ตอนที่ 50 .. “ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ”

พยัคฆ์ร้าย..สายลับ
คุณกำลังอ่าน: พยัคฆ์ร้าย..สายลับ

-A A +A

ตอนที่ 50 .. “ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ”

จบบริบูรณ์

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ 

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น

.. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. พัชฌา

 

 (เพลงประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ)  พัชฌา

ขอขอบคุณ คุณฝน ธนสุนทร จาก ค่าย Sure Entertainment ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

โชคดีที่พบเธอ - ฝน ธนสุนทร

https://youtu.be/Kjgi6drkkMQ

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 50 .. “ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ”

   ทับทิมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มตั้งท้อง เพราะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ซะเท่าใด ปูนวิ่งตามไปเพื่อที่จะช่วยเพื่อน หลังจากที่ช่วยเนตรได้แล้ว ตัวเองก็แทบไม่มีแรง ไม่รู้ว่าแรงไปไหนหมด ดีนะที่ปูนเพื่อนรักมาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นก็แย่ เพ็ญเคยเป็นแบบนี้มาก่อน อาการมันฟ้อง จึงยิ้มออกมาและรู้เลยว่า ทับทิมท้องมีน้องแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่แล้ว คือกี่เดือนหรือกี่สัปดาห์

   2 ทุ่มนิดๆ เกศินีและหมอไตรทศ มาดูมาตรวจดูอาการเจ็บให้กับทุกคน เพ็ญจึงเดินเข้าไปกระซิบที่หูขวาหมอไตรทศ

“หมอทับทิมท้องแน่ๆช่วยตรวจดูให้ Sure หน่อยซิ เพราะหนูไม่รู้ว่ากี่เดือน กี่สัปดาห์แล้ว” หมอยิ้ม แล้วเดินตรงไปที่ทับทิม

   หมอตรวจดูอาการให้แบบจริงๆจังๆ “ขอโทษนะทับทิม หมอขอตรวจร่างกายหน่อย เพราะไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง” ไตรทศให้เกศพาทับทิมไปที่ห้องตรวจชั่วคราว ใช้เวลาอยู่ไม่นาน สักพักเมื่อ Sure จึงยิ้ม แล้วเดินออกมาบอกกับทุกคน ทับทิมเดินตามออกมา

“ดีใจด้วยนะทับทิม คราวนี้ไม่โกหกเหมือนครั้งที่แล้วแล้วนะ ทับทิม หนูท้องได้ประมาณ 4 สัปดาห์แล้วจร้า”

   หมอและเกศแสดงความดีใจกับทับทิม เมื่อหมอได้สอบถามการหมดเมนต์จากทับทิม ขอตรวจฉี่และเรื่องการทานยาคุม

“ดีนะที่ตอนต่อสู้ บู๊ ลูกไม่ไหลออกมาหนะ” หมอแซวและอธิบายต่อ “ที่ยังไม่ออกอาการก็เพราะท้องสาว อาการไม่ค่อยแสดงออกมา นอกจากอายุครรภ์จะมากจริงๆอย่างเพ็ญ ดีนะที่ไม่แท้งค์ลูกไม่งั้นผู้กำกับอัธวุฒิคลั่งแน่ๆ 55555+”

   เพื่อนๆเฮกันใหญ่ จากอีกห้องนึง จนอัธวุฒิแปลกใจ กำลังคุยงานอยู่ สงสัยเลยเดินเข้ามาถามแบบยิ้มๆ

“ว่าไงพวกเรา เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงโห่ฮิ๊วอะไรกันใหญ่เลย ไหนมีใครจะบอกอะไรผมได้บ้างไหมเนี่ย” ทับทิมยืนยิ้มดีใจอยู่ จนปูนเพื่อนซี้หมั่นไส้ “ว่าไงแก จะบอกเองหรือจะให้ฉันบอก” ทับทิมเอามือตีไหล่เพื่อน เขินก็เขิน “ฉันบอกเอง”

   แล้วทับทิมก็กวักมือเรียกสามีสุดที่รักมาใกล้ๆและก็กระซิบบอกที่หู “อะไรนะ..จริงดิ จริงๆนะ” ทับทิมยิ้มและพยักหน้า อัธวุฒิดีใจมากจนลืมตัว จับทับทิมอุ้มขึ้นใส่แขนตัวเองต่อหน้าเพื่อนๆแบบไม่อายใครเลย “ทับทิมท้องแล้ว ทับทิมท้องแล้ว ดีใจจังโว๊ย”

   อัธวิทย์หันไปดูพ่อแล้วยิ้ม เขามีน้องแล้ว และหันไปยิ้มกับขิง จับมือขิงขึ้นมาหอม

“ขิง วิทย์มีน้องแล้วนะ แล้วขิงหละ เมื่อไหร่ จะมีน้องให้วิทย์ซะทีหละ” ขิงเขิน

“บ้าวิทย์เนี่ย ตอนนี้ขิงยังไม่พร้อม รออีกหน่อยนะ เอาไว้ให้ขิงพร้อมมากกว่านี้ รับรองขิงจะมีให้วิทย์เยอะๆเลย”

“สัญญาแล้วนะ แล้ววิทย์จะรอ” แล้ววิทย์ก็หอมแก้มขิง ขิงก็หอมกลับเพื่อเป็นการแทนคำสัญญาว่าจะมีลูกให้วิทย์แน่นอน

----- ===== -----

   ไม่นาน หลังจากที่ได้เก็บและห่อศพเนตรกับโบว์เรียบร้อย เผด็จ เทียนหอม เนเน่ แป๋วและเบ็นซ์ ก็เดินกลับมา ได้ยินเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีอะไรกัน ในเมื่อมีคนในทีมตายลงไปตั้ง 4 คน คือ อิงฟ้า หมู เนตรและโบว์

“เขามีอะไรกันหนะพ่อ” เผด็จกำลังจะเดินเข้าไปถาม “ไม่รู้เหมือนกัน” ขณะที่กอดเนเน่ลูกสาวอยู่ คร้ามซึ่งเป็นน้าแท้ๆของเนตร เมาค้างอยู่เพราะเสียใจที่หลานสาวตาย โกรธเผด็จมาก จึงรีบวิ่งไปดึงคอเสื้อเผด็จทันทีเพราะขาดสติแล้ว

“มึงเอาหลานกูคืนมาไอ้เด็จ มึงเอาชีวิตหลานกูสองคนคืนมา” แล้วก็ใช้มือซ้ายต่อยไปที่หน้าเผด็จด้านขวาอย่างแรงจนเผด็จล้มกลิ้งลงไปทันที เนเน่วิ่งมาห้ามตาตัวเอง ดึงเสื้อข้างหลังไว้ เพื่อไม่ให้ตามลงไปอัดพ่อตัวเอง ที่ซึ่งนอนอยู่กับพื้น

“ตา ไม่เอาอย่าทำพ่อ ตาเมาแล้ว ตาหนูบอกให้ หยุด ตาคร้าม” คำสุดท้ายของเนเน่พูดออกมาดังมาก

   แล้วรีบวิ่งเอาตัวเองไปกอดพ่อ หันหลังให้คร้าม กอดเผด็จพ่อตัวเองไว้ ทุกคนที่อยู่ด้านห้องในหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก คร้ามกำลังยกมือขวาจะต่อยลงไปจึงต้องหยุด เพราะเนเน่หลานสาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว มาบังอยู่ข้างหน้า ถ้าต่อยลงไปก็ต้องโดนหลังเต็มๆ เทียนหอมวิ่งไปดึงมือขวาคร้ามไว้ “น้าหยุดบ้าได้แล้ว ยังไงๆไอ้เนตรมันก็ไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว นั่นไอ้เน่หลานน้านะ”

   เผด็จดันตัวเนเน่ขึ้นมา “เป็นไงบ้างลูก พ่อขอโทษ” แล้วก็หันดูหน้าตา แล้วดึงลูกมากอดมาหอม “พ่อขอโทษ” เนเน่ร้องไห้โฮ แล้วหันไปหาคร้าม “ตาทำแบบนี้ทำไม พ่อไปเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้ ตาก็รู้ก็เห็นว่าแม่ขับเรือออกไปเอง แล้วตามาต่อยพ่อหนูทำไม ทำไม หนูเกลียดตา” แล้วเนเน่ก็หันไปกอดพ่อที่นั่งอยู่ คร้ามจ้องไปที่เนเน่ เอามือเอื้อมไปแตะที่ไหล่ขวา เนเน่สะบัดหนี

“ตาขอโทษลูก ไอ้เน่ แกอย่าเกลียดตาเลยนะลูก ตาไม่เหลือใครแล้ว ตาก็เหลือแต่แกเพียงคนเดียวนะลูก ตาขอโทษ ตาขอโทษ”

   เทียนหอมรีบพยุงคร้ามลุกขึ้นมานั่ง พวกนั้นพึ่งวิ่งออกมาถึงเห็นเผด็จนั่งอยู่กับพื้นเลือดกลบปาก เนเน่นั่งกอดพ่อตัวเองอยู่

“เกิดอะไรขึ้นหนะ แล้วทำไมเฮียถึงเลือดกลบปากอย่างนั้น” ป๋องถามออกไป เบ็นซ์เลยตอบออกไป

“ก็น้าคร้ามนะซิ อยู่ดีๆก็เดินตรงมาต่อยคุณอา สงสัยโมโหเรื่องที่เนตรหลานสาวแกตายหนะ เลยมาโทษว่าคุณอาเป็นต้นเหตุ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นแบบนี้นั่นแหละ” ป๋องหันไปมองคร้าม แล้วเผด็จก็ลุกขึ้นมายืนพร้อมลูกสาว เนเน่ปัดเนื้อตัวให้เผด็จ และดูแผล

“ทำไมถึงทำแบบนี้หละคร้าม เมาใช่ไหมหนะ ทำงานกับเฮียมานานแค่ไหนแล้ว บุญคุณที่เค้าช่วยแกกับหลานมาก็ตั้งเท่าไหร่ แล้วทำไมแกถึงไม่นึกถึงตรงนั้นบ้าง แกทำทำไม” พูดเสร็จก็ขึ้นเหมือนกัน จึงเดินตรงไปดึงคอเสื้อคร้ามขึ้นมาบ้าง เทียนหอมเลยห้าม

“พอแล้วผู้กำกับ หอมบอกให้ปล่อย ว่าแต่เขา คุณก็เหมือนกัน ทับทิมมาเอาผัวแกออกไปทีซิ เร็ว” ทับทิมรีบมาดึงเอาป๋องออกไป

   เมื่อเหตุการณ์ตรงนี้สงบลง กลุ่มของเผด็จงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แป๋วก็เลยถามออกไป

“ขอโทษนะจ่า นั่นเขามีอะไรกันหนะ” จ่าหมงหันมา ยิ้มให้เพื่อบรรยากาศและอะไรๆมันอาจจะดีขึ้นมาบ้าง

“อ๋อไม่มีอะไรหรอกครับ ที่เห็นอยู่หนะ พวกนั้นเขากำลังแสดงความยินดีให้กับผู้กำกับ ที่กำลังจะได้เป็นคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดงอีกครั้งแล้ว ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้หนะครับ คือหนูทับทิมท้องได้เดือนนึงแล้ว แหม แกดีใจน่าดูกับเมียคนนี้”

   เผด็จนิ่งเงียบปล่อยมือจากที่กอดเนเน่ออกทันที แล้วเดินกลับออกไปด้านนอก มิ่งสะกิดหมง “อะไรวะ” มิ่งมองหน้า

“แกพูดอะไรออกไป ไม่รู้เลยรึไง” มิ่งเอามือตบกบาลเพื่อน เนเน่เลยวิ่งตามพ่อออกไป เทียนหอมตามออกไปอีกคน

“แกพึ่งเสียเมียและลูกไปถึง 4 คนพร้อมๆกันเลย แกนี่พูดอะไรออกไปไม่คิดเลย” ที่เหลือเดินเข้าไปแสดงความยินดีกับทับทิม

   สนเดินเข้ามาหาแป๋ว “เป็นไงบ้างแป๋วใช่โบว์ไหม” แป๋วพยักหน้า สนกอดเมียเอาไว้ “น้องเค้าไปดีแล้วหละ หมดเวรสักที”

 “ทิม ต่อไปนี้ เลิกเป็นเลยนะพิราบเทาหนะ ตอนนี้พี่มีพิราบเทาตัวน้อยๆแล้ว เอ หรือว่ากระป๋องน้อยหว่า ปิดตำนานพิราบเทา

   ป๋องตะโกนสุดเสียงกับประโยคสุดท้าย แล้วแตงโมกับปริ๊นซ์ก็เดินเข้ามา “ใช่ ปิดตำนาน สามหน้ากากผู้กล้าซะที” ปูนมองหน้าสามี แล้วแตงโมก็หันเอามือไปเขย่าหัวปูน “ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้ว เหยี่ยวราตรี วิหคขาวและพิราบเทา จะมีก็แต่คนธรรมดา 3 คน”

///// +++++ /////

   เผด็จเดินออกมานั่งอยู่คนเดียวที่ริมน้ำตก เนเน่เดินตามพ่อออกมาและมานั่งกอดเอวพ่อข้างขวา เผด็จหันไปลูบหัวลูกสาว

“พ่อ ทำไมแม่เค้าทำอย่างนั้นหละ แม่เค้าไม่รักหนูกับพ่อแล้วเหรอ รู้ทั้งรู้ว่าตู้จะระเบิด แล้วแม่ลงไปช่วยเค้าทำไมทั้งๆที่แม่ท้อง”

“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันลูก แม่เค้าคงเกลียดพ่อมากมั้ง เลยอยากหนีพ่อไปให้พ้นๆสายตาเค้า เค้าคงนึกว่าพ่อไม่ได้รักเค้ามั้ง”

   เทียนหอมแอบยืนฟังอยู่หลังต้นไม้ แล้วน้ำตาไหลซึมออกมา เกศแอบเดินตามออกมา เทียนหอมกำลังจะเดินกลับ เจอเกศพอดี

“หอม” เกศดึงแขนเพื่อนไว้ “แล้วแกจะเอายังไงต่อไปกับไอ้เน่มัน แม่มันก็ตายไปแล้ว” เทียนหอม ยังตอบอะไรไม่ได้

“แล้วแกจะปล่อยมันไว้อย่างนี้คนเดียวนะเหรอ ไอ้เน่มันยังเด็กอยู่เลยนะ” เกศเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่เลี้ยงอย่างหอมดี

“พ่อมันก็อยู่ บอกตามตรงนะเกศ ตอนนี้ฉันตั้งตัวไม่ทันจริงๆ คือ มันเร็วมาก เนตรมันไม่น่าทำอะไรแบบนี้เลย ลูกมันทั้งคน”

“ฉันเข้าใจเพื่อน เอาหละ มีอะไรจะให้ฉันช่วยก็บอกนะ ฉันยินดีเสมอ ฉันไปก่อนนะ พอดี ข้างในเค้าให้มาตามพี่เด็จ เขาจะขอสรุปงานก่อนที่จะเดินทางกลับพรุ่งนี้เช้า ฉันไปก่อนนะ” เกศแตะไหล่ขวาเพื่อนเบาๆแล้วก็เดินจากไป ตรงไปหาเผด็จ

“พี่เด็จ” เผด็จหันหลังมา “ผู้กำกับเขาขอให้พี่กลับเข้าไปข้างใน อยากจะขอสรุปงานทั้งหมด ก่อนที่จะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้”

“ได้ บอกป๋อง เดี๋ยวพี่เข้าไป ไปเนเน่กลับเข้าข้างในกับน้าเกศก่อนลูกไป เชื่อพ่อ อย่าดื้อ” เนเน่ปาดน้ำตา แล้วก็ลุกขึ้น เกศจูงมือเดินกลับเข้าไป “เป็นไงบ้างเรา ไอ้ตัวเล็ก ติดพ่อแจเลยนะแก ไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้ว ร่างกายยังไม่หายดีเลยไป” เนเน่หน้าบึ้งตลอด

