บทที่ 174: การทดสอบ
“ทุกคน เราจะพักผ่อนที่นี่สักคืน”
“พรุ่งนี้รุ่งสางเราค่อยออกเดินทางต่อ”
ทุกคนฟังคำพูดของหัวหน้า หลังจากที่เขาเอ่ยปาก คนอื่น ๆ ก็ลงจากหลังม้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อได้รับสัญญาณจากหัวหน้า หลัวเซียวเซียวก็ถูกวางลงเช่นกัน ทันทีที่เท้าแตะพื้น นางก็รีบวิ่งเข้าไปหามู่ไป๋ไป่
“คุณหนู ท่านเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” เด็กหญิงรู้สึกทุกข์ใจมากยามที่เห็นองค์หญิงหกอาเจียนไม่หยุด นางจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดปากให้อีกฝ่าย
“แอวะ… ไม่เป็นไร…” มู่ไป๋ไป่กุมหน้าท้องที่แบนราบของตัวเองพลางโบกมืออย่างอ่อนแรง “ต้องอ้วกออกมาให้หมดก่อน แล้วข้าจะไม่เป็นไร”
หลัวเซียวเซียวเข้าไปช่วยพยุงคนตัวเล็กขึ้นมาแล้วพาอีกคนไปนั่งพิงต้นไม้ใหญ่
เมื่อทั้งคู่เห็นว่าคนพวกนั้นไม่สนใจตน พวกนางจึงนั่งลงและจุดไฟให้ตัวเอง
ถัดมา มู่ไป๋ไป่กระซิบถามสหายตัวน้อยว่า “หลังจากที่ข้าหมดสติไปเกิดอะไรขึ้นหรือ? ตอนนี้เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ใดกัน?”
“ตอนนี้เราออกจากเมืองชิงหยางแล้วเจ้าค่ะ” หลัวเซียวเซียวเม้มปาก “เป็นเซียวเซียวที่ปกป้องคุณหนูเอาไว้ไม่ได้”
“ทำไมเจ้าวนกลับมาคุยเรื่องนี้อีกแล้ว?” คนตัวเล็กแสร้งทำเป็นโกรธ “ทำไมเจ้าถึงได้โทษตัวเองเช่นนี้ล่ะ ถ้าข้าไม่บอกทางผิด เราคงไม่พบกับคนพวกนี้”
“ถ้าอยากจะตำหนิใครสักคน ก็โทษข้าที่โชคร้ายเอง”
“ไม่สิ เป็นเพราะท่านพี่พูดไม่เป็นมงคลต่างหาก!”
เมื่อมู่ไป๋ไป่นึกถึงคำพูดของมู่จวินฝานก่อนที่เธอจะออกไปเข้าห้องน้ำ เธอก็รู้สึกหดหู่ใจมาก
เพราะมันเกิดเรื่องกับเธอตามที่อีกฝ่ายพูดจริง ๆ
แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้พบกับสัตว์ประหลาดพวกนั้น แต่สถานการณ์ที่เจอตอนนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่าการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเลยสักนิด
“ดูเหมือนว่าคนพวกนี้กำลังจะมุ่งหน้าไปที่แคว้นหนานซวน” หลัวเซียวเซียวเหลือบมองคนเหล่านั้น พอเห็นว่าพวกเขาไม่ได้สนใจตน นางจึงกระซิบกับมู่ไป๋ไป่ถึงสิ่งที่นางได้ยินมาระหว่างทาง “และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนที่วางยาพิษคนรับใช้ในตระกูลจิน”
“อะไรนะ!?” มู่ไป๋ไป่อ้าปากค้าง “ไม่แปลกใจเลยที่สำเนียงการพูดของพวกเขาฟังดูแปลกไปสักหน่อย ที่แท้พวกเขาไม่ใช่คนของแคว้นเป่ยหลงของเรานี่เอง”
“คุณหนู เราต้องหาทางหลบหนี” หลัวเซียวเซียวเม้มริมฝีปากแน่นเพราะรู้สึกถึงอันตราย
“ข้าจะพยายามหลอกล่อพวกเขาเอาไว้สักพัก คุณหนูรีบขี่ม้าแล้วมุ่งหน้าไปที่เมืองชิงหยางเลยนะเจ้าคะ”
“ตอนนี้เราอยู่ไม่ไกลจากเมืองชิงหยาง เราน่าจะไปถึงได้ภายในครึ่งชั่วยาม”
“นอกจากนี้ท่านยังสามารถควบคุมสัตว์ได้ ม้าพวกนี้จะฟังคำสั่งของท่าน ท่านพาพวกมันไปให้หมดแล้วท่านจะหนีรอดไปได้”
“เจ้าต้องมากับข้า” มู่ไป๋ไป่คว้าแขนของอีกคนเอาไว้แน่น “เจ้าพูดเองว่าข้าสามารถทำให้ม้าเหล่านี้เชื่อฟังได้ ดังนั้นข้าจึงไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าเป็นเหยื่อล่อ”
