้าวันได้ไหมครับ” หนุ่มผมยาวตัดสินใจพูดออกไป

 

“เธอมาขอให้คุณช่วยพูดกับษาเหรอคะ” น้ำเสียงหญิงสาวเข้มขึ้นทันที

 

“เปล่าครับ ผมแค่เป็นห่วงเธอครับ ดูเธอกังวลเรื่องนี้”

 

“คุณการดูเป็นห่วงปริมามากเลยนะคะ” น้ำเสียงนั้นแฝงความน้อยใจ

 

“ครับ ผมเป็นห่วงเธอมาก ผมอยากช่วยเธอ คุณษาช่วยหน่อยได้รึเปล่าครับ” น้ำเสียงนั้นขอร้องเธออยู่ในที

 

คำตอบตรง ๆ ของปฏิการทำให้ปักษาอึ้งจนแทบพูดอะไรไม่ออก

 

“ษาไม่รับปากว่า จะช่วยได้สำเร็จหรือเปล่านะคะ”

 

 

 

********************  

 

 

 

                ปริมานั่งเล่นอยู่ใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน หญิงสาวกดดูเงินในบัญชีตามที่ลูกค้าแจ้งว่าได้โอนเงินค่าสินค้ามาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมองเห็นยอดเงินเข้าตามที่ลูกค้าแจ้งและส่งสลิปโอนเงินมาให้ดู เธอรู้สึกแปลกใจ ที่แอพไลน์ของธนาคารแจ้งว่ามียอดโอนเงินเข้าธนาคาร เป็นตัวเลขที่ไม่คุ้นตาเสียเลย เลขโอนรหัสเดิมอีกแล้ว เคยไปถามธนาคารดูว่า รหัสโอนเงินนี้เป็นของใคร กลัวว่าจะมีคนโอนผิดมา จึงรู้ว่าโอนมาจากโรงพยาบาลที่เธอส่งผักอยู่ แต่พอไปตรวจสอบบิลค่าผักที่ส่งมันก็ไม่ตรงกัน ทำให้เธอเป็นงงกับการโอนเงินของโรงพยาบาล มันยังไงกันแน่ เธอคงต้องหาเวลาไปคุยกับการเงินของโรงพยาบาลแล้วว่า ตัดบิลผักอันไหนบ้าง เธอไม่สามารถทำบัญชีได้เลย ที่สำคัญไม่กล้าใช้เงินที่ไม่รู้ที่มาที่ไปแบบนี้เด็ดขาด

 

                เจ้าของสวนได้ยินเสียงรถมอร์เตอร์ไซค์อันคุ้นหูมาก จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากนายปฏิการ เธอรีบลุกขึ้นจากแคร่หน้าบ้าน เดินหลบไปหลังบ้านทันที ยังรู้สึกอับอายไม่หายกับเหตุการณ์ครั้งก่อน ขณะที่เธอกำลังปั้นไส้ขนมต้ม แล้วดันเผลอหลับไป พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่า หัวของตัวเองซบอยู่กับต้นแขนของไอ้หนุ่มผมยาว เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อายจนไม่กล้าที่จะพบหน้าเขาอีกแล้ว และเบื่อที่เขาตามแกล้ง ตามทวงสัญญาเรื่องเธอจะต้องเป็นแฟนกับเขา

 

ปรามย่องมาทางข้างหลังอย่างเบา เมื่อมองเห็นน้องสาวทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนกำลังแอบใครบางคนอยู่ทางหลังบ้านข้างดงต้นกล้วย

 

“จ๊ะเอ๋!!” เขาเขย่าแขนน้องสาว

 

หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ราวกับหัวใจตกหายไปอยู่ที่ตาตุ่มก็ไม่ปาน

 

“พี่ปราม!! ตกใจหมดเลย มาทำไมเงียบ ๆ”

 

“ก็เราทำอะไรอยู่ ทำไมต้องแอบซ่อนตัวขนาดนั้น หลบไอ้การอยู่หรือไง”

 

“เบา ๆ สิ! แล้วเขาไปรึยังล่ะพี่ปราม” คนพูดพลางเอามือจุปากพลางทำเสียงกระซิบกระซาบ สายตายังมองไปที่หน้าบ้านกลัวว่าเขาจะเดินมา

 

“ยัง...โน่นไง”

 

 

 

น้องสาวตัวดียังไม่ทันหันไปมองว่าจริงหรือเปล่า? รีบเดินหลบไปทางอื่นทันที แต่ทว่าถูกพี่ชายล็อคตัวเอาไว้

 

