วิถีธาตุออนไลน์ : บทที่ 1 เหตุเริ่มต้นของเรื่องราว
บทที่ 1 เหตุเริ่มต้นของเรื่องราว
“ทางสำนักพิมพ์เราไม่ตีพิมพ์นิยายของคุณต่อแล้ว”
คำพูดของ บ.ก. ที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ ทำให้กรกชรู้สึกปวดหนึบในหัวใจ จากนิยายสามเล่มแรกอันโด่งดัง ทว่าตอนนี้กลับเป็นนิยายที่สำนักพิมไม่ต้องการ สำหรับตัวของชายหนุ่มผู้ที่สร้างนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยความพยายามทั้งหมด นี่ถือเป็นคำที่เขาไม่อยากยอมรับมากที่สุด
เนื่องด้วยหลายปีที่ผ่านมา นิยายเกมออนไลน์เป็นนิยายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงได้มีนักเขียนแนวนี้เกิดขึ้นในวงการมากมาย จากการที่นิยายได้รับความสนใจจากนักอ่านค่อนข้างดี สำนักพิมพ์หลายแห่งจึงต่างสรรหานิยายแนวนี้มาตีพิมพ์ตามกระแสนิยม ซึ่งในเวลานั้น กรกชยังเป็นเพียงนักเขียนฝึกหัดอยู่ โดยแนวที่เขาแต่ง ก็เป็นแนวเกมออนไลน์เช่นกัน
ผ่านมาวันหนึ่ง ในระหว่างที่เขากำลังจะลงนิยายในเว็บตามปรกติ ก็มีข้อความเข้ามาในไอดีของเขา เมื่อชายหนุ่มได้อ่านทุกตัวอักษรจนครบท่วน เขาก็รู้สึกดีใจราวกับได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุด โดยเนื้อหาในข้อความก็คือ สำนักพิมพ์ชื่อดังสนใจนิยายของเขา แล้วอยากนำไปตีพิมพ์ ซึ่งด้วยความดีใจและไม่คาดฝันว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้ กรกชจึงรีบตอบรับข้อเสนอนั้นอย่างรวดเร็ว
จะมีสักกี่คนกันที่เดินตามความฝัน แล้วทำมันได้อย่างสวยงามเช่นเขา...นั่นคือความคิดของกรกชในช่วงแรกที่นิยายของเขาได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่นในครั้งแรก นิยายของกรกชถูกวางขายไปทั่วประเทศ ถึงไม่ใช่นิยายที่จัดว่าขายดีที่สุด หากแต่ก็ติดอันดับต้นๆ ของสำนักพิมพ์ จนชายหนุ่มคิดว่า ไม่แน่อีกไม่นานมันอาจจะขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ได้
ทว่าในเวลาเดียวกัน นิยายเกมออนไลน์หลายเรื่องก็ถูกผลิตออกสู่ตลาดอยู่เรื่อยๆ จนทำให้นักอ่านเลือกซื้อกันแทบไม่หวาดไม่ไหว และเมื่อสิ่งๆ ใดก็ตาม ที่มันเดินไปถึงจุดสูงสุด มันก็ต้องเสื่อมลงตามกาลเวลา ซึ่งนิยายแนวนี้ก็เช่นกัน!
ช่วงที่นิยายเล่มที่สามของเขาถูกปล่อยสู่ตลาดด้วยความภูมิใจของชายหนุ่มนั่นเอง ความจำเจในนิยายแนวนี้ก็เริ่มมีมากขึ้น กระทั่งมาถึงจุดนี้ นิยายของเขาจึงถูกปฏิเสธที่จะตีพิมพ์ต่อเนื่องจากยอดขายไม่ดี แล้วเขาที่กำลังแต่งเล่มสี่จะยอมรับมันได้เช่นไร?
