รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่10 กลับไปนอนบ้านนายสิ!

-A A +A

รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่10 กลับไปนอนบ้านนายสิ!

รับคำท้าฯ

 

ตอนที่ 10

 

 

 

                หลังจากกลับจากการโรงพยาบาล ปัณณวัตร์นั่งเงียบ สายตามองนิ่งอยู่ที่บรรดาซองยาตรงหน้าอย่างครุ่นคิด ผลการตรวจสุขภาพในมือบอกว่า เขาได้มาหลายโรค มาแบบเป็นแพ็คเก็จ อย่างแรกคือ ความดันเลือดสูง อย่างที่สองไขมันในเลือดสูง อย่างที่สามคือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งทราบได้จากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ตรวจดูแคลเซียมที่หลอดเลือดหัวใจ อย่างสุดท้ายคือลงพุง น้ำหนักเกิน ไม่อ้วนแต่ส่วนใหญ่มาอยู่ที่พุง หมอรุ่นน้องให้ยามาหลายตัว หนึ่งโรคก็หนึ่งตัว แถมอีกตัวหนึ่งคือ ยากล่อมประสาท แสดงว่า หมอคิดว่า เขาเป็นโรคประสาทแดกด้วย 

 

                หมอหนุ่มใหญ่อดถอนหายใจไม่ได้ เขารู้ดีจากประสบการณ์การรักษาคนไข้โรคหัวใจมายาวนานเกือบยี่สิบปี มองอนาคตของตัวเองด้วยความกังวล วันนี้เป็นความดันสูง ไขมันสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ กินยาหนึ่งกำมือ สิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคืออะไร เขามองทะลุออกหมดแล้ว ถึงจุดหนึ่งก็ต้องไปทำบอลลลูน ทำไปสักสองสามครั้งแล้วก็ต้องไปผ่าตัดบายพาส อย่างที่เขาทำให้คนไข้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั่นแหละ ทำแล้วบ้างก็ดีขึ้น บ้างก็ไม่ดีขึ้น บ้างก็ตาย เพียงแต่คราวนี้จะเป็นตัวเขาที่นอนอยู่บนเขียงให้หมอรุ่นน้องคนอื่นเป็นคนผ่าตัดให้ ซึ่งเขารู้อยู่แก่ใจดีว่า มันไม่ใช่วิธีการรักษาที่ทำให้หายได้ แต่จะมีวิธีอื่นอีกไหม คิดไปคิดมาแล้วยังไม่สามารถหาคำตอบได้

 

                ปัถยามองเห็นสามีนั่งมองซองยาอยู่นานแล้ว เธอค่อย ๆ นั่งลงข้างเขา บีบมือของชายหนุ่มเบา ๆ บ่อยครั้งที่เห็นเขานั่งนิ่งเงียบแบบนี้เป็นเวลานาน เธออยากจะช่วยให้เขาออกจากความคิดวกวนนั้น

 

                “ทานยาก่อนค่ะ” ภรรยาสาวยื่นถ้วยขนาดเล็กใส่ยาส่งให้

 

                ศัลยแพทย์เงยหน้าขึ้นฝืนยิ้มให้ รู้สึกขอบคุณที่เธอดูแลเขาอย่างดีมาก เสียดายที่เขาอาจอยู่กับเธอได้ไม่นาน

 

                “ห้ามมองอย่างเดียวค่ะ ต้องทานตามที่หมอบอกด้วยนะคะ” เธอบอกเขาด้วยรอยยิ้ม

 

                “ครับผม มองอย่างเดียวไม่ได้เด็ดขาด” เขายื่นมือโอบเธอเข้ามาใกล้ พลางยื่นหน้าหอมแก้มเธอเบา ๆ

 

                “ฉันหมายถึง ยาค่ะ” เธอเบนตัวหนีใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา แล้วเอาถ้วยยามากั้นไว้

 

                หมอหนุ่มใหญ่จึงรับถ้วยยามาไว้ในมือ ก่อนเทใส่ปากอย่างว่าง่าย แล้วยกแก้วน้ำดื่มตาม

 

                “การอยู่บ้านหรือเปล่าครับ” เขาถามถึงลูกชายคนเดียว

 