“เดี๋ยวปริม พี่ล้อเล่น เขากลับไปแล้วล่ะ แล้วทำไมต้องหนีเขาขนาดนี้”

 

“ก็ไม่อยากเจอหนิ” ปริมาสะบัดหน้าเดินไปนั่งลงกับท่าน้ำที่ทำด้วยไม้ยื่นยาวลงไปในบึงน้ำเล็ก ๆ

 

“กลัวเขาทวงสัญญาหรือไง” พี่ชายยิ้ม แล้วเดินตามไปนั่งลงข้าง ๆ มองน้องสาวด้วยความเอ็นดู เธอเป็นสาวแล้วมีหนุ่ม ๆ มาตามจีบไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าผัก ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล หรือจะเป็นเพื่อนซี้ของเขาเอง ซึ่งดูเหมือนเธอยังใจแข็งไม่ยอมใจอ่อนให้ไอ้หนุ่มหน้าไหนแม้แต่คนเดียว                                                                                         

 

“รู้แล้วยังมาแกล้งถามเค้าอีก พี่ปรามนะ” คนฟังสะบัดเสียงไม่พอใจ ทำหน้ายู่

 

“ไม่กล้าอยู่ใกล้เขา กลัวจะห้ามใจไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ กลัวจะหลงรักเขาล่ะสิ” ปรามแกล้งแหย่น้องสาวอย่างนึกขำ และรู้ดีว่า เพื่อนรักของเขานั้นมีสาว ๆ ตามชอบเยอะมาก

 

“บ้าน่ะ พี่ปราม พูดอะไร!” เธอหันมาค้อนพี่ชาย พูดปฏิเสธทันที ก่อนหย่อนเท้าลงไปกวนน้ำในบึงเล่น 

 

“ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องหนีสิ ไม่ต้องหลบ กล้า ๆ หน่อย ไอ้การน่ะ เป็นคนดี แล้วก็น่ารักนะ เดี๋ยวนี้ทำตัวดีขึ้นเยอะเลยนะปริม รู้รึเปล่า…” ชายหนุ่มทอดสายตามองต้นไม้ใบหญ้าในสวนของเขาที่ขึ้นเป็นร่มเงาเขียวครึ้ม เขาไม่คิดว่าเพื่อนรักจะจริงจังขนาดนี้เลย เพื่อน ๆ ต่างโทรมาบ่นว่า ปฏิการไม่ยอมไปเที่ยว ไม่ยอมไปดื่ม ไม่ยอมไปเสเพลเหมือนที่ผ่านมาอีกเลย

 

“เป็นเพราะปริมนะ” เขาหันกลับมามองน้องสาว

 

ปริมาทำสีหน้าเฉยชา

 

“ก็ดีแล้วหนิ ขอให้ทำได้ตลอดไป อย่าทำแค่เพื่อลบคำสบประมาทก็แล้วกัน” คนปากแข็งก้มหน้าก้มตากวนน้ำในบึงเล่น ปล่อยผมประบ่าปลิวเล่นล้อลม

 

“ระยะเวลาจะบอกปริมเองว่าเขาทำเพราะอะไร” เขาตบไหล่น้องสาวเบา ๆ 

 

“เอ้อ…ปริม…สอบเสร็จรึยัง อาทิตย์หน้าพี่จะหยุดงานลาพักร้อนนะ เราจะไปแคมป์กันที่ต่างจังหวัด ไปกับพี่นะปริม” เขาอยากให้น้องสาวไปพักผ่อนบ้าง

 

“จริงหรอ…!! พี่ปราม” คนฟังส่งเสียงดีใจอย่างร่าเริง 

 

“สอบเสร็จแล้วค่ะ อยากไปนอนดูดาวจังเลยพี่ปรามเหมือนที่เราเคยไปกัน” สักพักสีหน้าเด็กสาวหม่นลง 

 

“ว่าแต่…ใครไปบ้างหรอพี่ปราม” คนถามหันมาจ้องหน้าพี่ชายคนเดียว

 

“เพื่อน ๆ พี่กลุ่มเดิมแหละ แต่ปีนี้เราจะร่วมกับชมรมจิตอาสาไปทำงานจิตอาสากันด้วย เราก็สนิททุกคนไม่ใช่เหรอ” เขาพยายามตอบเลี่ยง ทั้งที่รู้ว่าน้องสาวต้องการถามถึงใคร

 

“ปฏิการไปด้วยหรือเปล่า”

 

 “ไปสิ แน่นอนเลย เขาเป็นมือกีต้านะ ร้องเพลงเพราะด้วย ไม่ไปได้ไง” ปรามตัดสินใจบอกน้องสาวตามความเป็นจริงมากกว่าที่จะตอบแบบเคยคิดจะปกปิดเรื่องปฏิการจะไปด้วย