ทว่าด้วยคำพูดของ บ.ก. ที่หนักแน่นเมื่อครู่ก็ทำให้กรกชพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ลุกขึ้นจากก้าวอี้อย่างจำนน หากก่อนที่เขาจะทันเดินผ่านประตูออกไป เสียงของ บ.ก. วัยกลางคนก็เอ่ยขึ้น
“นี่คุณกช ถึงทางสำนักพิมพ์ไม่รับตีพิมพ์นิยายแนวเกมออนไลน์อีกแล้ว แต่ถ้าคุณแต่งแนวรักหวานๆ หรือแนวมาเฟีย ทางเราก็ยินดีจะรับนะ ผมเข้าใจดีว่านิยายเรื่องหนึ่งมันต้องสร้างขึ้นมาด้วยหัวใจ เพราะผมก็เคยทำงานเขียนมาเหมือนคุณ แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยว่า สำนักพิมพ์เราก็จำเป็นที่จะต้องตัดแนวออนไลน์ออกก่อนชั่วคราว เพราะตอนนี้มันล้นตลาดไปแล้ว แต่ก็อย่างที่ผมบอก หากคุณนำแนวใหม่มานำเสนอ ทางเราก็ยินดี เพราะคุณก็ถือได้ว่า เป็นนักเขียนมือดีคนหนึ่ง เอาล่ะผมขอให้คุณไปลองคิดดูแล้วกันนะ”
กรกชไม่เอ่ยอะไร ชายหนุ่มทำเพียงยกมือไหว้ผู้มีอายุมากกว่าแล้วเดินออกจากห้องนั้นมาทันที
เมื่อชายหนุ่มเข้ามานั่งภายในรถ เขาก็หยิบสมาร์ทโฟนออกจากกระเป๋ากางเกงมาเชื่อมต่อเข้ากับระบบของตัวรถ เผื่อว่ามีใครติดต่อเข้ามา จะได้รับสายสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น กรกชขับรถไปตามเส้นทางอย่างปราศจากจุดหมายที่แน่นอน เสียงเพลงรักแผ่วช้าที่ดังออกจากลำโพงไม่ได้ช่วยให้ชายหนุ่มมีอารมณ์แจ่มใสขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาหยุดรถเมื่อไฟบริเวณสี่แยกเปลี่ยนเป็นสีแดง ในระหว่างรอ กรกชก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา
ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่อยู่ตรงมุมหนึ่งเป็นจุดแรกที่ชายหนุ่มสังเกตเห็น เนื่องจากการออกแบบป้ายเป็นรูปภาพชายหญิงถืออาวุธและบางภาพก็มีลูกพลังหลากสีอยู่บนมือทำให้เขาตั้งใจดูไปทั่วป้ายอย่างละเอียด เผื่อจะเป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ จะได้ไปดูคลายเครียดสักหน่อย
ทว่าตัวอักษรที่อยู่บนป้ายกลับทำให้ชายหนุ่มผิดหวังไม่น้อย เพราะมันดันเป็นป้ายโฆษณาเกมเสมือนจริง ไม่ใช่ภาพยนตร์อย่างที่คิด กรกชกำลังจะละสายตาไปทางอื่นหากเขาไม่บังเอิญพบคำว่าไม่มีเลเวลขึ้นเสียก่อน
‘เกมอะไรจะไม่มีเลเวลวะเนี่ย?’
ชายหนุ่มอดนึกไม่ได้ ควรทราบว่าหากขึ้นชื่อว่าเกมแล้ว จะอย่างไรก็ต้องมีเลเวลเพื่อเป็นตัวกำหนดความเก่งกาดของตัวละครเอาไว้ หากแต่เกมนี้กลับบอกว่าไม่มีเลเวล แล้วนี่มันจะเล่นยังไง? หรือว่าใช้ค่าสถานะอย่างอื่นทดแทน?