“อีกสักพักเราจะไปคลายเชือกที่ผูกม้า และให้พวกมันพาเรากลับไป”
“ส่วนม้าตัวอื่น ข้าจะสั่งให้พวกมันอยู่กับที่ ห้ามวิ่งไปไหน”
หลัวเซียวเซียวไม่เห็นด้วยและอยากจะพูดโต้แย้ง แต่องค์หญิงหกได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ฟังคำคัดค้านใด ๆ อีก
ในขณะนี้กลุ่มโจรกำลังนำอาหารแห้งออกมากิน และยังแบ่งให้เด็กหญิงทั้ง 2
มู่ไป๋ไป่ที่เพิ่งอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงไม่รู้สึกอยากอาหารเลย อีกทั้งเธอกลัวว่าคนพวกนั้นจะใส่บางอย่างลงในอาหารพวกนี้ เธอจึงไม่ได้แตะต้องมัน
“ฮ่า ๆๆ เด็กน้อย เจ้านี่ช่างดื้อรั้นเสียจริง” ชายสวมหน้ากากยิ้มเยาะ “ถ้าเจ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน หลังจากนี้ข้าก็จะไม่ให้เจ้ากินอะไรอีก!”
เด็กหญิงแสร้งทำเป็นหลับตาเพื่อแสดงออกว่าตนไม่สนใจเขา
คนพวกนั้นจะพักอยู่ที่นี่ 1 คืน ดังนั้นเธอกับหลัวเซียวเซียวมีโอกาสที่จะหลบหนีไปได้ทุกเมื่อ
ตราบใดที่ทุกคนยังหลับอยู่ พวกเธอก็จะสามารถเริ่มลงมือได้
แล้วท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ กลุ่มคนที่กินดื่มจนพอใจแล้วก็พากันเอนตัวพิงต้นไม้หลับไป
ทางด้านมู่ไป๋ไป่กับหลัวเซียวเซียวก็กอดกันและแกล้งหลับเช่นกัน
เมื่อจังหวะการหายใจของคนรอบตัวเริ่มค่อย ๆ คงที่ เด็กทั้ง 2 ก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้นเงียบ ๆ ก่อนจะเดินไปหาม้าตัวที่ใกล้ที่สุด
เมื่อม้าตัวนั้นเห็นมู่ไป๋ไป่ มันก็พ่นลมหายใจอย่างตื่นเต้น “ท่านจ้าวอสูร!”
“ชู่ว!” หัวใจของคนตัวเล็กเต้นรัว พร้อมกับที่เธอทำท่าทางให้อีกฝ่ายเงียบ “อย่าส่งเสียง!”
เจ้าม้ากะพริบตาอึดใจหนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“เด็กดี” มู่ไป๋ไป่แตะหัวม้าสีดำเบา ๆ
ขณะนั้นเจ้าม้าเปิดปากเหมือนจะส่งเสียง แต่พอมันนึกถึงคำสั่งของนายเหนือหัว มันจึงทำเพียงแค่พยักหน้า
นี่ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มันจะได้รับใช้ท่านจ้าวอสูร
“เยี่ยมมาก” มู่ไป๋ไป่ยิ้มอย่างมีความสุข “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะปลดสายบังเหียนของเจ้า และเจ้าต้องทำตามคำสั่งของข้า ถ้าข้าบอกให้เจ้าวิ่ง เจ้าจะต้องรีบวิ่งมุ่งหน้าไปที่เมืองชิงหยางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เข้าใจหรือไม่?”
เจ้าม้าพยักหน้าอีกครั้ง
จากนั้นมู่ไป๋ไป่กับหลัวเซียวเซียวก็หันกลับไปเพื่อคว้าสายบังเหียนที่ผูกอยู่บนต้นไม้
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มือของพวกเธอจะเอื้อมไปถึงสายบังเหียน ทั้งคู่ก็ถูกคว้าคอเสื้อไว้
“ฮ่า ๆๆ! ดูเหมือนว่าคราวนี้ข้าจะเก็บของล้ำค่ามาได้จริง ๆ!” ชายสวมหน้ากากกำลังจับตัวมู่ไป๋ไป่ พร้อมกับมองเธอด้วยความโลภ “เด็กน้อย เจ้าพูดภาษาสัตว์ได้จริง ๆ”
คนตัวเล็กรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว “นี่พวกเจ้าจงใจ!”