----- ***** -----

   รุ่งเช้า ทุกคนกลับเข้าสู่ กทม. ไม่นานข่าวการถล่มคลังยาบ้า สิ่งเสพติดและอาวุธสงครามก็ได้ แพร่ภาพสู่สายตาของสาธารณะชนอย่างครึกโครม สุดท้าย ฉัตรเทพตาย ดรัณถูกจับ สัตยาหนีรอดไปได้ พวกตัวปลอมทั้ง 6 ตาย คฑายอมมาป็นพยานให้ แทนไทจึงหนีไม่รอด ถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ชีวิตของทุกคนก็กลับเข้ามาสู่ปกติโดยเฉพาะป๋องที่เห่อลูกเอามากๆทับทิมจึงหงุดหงิด

   หลังจากแทนไท ถูกจับ ผบ.ตร.ลูกน้องของแทนไทที่รับส่วยมาอย่างยาวนาน ก็ถูกปลดทันที เพราะแทนไทได้แฉออกมาจนหมดเปลือกว่า คนของเขามีใครบ้างและบรรดาลูกน้องของ ผบ.ตร.แทบทุกคนที่มีเอี่ยว ก็ต้องเด้งและถูกปลดกันเป็นแถบ เป็นแถวตามๆกัน หายซ่าส์ไปตามๆกัน ผบ.ตร.คนใหม่อีกคนล่าสุด ที่ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นมาใหม่คนนี้เป็นคนดี เป็นเพื่อนรุ่นน้องของเชี่ยว จึงไว้ใจได้ว่า ต่อไปนี้ในกรมตำรวจ คงจะไม่มีกาฝากเหมือนอย่างที่แล้วๆมาอีกแล้ว ส่วนแตงโมกับปูนก็กลับมาพัฒนาสำนักงานนักสืบ

   นอกจากนั้นก็ยังได้มีการประกาศคุณความดีและมอบโล่เกียรติคุณให้กับเผด็จผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ที่ยอมเสี่ยงตายมาโดยตลอดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานนี้ ได้เลื่อนยศขึ้นไปอีกคนละ 1 ขั้นและ 2 ขั้น ตามลำดับความสำคัญ จำนวน 6 คน

   1.เผด็จ จาก พลตำรวจตรี เป็น พลตำรวจเอก เผด็จ รุจินานนท์ (ได้เลื่อน 2 ขั้น)

   2.อัธวุฒิ จาก พันตำรวจเอก เป็น พลตำรวจตรี อัธวุฒิ ปัญจโชติ (ได้เลื่อน 1 ขั้น)

   3.จ่าสน จาก จ่าสิบตรีเป็น ดาบตำรวจ ไพรสน พิทักษ์ธรรม (ได้เลื่อน 1 ขั้น)

   4.จ่าหมง จาก จ่าสิบตรีเป็น ดาบตำรวจ มงคล อ่อนไหว (ได้เลื่อน 1 ขั้น)

   5.จ่ามิ่ง จาก จ่าสิบตรีเป็น ดาบตำรวจ สมิง สยบไพรี (ได้เลื่อน 1 ขั้น)

   6.จ่าหมู จาก จ่าสิบตรีเป็น ร้อยตำรวจตรี ภาสกร อรุณรุ่ง (ได้เลื่อน 2 ขั้น เพราะเสียชีวิต ในหน้าที่) อัธวิทย์มารับแทน

***** ..... *****

   เบ็นซ์และแป๋ว สองพี่สาวขอทำพิธีเผาศพให้กับโบว์ เทียนหอมก็เช่นกันขอทำพิธีเผาศพให้กับเนตร ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา เผด็จ จึงจัดพิธีสวดและเผาศพให้กับเมียทั้งสองของเขา วันสุดท้ายก่อนที่เผาร่างของทั้งสองเมีย เผด็จมีอาการเมานิดๆหนีบเหล้าขวดเล็กติดมาด้วย มาเกาะและเคาะโลง ระบายความเครียดบอกความในใจให้ทั้งสองเมียฟัง จนทางวัดเผาไม่ได้ ทุกคนมองแล้วสงสารเผด็จไปตามๆกัน เพราะเผด็จเสียสละตัวเองมากกับงานนี้ แต่ผลสุดท้ายสิ่งที่ได้รับ ผลตอบแทนกลับมาก็คือ ต้องสูญเสียลูกเมียไปพร้อมๆกันถึง 4 ชีวิต เนเน่เดินเข้าไปดึงพ่อออกมา “พ่อ พ่อเมาแล้ว ออกมาก่อนนะพ่อนะ เค้าจะได้เผาแม่กับพี่โบว์” เผด็จเผลอ เหวี่ยงมือไปโดนหน้าลูก จนเนเน่กระเด็นออกไป เทียนหอมจึงวิ่งไปดูเนเน่ “เน่เป็นไงบ้างลูก” แล้วหันไปดูสามีขี้เมา

“พี่เด็จทำอะไรหนะ นี่ลูกนะ มีสติหน่อยซิ ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ” ทุกคนส่ายหน้า ตามๆกัน หอมเลยตัดสินใจเรียกป๋อง

“คุณป๋อง หอมรบกวนหน่อยค่ะ ช่วยมาเอาไอ้ขี้เมานี้ออกไปที ทางวัดเค้าจะได้เผาสองคนนี้ได้สักที” ทับทิมพยักหน้าให้ไป

   แล้วป๋องก็เข้าไปลากตัวเผด็จขี้เมาออกมา เนเน่หัวแตกนิดหน่อย เพราะกระเด็นไปโดนเหลี่ยมเสาขาตั้งรูปของเนตร พอลากเผด็จลงมาก็มาวางไว้ตรงบันไดทางขึ้น เทียนหอมพยุงเนเน่ลงมา ขนมผิงเดินเข้าไปหา “เป็นไงบ้างพี่เน่ อย่าถือสาพ่อนะพี่”

   เนเน่โบกมือขวาเล็กน้อย “ไม่เป็นไร พี่รู้นิสัยพ่อดี เมาทีไรเป็นแบบนี้ทุกที” แล้วเจ้าหน้าที่ก็ดันโลงของทั้งสองเข้าไป วัดนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเตาเผาสองเตา จึงสามารถเผาพร้อมกันได้ ไม่นานควันไฟก็ได้โผล่ลอยออกจากปล่องขึ้นสู่ท้องฟ้า โบว์และเนตรได้ไปสู่สุขคติกันแล้ว เผด็จนั่งอยู่กับพื้น ตะโกนออกไปสุดเสียง “โบว์ เนตร พี่รักเธอทั้งสองนะ” แล้วก็ก้มหน้าลงกับพื้นนอนตัวขดอยู่ตรงนั้นแบบไม่อายใครทั้งสิ้น เพ็ญเห็นสภาพแล้วก็อดร้องไห้น้ำตาไหลออกมาอย่างพร่างพรูไม่ได้ เชี่ยวมองเห็นก็สงสาร เบียร์เข้ามากอดและปลอบประโลมใจ “ไม่เอาน่าไอ้เพ็ญ ไม่เอาอย่าทำแบบนี้ มันจะส่งผลกับลูกแกนะ ไปไป ไปนั่งก่อน”

   ทุกคนได้แต่ยืนดูควันสีดำที่ล่องลอยไปบนท้องฟ้า “โบว์ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้เกิดมาเป็นพี่น้องกันอีกนะ” เบ็นซ์รำพึงในใจ แป๋วก็เช่นกัน “โบว์ ถึงเราจะไม่ใช่พี่น้อง คลานตามกันออกมา แต่พี่ก็รักแกนะ ถ้าเป็นไปได้ ชาติหน้าพี่ขอให้เราเกิดมาเป็นพี่น้องกันนะ” เบียร์ถึงแม้จะไม่ผูกพันมากเหมือนเบ็นซ์กับแป๋ว แต่ก็รักโบว์เช่นกัน “พี่โบว์ ขอให้พี่ไปสู่สุขคติ ไปเป็นนางฟ้านะพี่”

   คร้ามยืนดูอยู่ห่างๆเพียงลำพังไม่เข้าไปใกล้เผด็จและกลุ่ม “จบสิ้นกันสักทีนะไอ้เนตร ไอ้โบว์ แกสองคนไม่มีตัวตนที่นี่อีกแล้ว”

+++++ ****** +++++

   รุ่งเช้า เผด็จมารับอัฐิ ของโบว์และเนตร โดยให้ทางวัด ช่วยแบ่งออกเป็นสามส่วน ของโบว์ เผด็จเก็บไว้ 1 ให้เบ็นซ์ไว้ 1 และเตรียมไว้ไปลอยอังคารอีก 1 ของเนตรก็เช่นกัน เผด็จเก็บไว้ 1 ให้เทียนหอมไว้ 1 และเตรียมไว้ไปลอยอังคารอีก 1 เผด็จกลับไปที่เกาะ รีสอร์ทที่โบว์รักมาก โดยมี เทียนหอม เนเน่ เบ็นซ์ แป๋วและเพ็ญขอตามไปด้วย เบียร์เลยต้องมาด้วยอีกคน

   เผด็จขับเรือยอร์ชออกมาระหว่างรีสอร์ทกับเกาะลึกลับที่เขาเคยมีความสุขกับโบว์ เขาระลึกถึงทั้งสองคนขณะที่โปรยเถ้ากระดูก

< สุดสายตา – วงภราดร > https://youtu.be/pQAqVEe_7Ww

   โดยแบ่งให้กับทุกๆคนที่เกี่ยวข้องเท่าที่จะแบ่งได้ เทียนหอมกับเนเน่ได้ของเนตร ส่วนเบ็นซ์ แป๋ว เพ็ญและเบียร์ ได้ของโบว์ไป สำหรับเผด็จเอาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วโปรยไปพร้อมกัน ขณะที่เรือจอดนิ่ง ปล่อยให้น้ำทะเลและลม พาเศษกระดูกของเมียรักทั้งสองปลิวไปตามอากาศ ล่องลอยไปยังแดนสุขาวดีตามที่ทั้งสองต้องการ “ขอให้ไปดีนะ โบว์ เนตร เมียรักทั้งสองของพี่”

   จากนั้นก็กระดกไปหนึ่งกรึ๊บ แล้วก็ขับเรือกลับ เมื่อขึ้นฝั่ง เบ็นซ์และเผด็จเดินผ่านมาที่ Front พวกพนักงานรู้ข่าวการเสียชีวิตของโบว์จึงมาแสดงความเสียใจด้วย เผด็จเดินเซมานิดๆแต่ยังคงพยุงตัวเองได้ เนเน่พยุงพ่อไว้ไม่ให้ล้ม “พ่อ สงสัยแอบกินมาแน่เลย”

“นาย ชื่นจิตกับน้องๆพนักงาน ขอจัดงานให้กับนายหญิงได้ไหมคะ สำหรับตอนนี้พวกเราทุกคนขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของนายหญิงด้วย” เผด็จรับพวงมาลัยจากทุกๆคน และส่งกระจายไปให้ทุกๆคน เบ็นซ์ แป๋ว เนเน่ หอม และเบียร์ช่วยกันรับ

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกนะชื่น เอาเป็นอันว่า ขอแค่หาสักมุมนึงแถวนี้ก็ได้ ทำเป็นมุมอนุสรณ์ เอารูปโบว์มาตั้งขึ้นป้ายเอาไว้ก็พอ ใครอยากมาทำบุญหรือระลึกถึง ก็ให้มาทำพิธีหรือไว้อาลัยตรงนี้ก็พอนะ ทำได้ไหม”

“ได้ค่ะ เอ้อ นาย แล้วตกลงตอนนี้ใครจะมาบริหารงานแทนนายหญิงหละ หรือว่านายจะกลับมาบริหารแทนอีกเช่นเดิม”

   เผด็จหันไปมองเบ็นซ์ “คุณเบ็นซ์เค้าเป็นพี่สาวแท้ๆของนายหญิงนะ ต่อแต่นี้ไป คุณเบ็นซ์จะมีสิทธิ์และอำนาจเต็มทุกอย่างแทนนายหญิงของเธอ เอ้า ทำความรู้จักและเคารพนายหญิงคนใหม่ของที่นี่ด้วย” เบ็นซ์ตกใจรับไม่ทันกับการโยนภาระอันหนักอึ้งอันนี้

   ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา เมื่อโบว์ไม่อยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง คนเก่าไป คนใหม่ก็ต้องมาทดแทนเสมอมันเป็นเรื่องธรรมดา “คุณอา หนูไม่รับได้ไหม หนูไม่มีความรู้ความสามารถทางนี้เลย และอีกอย่างหนูไม่รู้ว่าหนูจะทำได้ไหม”

“ไม่ยากหรอกค่ะคุณเบ็นซ์ สมัยแรกๆนายหญิง คุณโบว์หนะ ก็ไม่เป็น แต่เพราะแกมีหัวคิดทำนั่นปรับนี่จนลูกค้าชอบ ไม่ยากหรอก เพราะของเก่ามันก็ดีอยู่แล้ว นะได้ไหม” เบ็นซ์ ไม่รู้จะทำไง จึงหันไปหาเพื่อนรัก “ไอ้แป๋ว แกทำแทนฉันนะ ฉันไม่กล้าฉันกลัว”

“เอาน่าเอาเป็นว่าฉันจะช่วยแกเองดีไหมเพื่อน เราสองคนช่วยกัน ช่วยกันทำสิ่งที่ไอ้โบว์มันรักให้ดีขึ้นมา อย่างน้อยมันก็คงจะภูมิใจที่มีคนสานงานต่อจากมัน” เมื่อเบ็นซ์ได้กำลังใจจากเพื่อน เบ็นซ์ก็จะลองดูสักตั้ง “เอ้า ลองดู แต่ตอนนี้ขอกลับไปตั้งหลักก่อนนะ”

“ได้ เดี๋ยวรายละเอียดยังไง ชื่นจิตฉันฝากเธอ ช่วยสอนงานให้กับทั้งสองคนด้วยนะ ตามสบาย อาขอตัวก่อน” กลิ่นละมุดหึ่งเลย

   แล้วเผด็จก็เดินจากไป พวกที่เหลือก็เดินตามไป เดินไปได้สักพักก่อนที่จะถึงบ้าน เผด็จบอกกับทุกคนว่าให้เข้าบ้านไปก่อน

“พ่อจะไปไหน หนูไปด้วย หนูไม่ไว้ใจพ่อหรอก ไหนดูซิว่าพ่อแอบเอาเหล้าพกติดมาด้วยรึเปล่า” เนเน่รู้ว่ามี จึงค้น เจอจริงๆ

“นี่อะไรพ่อ” เทียนหอมและเพ็ญ มองหน้าเผด็จ “พี่เด็จ ทำไมเป็นคนแบบนี้ ไหนบอกกับหนูว่าจะเลิกแล้วไง เน่เอามาให้แม่”

   เนเน่กำลังจะยื่นให้เทียนหอมเผด็จรีบดึงกลับมา “ยุ่งน่าไอ้เน่ เรื่องของพ่อ ไป แกจะไปไหนก็ไป อย่ามายุ่งกะพ่อ ไป” เผด็จดุลูก

“อาเต๋า ไอ้เน่มันก็ทำถูกแล้ว มันห่วงอา มันผิดตรงไหน” คราวนี้เพ็ญเข้าข้างเนเน่ เพราะเนเน่ทำถูกที่ค้นเจอเหล้าจากพ่อ

“เสือกนะซิไอ้ลูกเวร” เผด็จชี้หน้าเนเน่ “พ่อ” เนเน่เสียใจ จึงรีบวิ่งเข้าบ้านทันที “พี่เด็จจำไว้เลยนะ ทำร้ายจิตใจลูก คอยดู”