จากการไล่สายตาอ่านรายละเอียดบนป้ายทำให้กรกชรู้ว่า เกมนี้เป็นเกมเสมือนจริงที่สมจริงมากกว่าเกมอื่นๆ เพราะเกมนี้หากจะพัฒนาตัวละครของผู้เล่นได้ จะต้องใช้การสังหารสัตว์อสูรเพื่อนำแก่นพลังที่หาได้มาเพิ่มพลังให้กับตัวเอง หรือไม่ก็ต้องหาสิ่งของวิเศษต่างๆ ที่กักเก็บพลังเอาไว้มาใช้แทน
ส่วนความช่วยเหลือจากระบบ มีเพียงการติดต่อสื่อสารเท่านั้น เกี่ยวกับการต่อสู้หรือไอเท็มจะไม่มีค่าสถานะหรือระดับบอกให้อย่างชัดเจน การที่จะรู้ได้ว่าอาวุธชิ้นไหนดีไม่ดี จะต้องตรวจสอบด้วยทักษะการใช้พลังของตัวเอง หรือใช้ไอเทมวิเศษบางประเภทเท่านั้น
‘แปลกดีนี่หว่า’ กรกชคิด ‘แต่ไอ้แบบนี้ใครมันจะไปอยากเล่นวะ? ดูท่าแล้วจะยากเอาเรื่อง แบบนี้มันจะไม่เบื่อเอาเหรอ? มิน่าล่ะ ถึงอยู่อันดับสิบ ยังดีที่ยังอยู่ในสิบอันดับแรกของเอเชีย’
กรกชแตะคันเร่งเมื่อไฟเป็นสีเขียว นำพารถเก๋งสีบรอนเงินเคลื่อนไปตามท้องถนนในยามบ่าย ชายหนุ่มใช้เวลาอยู่นานพอควรกว่าเขาจะออกจากกรุงเทพได้สำเร็จ เมื่อไม่พบความแออัดบนเส้นทาง กรกชจึงเพิ่มความเร็วของรถขึ้นตามลำดับ
ทันทีนั้นเสียงแสดงถึงสัญญาณติดต่อก็ดังขึ้น พร้อมกับที่หน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตรงคอนโซลรถส่องแสนเรื่อเรือง โดยภายในจอภาพด้านล่างมีปุ่มยอมรับ และปุ่มปฏิเสธขึ้นมา ส่วนบนของจอในตอนนี้เผยให้เห็นภาพหญิงวัยกลางคนกำลังส่งยิ้ม ซึ่งเป็นภาพที่เขาตั้งเอาไว้โดยเฉพาะ กรกชยกมือไปแตะตรงปุ่มยอมรับอย่างไม่ลังเล
“สวัสดีครับแม่” กรกชเอ่ยทักผู้เป็นมารดาก่อน ทันทีที่รับสาย
“สวัสดีจ้ะลูก” เสียงมุกดาดังออกมาจากลำโพงภายในรถ “เป็นยังไงบ้าง เรื่องที่เข้าไปคุยกับทางสำนักพิมพ์น่ะ?”
กรกชถอนหายใจอย่างปรงๆพร้อมกับเอ่ยตอบ “ไม่สำเร็จครับแม่ เพราะนิยายที่ผมแต่งมันล้นตลาดไปแล้ว ทางนั้นเลยไม่ตีพิมพ์ต่อ”
“ไม่เป็นไรนะลูก” เธอเอ่ยปลอบ “แม่รู้ว่ามันยากทำใจอยู่บ้าง แต่เราก็ต้องเข้าใจทางสำนักพิมพ์เค้าด้วย เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ทางนั้นก็คงไม่อยากทำแบบนี้ แต่เรื่องการค้าการขายมันก็จำเป็น ไม่งั้นกิจการของเค้าก็คงแย่”
“ไม่เป็นไรครับแม่” กรกชเอ่ย “ผมก็พอเข้าใจอยู่ ไม่แน่ผมก็อาจเปลี่ยนแนวดูสักครั้ง เพราะพวกนิยายรัก ผมก็อาจเรื่อยเหมือนกัน อีกอย่าง ถึงทางนั้นเลิกตีพิมพ์ไปแล้ว ผมก็ยังนำไปขายในรูปแบบอีบุ๊ค หรือติดเหรียญขายรายตอนบนเว็บไซต์ได้”