                “อยู่ค่ะ”

 

                “ไปเรียกเขามาหาผมหน่อย” ปัณณวัตร์พูดพลางวางแก้วยาและน้ำลงกับโต๊ะเตี้ย ๆ ตรงหน้า

 

                “เอ่อ...คือ...” คนถูกถามอึกอักไม่กล้าบอก เกรงว่าจะทำให้เขาโกรธและไม่พอใจ

 

                “ไปเรียกมันมา” เขาย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดังขึ้นกว่าเดิม พลางมองหน้าภรรยา

 

                “มันตื่นหรือยัง” 

 

                “คือ.. ยังไม่เห็นลงมาทานข้าวเลยค่ะ” เธออ้อมแอ้มตอบไปอย่างตะกุกตะกัก พยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ

 

                ชายหนุ่มถอนหายใจออกอย่างหงุดหงิด สายตาเลื่อนไปมองเวลาที่ผนังห้อง ขณะนั้นบอกเวลาบ่ายกว่าแล้ว

 

                “นี่มัน! จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง ป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก” เขารู้สึกกลุ้มใจกับลูกชายคนนี้จริง ๆ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจซักอย่าง

 

                “ใจเย็น ๆ ค่ะ คุณจะคุยกับแกเรื่องอะไรคะ ให้ฉันคุยแทนให้ไหม ฉันไม่อยากให้คุณอารมณ์เสียแบบนี้เลย” 

 

                “ขนาดผมมันยังกวนประสาทขนาดนี้เลย แล้วคุณล่ะ” เขาอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าปฏิการรักแม่ของเขามากแค่ไหน

 

                “ฉันเข้าใจแกนะคะ เพราะตอนเด็กพ่อของฉันก็เหมือนกับคุณนี่แหละ อยากให้ฉันเป็นหมอเหมือนท่าน แต่ฉันหัวไม่ไปเลยเป็นได้แค่พยาบาล” เธอจับแขนเขาบีบเบา ๆ เมื่อเห็นเขานิ่งรับฟังจึงพูดต่อไป

 

                “ถ้ายังไงให้แกเลือกเรียนคณะที่อยากเรียนดีไหมคะ ลูกคุณเขาเป็นศิลปิน วัน ๆ จะให้เขาอยู่แต่กับคนไข้เหมือนคุณทั้งวัน เวลาคุณเข้าห้องผ่าตัดแต่ละเคสสี่ถึงหกชั่วโมง หรือมากกว่านั้น พูดไปแล้วก็สงสารชีวิตหมอนะ คุณอยากให้ชีวิตลูกเป็นเหมือนคุณเหรือคะ”

 

                สิ่งที่เธอพูดทำให้นายแพทย์ใหญ่นิ่งคิด ซึ่งเขาไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันคือความจริง คนไข้นับวันมีแต่เพิ่มขึ้นไม่มีลดลงเลย นอกจากเสียชีวิตไป

 

                “คุณลองคุยกับลูกดี ๆ ดูไหมคะ ลองมองในมุมของแกดูบ้าง”

 

                คนฟังรู้สึกจุกขึ้นมาทันที เขาแทบไม่เคยพูดดีกับลูกเลย

 

               “คุณพ่อ...สวัสดีคร้าบ ทำไมวันนี้อยู่บ้านได้ละครับ” เสียงลูกชายตัวดีเดินเข้ามาในห้องรับแขก อดแปลกใจที่เห็นหน้าพ่อของเขาได้ ทุกทีกว่าจะกลับก็ดึกดื่น วัน ๆ แทบไม่เคยเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ

 

                ปัณณวัตร์มองหน้าลูกชาย ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งจะตื่นนอน

 

                “คุณป้า...มีอะไรกินมั่ง ผมหิวแล้ว” ปฏิการหันไปทางภรรยาคนใหม่ของบิดา

 

                “เรื่องเรียน...แกจะเอายังไง” เขาพยายามคุมโทนน้ำเสียงให้ธรรมดาที่สุด

 

                “ผมไม่อยากเป็นหมอ ผมจะขอย้ายไปเรียนคอมพิวเตอร์ได้รึเปล่าครับ” 