   เทียนหอมชี้หน้าด่าสามี เพ็ญโกรธเผด็จที่เป็นคนแบบนี้ไปได้ยังไง จึงเดินเข้าบ้านเช่นกัน เผด็จมองหน้าเบียร์ เบียร์รีบวิ่งจู๊ดเข้าบ้านตามเพ็ญไปเลย เนเน่วิ่งไปยืนนั่งไห้ที่สวนข้างบ้านซึ่งมองลงไปก็เจอทะเล เทียนหอมเดินไปลูบหัวลูก แล้วนั่งลงข้างๆ

“อย่าไปโกรธพ่อแกเลยไอ้เน่ แกก็รู้ว่าพ่อแกเมา” เนเน่เอนตัวนอนลงที่ตักเทียนหอม

“ทำไมหละแม่หอม ทำไมพ่อถึงทำตัวแบบนี้ หนูเสียแม่เนตรไปคนนึงแล้ว หนูไม่อยากเสียพ่อไปอีกคนนะ หนูไม่เหลือใครแล้วจริงๆ คนที่หนูรักก็หนี ล้มหายตายจากหนูไปกันหมด แม่หอมก็เป็นไปกับเขาอีกคนใช่ไหม หนูรู้นะว่าแม่หอมจะหนีพ่อ ไม่อยู่อีกเหมือนกัน” เทียนหอมเอามือลูบหัวเนเน่ “เน่ แกก็น่าจะรู้และเข้าใจนะว่า อะไรๆ มันเปลี่ยนไป มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว”

   เนเน่ลุกขึ้นมามองหน้าแม่หอม “ทำไมแม่หอมพูดอย่างนั้นหละ นี่แสดงว่าแม่จะหนีหนูไปไหนอีกคนจริงๆแล้วใช่ไหม”

“ไอ้เน่ แม่รักแกเหมือนลูกแม่แท้ๆไม่แพ้ไอ้เนตรนะ แต่แกก็น่าจะรู้ว่าพ่อแกเป็นคนยังไง” แล้วเทียนหอมก็ลุกขึ้นเดิน และมองขึ้นไปข้างบน เนเน่เริ่มเข้าใจเรื่องของพวกผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา เรื่องของพ่อกับแม่หอมก็เช่นกัน

“แม่จะหนีหนูกับพ่อไปจริงๆเหรอหนูถามจริงๆแม่หอมไม่รักพ่อเด็จของหนูแล้วเหรอ แม่ ฟังหนู แม่อย่าไปเลยนะอยู่กับหนูก่อน”

“เพ็ญเค้ามีลูกกับพ่อแก แต่แม่ไม่มี แม่ก็คงต้องไปตามทางของแม่ มันคงถึงเวลาแล้วหละที่จะต้องมีใครสักคนเสียสละ และนั่นมันก็คือแม่” เนเน่เดินเข้ามากอดเทียนหอม “แล้วแม่จะไปอยู่ไหน แม่หอมอยู่กันเน่ก็ได้ คอนโดแม่เนตรก็ออกจะกว้างใหญ่”

“เน่ เน่ฟังแม่นะลูก” เทียนหอมนั่งชันเขา เอามือจับแขนเนเน่ “แม่ก็ตอบหนูไม่ได้หรอกลูก ว่าแม่จะไปไหน และทำอะไร”

“แม่จะให้หนูอยู่คอนโดนั่นคนเดียวเหรอ หนูไม่เอานะ หนูกลัว” เทียนหอมน้ำตาไหล ดึงเนเน่มากอด

“แม่อยู่ที่นี่ไม่ได้หนูก็รู้ ว่าแม่รักพ่อเด็จของหนูแค่ไหน ให้แม่ไปเถอะนะ อย่างน้อยถ้าแม่ไม่อยู่ใกล้เค้าแม่ก็คงจะพอทำใจได้”

“แม่..หนูขอโทษ หนูขอโทษจริงๆนะ หนูเข้าใจแล้ว หนูเข้าใจแล้ว แม่เงียบซะนะแม่ แม่อย่าร้องนะ” เนเน่เลื่อนตัวลงมาเช็ดน้ำตาให้แม่หอม แล้วก็กอดคอร้องไห้กัน นับวันเวลาถอยหลังที่จะต้องลาจากกันอีกคนแล้วเหรอนี่ แล้วต่อไปนี้เนเน่เธอจะอยู่ยังไง

   2 ทุ่ม เผด็จยังไม่กลับเข้าที่พัก หลังจากที่ทุกคนนั่งทานข้าวและแยกย้ายกันเข้าห้องที่ชั้นสอง เบ็นซ์กับแป๋วมีห้องส่วนตัวอยู่แล้ว เพ็ญกลับมาใช้ห้องใหญ่ของเผด็จที่เคยอยู่ ให้เบียร์ไปพักกับเธอที่นั่น <ห้องเก่าโบว์> ส่วนเทียนหอมก็นอนกอดเนเน่ อยู่ที่ห้องรับรองอีกห้องนึง หลับไปแล้วทั้งคู่ เพ็ญเอาเสื้อกันหนาวตัวใหญ่และหนามาใส่ เดินขึ้นไปดูเผด็จที่บนยอดเขา เผด็จยังคงนั่งและจิบเหล้าอยู่เช่นเดิมที่นั่น ตรงศาลาริมชะง้อนเขาที่สำหรับใช้ดูวิว สภาพดูแล้วช่างน่าสงสารและสมเพศจริงๆเหมือนคนไม่มีหัวใจ

< รอยรัก - รถด่วน STATE EXPRESS > https://www.youtube.com/watch?v=kh1u4aVD5ls

   เพ็ญยืนดูอยู่ห่างๆและเสียใจกับการเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เบียร์เดินตามลงมา “เพ็ญฉันว่าแกกลับเข้าไปข้างในเถอะนะ”

“เบียร์ นี่ตกลงวันฉันควรจะดีใจหรือเสียใจดีกับเรื่องนี้ดี ทำไมหละอาเต๋าถึงกลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว เหมือนเมื่อ 2 ปีก่อนเลย ตอนที่อานุชตายใหม่ๆ ทำไมฉันทำผิดอะไรเหรอเบียร์อาเต๋าเค้าถึงได้ลงโทษฉันถึงขนาดนี้ นี่ตกลงว่าเค้าไม่เคยรักฉันเลยใช่ไหมไอ้เบียร์ ใช่ไหม ฉันควรจะทำยังไงไอ้เบียร์บอกฉันที บอกฉันที ฉันไม่ไหวแล้วนะ ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ” แล้วเพ็ญก็ทรุดตัว นั่งร้องไห้

“คนก็ตายไปแล้ว ทำไมหละเบียร์ ทำไมเขาถึงไม่ยอมลืมเสียที นี่ถ้าคนที่ตายไปเป็นฉัน มันคงจะดีกว่าใช่ไหมแก ใช่ไหม”

“ไม่เอาซิเพื่อน ไม่เอา ไม่พูด อาเต๋าเขาคงไม่ได้คิดอย่างนั้นแน่นอนฉันเชื่อนะเพ็ญ อาเต๋าเค้ารักแกนะฉันรู้ แต่แกต้องให้เวลาเค้าหน่อยซิ คนตายไปตั้ง 4 คนพร้อมๆกันเลยนะแก แกต้องให้เวลาเค้า แกต้องให้เวลา เรื่องพวกนี้มันลืมกันไม่ได้ง่ายๆนะเพื่อนนะ”

“สักวันนะเบียร์ ถ้าเขายังเป็นแบบนี้อยู่นะ ไม่เป็นไรลูกคลอดออกมาเมื่อไหร่ แล้วฉันจะไม่สนใจเขาเลย คอยดู แกคอยดูฉันบ้าง

   เพ็ญเหมือนจะอาฆาตแค้นกับความเย็นชาและเมินเฉยแบบนี้ของเผด็จ จึงได้แต่เก็บกดความรู้สึกนี้เอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาระเบิด

..... +++++ .....

   หลังจากกลับมาจากเกาะ แป๋วได้ปรึกษากับเบ็นซ์แล้ว คงต้องถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันเสียที เพราะ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ทุกคนก็ต้องมีหนทางเดินของตัวเอง อยากเจอกันเมื่อใดก็ไปหากันได้ ทุกคนต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง คอนโดนั้นทั้งสองคนจึงตัดใจขาย แล้วเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญให้กับโบว์ และแป๋วก็ตัดสินย้ายไปอยู่กับสนที่บ้านใช้ชีวิตแบบคู่ผัวตัวเมียอย่างเรียบง่าย

   ส่วนเบียร์ก็เข้าใจถึงการทำเช่นนั้น จึงตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับคฑาทันที และได้ย้ายออกไปอยู่กับคฑาที่บ้านเช่าหลังเล็กๆที่เช่าอยู่ หลังตลาด เมื่อตัดสินใจเป็นคนคนเดียวกันแล้ว เบียร์จึงคุยกับคฑาปรึกษากัน ตัดใจผ่อนบ้านหลังเล็กๆอยู่ด้วยกันตามประสาสองคนผัวเมียและตัวเองก็ใช้เวลาหลังเลิกงานไปขายของช่วยสามี ค่อยเป็นค่อยไปตามประสาของคนจนๆแบบนี้เป็นประจำทุกวัน โดยไม่ปริปากบ่นถึงความเหนื่อยยากลำบากใดๆ จึงทำให้คฑารักเบียร์มากขึ้นทุกวัน แค่ทั้งสองคนยิ้มให้กันก็ทำให้ชีวิตมีสุขแล้ว

xxxxx ===== xxxxx

   ต้นกล้าใจดีสู้เสือ วันนี้ยังไงก็ต้องขอเมียแต่งงานให้ได้ เพราะเห็นคนอื่นเค้าเริ่มมีครอบครัวกันหมดแล้ว อายุก็มากขึ้นทุกวัน

“แต่งงานกับพี่นะเบ็นซ์” ต้นกล้าคุกเข่าขอเบ็นซ์แต่งงาน ท่ามกลางเพื่อนๆขณะที่หยุดพักถ่ายแบบที่ทะเล เบ็นซ์เอียงอายอยู่นาน ขณะที่เพื่อนๆนางแบบรอลุ้นอยู่ “แต่งเลยๆ” ไม่นานเบ็นซ์พยักหน้า ต้นกล้าดีใจมาก จึงสวมกอดเมียด้วยความดีใจและหอมแก้มเบ็นซ์ต่อหน้าเพื่อนๆ เบ็นซ์ใจอ่อนยอมแต่งด้วย เพราะไม่อยากเป็นเหมือนโบว์ รักใครชอบใคร ก็อย่าโกหกหัวใจตัวเอง

>>>>> ----- <<<<<

   วันเวลาผ่านไป ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา เกศินีได้พบรักกับคุณหมอในโรงพยาบาลเดียวกัน จึงตัดสินใจแต่งงานกันแบบเงียบๆเรียบง่าย เชิญแขกไม่กี่คน ไม่เอิกเกริกมาก แต่งแบบคริสต์ เข้าโบสถ์และขอผิงกับเบื้องไปอยู่ด้วย ถึงเกศจะแต่งงานใหม่แต่ก็ไม่ยอมถอดเลสที่เผด็จให้ไว้ สามีใหม่เข้าใจว่านั่นคือของขวัญชิ้นสำคัญที่เกศขอเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพื่อนึกถึงคนที่เธอเคยรัก และเป็นพ่อของลูกเธอ จะมีก็แต่แหวนแต่งงานที่เผด็จให้ไว้ที่นิ้วนางซ้าย เธอก็แค่ย้ายจากซ้ายมาไว้ที่นิ้วนางข้างขวาแทนก็เท่านั้น เพราะหมอจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เผด็จจึงยอมบอกความจริงกับผิงว่า เกศินีคือแม่ที่แม้จริงของเธอ

   เผด็จยืนอยู่ดาดฟ้าหลังบ้าน กำลังคุยอะไรบางอย่างกับแม่ผาด เมื่อตัดสินใจได้จึงหันไปหาผิง

“ผิง มันคงถึงเวลาแล้วหละ ที่พ่อคงต้องบอกความจริงบางอย่างกับลูก” ผิงเดินเข้ามากอดพ่อ “อะไรเหรอคะพ่อ”

“รักน้าเกศไหมลูก” ผิงมองหน้าพ่อแปลกๆ “รักซิคะ พ่อถามทำไม พ่อชอบน้าเกศเหรอ แต่ถ้าพ่อจะเอาน้าเกศมาเป็นแม่หนู หนูไม่เอานะเพราะหนูมีแม่คนเดียวคือแม่นุช” เกศินีแอบฟังอยู่ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลออกมา จนต้องวิ่งหนีกลับโรงพยาบาลไปทันที

“ผิง ฟังพ่อดีๆนะลูก นี่คือเรื่องจริงที่พ่อปิดบังหนูมานานแล้วถึง 16 ปีแล้ว” ขนมผิงทำท่างง พ่อพูดอะไร

“เกศินี คือแม่แท้ๆของหนูกับพ่อ” ขนมผิงตกใจถึงกับขาอ่อนทรุดลงก้นกระแทกพื้น ย่าผาดวิ่งเข้ามาพยุงตัวไว้ก่อนที่จะหงายหลังตึงลงไปหัวกระแทกพื้น “เบื้องมาเอาพี่แกไปก่อนเร็ว” เบื้องวิ่งมาพยุงพี่สาวทันที ไม่นานเผด็จรีบอุ้มลูกเข้าบ้านไปนอนที่เตียง

   ขนมผิงรับไม่ได้ในครั้งแรกที่รู้ความจริงเรื่องแม่ พอไปตรวจ Dna 1 สัปดาห์ผ่านไปผลออกมาปรากฏว่า 100% เธอจึงยอมรับ

“แม่ แม่หนูยังไม่ตาย” ขนมผิงดีใจมาก สวมกอดแม่เกศของเธอแบบไม่รู้ว่าจะดีใจยังไง และยอมตามแม่ตัวเองไปเมืองนอกด้วย แต่ขนมเบื้องหนะซิ ทุกข์กลับมาตกกับเด็กคนนี้ ขนมเบื้องคงต้องอยู่คนเดียวเพราะไม่มีแม้แต่แม่และพี่สาว คงเหงา

   เกศินีบอกเผด็จ “พี่หนูก็รักเบื้องเหมือนลูกคนหนึ่งของหนูนะ ขอเอาเบื้องไปด้วยนะ” เกศินีหันไปหาเบื้องแล้วอ้าแขนรับลูกชาย

“มาหาแม่ซิลูก” ขนมเบื้องดีใจน้ำตาไหลไม่รีรอที่จะเรียกเกศว่าแม่ “แม่ เบื้องมีแม่แล้ว เบื้องไม่เหงาอีกแล้ว”

   เกศินีเอามือลูบหัวลูบหลังขนมเบื้อง ดันตัวออกมาแล้วหอมแก้มซ้ายขวา ไม่ได้รังเกียจอะไร รักจริงๆเหมือนขนมผิง

“ไปอยู่เมืองนอกกับแม่นะลูก ไปกันทั้งสองคนนี่แหละ” แล้วเกศก็หันไปถามเผด็จ “นะพี่นะ หนูขอลูกไปอยู่กับหนูนะพี่”

   เผด็จยอม ยิ้มให้ ผิงกับเบื้องดีใจมาก จึงวิ่งไปกอดพ่อ เพราะอีกเมื่อไหร่ไม่รู้ที่จะได้กอดพ่อบังเกิดเกล้าคนนี้อีก เพราะต้องย้ายไปเรียนต่อและอยู่ที่ต่างประเทศเป็นการถาวร ทั้งหมดจึงไปอยู่เมืองนอก โดยมีย่าผาดตามไปอีกคน เพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ต้องอยู่ที่อากาศเย็นๆ เผด็จจึงต้องยอมอีกเช่นกัน สรุปลูกทั้งสองคนของเผด็จได้ย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศและใช้ชีวิตอาศัยอยู่ที่นั่นเลย