“คิดได้แบบนั้นก็ดีแล้วลูก ขับรถระวังๆ ล่ะ แม่เป็นห่วงก็เลยโทหา แต่ได้ยินลูกพูดแบบนี้แล้วก็สบายใจ แล้วแม่จะรออยู่ที่บ้านนะลูก” มุกดาส่งเสียงมาตามสาย
“ครับแม่” ชายหนุ่มรับคำผู้เป็นมารดา “งั้นแค่นี้นะครับผม แล้วเจอกันครับแม่”
เนื่องจากระยะทางจากกรุงเทพมาจังหวัดร้อยเอ็ดค่อนข้างไกล ดังนั้นต้องใช้เวลาแปดชั่วโมงกว่าๆ เลยทีเดียวกรกชถึงขับรถกลับมาถึงบ้านได้ ตอนที่ชายหนุ่มกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว หลังจากเขาทานอาหารที่มารดาทำไว้รอเรียบร้อย กรกชจึงได้มานั่งครุ่นคิดอยู่บนระเบียงชั้นสองของบ้านเพียงลำพัง
สัมผัสอันอบอุ่นแตะลงบริเวณหัวไหล่ทำให้กรกชขยับตัวเล็กน้อย
“นั่งคิดอะไรอยู่เหรอลูก?” เสียงอ่อนโยนของผู้เป็นมารดาเอ่ยถาม
“ก็คิดถึงนิยายเรื่องใหม่น่ะครับแม่ ผมว่าจะลองเปลี่ยนแนวดู เพราะผมมาลองคิดดูแล้ว การหันมาแต่งนิยายแนวหวานๆ ดู ก็น่าสนุกดี” กรกชเอ่ยตอบ
“ก็เอาเลยสิวะไอ้ลูกชาย” เสียงแหบห้าวของพบธรรมดังขึ้นพร้อมเจ้าตัวที่กำลังเดินออกจากห้องทำงานมา บิดาของกรกชเป็นบุรุษร่างสูงผิวเข้ม ถึงแม้จะอายุมากแล้ว ทว่าก็มีท่วงท่าแข็งแรงมั่นคง
“ก็ว่างั้นแหละครับพ่อ แต่คงต้องใช้เวลาหน่อย ไอ้ผมมันก็ยิงไม่ค่อยรู้จักความรักอยู่” กรกชพูดยิ้มๆ
พบธรรมก้าวมายืนข้างภรรยาตนพลางตบไหล่ลูกชายดังป้าบใหญ่
“ไม่ใช่ว่าแกไม่รู้จักความรัก แต่พ่อว่าแกไม่เปิดใจให้กับความรักมากกว่ามั้ง”
“ก็คงจะอย่างงั้นมั้งครับพ่อ แต่ผมไม่รีบหรอก ตอนนี้อายุแค่ยี่สิบสามเอง ยังเหลือเวลาอีกเยอะ” กรกชเอ่ยตอบ
“แม่ว่านี่ก็ดึกแล้ว พวกเราควรไปพักผ่อนกันดีกว่านะ ยิ่งลูกกลับมาเหนื่อยๆ ด้วย” มุกดาเอ่ยขึ้น
“ครับแม่”
กรกชรับคำพลางลุกขึ้นยืน เมื่อมุกดาและพบธรรมเห็นดังนั้นจึงชักชวนกันเดินเข้าห้องไป
ห้องของกรกชถูกจัดเอาไว้อย่างเรียบง่าย มุมด้านหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้า มีโต๊ะเขียนหนังสือติดกับหน้าต่าง ส่วนอีกด้างถูกยึดพื้นที่ด้วยเตียงไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘เตียงมายา’ โดยลักษณะของเตียงมายาดูไม่แตกต่างจากเตียงทั่วไปมากนัก จะมีบางส่วนที่ไม่คล้ายก็คือ บริเวณหัวเตียงจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็กติดตั้งอยู่ ซึ่งทำหน้าที่กระจายกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ไปทั่วเตียง เพื่อนำพาคลื่นสมองของผู้ใช้งานเข้าสู่โลกเสมือนนั่นเอง