 

                เขามองหน้าลูกชายจอมกวนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง

 

                “ได้”

 

                ปฏิการมองหน้าบิดาอย่างงุนงงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เป็นครั้งแรกที่พ่อไม่ปฏิเสธ

 

                “แต่มีข้อแม้ว่า แกต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของผอ. โรงพยาบาลกับพ่อ”

 

                หนุ่มผมยาวขมวดคิ้วย่น “ทำไมผมต้องไปด้วย ผมไม่อยากไป ผมไม่รู้จักใครเลย จะให้ผมไปทำไม”

 

                “ถ้าไม่ไปแล้วจะไปรู้จักใครได้ พ่ออยากให้แกไปรู้จักกับครอบครัวของ ผอ.เขามีลูกสาวและลูกชาย รู้จักกันไว้มันไม่เสียหายอะไรนี่ ถ้าแกกับลูกสาว ผอ.ไปกันได้ก็ยิ่งดีเลย” เขามองเห็นอนาคตสดใสของลูกชาย ถ้าได้แต่งงานกับลูกสาวของผู้อำนวยการคงจะมีแต่ความสุขความรุ่งโรจน์แน่นอน

 

                “นี่! พ่อกำหนดกฏเกณฑ์เรื่องเรียนของผมยังไม่พอ! เรื่องคนรักพ่อก็ยังจะมาบังคับผมอีกเหรอ?” เขาโพล่งออกไปอย่างเหลืออด จ้องหน้าบิดาเขม็งด้วยความโกรธที่ลุกโชนอยู่ในดวงตาคู่นั้น

 

                “ถ้าแกไม่ไปก็ไม่ต้องย้ายคณะ!” น้ำเสียงของนายแพทย์ใหญ่เข้มขึ้นทันที

 

                “ผม! ไม่!ไป!” ปฏิการเน้นเสียงทุกพยางค์อย่างชัดถ้อยชัดคำ แล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที

 

 

 

                **************************** 

 

               

 

                มะเขือเทศสีดาแดงจัด ลูกที่แตกและมีน้ำเยิ้มไหลออกมา หรือมีรอยเป็นจุดดำ หรือเน่า จะถูกคัดแยกไว้ในกะละมังใบเล็ก ปริมาเก็บมะเขือเทศที่ยังดีอยู่ใส่กล่องพลาสติกแล้วเอาเข้าไปแช่ในตู้เย็น เธอมองไปที่หน้าต่าง วันนี้อากาศแจ่มใสมาก แดดใสสาดแสงเข้ามาในห้องครัวสว่างเจิดจ้า ใบหน้านั้นยิ้มให้กับบรรยากาศยามเช้าที่แสนดี เธอมีเรียนตอนบ่าย ตอนเช้าเธออยากจะนำมะเขือเทศที่เน่าเสียแล้วไปปลูกซักหน่อย ดีกว่าทิ้งไปเฉย ๆ วิธีการง่ายมาก แค่บีบเมล็ดของมะเขือเทศลงไปฝังในดิน คอยรดน้ำ แค่นี้ก็รอวันที่ต้นมะเขือเทศน้อยจะงอกโผล่พ้นดินขึ้นมา จากนั้นค่อยแยกต้นกล้าไปปลูกในกระถาง หรือขวดพลาสติกเก๋ ๆ นำขายไปได้อีกต่างหาก คนอื่นอาจจะปลูกไม้ประดับสวย ๆ แต่ของเธอจะปลูกต้นไม้กินได้ ว่าแล้วจึงยกกะละมังมะเขือเทศเดินตรงไปที่ประตูหน้าบ้าน

 

                ประตูบ้านถูกเปิดออก หญิงสาวยิ้มให้กับแสงแดดยามเช้า เธอชอบวันที่มีแดด ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างวันนี้ เมื่อสาวเท้าเดินออกไป 

 