 

“งั้น…ฉันไม่ไปนะ” หญิงสาวเบ้หน้าไปทางอื่น

 

เขานึกไว้แล้วไม่มีผิดว่าน้องสาวหัวดื้อของเขาต้องปฏิเสธ แต่ได้เตรียมถ้อยคำมาแก้ไว้เป็นอย่างดีแล้ว

 

“หนีอีกแล้วปริม กลัวอยู่ใกล้ ๆ เขาแล้วจะอดใจรักเขาไม่ได้ล่ะสิ ใช่มั้ย?”

 

“เอ๊…….พี่ปราม ไม่ใช่นะ!” เด็กสาวสะบัดเสียงเขียวขึ้นมาทันที

 

“งั้นก็ต้องไปสิ” เขาจ้องหน้าน้องสาวคนเก่ง

 

“ก็ได้” ปริมารับคำหนักแน่น คนอย่างเธอต้องการจะไปพิสูจน์ตัวเองเหมือนกันว่า แม้หนุ่มจอมกวนมีโอกาสใกล้ชิดกับเธอแค่ไหน คนอย่างเธอก็ไม่มีวันใจอ่อนง่าย ๆ แน่นอน

 

ปรามยิ้ม ที่เป็นไปตามแผน

 

“ต้องอย่างนั้นสิ พี่อยู่ทั้งคนไม่ให้ใครรังแกน้องของพี่ได้หรอก” เขายกมือโครงหัวน้องสาวตัวแสบ

 

“จริงนะ” เธอจับแขนพี่ชายเขย่า แววตาฉายแววแจ่มใสขึ้นมาทันที 

 

                “รักพี่ปรามที่สุดเลย…” แล้วเข้าไปกอดพี่ชายอ้อน

 

 

 

                *************************

 

 

 

เวลาบ่ายแก่ ๆ ของวันเดินทาง รถตู้สีครีมจอดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านนานแล้ว ชายหนุ่มหญิงสาวกำลังช่วยกันขนข้าวของขึ้นรถอย่างเฮฮาสนุกสนาน มีเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม เสียงโหวกเหวกโวยวาย แซวกันตลอดเวลา

 

ปริมาหิ้วกระเป๋าใบโตเดินตัวเอียงมาถึงรถ หลังจากยืนมองอย่างลังเลอยู่นานแล้ว เพราะคนที่กำลังจัดกระเป๋าขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ คือคนที่ชอบทวงสัญญาเธอนั่นเอง แวบหนึ่งรู้สึกชื่นชมในความมีน้ำใจของหนุ่มผมยาว ที่ช่วยดูแลเอาภาระในการเดินทาง

 

เมื่อเธอเดินมาถึง ปฏิการรีบเดินมารับ

 

                “สวัสดีครับปริม” เขาส่งยิ้มทักทาย พร้อมกับยื่นมือมาขอช่วยถือกระเป๋าให้

 

“ไม่เป็นไร ถือเองได้” ปริมาชักสีหน้าตึง ๆ 

 

“อย่าดื้อน่า…” หนุ่มจอมกวนคว้ากระเป๋าจากมือเธอมาถือไว้อย่างไม่สนใจ

 

“จะย้ายบ้านหรือไงปริม” เขาแกล้งแหย่ จริง ๆ แล้ว ถ้าเทียบกับผู้หญิงคนอื่นกระเป๋าของเธอใบเล็กกว่าเพื่อน

 

“ยุ่งน่ะ” เห็นหน้าเขาทีไร อดรู้สึกหมั่นไส้หมอนี่ไม่ได้ซักที

 

“ดีใจจังที่ปริมไปด้วยนะ นึกว่ารู้ว่า ฉันไปด้วยแล้วเธอจะไม่กล้าไปด้วยซะแล้วสิ”

 

ปริมาหันมาเฉิดหน้า แล้วพูดเน้นเสียงชัดถ้อยชัดคำ

 

“ไม่ว่านายจะไปหรือไม่ไป นายก็ไม่มีอิทธิพลอะไรสำหรับฉันหรอก!!”