เมื่อเห็นเตียงมายา ชายหนุ่มก็อดจะนึกถึงเกมที่เพิ่งเห็นบนป้ายโฆษณาขึ้นไม่ได้ เขาจึงหยิบโน๊ตบุ๊กมาเชื่อมเข้ากับระบบเตียง เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งเกมที่ชายหนุ่มจำชื่อมันได้ว่า ‘วิถีธาตุออนไลน์’ ในทันที
หลังจากกรกชใส่รหัสบัญชีธนาคารเพื่อจ่ายค่าดาวน์โหลดให้ทางเว็บไซต์ของเกม เขาก็รออยู่เกือบสิบนาที ตัวเกมจึงถูกติดตั้งเข้าไปในระบบเตียงมายาเรียบร้อย เมื่อเห็นดังนั้น ชายหนุ่มจึงวางสมาร์ทโฟนไว้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือแล้วไปอาบน้ำชำระร่างกาย หลังจากกรกชอาบน้ำเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินมานั่งกรอกข้อมูลเพื่อสมัครเข้าเล่นเกม เมื่อใส่รหัสบัตรประชาชนและรายละเอียดอื่นๆ จนครบท่วน เขาก็ทำการปิดโน๊ตบุ๊ก แล้วก้าวขึ้นไปนอนบนเตียง
“เอาวะ ไหนลองเล่นดูซิ มันจะยากสักแค่ไหน ไม่แน่ถ้าสนุกจริง อาจจะช่วยให้เราคิดนิยายเรื่องใหม่ได้เร็วขึ้นก็ได้ฮ่าๆ “ กรกชเอ่ยกับตัวเองเบาๆ พลางยื่นมือไปกดปุ่มเริ่มการทำงานบริเวณหัวเตียง บังเกิดลำแสงอ่อนๆ ฉายวาบขึ้นจากบริเวณหัวเตียงเพื่อสแกนรูปร่างหน้าตาและโครงสร้างร่างกายของชายหนุ่ม เพียงไม่กี่นาที สติของเขาก็ค่อยๆ เลือนรางทีละนิด จนกระทั่งหลับลงในที่สุด
เมื่อกรกชลืมตาขึ้นชายหนุ่มก็พบว่าในตอนนี้ตัวของเขาได้มายืนอยู่ในห้องโถงขนาดพอดีไม่กว้างไม่ใหญ่ห้องหนึ่ง ตรงโต๊ะทำงานตัวเขื่องซึ่งห่างจากจุดที่เขายืนไปไม่ไกล พนักงานต้อนรับสาวร่างอรชรในชุดยูนิฟอร์มสีขาวกำลังโบกมือเป็นเชิงเรียก
“คุณคะ ทางนี้ค่ะ”
กรกชรีบเดินไปนั่งตรงก้าวอี้ฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว โดยคั่นกลางด้วยโต๊ะตัวใหญ่
“สวัสดีค่ะ ทางวิถีธาตุออนไลน์ยินดีต้อนรับคะ ไม่ทราบว่าคุณอยากจะใช้ชื่ออะไรภายในเกมคะ?” พนักงานสาวเอ่ยถาม เมื่อเห็นผู้เล่นหนุ่มตรงหน้านั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“ผมขอใช้ชื่อกรกชก็แล้วกันครับ”
“กรกช ชื่อนี้มีผู้เล่นท่านอื่นใช้ไปก่อนหน้าแล้วแปดท่าน คุณตกลงใช้ชื่อนี้นะคะ?” หญิงสาวถาม
“แปดคนเหรอครับ?” กรกชเลิกคิ้ว “เกมนี้ใช้ชื่อซ้ำได้ด้วยเหรอครับเนี่ย?”