                “ว้าย!” เธอสะดุดกับอะไรบ้างอย่าง ทำให้เสียหลักจนเกือบล้มคะมำไปข้างหน้า ดีที่อีกมือจับประตูไว้ มะเขือเทศในกะละมังหกกระจายลงบนพื้นหินขัด ปริมาก้มลงมองทันทีว่ามีอะไรอยู่บนพื้น มองเห็นรองเท้าผ้าใบในลักษณะตะแคงราบอยู่กับพื้น มือผลักบานประตูให้เปิดกว้างออก มองเห็นใครคนหนึ่งนอนคว่ำอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน สีหน้าของเธอนั้นตกใจอย่างมาก เท้ารีบถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว กางเกงยีนสีซีดกับเสื้อยืดสีฟ้าช่างคุ้นตาเธอเหลือเกิน ผมตรงดำสนิทยาวสยายอยู่กลางแผ่นหลัง ใบหน้าด้านข้างที่หันมาทางเธอ

 

                “นายปฏิการ!” 

 

                เจ้าของบ้านไร่ทะเลฝันถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกว่าเขากลับไปแล้วคงไม่ต้องเจอกันอีก นี่อะไร! เพิ่งกลับไปมาอีกแล้ว เธอยกเท้าเตะขาของหนุ่มผมยาวเบา ๆ

 

                “นี่! มานอนอะไรแถวนี้ มันใช่ที่นอนมั้ย?” เธอมองหน้าชายหนุ่มที่ยังนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก เมื่อขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ได้กลิ่นเหล้าคลุ้งมาจากตัวเขา

 

                “เมาหัวราน้ำอีกแล้วเหรอเนี่ย!” หญิงสาวส่ายหัวกับความไม่ได้เรื่องของหนุ่มตรงหน้า มีปัญหาอะไรนักหนาถึงต้องกินเหล้ามากมายขนาดนี้ กินแล้วมันช่วยอะไรได้บ้าง บางทียิ่งทำให้มีปัญหาหนักขึ้นกว่าเดิมอีกสิไม่ว่า 

 

                “กลับไปนอนที่บ้านนายสิ! ได้ยินรึเปล่า?” เธอโน้มตัวลงเล็กน้อย ตะโกนใส่เขา

 

                มือของชายหนุ่มที่วางบนพื้นกระดิก มือข้างหนึ่งขยับมาวางบนเท้าของเธอ

 

                กรี๊ด..........................................

 

                ปริมารีบสะบัดเท้าถี่ ๆ ด้วยความตกใจสุดขีด ราวหัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มก็ไม่ปาน

 

                ‘ไอ้บ้าเอ๊ย! ตกใจหมด!’ เธอตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้านไปเรียกพี่ชายมาจัดการ

 

                ปรามเดินตามน้องสาวออกมาดูเพื่อนรัก พลางส่ายหัวเมื่อเห็นสภาพของคนเมา

 

                “ไอ้การ!” เขาเรียกเพื่อนซี้ ซึ่งเวลานี้ดันไปซี้กับเหล้าเสียแล้ว พลางย่อตัวลงคุกเข่ากับพื้น เอื้อมมือจับไหล่เพื่อนแล้วเขย่าเบา ๆ

 

                คนเมาส่งเสียงครางอ้อแอ้อยู่ในลำคอ

 

                “ทำไมเมาเละขนาดนี้วะ!” เขาจับแขนเพื่อนข้างหนึ่งดึงขึ้นมาพาดบ่าก่อนค่อย ๆ ประคองให้ลุกขึ้น แล้วพาไปทิ้งลงบนโซฟายาวในห้องรับแขก เมื่อคืนเพื่อนตัวดีโทรมาบ่นโวยวายเรื่องพ่อของเขาให้ฟัง ไม่คิดว่าจะไปเมาขนาดนี้ แถมยังขับรถมาถึงที่นี่ ดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ เขาไม่ชนเราก็ดีไป แต่เราไปชนเขาก็ทำให้ครอบครัวคนอื่นเดือดร้อนบาดเจ็บล้มตายมันจะบาปหนักเปล่า ๆ

 

                “ปริม ไปเอารางจืดมาให้พี่ที” ปรามบอกน้องสาวขณะจัดแขนขาเพื่อนให้นอนในท่าที่สบาย

 

                “เร็วสิ!” เมื่อเห็นน้องสาวยืนทำหน้างออยู่

 