%%%%%% ----- %%%%%%

   เพ็ญเสียใจที่ตัวเองทำผิดมหันมากในการครั้งนี้ เบียร์มาปลอบใจเท่าใด เพ็ญก็ไม่ดีขึ้น ขนาดไปทำงานบางครั้งจิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำงานผิดบ้างถูกบ้างจนหัวหน้าต้องว่ากล่าวตักเตือน บางครั้งเจออัธวุฒิทักทาย เธอก็ไม่ตอบจนเบียร์ต้องขอโทษแทนทุกครั้งไป เผด็จกลับไปเป็นขี้เมาดังเดิม แทนที่เพ็ญจะมีความสุขเพราะได้เผด็จมาครองแล้ว แต่ทำไมเธอจริงเหมือนตกนรกทั้งเป็น

****** ----- *****

   เทียนหอม หลังจากที่เสร็จงานทุกอย่างทางนี้แล้ว ไม่ว่าจะงานศพโบว์/เนตร ทำบุญอุทิศส่วนกุศล การถอนเงินปิดบัญชีและทำพาสปอต ก็ได้ขอตามแม่ผาดไปเมืองนอกเช่นกัน พร้อมเกศินี เพื่อนของเธอ เทียนหอมตัดใจยอมทิ้งเผด็จ เพราะเผด็จมีลูกกับเพ็ญ

   เนเน่มายืนส่งแม่หอมที่สนามบินสุวรรณภูมิพร้อมคร้ามกับพู่กัน ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ทุกคนได้แยกย้ายกันไปตามเส้นทางเดินของตัวเอง เกศให้เวลาเทียนหอมร่ำลาครอบครัวที่เหลืออยู่เป็นครั้งสุดท้าย ก็คือเนเน่ คร้ามและพู่กัน

“แม่ไปก่อนนะเน่ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก มีอะไรก็ไลน์ไปคุยกับแม่ได้ แต่ถ้าไม่มีเวลาแม่ก็ไม่ว่า พู่กันพี่ฝากดูไอ้เน่มันด้วยนะ มันยังเด็กอยู่มีอะไรก็อย่าทิ้งมันหละ พี่ฝากลูกสาวพี่ด้วยนะ” พู่กันพยักหน้า แล้วก็หันไปหาคร้าม วันนี้ไม่เมามาแบบคนปกติ

“น้าก็เหมือนกัน หนูไม่อยู่แล้ว ดูแลไอ้เน่มันด้วยอย่ามัวแต่เอาเวลาไปกินเหล้า เหลือมันคนเดียวแล้วนะ ยังไงก็อย่าทิ้งขว้างมันหละ หนูสงสารมัน มันกำพร้าแม่มาถึงสองครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็อย่าให้มันกำพร้าตาที่มันเหลืออยู่เพียงคนเดียวอีกเลย ทำได้ไหมน้า”

“ได้ไอ้หอม ข้าขอโทษนะกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ข้าเข็ดแล้วจริงๆไอ้เรื่องเหล้าเนี่ย ต่อไปข้าจะทำสวนทำไร่อย่างเดียว ข้าให้สัญญา”

   เทียนหอมต้องตัดใจลาลูกสาวคนนี้จริงๆเสียที “แม่ โชคดีนะแม่นะ หนูรักแม่หอมนะ” เทียนหอมโบกมืออำลาทั้งสามคน เนเน่ คร้ามและพู่กัน ก็โบกมือลาทุกคนๆเช่นกัน เทียนหอม ขนมผิง ขนมเบื้อง ย่าผาด เกศและสามีใหม่ เดินเข้าประตูสำหรับขึ้นเครื่อง

   และแล้ว เทียนหอม ขนมผิง ขนมเบื้อง ย่าผาด เกศและสามี ก็ได้เดินทางจากประเทศไทยไปแล้วอีกกลุ่มหนึ่ง เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้าไปสหรัฐอเมริกาก็ได้ลับสายตาของเนเน่ คร้ามและพู่กันไป เผด็จแอบมาส่งครอบครัว แต่ไม่ได้ปรากฏตัวให้พวกลูกๆเห็น

///// +++++ /////

   อ้อมกับปริ๊นซ์ทั้งสองรักและมีใจให้กันจนเป็นที่แน่ใจแล้ว พอจบงานนี้ อ้อมจึงตัดสินใจลาออกจากราชการและขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก่อน 2 ปี ขอทำตามฝันก่อน “รอหนูนะพี่ปริ๊นซ์ แค่ 2 ปีเอง หนูขอไปทำตามความฝันของหนูก่อน พอหนูเรียนจบแล้วรับรองหนูจะกลับมาแต่งงานกับพี่ทันที สัญญาได้ไหม ในเมื่อพี่ขอหมั้นหนูก่อน หนูก็ทำให้แล้ว ดังนั้นพี่ก็ต้องรอเข้าใจไหม”

“ครับที่รัก สาวน้อยของพี่ 2 ปี แป๊บเดียวเองเนาะ โซเชียลก็มี หนูติดต่อหาพี่ได้ทุกที่ทุกเวลา ถ้ากลัวพี่เปลี่ยนใจ Ok”

“ก็ลองดูซิ ถ้าหนูรู้เมื่อไหร่นะว่านอกใจ ตาย” ยังไม่ทันแต่งเลย แววก็ออกมาแล้วว่าปริ๊นซ์คงเข้าชมรมกลัวเมียแน่

----- ^^^^^ -----

   หมอไตรทศกับม่านมุก ทั้งสอง ยังคงมีใจให้กันเมื่อตกลงกันได้ ว่าม่านมุกจะรอหมอถึง 4 ปี ถ้าถึงเวลาก็จะกลับมาแต่งงาน

“สัญญานะมุก อีก 4 ปีแล้วผมจะกลับมาทวงสัญญา ถ้ามุกยังมั่นคงกับผมเหมือนอย่างที่พูดเอาไว้”

“ค่ะหมอ มุกสัญญา” ม่านมุกให้สัญญา ไตรทศหันไปหาเพื่อนรัก

“ฉันไปก่อนนะเพื่อน แล้วอีก 4 ปีเจอกัน หวังว่ากลับมาคราวหน้า ฉันคงได้เห็นลูกแกนะไอ้วิทย์” วิทย์ยิ้มแล้วหันไปมองขิง

“อะไร” ขิงตีแขนสามี “ไม่ต้องมามองเลย โน่นไปคุยกับเพื่อนเลย” ม่านมุก ยื่นของสิ่งหนึ่งให้ไตรทศเป็นสิ่งรับประกัน

“อะไรหนะมุก” ไตรทศอยากรู้ว่าข้างในคืออะไร

“สัญญากับมุกนะว่า อย่าเปิดกล่องนี้ออกก่อนจนกว่าจะครบ 4 ปี ต้องเปิดกล่องนี้ให้ตรงกับวันที่ ที่ระบุไว้บนกล่องเท่านั้นนะ ถ้าทศเปิดก่อนเมื่อไหร่มุกจะรู้ทันทีเพราะมุกได้ใส่เซ็นเซอร์เอาไว้แล้วกับโทรศัพท์มุก มุกจะโกรธทศไปตลอดชีวิตด้วยโทษฐานที่ทศไม่จริงใจและไม่รักษาสัญญา” ในกล่องนั้นคือ คำตอบตกลงแต่งงาน แต่ม่านมุกต้องการลองใจดูซิว่า ไตรทศจะมีความมั่นคงกับความรักในครั้งนี้กับเธอจริงๆหรือไม่ และแล้วหมอไตรทศก็ได้จากประเทศไทยไปอีกหนึ่งคนภายในเวลาที่ห่างกันไม่กี่สัปดาห์

   ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา หลังจากที่กลุ่มของเทียนหอมได้จากไปก่อนแล้ว วันเวลาได้หมุนผ่านเปลี่ยนไปตามธรรมชาติเสมอ

***** ----- *****

   สุนีย์ ได้คืนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพชรรัตน์ ให้กับเบ็นซ์ซึ่งเป็นทายาทตัวจริงคนสุดท้ายและกรรมสิทธิ์ทุกอย่างทั้งหมด

“นี่นะคะคุณเบ็นซ์ เอกสารการครอบครองและถือสิทธิ์ทั้งหมดของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพชรรัตน์ ซึ่งตั้งแต่ต้นนั้น มันเป็นของพ่อและแม่คุณ ก่อนที่ฉัตรเทพจะมาหักหลังและฮุบไว้ครอบครองเพียงคนเดียว ดิฉันขอคืนทั้งหมดให้กับทายาทตัวจริงซึ่งคือคุณที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ดิฉันได้ทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ทุกอย่างทั้งหมด ให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไม่มีอะไร ดิฉันก็ขอตัวลาตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ เพราะต้องรีบไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน ต้องรีบเดินทางหนะค่ะ ที่นัดคุณมาเนี่ยก็เพื่อจะสะสางงานทุกอย่างให้มันจบเสียที”

“คุณสุนีย์จะไปไหนเหรอคะ น่าจะอยู่ช่วยงานกันก่อน ไปแบบปุบปรับแบบนี้ หนูตั้งตัวไม่ทันเลย บอกตามตรงเสียดายฝีมือมาก”

“ขอบคุณมากเลยค่ะ พอดีอายุมากแล้ว ก็เลยอยากขอพัก พอดีหลานสาวชวนไปอยู่ด้วยที่ปารีส ก็เลยตัดสินใจไปหนะค่ะไม่มีอะไรมาก แก่แล้วก็แบบนี้แหละ54 แล้วปีนี้ ก็ไม่อยากที่จะก้มๆเงยๆอะไรแล้ว ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานให้เขาดีกว่าสบายใจดี”

“ถ้างั้นก็เชิญเลยแล้วกัน เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องบิน ออกกี่โมงคะ แถวนี้รถก็ติดเสียด้วย นี่ก็ 10 โมงแล้ว”

“บ่าย 2 ค่ะ คิดว่าทัน ไปลูกลาคุณน้าเค้าซะ” สุนีย์บอกให้ใต้ฝุ่นไห้วเบ็นซ์

“ลูกชายใครคะเนี่ยน่ารักน่าชังเชียว ว่าจะถามตั้งแต่เข้ามาแล้ว ไหนขอน้าอุ้มหน่อย หอมหน่อยได้ไหมครับ”

   ใต้ฝุ่น เฉยๆไม่มีปฏิกิริยา เบ็นซ์ จะอุ้มจะหอม ใต้ฝุ่นก็ไม่ว่าอะไร ทำหน้าบ้องแบ๊วจ้องหน้าเบ็นซ์แบบว่าจดจำ เหมือนกับว่า สักวันหนึ่งเขาต้องได้กลับมาเจอหน้าผู้หญิงคนนี้อีกแน่นอน ในความรู้สึกของเด็ก 5 ขวบขณะนี้

“ขอตัวไปก่อนนะคะคุณเบ็นซ์ขอให้โชคดีกับการงานและชีวิตใหม่นะคะ บาย สวัสดีคุณน้าเบ็นซ์ด้วยครับใต้ฝุ่น เด็กดี”

   ใต้ฝุ่น ยกมือสวัสดี เบ็นซ์มีความรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้มากเช่นกัน คิดว่าสักวันคงได้เจอกันอีกแน่นอน “สวัสดีครับ ใต้ฝุ่น” จากนั้นสุนีย์ได้พาใต้ฝุ่นบินไปปารีสทันที เพื่อไปตั้งรกรากที่นั่นตามคำสั่งเสียของเนตรก่อนที่จะเสียชีวิต พร้อมโอนเงินบัญชีของเนตรทั้งหมดในเมืองไทยย้ายไปไว้ที่ปารีสด้วย พร้อมเงินสดเท่าที่เหลืออยู่ ถอนออกมาหมด เพราะเนตรให้กรรมสิทธิ์นิติกรรมทั้งหมดกับสุนีย์ไว้ก่อนแล้วและให้ย้ายชื่อใต้ฝุ่นลงชื่อในทะเบียนบ้านของเธอ โดยระบุว่าเป็นยายของใต้ฝุ่น เพราะเนตรอัปสรไม่มีทะเบียนบ้านที่กรุงเทพ จะมีก็แต่ที่กาฬสินธุ์ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา และแล้วสุนีย์กับใต้ฝุ่นก็ได้ไปจากเมืองไทยอีกสองคน

///// +++++ /////

   ขิงชวนคฑามาเยี่ยมพ่อที่คุก แทนไทเดินออกมาพบกับทั้งสองคนในสภาพที่ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมมาก ดูผอม คล้ำและโทรม

“ป๊าเป็นไงบ้าง สบายดีไหม หนูกับคฑามาเยี่ยม” แทนไทมองดูลูกสาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว

“ป๊าสบายดีลูก ก็ตามอัตภาพนะ นักโทษจะเอาอะไรมากมาย มันก็ไม่สบายเหมือนกับที่บ้านเราหรอก”

“ป๊าอยากได้อะไรป๊าบอกผู้คุมได้เลยนะ เดี๋ยวหนูจะจัดมาให้ ผ้าห่มป๊าห่มเยอะๆนะอากาศมันเย็น ป๊ายิ่งไม่สบายอยู่”

“แล้วนายหละคฑา เป็นไงบ้าง เห็นเคยบอกกับฉันว่าอยากจะทำมาค้าขาย ตอนนี้เริ่มทำตามความฝันรึยัง”

“ทำแล้วครับท่าน ผมกับแฟนได้เซ้งร้านในห้างแล้วครับ ค่อยๆทำค่อยเป็นค่อยไปตามอัตภาพ”

“แล้วแต่งงานกันรึยังหละ” แทนไทก็ชวนคุยไปอย่างนั้นแหละที่จริงไม่อยากจะคุยเท่าใดนักเพราะอายลูก

“ไม่ได้แต่งหรอกครับ เราสองคนแค่จดทะเบียนกันเฉยๆเพราะเราคิดว่าต้องเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคตและครอบครัวกันอีกเยอะหนะครับ จึงไม่อยากเอาเงินส่วนนั้นมาละลายแบบเปล่าประโยชน์แบบไม่จำเป็น”

“ดีแล้ว และขิงหละลูกเป็นไงบ้าง มีเจ้าตัวเล็กรึยัง แต่งงานมาก็นานแล้วนะ ไม่เหงาบ้างเหรอ”

“ยังค่ะป๊า ตอนนี้หนูยังไม่พร้อม ขอทำงานให้เต็มที่ก่อน ยังสนุกกับงานอยู่ ตอนนี้หนูได้ย้ายมาอยู่ฝ่ายงบประมาณ ไม่ต้องทำงานฝ่ายปราบปรามเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ เอาไว้หนูเบื่อเมื่อไหร่ แล้วหนูจะพาหลานตามาให้ป๊าเลี้ยงจนเบื่อไปเลย สัญญากับหนูนะว่าป๊าจะทำตามที่หนูบอก ออกกำลังกายและทานยาให้ตรงเวลานะป๊า”

“หมดเวลาแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เดินมาบอก “ป๊า ป๊า ป๊า แล้วหนูจะมาเยี่ยมป๊าอีกนะ ป๊า ดูแลตัวเองด้วยนะป๊า”

“คุณขิง พอแล้ว ท่านเข้าไปข้างในแล้ว ไม่ได้ยินแล้ว ตัดใจซะเถอะครับ โอกาสหน้ามีเวลาเราค่อยมากันใหม่ กลับกันเถอะครับ”

***** ฿฿฿฿฿ *****

   เผด็จเอาเนเน่ มาอยู่ด้วยที่บ้านด้วย ไม่อยากให้อยู่คนเดียว เพราะเมื่อก่อนเนเน่อยู่กับเนตรมาตลอด พ่อก็ซึม ลูกก็ซึม เพ็ญก็ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตตัวเองเหมือนกัน บ้านเหมือนไม่ใช่บ้าน บางวันเผด็จก็เมา งานการไม่ค่อยจะไปทำ จนผู้ใหญ่ชักจะไม่ค่อยชอบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเชี่ยวขอไว้ หางานเบาๆให้เขาทำ ไม่ต้องโยนงานปราบปรามให้ทำอีกแล้ว ให้ไปอยู่ฝ่ายฝึกสอนแทน เป็นครูสอนศิลปป้องกันตัวคล้ายๆกับทับทิม ส่วนเนเน่ เผด็จก็ให้ไปเรียนอย่างเดียว ไม่ต้องทำงาน กลับมาก็ให้ช่วยทำงานบ้านบ้างเท่านั้น