“ได้สิคะ” เธอพูดยิ้มๆ “มีคนเข้ามาเล่นตั้งเยอะตั้งแยะ ถ้าเกิดไม่ชื่อซ้ำเลย กว่าจะหาชื่อเล็นกันได้ ไม่ใช้เวลาข้ามวันกันเลยเหรอคะ เพราะโดยปกติ ทางบริษัทเกมจะสามารถแยกแยะผู้เล่นจากรหัสบัตรประชาชนและคลื่นสมองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในเรื่องชื่อซ้ำแต่อย่างใดค่ะ” เธออธิบาย
กรกชพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ เมื่อหญิงสาวเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามต่อ
“แล้วคุณกรกชต้องการปรับหน้าตาตัวละครหรือเปล่าคะ?”
“ได้แค่ไหนเหรอครับ” เขาเอ่ย “ปรับพวกความสูงหรือพวกอายุได้หรือเปล่า?”
“ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ” เสียงของเธอกังวานใส “ในส่วนนี้คุณสามารถปรับได้เพียงสีผม ผมยาวผมสั้นค่ะ ส่วนพวกโครงหน้า หรืออายุส่วนสูงสีผิว ไม่สามารถทำได้ค่ะ”
“งั้นผมไม่ปรับดีกว่าครับ” เขาเอ่ยสั้นๆ
พนักงานสาวเปิดลิ้นชักโต๊ะแล้วหญิบกล่องสีขาวเลื่อนมาตรงหน้าของกรกช
“เนื่องจากคุณเข้ามาถูกช่วงโปรโมชั่นแจกของสมนาคุณลูกค้าของเกม ทางเราจึงขอมอบกล่องซุมไอเท็มให้คุณหนึ่งกล่องค่ะ โดยกล่องนี้ หากคุณเปิดมันออก คุณก็อาจจะได้เป็นพวกชุดสวมใส่หรืออาวุธค่ะ”
กรกชพินิจกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตรงหน้าก่อนจะนำมาถือเอาไว้
“แล้วกล่องนี่มันเปิดยังไงเหรอครับ ไม่เห็นจุดที่พอจะใช้เปิดได้เลย?”
“แค่คุณกรกชคิดคำว่า ‘เปิด’ ในใจก็เปิดได้แล้วค่ะ แล้วคุณมีอะไรสงสัยอีกมั้ยคะ?”
“ไม่มีแล้วครับ” เขาเอ่ยตอบยิ้มๆ
“เวลาออนไลน์ หนึ่งวันในเกม จะเท่ากับครึ่งชั่วโมงของเวลาปรกตินะคะ ซึ่งคุณกรกชสามารถออนไลน์ติดต่อกันได้แค่ครั้งละไม่เกินแปดชั่วโมงเท่านั้น ถ้าหากเกิน ทางระบบจะทำการออฟไลน์โดยอัตโนมัตินะคะ อีกข้อที่ควรทราบคือ เมื่อคุณกรกชยืนยันตัวตนกับทางเกมเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าเกมด้วยเตียงมายาก็ได้ หากแต่สามารถออนไลน์ผ่านหมวกมายาสำหรับพกพาไปยังที่ต่างๆ ได้เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวเว้นระยะไปพักหนึ่ง เพื่อให้ผู้เล่นชายตรงหน้าย่อยข้อมูลที่ได้รับ หากเมื่อไม่มีคำถามใดๆ จากตัวของเขา เธอจึงเริ่มเอ่ยต่อ
“เมื่อคุณเข้าเกมแล้วสามารถไปติดต่อขอรับไอเท็มเริ่มต้นได้ที่อาคารของระบบนะคะ เอาล่ะ ถ้าอย่างงั้นดิฉันขออนุญาตส่งคุณเข้าไปในพื้นที่เกมเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ย ฉับพลันนั้น ร่างกายของกรกชก็กลายเป็นกลุ่มแสงระยิบระยับ เมื่อกลุ่มแสงจางหาย ก็เหลือเพียงก้าวอี้ที่ว่างเปล่าไว้ให้เห็นเพียงเท่านั้น
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 875
แสดงความคิดเห็น