                “ถ้าอยากให้ไอ้การกลับเร็วขึ้น ต้องรีบทำให้เขาส่างเมา มันถึงจะกลับได้ เข้าใจหรือยัง”

 

                น้ำเสียงที่จริงจังของพี่ชาย ทำให้ปริมาจะนิ่งเฉยไม่ยอมทำตามไม่ได้ จึงจำใจเดินไปหยิบยาสมุนไพรรางจืดมาให้พี่ด้วยสีหน้าบึ้งตึง พร้อมกับน้ำดื่ม

 

                เสียงโทรศัพท์ของปรามดังขึ้น ปลายสายแจ้งว่า คณะนักท่องเที่ยวที่จองไว้มาถึงแล้ว

 

                “ปริม ถ้าการตื่นขึ้นมา ให้เขากินรางจืดด้วยนะ พี่ต้องไปดูลูกค้าก่อน” ปรามหันมาสั่งน้องสาว แล้วเดินออกไปที่รีสอร์ททันที

 

                ปริมาพยักหน้ารับอย่างเซ็ง ๆ ต้องดูแลหมอนี่อีกแล้ว! เธอเดินไปมองหน้าคนที่นอนอยู่บนโซฟายาว

 

                “นี่! รีบตื่นสิ! จะได้กินยาซะที” เธอพูดใส่คนเมาที่นอนนิ่งอย่างหัวเสีย พลางจับชายเสื้อของเขาเขย่าแรง ๆ แต่ร่างนั้นก็ยังไม่ยอมเคลื่อนไหว สายตาของเธอสะดุดหยุดลงที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของหนุ่มผมยาว เธอนึกถึงผ้าเช็ดหน้าที่เขาบอกว่าจะเอามาคืนให้ มันจะอยู่ในกระเป๋าเสื้อหรือเปล่า? ว่าแล้วจึงขยับตัวเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย โน้มตัวลงไปมองกระเป๋าเสื้อของเขา พยายามค่อย ๆ ใช้มือดึงปากกระเป๋าเสื้อของเขาขึ้นมา เธอมองเห็นแล้ว ผ้าเช็ดหน้าโลมาสีฟ้าอยู่ข้างในนั้น อยู่ ๆ หนุ่มขี้เมาก็ขยับตัว ทำให้เธอตกใจ รีบถอยตัวออกมาทันที

 

                “จะมาขยับอะไรตอนนี้เนี่ย! รีบหลับต่อไปเลย” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้อีกครั้ง เมื่อเห็นเขานอนสงบนิ่งงันไปนานซักพักใหญ่แล้ว สายตาต้องคอยมองคนหน้าหวานว่าจะตื่นหรือยัง? เธอดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อนั้นอย่างช้า ๆ ขณะที่ผ้าเช็ดหน้ากำลังเลื่อนออกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว อยู่ ๆ มือใหญ่โตของชายหนุ่มก็ตบลงบนฝ่ามือของเธอแนบกับแผ่นอกของเขา 

 

 

 

                                ********************

 

               สวัสดียามดึกค่า...นอนกันรึยังคะ  คนอ่านน่ารักมาก  ช่วยตรวจคำผิดให้ด้วย  จัดตอนต่อไปเลยค่า... 

               มีเรื่องขำเล่าให้ฟัง  ตอนที่กำลังจะเขียนตอนนี้  ไปตั้งคำถามในเฟซกลุ่มนักเขียน  ว่าถ้านางเอกเจอพระเอกเมามานอนอยู่หน้าบ้าน  นางเอกจะทำอย่างไรดี  มีคนเข้ามาตอบ ร้อยกว่าคน  เหลือเชื่อเลย  กลายเป็นกระทู้ฮิต มีคนให้ความเห็นเยอะมาก  อ่านแล้วขำมาก หัวเราะจนปวดท้องเลย  เลือกเอาได้เลยชอบแบบไหน   เราเลือกมาเขียนได้  3 ตอนเลย  อิอิ  จัดว่าเป็นตอนที่เราชอบมากเลย  

               เพื่อนๆ อ่านแล้วชอบรึเปล่าน้า...ส่งเสียงบอกกันด้วยจ้า...