***** +++++ *****

   ทับทิมท้องก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน แต่ยังไงก็ยังไม่โตเท่าเพ็ญ เพราะเพ็ญจวนใกล้คลอดแล้วอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 7 เดือนได้แล้วมั้ง เวลาผ่านไปเร็วมาก 2 เดือนหลังจากที่โบว์กับเนตรได้เสียชีวิตไป ชีวิตของทุกคนได้เปลี่ยนไปมากจริงๆ

   พลอยใสกับกันตภณก็แต่งงานกันเงียบๆเช่นกัน เชิญกันเฉพาะในกลุ่มของฟิตเนต ปูน ทับทิมและเปาเปา กันตภณเปิดร้านซ่อมคอมเล็กๆควบคู่ไปด้วยกับฟิตเนตของเมีย ทุกคนเริ่มมีครอบครัว มีความสุขไปตามอัตภาพของชีวิต

   แตงโมก็ไม่ได้ออกไปบู๊ที่ไหนอีกแล้วเป็นทนายว่าความอย่างเดียว ปูนก็เช่นไม่ได้เป็นวิหคขาวออกไปบู๊ที่ไหนขอเป็นศรีภรรยาที่ดี เพราะตอนนี้เริ่มตั้งครรภ์อ่อนๆตามหลังทับทิมมาติดๆ 1 เดือนแล้ว ส่วนทับทิม 2 เดือน

   ตั้งแต่นั้นมา หลังจากที่เสร็จศึกครั้งสุดท้ายที่ไทรโยค ตำนานของ Hero ภายใต้หน้ากาก ก็ได้หายสาบสูญไปจากชีวิตของคนในประเทศไทย แล้วไม่มีใครได้กล่าวและพูดถึงอีกเลย แม้กระทั่งข่าวโจรผู้ร้ายในปัจจุบันก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

   สองพ่อลูกอัธวุฒิและอัธวิทย์ มีหน้าที่และตำแหน่งการงานรับผิดชอบมากขึ้นเพราะตั้งแต่เสร็จศึกที่ไทรโยค ผู้ใหญ่ก็ได้เล็งเห็นถึงความสามารถและศักยภาพของสองพ่อลูกว่าเป็นเช่นไร ทุ่มเทให้กับงานแค่ไหน จึงทำให้สองพ่อลูก งานยุ่งขึ้นทุกวันจนภรรยาของทั้งสองคนเริ่มเป็นห่วงกลัวจะเป็นเหมือนกับเผด็จในอดีตที่ทุ่มเทกับงานมากไปจนลืมครอบครัว จึงต้องมีการพุดคุยกันบ้าง

“พี่ป๋อง” ทับทิมเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาหาสามีที่ห้องทำงาน “พักบ้างก็ได้งานที่ทำหนะ นี่มันดึกแล้วนอกเวลางาน เอาเวลามาดูหนูกับลูกดีกว่านะ หนูไม่อยากให้พี่เป็นเหมือนกับอาเด็จนะ ที่ทำงานจนลืมครอบครัวหนะ หนูอยากให้ลูกหนูมีพ่อเป็นแค่บุคคลธรรมดา ไม่ใช่ Hero หรือ Superman ที่ไหน นะพี่นะ” ป๋อง ทนลูกอ้อนของเมียไม่ไหว จึงต้องปิดเครื่องคอม แล้วเดินกลับห้องไปกับเมีย

   ส่วนทางอัธวิทย์ขิงก็ทำคล้ายๆกับทับทิม เพียงแต่พิเศษกว่าตรงที่ พยายามเอาอกเอาใจ พอวิทย์ทำงานก็เอาหน้าหันมาหอมแก้มซ้ายขวาตลอดเวลา จนวิทย์ทำงานไม่ได้ “ทำอะไรหนะขิง วิทย์จะทำงาน ขออีกนิดนึง เดี๋ยวงบประมาณที่จะส่งพรุ่งนี้ไม่เสร็จ”

“ไม่เอา นี่มันก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว ไม่ใช่เวลางาน งานถ้าจะทำต้องเอาไปทำที่ทำงาน นี่มันที่บ้าน ต้องทำการบ้านถึงจะถูก มาเร็ว มาทำการบ้านก่อน หมู่นี้วิทย์เกเรนะ ไม่ชอบส่งการบ้านขิงเลย ถ้าขืนทำแบบนี้บ่อยๆ ไอ้ตัวเล็กมันจะมาอยู่กับเราได้ยังไงหละวิทย์”

   แหม พอพูดถึงเรื่องลูก อัธวิทย์ถึงกับปิดเครื่องคอม ด้วยความไว ปิดไฟแล้วก็เริ่มทำการบ้านส่งคุณครูขิงทันทีอย่างไว 5555+

>>>>> ***** <<<<<

   คร้ามชวนต้นกล้าไปเป็นเกษตรกร ทำสวนแต่ไม่ใช่เป็นชาวนาปลูกข้าวที่สุพรรณ ต้นกล้าก็สนุก ส่วนพู่กันก็ยังคงทำงานที่ 7 นานๆก็จะออกมาสังสรรค์กับทีมบ้าง เพราะเป็นเด็กกำพร้า ต้องหาเลี้ยงตัวเองไม่มีญาติที่ไหน แต่ก็เรียนจบได้เพราะเผด็จส่งเสียมาตลอดควบคู่ไปกับเนเน่ จึงทำให้ทั้งสองคนมีเวลาเรียนได้เต็มที่ ผลการเรียนก็ดีมาตลอด พู่กันจบก่อนเนเน่ เนเน่เหลืออีก 2 ปี

<<<<< ===== >>>>>

   2 เดือนผ่านไป ครบ 9 เดือน บ่ายโมงนิดๆ เพ็ญก็เกิดอาการปวดและเจ็บท้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน ขณะที่กำลังนั่งทำงานเพลินๆอยู่ในบ้าน วันนี้เหงาๆก็เลยขอให้เบียร์มาอยู่ด้วย วันนี้เป็นวันอังคารไม่มีตลาดนัด เบียร์จึงชวนสามีมาเป็นเพื่อนด้วย เบียร์ตกใจเมื่ออยู่ดีๆเห็นเพ็ญร้องไห้ออกมาและบ่นว่าปวดท้อง สักพักน้ำเดินก็เริ่มซึมแตกไหลออกมาทีละนิดอย่างช้าๆ จึงรีบบอกคฑา

“พี่ ไอ้เพ็ญเป็นอะไรหนะ มีน้ำอะไรไหลออกมาด้วยหนะ พี่”

“สงสัยเพ็ญคงจะใกล้คลอดแล้วหละเบียร์” คฑาเดาเอาจากอาการที่เห็น

“งั้นพี่รีบเอารถออกเลย ต้องพาไอ้เพ็ญไปโรงพยาบาลแล้วหละ”

“แล้วโรงบาลไหนหละ” คฑายังไม่รู้

“เออ นั่นซิ ไอ้เพ็ญๆ แกฝากท้องที่ไหน แกฝากที่ไหน”

“ธนบุรี 2” ตรงสาย 2 หนะ รู้จักไหม โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ต่อไปฉันจะไม่มีลูกอีกแล้ว เจ็บ เข็ดจนตายเลย ไอ้เบียร์ ฉันเจ็บ ฉันปวด”

   เพ็ญมือเกร็ง จิกไปที่แขนเพื่อนจนเบียร์ต้องแกะมือเพ็ญออกมา เพราะเล็บเพ็ญจิกลงไปที่แขนเจ็บมาก คฑาวิ่งไปถอยรถมาจอด

“นี่ๆสมุดบันทึกการตั้งครรภ์ เอาไปด้วยนะ อยู่ในตะกร้านั้นหนะ” เบียร์รีบคว้าตะกร้าแล้วตะโกนบอกสาวใช้

“ดวง หล้า ฉันจะพาคุณเพ็ญไปโรงพยาบาลนะ ถ้าคุณอากลับมาอย่าลืมบอกแกด้วยหละ ไปไอ้เพ็ญไหวไหม ลุก”

   แล้วคฑา ก็พาเพ็ญไปที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อถึงทางโรงพยาบาล ก็รีบเอาเข้าห้องคลอดทันที เพราะถึงเวลาที่กำหนดแล้ว เบียร์จึงรีบโทรหาเผด็จ ไม่ติดสักที เพราะเผด็จกำลังนั่งก๊งสุราเพลินตามปกติ

“ทำไมไม่รับนะ คุณอา มัวทำอะไรอยู่ ไอ้เพ็ญกำลังจะคลอดอยู่แล้ว คุณอามัวไปเมาอยู่ที่ไหนเนี่ย”

   เบียร์โมโหมาก ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เท่าที่นึกถึงได้เพียงคนเดียวตอนนี้ก็คือ แป๋วกับเบ็นซ์ พี่สาวสองคนของเธอ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงรีบโทรหาแป๋วทันที แป๋วกำลังขายของอยู่ที่ร้าน “สวัสดีค่ะ”

“พี่แป๋ว นี่เบียร์นะพี่” เบียร์สั่นไปหมดแล้วทำอะไรไม่ถูกจนสามีต้องเข้ามาปลอบใจ “ใจเย็นๆ”

“มีอะไรไอ้เบียร์ ทำไมเสียงแกเป็นแบบนั้น” คฑาดึงโทรศัพท์มาพูดแทน

“คือตอนนี้เพ็ญคงใกล้คลอดหนะครับ ผมเลยพามาที่โรงพยาบาล แต่ผมติดต่อผู้การไม่ได้เลย จะทำยังไงดี”

“เหรอ จริงดิ เพ็ญจะคลอดแล้วเหรอ ตอนนี้อยู่ที่ไหน โรงบาลอะไร”

“ธนบุรี 2 ครับ” แป๋ววางสายทันที รีบบอกกับลูกค้าว่ามีธุระ จึงรีบปิดร้าน เพราะวันนี้อยู่คนเดียว

“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีมีธุระด่วนจริงๆต้องรีบไปแล้ว ขอเก็บร้านก่อนะค่ะ โอกาสหน้าขอเชิญใหม่”

   ลูกค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ไปร้านอื่นแทนแล้วก็รีบโทรหาเบ็นซ์ แล้วบอกให้ไปเจอกันที่โรงพยาบาลดังกล่าว เบ็นซ์รับอาสาที่จะตามเผด็จให้ เพราะคิดว่าคงจะเมาอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่ๆ มีไม่กี่ที่หรอกที่เผด็จจะไปเมาได้ เพราะนี่มันยังอยู่ในเวลางาน

“แกรีบไปก่อนเลยนะแป๋ว เดี๋ยวทางคุณอาฉันจัดการเอง ไปรีบไป”

   แล้วเบ็นซ์ก็รีบขับรถ BMW.สปอตคันใหม่ของเธอออกไป เพราะคันเก่าระเบิดไปแล้ว เบ็นซ์เดาถูกว่าเผด็จอยู่ที่ไหน พอเดินเข้าไปในโรงยิมที่กว้างใหญ่ ก็เห็นเผด็จ กำลังนั่งเมาพิงผนังเหล็กอยู่ จึงเดินเข้าไปหา พอเข้ามาใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นละมุดหึ่งขึ้นมาเลย เบ็นซ์เบือนหน้าหนี จึงหันไปรอบๆเห็นถังน้ำแข็งเล็กๆมีน้ำแข็งละลายอยู่พอประมาณ เธอจึงหยิบและสาดไปที่หน้าเผด็จ เผด็จจึงรู้สึกตัวได้ เอามือปาดน้ำที่หน้า เพราะมันเย็นมาก “ใครวะ” หันไปเห็นเป็นเบ็นซ์ซึ่ง มือขวายืนถือถังน้ำใบเล็กอยู่ เบ็นซ์ใช้มือซ้ายตบหน้าเผด็จทางขวาอย่างแรง “ทำไมถึงทำตัวแบบนี้ นี่เหรอคนที่ฉันเคยรัก นี่เหรอ Super Hero ที่คนไทยพูดถึงกันทั่วประเทศ”

   เผด็จเริ่มสร่างเมานิดหน่อย พูดจาอู้อี้นิดๆ “มาตบหน้าอาทำไมจ๊ะที่รัก หนูเบ็นซ์ คิดถึงอาเหรอถึงมาหาอาที่นี่ มามะให้อาหอมหน่อย คิดถึงจังเลย” แล้วก็ลุกเดินเซไปกอดเบ็นซ์ จะหอมแก้มเธอให้ได้ เบ็นซ์ผลักเผด็จออกไปอย่างแรงจนชนผนังเหล็กล่วงลงไปนั่งอยู่กับพื้น แล้วหันไปหยิบเหล้าที่เหลืออยู่อีกครึ่งแบน เททิ้งลงต่อหน้าจนหมดแล้วโยนทิ้งไป

“คุณอา ตื่นแล้วฟังหนูให้ดีนะ ฟัง ฟัง” เบ็นซ์ถกกระโปรงที่ยาวลุ่มล่ามขึ้นเล็กน้อยและนั่งยองๆลงมา แล้วเอามือบีบคางเผด็จไว้

“ตอนนี้เพ็ญอยู่โรงพยาบาล กำลังจะคลอดลูก ได้ยินไหมคะว่าเพ็ญกำลังจะคลอดลูกของคุณอา” แล้วก็สะบัดหน้าเผด็จทันที

“ลูก ลูกเหรอ เพ็ญจะคลอดลูกของอาแล้วเหรอ” เผด็จสร่างเมาทันที พอเบ็นซ์บอกว่าเพ็ญกำลังจะคลอดลูก

“ก็เออซิวะ จะไปไหม ถ้าจะไปก็ลุกตามหนูมา ไป” เผด็จรีบลุกวิ่งตามเบ็นซ์ไปทันที ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เบ็นซ์ก็มาถึงโรงพยาบาล จอดรถแล้วก็รีบลากเผด็จไปทันที “ขอโทษนะคะห้องคลอดไปทางไหนคะ”

“เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวาค่ะ” แล้วเบ็นซ์ก็รีบลากขี้เมาเผด็จไปทันที เผด็จก็วิ่งตาม เหมือนลูกตามแม่เลย เบ็นซ์วิ่งอ่านป้ายไปเรื่อยๆ มือขวาก็ลากเผด็จวิ่งไปด้วย สักพักพอพ้นหัวโค้ง ก็เห็นเบียร์ คฑา สนและแป๋วยืนออกันอยู่ที่หน้าห้องคลอด

“ไอ้แป๋ว” แป๋วหันมา “ไอ้เบ็นซ์ เร็วรีบพาคุณอามาเร็ว แกนี่เก่งหวะ ที่พาคุณอามาได้”

   แป๋วเคาะประตูห้อง เพราะเมื่อกี้ขออนุญาตคุณหมอแล้วว่าจะขอให้พ่อเด็กเข้ามาด้วย <เอกชนสามารถทำได้ ถ้าทำเรื่องขอไว้> พยาบาลเปิดให้ แล้วดันเผด็จเข้าไป “คุณหมอคะ พ่อเด็กมาแล้ว ยังทันไหม”

“ทันครับ เด็กยังไม่ยอมคลอดเลย สงสัยจะรอพ่อ” เผด็จเดินเข้าไปอยู่ทางซ้ายมือเพ็ญจับมือเอาไว้ “เอ้า เบ่งอีกทีครับคุณแม่ อึ๊บ” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พอเผด็จมา เพ็ญคลอดลูกออกมาให้เผด็จได้ทันทีแบบไม่มีอะไรติดขัดอะไรเลย แสดงว่าลูกรอพ่อมาให้กำลังใจจริงๆ พอเด็กหลุดออกมาจากช่องคลอด พยาบาลก็รีบเช็ดและดูดเอาน้ำคล่ำออกจากจมูกและปากทำความสะอาดเล็กน้อยในเบื้องต้น สุดท้ายตัดสายสะดือ จากนั้น คุณหมอก็ตบก้นเด็กเบาๆ <อุ แว๊ๆๆ> เสียงสวรรค์ ดังออกมาทุกคนในห้องดีใจมาก