 

“คร้าบ... คุณผู้หญิง” คนหน้าหวานอมยิ้มน้อย ๆ อยู่ในสีหน้า และไม่ใส่ใจกับความหมายของถ้อยคำที่ได้ยินนั้น เขาไม่เชื่อว่า ตัวเขาไม่มีอิทธิพลกับเธอ ถ้าไม่มีจริง ๆ ยัยตัวแสบคงไม่หลบหน้าเขาหรอก นี่เขาไม่ได้เห็นหน้าเธอมาหลายวันแล้ว

 

                และแล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้น ปริมารู้สึกสบายใจที่ได้นั่งข้างพี่ชายที่เบาะคู่ด้านหน้าสุด แต่ก็รู้สึกรำคาญสายตาภายใต้แว่นดำของคนขับรถที่ชอบหันมามองเธอทางกระจกมองหลัง และจะได้เห็นรอยยิ้มแต้มอยู่ในสีหน้าของหนุ่มจอมกวนตลอดเวลา ดูช่างมีความสุขเสียจริง

 

‘ปฏิการบ้า มองอยู่ได้’ เธอบ่นเบา ๆ กับตัวเองอยู่ในใจ

 

 

 

หลังจากตะวันลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ความมืดกระพือปีกม่านสีดำครอบคลุมทุกพื้นที่เอาไว้หมดแล้ว บนถนนที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถยนต์เท่านั้น นาน ๆ จะมีรถยนต์สักคันวิ่งสวนทางมา ทุกคนในรถพากันหลับหมดทิ้งคนขับเอาไว้เพียงลำพังคนเดียว

 

ปริมาขยับตัวออกจากกระจกหน้าต่างข้างรถอย่างรู้สึกปวดคอ แล้วเอียงตัวลงซบกับตักพี่ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จนถึงเช้า

 

 

 

เช้าวันใหม่มาถึง….

 

แสงสีทองของตะวันทักทายยามเช้าให้สดชื่นแจ่มใส ดูมีชีวิตชีวา ใบไม้สีเขียวเป็นสีเขียวสดใส ดอกไม้ผลิบานรับแสงอรุณ ท้องฟ้าเป็นสีคราม นกกาได้เวลาออกหากิน ผีเสื้อโบยบินมาเยี่ยมชมดอกไม้ ดอกหญ้าข้างทางหยอกเย้ากันและกันพริ้วไหวเอนเป็นระลอกคลื่นตามแรงลมเบา ๆ แดดอุ่น ๆ ให้ความอบอุ่นกับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ให้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

 

ปริมาหยีตาแล้วขยับตัวลุกขึ้นจากตักของคนข้าง ๆ เด็กสาวกระพริบตาถี่ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างงุนงง ยื่นหน้าไปเอียงคอมองหน้าคนที่กำลังนั่งหลับอยู่ข้างตัว แล้วทำสีหน้าเจื่อน ๆ เมื่อมองเห็นชัดเจนเต็มตาว่า ไม่ใช่พี่ชายของเธอเสียแล้ว แต่เป็นนายปฏิการที่นั่งอยู่แทน ศีรษะของเขาตั้งตรง เขายังนั่งนิ่งในท่ากอดอกอยู่อย่างเดิมเหมือนเมื่อคืนนี้ ไม่กล้าฉวยโอกาสแตะต้องตัวเธอแม้แต่นิดเดียว แม้มีโอกาสที่จะกระทำได้ก็ตาม ปริมารีบมองไปที่หน้ารถในตำแหน่งของคนขับรถ มองเห็นพี่ชายตัวจริงของเธอกำลังขับรถอยู่แทน

 

‘ตายแล้ว……….!!!! โอ๊ย! ทำไมถึงเป็นอย่างนี้! มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง!’

 

ปริมาได้แต่ร้องกรี๊ด......ลั่นอยู่ในใจ พลางสั่นหัวไปมารับตัวเองไม่ได้! ยกสองมือปิดหน้าตัวเองแน่น เบนตัวหนี เบียดตัวเองไปติดกระจกของรถตู้ เมื่อนึกถึงคนที่เธอนอนซบตักนอนมาตลอดคืนเป็นเขาหรือนี่!!! เธอไม่อยากจะอภัยให้ตัวเองเลยให้ตายสิ!

 

 

 

 

 

**********

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ เคยนั่งรถแล้วไปพิงคนข้างๆ หรือเปล่าคะ^^ 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor

เวลาหลับบนรถ ผมไม่เคยไปพิงใครนะครับ 55+

สวัสดีฤดูกาลตรุษจีนครับ

รูปภาพของ Risait444

สวัสดีค่ะ คุณต่อ หายไปนานเลย สิ่งใหม่ที่ผ่านเข้ามาให้ทำ สนุกรึเปล่าคะ

ขอบคุณที่มาจ่ายอั่งเปาให้เป็นคอมเม้นท์นะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามอ่าน และยังไม่หายไปเลย ^^

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.