“ถ้าฆ่าไม่จงใจ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเป็นเพชรล้ำค่าหรือเป็นเพียงก้อนกรวด” ชายผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มโยนเด็กน้อยลงบนพื้น “ข้าจะต้องดูแลของล้ำค่าอย่างเจ้าให้ดี หลังจากนี้เจ้าจะเป็นประโยชน์มากในแคว้นหนานซวน”
“พวกเจ้าจับนางมัดแล้วปิดปากนางซะ อย่าให้นางได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว”
“!!!”
“คุณหนู!!” หลัวเซียวเซียวเองก็ถูกใครบางคนดึงไปอีกทาง ไม่ว่านางจะพยายามดิ้นรนแค่ไหน นางก็ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย
“จริงสิ เด็กคนนี้ส่งเสียงดังเกินไป” ชายสวมหน้ากากจ้องเด็กหญิงอย่างหมดความอดทน “ฆ่านางแล้วโยนนางให้เป็นอาหารหมาป่าซะ”
มู่ไป๋ไป่ที่ได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง และเธอก็พยายามดิ้นรนสุดกำลัง “อื้ออออ!!”
ถ้าพวกมันกล้าแตะต้องนาง เธอไม่เอาพวกมันไว้แน่!!
“อยู่เฉย ๆ!” ชายที่จับตัวมู่ไป๋ไป่เอาไว้รู้สึกทนไม่ไหว เขาจับเธอพลิกขึ้นมาแล้วตบหน้าเธอเต็มแรง
เพี้ยะ!!
นี่เป็นการตบที่รุนแรงที่สุดที่มู่ไป๋ไป่เคยได้รับมานับตั้งแต่ที่เธอทะลุมิติมายังโลกนี้ มันทำให้โลกเบื้องหน้าเธอหมุนคว้าง และแก้มขาวนวลของเธอก็บวมปูดขึ้นทันที
“หยุดนะ!” ชายผู้เป็นหัวหน้าตะคอกด้วยความโกรธ “ใครสั่งให้เจ้าทำกับนางเช่นนั้น! นางถูกจับมัดเอาไว้แล้วไม่มีทางหนีไปได้หรอก และหากเกิดอะไรขึ้นกับนาง แม้ว่าเจ้าจะมี 10 ชีวิตก็ไม่อาจชดเชยชีวิตของนางชีวิตเดียวได้!”
“เด็กน้อย เจ้าไม่อยากให้สาวใช้ของเจ้าเป็นอะไรไปหรือ?” ชายสวมหน้ากากคุกเข่าลงคว้าจับกรามของมู่ไป๋ไป่ให้เงยหน้าขึ้น “ถ้าเช่นนั้นเราก็มาทำข้อแลกเปลี่ยนกันเถอะ ข้าจะปล่อยให้สาวใช้ของเจ้าอาศัยอยู่ในแคว้นหนานซวนได้ แต่เจ้าจะต้องสัญญากับข้าว่าจะช่วยข้าควบคุมสัตว์พวกนั้นด้วย”
เด็กหญิงจ้องคนตรงหน้าเขม็ง เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าเสียงของบุคคลนี้ยังเด็กอยู่มาก
“ถ้าเจ้าเห็นด้วย เจ้าก็พยักหน้า” เขาหรี่ตาลงคล้ายกำลังยิ้ม “ถ้าเจ้าไม่เห็นด้วย ข้าจะฆ่าสาวใช้ของเจ้าทันที”
ไม่ไกลนัก หลัวเซียวเซียวกำลังถูกตรึงอยู่บนพื้นโดยมีมีดจ่ออยู่ที่คอเรียบร้อยแล้ว
หากนางขยับแม้แต่นิดเดียว คอของนางก็จะถูกคมมีดตัดขาด
มู่ไป๋ไป่ที่เห็นภาพนั้นก็แทบหยุดหายใจ เธอไม่มีเวลาคิดอะไรเลย แล้วเธอก็พยักหน้าอย่างสิ้นหวัง
“ดีมาก…” ชายสวมหน้ากากปล่อยคางมู่ไป๋ไป่ด้วยความพึงพอใจ “ปล่อยสาวใช้ตัวน้อยคนนั้น”
ทางด้านหลัวเซียวเซียวก็ตกตะลึงเช่นกัน นางเหมือนคนที่เคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกผลักลงไปในน้ำครั้งนั้น นางก็รู้ซึ้งถึงความตายได้เป็นอย่างดี
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ไม่น้าาาา ทำไมเด็กตัวเล็ก ๆ ต้องมาเจออะไรแบบนี้ พี่จวินฝานกับคุณชายเซียวไม่เอาพวกมันไว้แน่!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 55
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น