“คุณได้ลูกชายนะครับ คุณพ่อ คุณแม่ ขอแสดงความดีใจด้วยนะครับ ร่างกายสมบูรณ์ปกติ แข็งแรงดี น้ำหนัก ประมาณ 3700 กรัม”

   เพ็ญดีใจน้ำตาไหลพร่าง วันนี้ที่รอคอย ได้จบลงเสียที กับการอุ้มท้องลูกชายสุดที่รักคนนี้ นึกถึงเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา เด็กคนนี้ถือว่าแข็งแกร่งมากจริงๆที่สามารถรอดชีวิตมาเกิดแบบร่างกายปกติและสมบูรณ์ได้ขนาดนี้ นับว่าสวรรค์ทรงโปรดแท้ๆ เผด็จก้มลงไปจูบปากเพ็ญและหอมแก้มทั้งสองข้าง กำมือเมียไว้แน่ สักพักพอพยาบาลล้างตัวเด็กห่อผ้ามาอย่างดี

“มาแล้วค่ะคุณพ่อคุณแม่ ลูกชายที่น่ารักน่าชัง เอ้า ไอ้ตัวเล็กอยู่กับคุณพ่อคุณแม่นะลูก ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน่อยนะคะ”

   พอพยาบาลเอาลูกมาให้เพ็ญและเผด็จ จากนั้นก็ถ่ายรูปให้ไว้เป็นหลักฐานถึงความน่ารักและประทับใจ กับครอบครับถึง 10 ภาพ จากนั้นพยาบาลก็เข็นเพ็ญและลูกออกมาข้างนอก เพื่อนๆที่มารอดู ก็รีบวิ่งมาดู หน้าถอดแบบเผด็จมาเปี๊ยบไม่ผิด สำเนาถูกต้อง เบียร์จับมือเพ็ญน้ำตาไหลพร่าง หลานคนแรกออกมาแล้ว คฑาและสน จึงเริ่มอิจฉาเผด็จ อยากมีบ้างเพราะเด็กน่ารักน่าชังมาก

   เนเน่กำลังเรียนอยู่ตรงนั้นพอดี วิทยาลัยทองสุข อยู่เยื้องๆกับโรงพยาบาลธนบุรี 2 ซึ่งเป็นช่วงพักพอดี เบ็นซ์โทรบอกเธอดีใจมาก

“จริงเหรอ น้าเบ็นซ์ น้องหนูคลอดออกมาแล้วเหรอ ผู้ชายด้วย เย้” แล้วเบ็นซ์ก็ถ่ายรูปและส่งเข้าไปให้ในไลน์

“จริงซิวะ น้าจะโกหกแกทำไม เอ้าน้าส่งรูปน้องแกไปให้แล้ว ถ้าอยากมาก็มานะอยู่ที่ โรงบาลธนบุรี 2 นี่เอง”

   แล้วเนเน่ก็วางสายและเปิดไลน์ดูรูปน้องชาย “เย้..น้องชาย ฉันมีน้องแล้ว” เนเน่ดีใจมากจนทำให้เพื่อนๆและอาจารย์งงไปตามๆกัน “ขอโทษค่ะ” จึงรีบวิ่งขึ้นออกมาจากวิทยาลัย เลี้ยวขวาตรงไปที่สะพานลอยหน้า Save-E พอตั้งสติได้จึงหยุด กวักมือเรียกมอไซด์วินให้ช่วยไปส่งที่หน้าปั๊ม ปตท.หน่อย จะข้ามไปที่โรงพยาบาลธนบุรี 2 ไม่นานเนเน่ก็มาถึง ทุกคนกำลังจะขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนห้องพักพิเศษที่ขอไว้พอดี “พ่อ” เผด็จหันมา เนเน่วิ่งไปกอดพ่อ แล้วก็จ้องมองดูน้องชายตัวเอง น้ำตาเธอไหลออกมา

“แม่ ขอบคุณนะที่ให้น้องกับหนู” เพ็ญเอามือลูบหัวลูกสาว

“ขี้แยไปได้ ไอ้ลูกคนนี้ ไม่เอา ร้องไห้ทำไม วันนี้วันดี อย่าลืม ช่วยแม่เลี้ยงน้องด้วยหละ” เนเน่พยักหน้า

   เพ็ญสงสารเนเน่จึงบอกเนเน่ว่า เธอจะเป็นแม่ให้เอง เนเน่อยากมีแม่อยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธหลังจากที่เผาแม่เนตรไปได้ไม่ถึงเดือน

“มาเร็วดีนี่ไอ้ตัวเล็ก ไม่ถึง 10 นาที” เบ็นซ์แซว เนเน่หันมาคุยโว

“โธ่ ก็หนูเรียนอยู่ตรงข้ามเนี่ยเองน้าเบ็นซ์ แป๊บเดียวเอง เรื่องแค่นี้จิ๊บๆสบาย

   วันนี้เป็นวันอังคารที่ 12 ตุลาคม เวลา 14.42 น. เพ็ญได้ให้กำเนิดลูกชายแก่เผด็จอย่างปลอดภัย เผด็จดีใจมาก เพ็ญและเพื่อนๆมีความสุขยิ้มไม่หุบ ทุกคนส่งรอยยิ้มให้กับเด็กน้อยผู้นี้ แล้วทุกคนก็ขึ้นไปพร้อมกันในห้องพิเศษ ที่เผด็จได้ทำการจองเอาไว้แล้ว 

          ***** ฿฿฿฿฿ *****

   1 ปีผ่านไป เผด็จก็ยังคงเป็นครูสอนขี้เมา งานทำบ้างไม่ทำบ้าง ปีที่แล้วเพ็ญเจ็บยังไง เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว เพ็ญก็ยังคงเจ็บเช่นเดิม เผลอๆเจ็บกว่าเดิมอีก เพราะตั้งแต่เพ็ญคลอดลูกออกมา เผด็จไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเธออีกเลยจนถึงทุกวันนี้ เพ็ญให้ลูกชายกับเผด็จก็จริง แต่เผด็จไม่เคยมาสนใจดูแล นานๆจะอุ้มสักที ทุกอย่างจึงมาตกหนักที่เนเน่ ไหนจะเลี้ยงน้อง ไหนจะเรียน

   ขนาดงานวันเกิดครบรอบอายุเต็ม 1 ขวบวันนี้ เผด็จก็ยังเมาได้เหมือนเดิมตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เบียร์ก็เลยต้องมาปลอบใจ เพ็ญได้ตัดสินใจลาออกจากงานแล้ว หลังจากที่คลอดลูกชายออกมาได้ไม่ถึงเดือนเมื่อปีที่แล้ว เพราะไม่มีใครเลี้ยงลูกให้เธอ สงสารเนเน่ที่ต้องวิ่งรอก ทั้งเรียนทั้งเลี้ยงน้อง ตกลงว่านี่มันนรกหรือสวรรค์กันแน่ เพ็ญเริ่มเหนื่อยและท้อใจกับเผด็จไปทุกวัน 

   เพ็ญได้แต่ยืนจ้องมองดูสามีตัวเองพร้อมกับอุ้มลูกอยู่ห่างๆไม่อยากเข้าไปคุยหรือทำอะไรอีกแล้ว ทุกวันนี้ก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ไปวันๆ ไม่หย่าก็เหมือนหย่าทางอ้อม วันนี้พวกเพื่อนๆในกลุ่มของทับทิมก็เอาลูกมาอวดกัน บางคนก็พึ่งคลอด ลูกชายเผด็จ 1 ขวบ ของทับทิมก็เป็นผู้ชาย อ่อนกว่าของเผด็จ 4 เดือน ลูกของปูนก็เป็นชาย อ่อนกว่าของทับทิม 1 เดือน พลอยใสกำลังอยู่ในท้องใกล้คลอดแล้ว เบ็นซ์กับแป๋วก็กำลังอยู่ในท้องเช่นกัน ช้ากว่าเขาหน่อยในกลุ่ม เพราะมัวแต่ทำงาน จึงไม่ค่อยมีเวลาปั๊มลูก

   เนเน่มีความสุขมาก ทีนี้ไม่เหงาแล้ว เพราะมีน้องเยอะแยะให้เลี้ยงเต็มไปหมด เบ็นซ์เริ่มสงสารเพ็ญ เธอได้ลืมเรื่องอดีตเก่าๆไปหมดแล้วที่ผ่านมากับสิ่งต่างๆที่เพ็ญเคยทำไว้กับโบว์ “เพ็ญ” เพ็ญหันมามองเบ็นซ์ ขณะที่อุ้มลูกน้อยอยู่

“พี่เข้าใจนะ ว่าเพ็ญรู้สึกยังไง 1 ปีที่ผ่านมามันทุกข์มันทรมานมาก ที่เราต้องอยู่กับคนที่เฉยชาและไม่ได้สนใจอะไรเราเลย”

“พี่เบ็นซ์ หนูผิดมากเลยเหรอที่รักอาเต๋ามาก จนเผลอทำอะไรผิดลงไปโดยที่ไม่ได้คิดและไตร่ตรอง ความผิดในครั้งนั้นจนปาดนี้แล้ว อาเค้าไม่คิดที่จะยกโทษให้หนูเลยเหรอ ทำไมหละพี่ความผิดนี้มันไม่สามารถลบล้างความชิงชังที่เค้ามีให้ต่อหนูได้เลยเหรอ หนูว่า 1 ปีที่ผ่านมา หนูได้รับโทษจากเขามากเพียงพอแล้วนะพี่ พี่จะให้หนูทำยังไง พี่ช่วยบอกหนูที หนูแทบจะทนไม่ไหวแล้วนะ หนูได้ตัวเขามาครอบครองก็จริง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะทั้งชีวิตและจิตใจ เค้าให้กับพี่โบว์คนเดียวจนหมด หนูรู้ ถ้าหนูรู้ว่าการทำผิดในครั้งนั้น มันจะส่งผลย้อนมาหาหนูแบบนี้ หนูก็คงไม่ทำและถ้ามันสามารถย้อนเวลากลับไปได้ หนูก็ยอมนะพี่”

   1 ปี ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ได้ยุ่งกันอีกเลย เพ็ญก็กลับมาเรียกเผด็จว่าอาเต๋าอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาและทนเลี้ยงลูกมาคนเดียวจนโต

“เอาน่า มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก ถึงหนูไม่ท้องกับอาเด็จ โบว์มันก็ต้องตายอยู่ดี อย่าคิดมากน่า เชื่อพี่ สักวันคุณอาเค้าต้องกลับมาเป็นสามีที่ดี มาเป็นพ่อที่ดีให้กับเจ้าตัวเล็กนี่” แล้วเบ็นซ์ ก็หันไปเล่นกับลูกชายเพ็ญ

“จริงไหม เผด็จน้อย มาให้ป้าอุ้มหน่อย ไม่ซิ เอาแค่อาก็พอ น้าก็ได้ 5555+”

“ป้านั่นแหละพี่ถูกแล้ว หนูขอนับทางแม่ ไม่นับทางพ่อ มีผัวเจ้าชู้ก็งี้แหละ คนอะไรอยากเด็กตลอด ตอนไอ้เน่ก็ทีแล้วให้มันเรียกพี่”

   เบ็นซ์สามารถทำให้เพ็ญยิ้มออกมาได้ โดยไม่รู้ตัว “แล้วของพี่หละ อีกนานไหมกว่าที่เจ้าตัวเล็กจะโผล่หัวออกมาดูโลกหนะ”

“อีกนาน นี่ก็พึ่งไปตรวจมา เพราะพี่ต้นใจร้อน อยากรู้ว่าจะมีเจ้าตัวเล็กกับเขาไหม บอกว่าไม่ทันพวกเพื่อนๆในกลุ่มแล้ว พึ่งเดือนเดียวเอง พอๆกับไอ้แป๋วมัน ไล่ๆกัน” แล้วก็ส่งเผด็จน้อยที่กำลังอุ้มอยู่คืนเพ็ญไป

“เชื่อพี่ นะเพ็ญ ยิ้มเข้าไว้ เอาอย่างนี้ ถ้าเพ็ญคิดว่าอยู่แบบนี้แล้วไม่สบายใจ กลัวฟุ้งซ่าน ถ้าไม่คิดมากจนเกินไป พี่ขอยกรีสอร์ท ฟ้าสวยน้ำใส ให้หนูไปดูแลบริหารเป็นการชั่วคราวไปก่อนก็แล้วกันนะ เพราะพี่กับแป๋วก็ไม่ค่อยจะมีเวลามากเท่าใดช่วงนี้ เพราะงานของแต่ละคนก็เพิ่มมากขึ้น ร้านใหม่ของพี่แป๋ว เขาก็กำลังสร้าง คงจะมีเวลาน้อยลง ส่วนงานทางพี่ พี่ก็พึ่งได้ตัดสินใจ ทำมูลนิธิขึ้นมา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับโบว์มัน คิดถึงมันก็จะได้ไปหามันที่นั่น นะ ยังไงๆ มันก็เป็นของอาเด็จอยู่ดี ใครจะเป็นคนบริหาร มันก็เหมือนกัน แล้วเรื่องนั้นพี่จะโทรคุยกับคุณชื่นจิตเอง ทำใจให้สบายได้เลย ยิ้มเข้าไว้ สักวันความดีของหนู คุณอาเค้าคงจะเห็นเข้าสักวัน ความแค้นในใจมันไม่มีหรอก พี่เชื่ออย่างนั้น จะมีก็แต่ ความขี้ขลาดและความไม่เอาไหนของใครบางคนก็เท่านั้น”

“ได้พี่ รบกวนด้วยก็แล้วกัน ฝากเนื้อ ฝากตัว ด้วยสักคนนะ ก็ดีเหมือนกัน หนูจะได้หนี อะไรที่มันจำเจๆจากที่นี่สักที ขอบใจจริง”

****** ----- *****

   หลังจากงานวันเกิดของลูกชายในวันนั้น ไม่ถึง 3 วัน เพ็ญก็ตัดสินใจลงไปสะสางและดูแลงานที่รีสอร์ท ฟ้าสวยน้ำใสแทนเบ็นซ์และแป๋ว งานที่รีสอร์ทก็เริ่มดีขึ้น เพราะเพ็ญตั้งใจไปบริหารงานด้วยใจ เพ็ญหอบลูกชายไปอยู่ที่นั่นแล้วเอาดวงกับหล้าไปเลี้ยงด้วย ส่วนเบ็นซ์งานที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พอเข้าที่เข้าทางเบ็นซ์จับทางได้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว ก็หันไปลุยงานมูลนิธิที่เปิดใหม่ในนามบัวบูชา ส่วนแป๋วก็กำลังเริ่มลงทุนทำร้านใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิมไปเลย ไหนๆก็เบนเข็มและลุยทางนี้มาตั้งแต่ต้น ปรึกษากับสามีแล้ว เพื่ออนาคตของลูกที่อยู่ในท้อง เธอต้องหาอะไรเตรียมไว้ให้ลูกบ้างในอนาคต เพราะไม่ได้ร่ำรวยและมีฐานะดีอย่างเบ็นซ์

   ส่วนต้นกล้าหลังจากที่ได้ครูดีอย่างคร้าม ทำไปทำมาจนสามารถซื้อที่ดินเก็บสะสมไว้เป็นของตัวเองได้ทีละเล็กละน้อย 1 ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้มีสวนส้ม สวนสับปะรดและไร่ข้าวโพดเป็นของตัวเองแล้ว ทำงานเพลินวิ่งรอกจาก กรุงเทพ-สุพรรณ เป็นว่าเล่น จนแทบไม่มีเวลาได้อยู่กับศรีภรรยาอย่างเบ็นซ์ซะเท่าใด แต่ก็ไม่ถึงกับไม่เจอ เจอกันทุกวันนั่นแหละ แค่ว่าเบ็นซ์อาจจะนอนไปแล้ว