               นิยายเรื่องนี้จะให้อ่านฟรีถึงตอนที่10 นะคะ ขอบคุณมากค่า...

               

 

               

 

 

 

               

 

               

 

               

 

               

 

               

 

               

 

 

 

 

 

               

 

               

 

               

 

               

 

 

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ขอบคุณครับ

อ่านเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวแวะไปอ่านอีกเรื่องหนึ่งต่อเลย 55+

รูปภาพของ Risait444

พ่อหนุ่มนักดนตรีของพี่ริ มีอะไต้องแก้ไขไหม โอเคมั้ยคะ ตอบด้วยเปลี่ยน!

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ดีแล้วครับ

ส่วนที่เหลือคงต้องดูอีกที ว่าในอนาคตจะมีฉากในห้องซ้อมดนตรีมากน้อยแค่ไหนครับ

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณค่า...ถ้าเราจะบรรยายว่าพระเอกมีโทนเสียงแบบไหนที่ร้องเพลงขึ้นเสียงสูงได้ดีมาก จะเรียกว่าอะไรดีคะ บรรยายไม่ถูก

รูปภาพของ tor

บรรยายเป็นเสียงหรือคีย์สูงตรงๆ เลยก็ได้ครับ คนอ่านจะได้เข้าใจง่าย เพราะถ้าใช้คำเฉพาะเยอะ อาจจะทำให้คนอ่านงงครับ 55

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

+1

หรือถ้าต้องการใช้เพื่อให้ดูว่าตัวเอกมีความรู้เรื่องดนตรีจริงๆ จะเรียกว่าเขาไต่ระดับเสียงร้องขึ้นไปที่เสียงโซปราโนก็ได้ครับ

ซึ่งสามารถใช้อ้างอิงตรงนี้ได้เลยครับ

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8...

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากเลยค่ะที่ให้ความรู้นะคะ
https://youtu.be/ZdsRGhO0xxY

คิดว่านักร้องคนนี้ ร้องเสียงสูงระดับไหนคะ

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากค่า...^^

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ยินดีคร้าบ

รูปภาพของ Risait444

https://youtu.be/ZdsRGhO0xxY

คนนี้ร้องเสียงสูงระดับไหนดีคะ

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ถ้าเป็นเสียงของผู้ชายน่าจะอยู่ในโทนเสียงบาริโทนครับ

ลองอ่านบทความนี้ก็ได้ครับ เผื่อจะเห็นภาพมากขึ้น

https://sites.google.com/site/paramet7422/taw-not-khxng-phelng

รูปภาพของ Risait444

รู้สึกว่าคนนี้ร้องเสียงสูงมาก ตอนฟังแรกๆ แยกไม่ออกว่าเสียงผู้หญิงหรือผู้ชายเลย

https://youtu.be/DcflHgLJXR4

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

เสียงสูงจริงครับคนนี้

น่าจะเป็นโทนเทเนอร์แล้วละครับ (วัดจากเพลงนี้อะ)

มีผู้ชายน้อยคนมากที่ร้องได้

รูปภาพของ Risait444

นักร้องหญิงและชายในคลิปนี้ ใครร้องเสียงสูงกว่ากันคะ

รูปภาพของ Risait444

อยากให้พระเอกของพี่ริ ร้องได้ประมาณนักร้องคนนี้เลย ^^

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

โดยเนื้อเสียง ผู้หญิงจะเสียงสูงกว่าอยู่แล้วครับ

แต่ในการร้องประสาน คนร้องเขาจะจูนโทนเสียงให้ไกล้เคียงกันมากที่สุด

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณค่า...

ทุกวันนี้ยังร้องเพลง เล่นกีตาร์บ้างหรือเปล่าคะ

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

ไม่ได้จับเลยครับ 55

รูปภาพของ Risait444

ทิ้งเลยเหรอ...

https://youtu.be/a3dNbnuauNM

คลิปนี้จะเรียกว่าเป็นเพลงแบบไหนคะ เราจะเรียกว่าอะไรดี

https://youtu.be/0AlN1_AY3wk

อันนี้เป็นเวอร์ชั่นปกติ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.