   เบ็นซ์ ตั้งแต่ได้รับโอนกิจการมาดูแลถึง 2 อย่างและหลังจากแต่งงาน ก็หันหลังให้กับวงการนางแบบ เลิกเป็นนางแบบเลยตั้งแต่วินาทีนั้น ได้มีการประกาศอำลาวงการในวันแต่งงาน ทุกคนเปลี่ยนไปในทางที่ดี จะมีก็แต่เผด็จนั่นแหละที่เปลี่ยนไปในทางที่เลว

***** >>><<< *****

   ทุกๆเดือน เผด็จจะไปเคารพหลุมศพของโบว์และเนตร ที่ไทรโยคใหญ่เสมอคนเดียว เพราะเขารักเมีย 2 คนนี้มาก เผด็จได้ทำหลุมฝั่งศพไว้ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุดอย่างดี โดยเขาได้พบวัดแห่งหนึ่งที่นั่น เป็นวัดเพียงแห่งเดียวตรงนั้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุมากที่สุด เขาจึงขอกับทางเจ้าอาวาส ว่าขอบริจาคซื้อที่ดินตรงส่วนที่ติดกับแม่น้ำ ไม่มากนัก กว้างxยาว ประมาณ 5x6 เมตร เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขอทำเจดีย์เพื่อเอากระดูกของทั้งสองคนมาฝังและเก็บไว้ที่นี่ ทางวัดก็อนุญาต เพราะเนื้อที่ของวัดเยอะแยะ จากนั้นเผด็จจึงให้ช่างมาทำการก่อสร้างและทำบริเวณนั้นอย่างสวยงามเพื่ออนุสรณ์แด่เมียที่เขารักมากทั้งสองคน คิดถึงเมื่อไหร่ก็มาเสมอ

<<<<< ----- >>>>>

   1 ปีที่ผ่านมา โบว์และเนตรได้ตายไปจากโลกความจริงของทุกคน แต่ในโลกของความรัก ความศรัทธาและความซื่อสัตย์ ทั้งสองคนไม่เคยตายไปจากใจใครเลย ทุกคนยังคงจดจำความดี ความเสียสละครั้งใหญ่ของคนทั้งสอง ที่ได้ช่วยทำให้คนชั่วอย่างฉัตรเทพหมดไปจากโลกใบนี้ โบว์และเนตรยังคงอยู่ในใจของใครบางคน โดยเฉพาะเผด็จสามีที่แสนดีของเธอทั้งสอง โบว์และเนตรคงอยู่ที่ใดสักแห่งหนึ่งของโลกใบนี้ อาจจะอยู่ข้างๆคุณหรือในโลกแห่งความฝันก็เป็นได้ ถ้าพวกคุณคิดถึงพวกเธอและอยากให้พวกเธอกลับมา ลองซิครับ ลองหลับตาแล้วภาวนา สวดมนต์ให้คุณความดีต่างๆที่มีอยู่นั้น พัดพาไปบอกพวกเธอ เผื่อเธอทั้งสองอาจจะรับรู้และสัมผัสได้ ถึงความรัก ความห่วงใย ที่พวกเราอยากมอบให้กับเธอ จริงไหมครับ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ความรักก็เช่นกัน

   คร้าม ได้ติดตามดูพฤติกรรมของเผด็จเสมอทุกครั้ง ไม่ว่าทั้งยามเมาหรือไม่เมา 1 ปีแล้วกับความโกรธเกลียดของคร้ามที่มีต่อเผด็จที่ทำให้หลานสาวของเขาตาย จะเพราะด้วยอะไรก็เถอะ คร้ามจะกลับมามีความรู้สึกดีกับเผด็จต่อไปอีกหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้

>>>>> ***** <<<<<

   สุดท้าย ขอสรุปชีวิตของเด็กสาวทั้ง 8 คนและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องบางคน เรื่องราวที่ได้เริ่มต้นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด บทสรุปสุดท้ายของเรื่อง เส้นทางที่ทุกคนได้เลือกเดินเพื่อใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปให้ได้ในอนาคต

   1.กันตภณ วัย 34 ปี พ่อมดเทคโนโลยี แต่งงานกับ พลอยใส วัย 29 ปี รุ่นพี่ของ ปูน เป็นหญิง 100% อ่อนหวาน เรียบร้อย

   2.ปริ้นซ์ วัย 34 ปี หมั้นกับ อดีตร้อยตำรวจตรีหญิง โอบอ้อม มโนกุล วัย 22 ปี ( หมวดอ้อม ) ลาออกจากราชการ ไปเรียนต่อ

   3.ไตรทศ วัย 26 ปี หมอ เพื่อนอัธวิทย์ หมั้นกับ หมวด ม่านมุก วัย 26 ปี หมอไปเรียนต่อที่ อเมริกา 4 ปี จบถึงจะกลับมาแต่งงาน

   4.ร้อยตำรวจเอก อัธวิทย์  ปัญจโชติ วัย 26 ปี แต่งงานกับ ร้อยตำรวจโทหญิง มนัญญา ลายทอง วัย 24 ปี (หมวดขิง)

   5.คฑา ทิพย์ถึก วัย 37 ปี อดีตมือดีของ มาเฟีย แต่งงานกับ ร้อยตำรวจโทหญิง คันธมาศ สร้อยเงิน วัย 24 ปี (หมวดเบียร์)

   6.ชัชพิมุข ชยานนท์ ณ ลำพูน วัย 34 ปี แต่งงานกับ กัญญ์วรา ศักดิ์พิพัฒน์ นักสืบสาว พราวเสน่ห์ ฉายา วิหคขาว วัย 24 ปี (ปูน)

   7.ดาบตำรวจ ไพรสน พิทักษ์ธรรม วัย 34 ปี แต่งงานกับ แพรวพิลาศ จันทร์จร อดีตนักฆ่าสาววัย 31 ปี ฉายา นางสิงห์ดำ (แป๋ว)

   8.ต้นกล้า ครูสอนวิชาป้องกันตัว วัย 36 แต่งงานกับ มณีบุษราคัม เพชรรัตน์ อดีตนักฆ่าสาววัย 31 ปี ฉายา นางเสือดาว (เบ็นซ์)

   9.พลตำรวจตรี อัธวุฒิ ปัญจโชติ วัย 53 ปี แต่งงานกับ รุจิษยา ชยานนท์ ณ ลำพูน ครูสอนเทควันโด ฉายา พิราบเทา วัย 24 ปี 

                (ทับทิม) และสุดท้าย พลตำรวจเอก เผด็จ รุจินานนท์ วัย 56 ปี ฉายา มือปราบเทวดา ( มีเมีย 6 คน )

คนแรก   เกศินี ผ่องพินิจ พยาบาล ( เมียเก่า ) วัย 36 มีลูกสาว 1 คน – ขนมผิง (ทำหมัน)

คนที่สอง ดารณีนุช รุจินานนท์ พยาบาล ( เสียชีวิต เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ) วัย 38 มีลูกชาย 1 คน – ขนมเบื้อง

คนที่สาม เทียนหอม ศิริพงศ์รักษา เลขา ( เก็บตัวเงียบไม่เรียกร้องอะไร ) วัย 36 ฉายา หงส์หยก – แท๊งค์ลูกเมื่อทำภารกิจ (ทำหมัน)

คนที่สี่    โบว์ บัวบูชา เพชรรัตน์ อดีตนักฆ่าสาว ( เสียชีวิต ) วัย 26 ฉายา นางแมวป่า

คนที่ห้า  หมวดเพ็ญ เพ็ญนภา ชาญยุทธ ( เมียปัจจุบัน ) วัย 24 มีลูกชาย 1 คน

คนที่หก  เนตรอัปสร เลขา+นักสืบสาว 1 ในทีม นางฟ้าพญายม ( เสียชีวิต ) วัย 35 ฉายา หงส์ฟ้า

   เมียทุกคนจะได้ของสองสิ่งจากเผด็จ คือแหวนทอง คนละวง และเลสทองคนละเส้น นอกจากโบว์ที่จะมีสร้อยคอทอง PC คนเดียวและเพ็ญที่ได้ สร้อยคอรูปหัวใจฝังเพชร ไปครอบครอง

โบว์       ใต้แหวนสลัก PD เผด็จ & โบว์ บัวบูชา BB (ทำครั้งแรก เพราะมีเวลา ชื่อเลยยาว)

เนตร     ใต้แหวนสลัก PD เผด็จ รุจินานนท์ (แหวนประจำตระกูล ติดตัวมานานแล้ว ถอดให้เนตรตอนที่อยู่ในป่า)

หอม      ใต้แหวนสลัก PD เผด็จ & หอม TH ( ทำตอนไปถล่มผับ/บาร์ ฉัตรเทพ+แทนไท)

เกศ        ใต้แหวนสลัก PD เผด็จ & เกศ KS ( ทำภายหลัง หลังจากกลับจากปารีส)

เพ็ญ       ใต้แหวนสลัก PD เผด็จ & เพ็ญ เพ็ญนภา PN (ทำตอนแต่งงาน เพราะมีเวลา ชื่อเลยยาวเหมือนของโบว์)

   เลสสายสร้อยทองคำหนัก 1 บาท สลักชื่อเผด็จ PD ทำภายหลัง หลังจากกลับจากปารีส

              โบว์       ใต้เลสสลัก PD เผด็จ & บัวบูชา BB              เนตร     ใต้เลสสลัก PD เผด็จ & เนตรอัปสร NA

              หอม      ใต้เลสสลัก PD เผด็จ & เทียนหอม TH         เกศ      ใต้เลสสลัก PD เผด็จ & เกศินี KS

โบว์       ได้ ใบโอนกรรมสิทธิ์เกาะและรีสอร์ท ฟ้าสวยน้ำใส ของเผด็จ( เพ็ญดูแลแทน เพราะโบว์เสียชีวิต )  

เนตร     ได้ คอนโดและถือครองกรรมสิทธิ์ แต่เพียงผู้เดียว ( หอมดูแลแทน ปล่อยให้เช่า เพราะเนตรเสียชีวิต )

หอม      ได้ ฐานลับและที่ดิน เมืองกาญจน์ ( หลังจากโดนถล่ม คงเหลือแต่ซากบนที่ดินว่างเปล่า )

เกศ        ได้ บ้านและที่ดิน เมืองกาญจน์ ( บ้านที่อยู่ใกล้ฐานลับ ภายหลังให้เช่า เพราะย้ายไปตั้งรกรากที่เมืองนอก )

เพ็ญ       ได้ บ้านและที่ดิน แถวทวีวัฒนา ( ภายหลังให้เช่า เผด็จย้ายไปอยู่บ้านพ่อตาพร้อมเนเน่ ทุกคนย้ายตามเกศไปเมืองนอก )

   เท่ากับว่าตอนนี้ เผด็จไม่มีสมบัติอะไรเลยที่เป็นของตัวเอง เพราะสมบัติทุกชิ้นที่มีอยู่ ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับเมียทุกคนไปแล้ว

---------- ========== ----------

   เผด็จเดินออกไปยืนที่หน้าผา ตรงจุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่สายนั้นได้ แล้วก็นึกถึงภาพของโบว์และเนตรในอดีต

< My Love – Westlife > https://www.youtube.com/watch?v=hT3xQBS9qfA

   โบว์และเนตร ยอมทิ้งโอกาสที่จะอยู่กินกับเผด็จคนที่เธอรัก เพราะเพ็ญคืออนาคตที่ดีกว่าเธอทั้งสองคน ทั้งสองคิดเช่นนั้น ในเมื่อโบว์และเนตร ก็อุ้มท้องลูกของเผด็จอยู่เช่นกัน เธอทั้งสองมีตัวแทนของคนที่รักแล้ว โบว์และเนตร จึงไม่ต้องการอะไรอีกเลย

< ทำดีได้ดี - อัสนี & วสันต์ โชติกุล > https://www.youtube.com/watch?v=2UOhfYU7PYQ

>>>>> ***** <<<<<

  โบว์และเนตร ทั้งสองคน ยืนอยู่บนหอคอยสูงที่เรียกว่าหอไอเฟล อุ้มลูกของเธอทั้งสองคนไว้ในอ้อมแขน ใส่ชุดกันหนาวอย่างดี สองเด็กน้อยทายาทของเผด็จที่ยังเหลืออยู่ ที่โบว์และเนตร ต้องดูแลต่อกันไป อนาคตจะเป็นเช่นไร ชีวิตจะเดินและดำเนินไปในทิศทางใด ไม่สามารถมีใครล่วงรู้ได้ รู้แค่เพียงว่า ตอนนี้ทั้ง 4 ชีวิต มีความสุขดีกับชีวิตใหม่ในต่างแดนแล้วก็เท่านั้นกับ 1 ปีที่ผ่านมา

< ให้มันเป็นไป - อัสนี & วสันต์ โชติกุล > https://www.youtube.com/watch?v=lQRQcG3Zi_8

   โบว์และเนตร ชี้นิ้วขึ้นท้องฟ้า แล้วบอกให้เด็กๆทั้งสองคน มองขึ้นฟ้าตามมือที่แม่ชี้ให้ดู ซึ่งเป็นทิศทางของประเทศไทยนั่นเอง

< ยามไกล - สาว สาว สาว > https://www.youtube.com/watch?v=zdJ9-gBWRus

The End .. อวสาน

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ภาค 2 ของ พยัคฆ์ร้าย..สายลับ .. กับ “ พยัคฆ์..สะบัดลาย ”

และภาคพิเศษ ของ พยัคฆ์ร้าย..สายลับ .. ใน “ เนเน่ ธิดาพญายม ”

เร็วๆนี้ อย่าลิมติดตามกันต่อนะครับ รับรอง มันส์และสนุก เช่นเดิม

เพราะเราไม่กล้า ทำให้คุณๆผิดหวัง

แล้วพบกันใหม่ จากใจ..พัชฌา / มัชฌิมา

---------- ========== ----------

ตอนที่ 50 .. “ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ”

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

รายชื่อตัวละครในนิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ ( ชาย )

01. พลตำรวจตรี เผด็จ รุจินานนท์              วัย 55 ปี ชื่อเล่น ลูกเต๋าฉายา มือปราบเทวดา (ผู้การ/ท่านรองฯ)

02. พันตำรวจเอก อัธวุฒิ ปัญจโชติ            วัย 52 ปี ชื่อเล่น กระป๋อง ผู้กำกับ ( พ่อ ผู้กองวิทย์ )

03. ร้อยตำรวจเอก อัธวิทย์  ปัญจโชติ         วัย 25 ชื่อเล่น วิทย์ ( ผู้กองวิทย์ )

04. ชัชพิมุข ชยานนท์ ณ ลำพูน                วัย 33 ปี ชื่อเล่น แตงโม ฉายา เหยี่ยวราตรี (พี่ของทับทิม)

05. จ.ส.ต.ไพรสน พิทักษ์ธรรม                 วัย 34 ปี ชื่อเล่น สน (จ่าสน ตำรวจลับ)

06. จ.ส.ต.ภาสกร อรุณรุ่ง                        วัย 34 ปี ชื่อเล่น หมู (จ่าหมู ตำรวจลับ)

07. คฑา ทิพย์ถึก                                  วัย 36 ปี ชื่อเล่น ฑา (มือดีของ มาเฟีย)         

08. แทนไท สมบัติขจรไพศาล                  วัย 63 ปี (มาเฟีย เจ้าพ่อใหญ่)         

09. ฉัตรเทพ สิทธิโชคอนันต์                    วัย 60 ปี (นายใหญ่ องค์กรลึกลับ)                 

10. จ.ส.ต.สมิง สยบไพรี                         วัย 50 ปี ชื่อเล่น มิ่ง (จ่ามิ่ง คู่หูคนสนิทของ ผู้กำกับ อัธวุฒิ)                                   

11. จ.ส.ต.มงคล อ่อนไหว            วัย 50 ปี ชื่อเล่น หมง (จ่าหมง คู่หูคนสนิทของ ผู้กำกับ อัธวุฒิ)                                             

12. พลตำรวจเอก เชี่ยว ชาญยุทธ             วัย 59 ปี ผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ (พ่อ หมวดเพ็ญ)

13. กิ่งไผ่ รุจินานนท์                              วัย 14 ปี ชื่อเล่น ขนมเบื้อง (ลูกชายแท้ๆของ เผด็จที่เกิดกับดารณีนุช เมียคนที่ 2 - ตาย)

14. รณกฤต สิงหนาถ                             วัย 20 ปี ชื่อเล่น พู่กัน ฉายา เทพ พญายม (1 ในทีมพญายม ลูกน้องเก่าเผด็จ)

15. คร้าม จรูญวงค์                                วัย 63 ปี ฉายา อีกาดำ (1 ในทีมพญายม ลูกน้องเก่าเผด็จ)

16. กันตภณ ตุ้มวิวัฒน์                            วัย 30 ปี ฉายา พ่อมด อีเลคทรอนิกส์ (ลูกน้องเก่าเผด็จ)

17. ต้นกล้า วรรณศิลป์                            วัย 35 ปี (คนรักเก่าของเบ็นซ์ )

18. ไตรทศ สมบูรณ์เวศ                          วัย 25 ปี (หมอหนุ่ม เพื่อนหมวด อัธวิทย์)

19. ปริญญา ผ่องอำไพพงษ์                     วัย 33 ปี ชื่อเล่น ปริ้นซ์ ฉายา พ่อมด เทคโนโลยี (เพื่อนของแตงโม)

20. เทียมฟ้า สมบัติขจรไพศาล                 วัย 28 ปี (ลูกชาย เจ้าพ่อมาเฟีย)                                 

21. ภูผา คุ้มบรรจง                                วัย 43 ปี (คนขับรถ มาเฟีย)                                              

22. สัตยา โพนพิพัฒน์                           วัย 40 ปี หัวหน้ากลุ่มนักฆ่า (คนสนิทของ หัวหน้า องค์กรลึกลับ)

23.บิงซู อวยธารา                                 วัย 45 ปี (คนขับรถ นักธุรกิจใจบุญ)

24. แช่ม ลำตะคอง                               วัย 43 ปี (นักเลงจากเมืองโคราช)

25. โจ้                                               วัย 30 ปี (ลูกน้องคนสนิทของมาดาม)

รายชื่อตัวละครในนิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ ( หญิง )

01. บัวบูชา เพชรรัตน์                             วัย 25 ปี ชื่อเล่น โบว์ ฉายา นางแมวป่า (นักฆ่าสาว หวานใจ ผู้กำหัวใจ ผู้การเผด็จ)         

02. มณีบุษราคัม เพชรรัตน์                      วัย 30 ปี ชื่อเล่น เบ็นซ์ ฉายา นางเสือดาว (นักฆ่าสาว นางแบบสาว หวานใจ ต้นกล้า)    

03. แพรวพิลาศ จันทร์จร                         วัย 30 ปี ชื่อเล่น แป๋ว ฉายา นางสิงห์ดำ (นักฆ่าสาว นักธุรกิจสาว หวานใจ จ่าสน)           

04. รุจิษยา ชยานนท์ ณ ลำพูน                  วัย 23 ปี ชื่อเล่น ทับทิม ฉายา พิราบเทา (ภรรยาสุดน่ารัก สุดหวงของ ผู้กำกับอัธวุฒิ)

05. กัญญ์วรา ศักดิ์พิพัฒน์                        วัย 23 ปี ชื่อเล่น ปูน ฉายา วิหคขาว (นักสืบสาว พราวเสน่ห์ ภรรยาสาวของ แตงโม)

06. ร้อยตำรวจโทหญิง เพ็ญนภา  ชาญยุทธ  วัย 23 ปี ชื่อเล่น เพ็ญ (เด็กสาวที่แอบรักอาตัวเอง สุดท้ายก็ได้อาตัวเองมาเป็นสามี+ลูก)

07. ร้อยตำรวจโทหญิง คันธมาศ สร้อยเงิน   วัย 23 ปี ชื่อเล่น เบียร์ (เพื่อนรักของเพ็ญ พ่อแม่เสียชีวิต ตอนที่อยู่ในสลัม)                       

08. ร้อยตำรวจโทหญิง มนัญญา ลายทอง    วัย 23 ปี ชื่อเล่น ขิง (ลูกเลี้ยงมาเฟียใหญ่ แฝงตัวมาเพื่อสืบข่าวจากกรมตำรวจ)                  

09. ร้อยตำรวจโทหญิง ม่านมุก สุขสกุล        วัย 25 ปี ชื่อเล่น มุก (หลงรักอัธวิทย์ อกหัก สุดท้ายมารักกับหมอ ไตรทศ)

10. ร้อยตำรวจตรีหญิง โอบอ้อม มโนกุล      วัย 21 ปี ชื่อเล่น อ้อม (ชอบวิทย์ อยู่ธุรการชอบการบู๊ สุดท้ายได้มาอยู่ในทีมของ อัธวุฒิ)

11. เกศินี ผ่องพินิจ (พยาบาลสาว)              วัย 35 ปี ชื่อเล่น เกศ (เมียเก่าคนแรกของ เผด็จ ที่ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆเพราะรัก)

12. เทียนหอม ศิริพงศ์รักษา                      วัย 35 ปี ชื่อเล่น หอม ฉายา หงส์หยก (เมียคนที่สามของ เผด็จ เป็นผู้อำนวยการศูนย์)

13. เนตรอัปสร ภัทรวรภิรมย์                     วัย 34 ปี ชื่อเล่น เนตร ฉายา หงส์ฟ้า (เมียคนสุดท้ายของ เผด็จ เป็นเลขาใจที่ซื่อสัตย์)      

14. เนตรทิพย์ รุจินานนท์                         วัย 17 ปี ชื่อเล่น เนเน่ ฉายา ธิดา พญายม (ลูกบุญธรรมของ เผด็จ ที่รักและหวงพ่อมาก) 

15. ใบเฟริ์น รุจินานนท์                           วัย 16 ปี ชื่อเล่น ขนมผิง (ลูกสาวแท้ๆของเผด็จ ที่เกิดกับเกศินี เมียเก่าคนแรก ถูกปิดบัง)

16. สุทธินี รุจินานนท์                             วัย 84 ปี ชื่อเล่น ผาด (แม่ของ เผด็จ ร่มโพธิ์ ร่มไทรของบ้าน รุจินานนท์)          

17. แม้นมาศ วรารักษ์ (แม่นมของเพ็ญ)       วัย 82 ปี ชื่อเล่น แม้น (เลี้ยงเพ็ญมาตั้งแต่แรกเกิด เพราะแม่แท้ๆ ตายตอนคลอด)     

18. อิงฟ้า จารุกรณ์                                วัย 28 ปี ชื่อเล่น อิง (นางโจร หลงรักหมู สุดท้ายเสียชีวิต เพราะปกป้องคนที่เธอรัก)

19. พลอยใส ชลากร                              วัย 28 ปี ชื่อเล่น พลอย (รุ่นพี่ของ ปูน เป็นหญิง 100% อ่อนหวาน เรียบร้อย)

20. เปาวดี รภัสโภคิน                            วัย 20 ปี ชื่อเล่น เปาเปา (สาวร่างอ้วน ลูกน้องในที่ทำงานของปูน)

21. ดรัณ อรรถวรกุล                              วัย 38 ปี ชื่อเล่น รัน (คนสนิทของ นายใหญ่ หัวหน้านักฆ่า องค์กรลึกลับ)

22. จิรโสภิณ สมบัติขจรไพศาล                 วัย 25 ปี ชื่อเล่น จีจี้ (ลูกสาว เจ้าพ่อมาเฟีย)

23. ต้องตา ภัทรนิติพน                           วัย 35 ปี ชื่อเล่น ต้อง (พี่เลี้ยง หมวดขิง)

24. สายสวรรค์ ปรีดานันท์                       วัย 40 ปี ชื่อเล่น หอม (แม่บ้านของ 3 สาวนักฆ่า โบว์/เบ็นซ์/แป๋ว)

25. ชื่นจิต โสพันธุ์                                 วัย 39 ปี ชื่อเล่น ชื่น (ผู้จัดการที่ดูแลรีสอร์ทของเผด็จ มาตั้งแต่เริ่มสร้างใหม่ๆ)

26. สุนีย์ วัชรโยธิน                                วัย 54 ปี ชื่อเล่น สุ (ผู้อำนวยการศูนย์ บ้านเด็กกำพร้า เพชรรัตน์)          

27. เจ๊ดาว                                          วัย 40 ปี ชื่อเล่น ดาว (สาวสอง เจ้าของรีสอร์ทเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่กาญจนบุรี)

28. มาดาม                                         วัย 42 ปี หัวหน้าองค์กรลับ กงจักรทอง ที่ไม่เปิดเผยตัว

(เพลงประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ)

ตอนที่ 1

1 .. Tie A Yellow Ribbon Round The Ole Oak Tree - Ray Conniff Singers

https://www.youtube.com/watch?v=zwCGhXsKKGQ

ตอนที่ 9

2 .. Trouble Is A Friend – Lenka

https://www.youtube.com/watch?v=5AjAiT5Dj9o

3 .. โชคดีที่พบเธอ - ฝน ธนสุนทร

https://youtu.be/Kjgi6drkkMQ

ตอนที่ 20

4 .. ดื่มนม – เพลงอนุบาล

https://www.youtube.com/watch?v=k_JH9jgN1UE

ตอนที่ 23

5 .. มันคือความรัก - ลุลา

https://youtu.be/gwxYm37gAMw

ตอนที่ 26

6 .. ใจอ่อน- ฝน ธนสุนทร

https://www.youtube.com/watch?v=ltzztV2qwGM

https://www.youtube.com/watch?v=AnuCEwn5HBE

ตอนที่ 27

7 .. ไม่เคย – คาราบาว

https://www.youtube.com/watch?v=SpTLufmuS6Y

8 .. Mickey - Toni Basil

https://www.youtube.com/watch?v=eKrxF8TOYjU

9 .. นก - ดิ ออริจันัลทรี

https://www.youtube.com/watch?v=VBUPY2y06N4

ตอนที่ 29

10 .. Sweetie Sweet เถียน มี๋หมี่ - Teresa Teng

https://www.youtube.com/watch?v=vwNy03cDcGA

ตอนที่ 30

11 .. เจอกับตัวเอง ถึงรู้ – ซาร่า

https://www.youtube.com/watch?v=0sPOMxRH7Ic

ตอนที่ 32

12 .. What do you say - Teresa Teng

https://www.youtube.com/watch?v=x3r4r9MxK2w

13 .. I and you - Teresa Teng

https://www.youtube.com/watch?v=AVANQBYW4EI

14 .. คึกคักบ่อยเลย – Nuvo

https://www.youtube.com/watch?v=uMxJWiyxy2U

15 .. เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดเลย – Nuvo

https://www.youtube.com/watch?v=h0dIEJ-wGMQ&feature=youtu.be

16 .. หลงรักเธอ - พรพิมล ธรรมสาร

https://www.youtube.com/watch?v=EaiwU4JybXg

https://www.youtube.com/watch?v=D81CKmQ3lxs

ตอนที่ 33

17 .. Who will love me - Teresa Teng

https://www.youtube.com/watch?v=WCxAX81IVu4

18 .. แหวนแลกใจ – พรพิมล ธรรมสาร

https://www.youtube.com/watch?v=vqU8mVr3xeU

19 .. ขอเวลาหน่อย - ดอน สอนระเบียบ

https://www.youtube.com/watch?v=waIJ4Z-e0e4

20 .. หมดเวลาแล้ว - ก้อย พรพิมล ธรรมสาร

https://www.youtube.com/watch?v=-z15E7JK9pI

ตอนที่ 34

21 .. คางคกร่าเริงเลย – Nuvo

https://www.youtube.com/watch?v=iD_9UGxKb-0

22 .. ครั้งนี้คงถูกใจ - Nuvo

https://www.youtube.com/watch?v=Ddhmw68TNgs

https://www.youtube.com/watch?v=xPE3H-VGRTo

23 .. Rhyme of the sea - Teresa Teng

https://www.youtube.com/watch?v=yg9wJYwXHh4

24 .. อกหักไม่อยากรับสาย - อู้ลัลลา อาร์ สยาม

https://www.youtube.com/watch?v=v1-NecA0Dyo&feature=youtu.be

25 .. ผู้หญิงด้วยกัน - ฝน ธนสุนทร

https://www.youtube.com/watch?v=m8Z-y2YzV8g

ตอนที่ 35

26 .. รักนี้ไม่มีลืม - ฝน ธนสุนทร

https://www.youtube.com/watch?v=lvHZP9rPcW0

27 .. The Day You Went Away - M2M

https://www.youtube.com/watch?v=uVPrgbweR8o

https://www.youtube.com/watch?v=2jL6FYNKUdA

ตอนที่ 36

28 .. เมฆดำ - เดอะ เซ้นท์

https://youtu.be/pluwflZM2es

 ตอนที่ 40

29 .. น้อยไปอีกหรือ - ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์

https://www.youtube.com/watch?v=BCAAZIHnR7A

ตอนที่ 45

30 .. ไม่ต้องเสียใจ - เสือ ธนพล

https://www.youtube.com/watch?v=CX-V1Z9pnM4

ตอนที่ 50

31 .. สุดสายตา – วงภราดร

https://youtu.be/pQAqVEe_7Ww

https://www.youtube.com/watch?v=7riPnZudJQM

32 .. รอยรัก - รถด่วน STATE EXPRESS

https://www.youtube.com/watch?v=kh1u4aVD5ls

33 .. My Love – Westlife

https://www.youtube.com/watch?v=hT3xQBS9qfA

34 .. ทำดีได้ดี - อัสนี & วสันต์ โชติกุล

https://www.youtube.com/watch?v=2UOhfYU7PYQ

35 .. ให้มันเป็นไป - อัสนี & วสันต์ โชติกุล

https://www.youtube.com/watch?v=lQRQcG3Zi_8

36 .. ยามไกล - สาว สาว สาว

https://www.youtube.com/watch?v=zdJ9-gBWRus

 

ขอขอบคุณ คุณฝน ธนสุนทร จาก ค่าย Sure Entertainment ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ คุณลุลา จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วงคาราบาว จาก ค่าย วอร์เนอร์ มิวสิค ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วงเดอะ ออริจินัล ทรี จาก ค่าย Nititad AOA Co., Ltd. (Thailand) ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ ค่าย Polydor (Thailand) ที่เอื้อเฟื้อเพลงของ Teresa Teng ให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ คุณซาร่า ผุงประเสริฐ จาก ค่าย โซนี่ มิวสิค ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วง Nuvo จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ คุณดอน สอนระเบียบ คุณก้อย พรพิมล ธรรมสาร จาก Rose Media & Entertainment ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วงอู้ลัลลา จาก ค่าย Rsiam Music : อาร์สยาม ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วงเดอะเซ็นต์ นักบุญทั้ง 9 จาก ค่ายนิธิทัศน์-ออนป้า ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ คุณศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ คุณเสือ ธนพล อินทฤทธิ์ จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วงภราดร จาก ค่าย Emi ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วง STATE EXPRESS จาก ค่าย นิธิทัศน์ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ คุณอัสนีย์และคุณวสันต์ จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ขอขอบคุณ วงสาวสาวสาว จาก ค่าย รถไฟดนตรี ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

ตอนที่ 50 .. “ ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกลา ”

The End .. อวสาน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.