บทที่ 125: ข้าจะจับมันมาให้พระองค์เลี้ยงดูตั้งแต่ยังเล็ก

-A A +A

บทที่ 125: ข้าจะจับมันมาให้พระองค์เลี้ยงดูตั้งแต่ยังเล็ก

 “ทำไมหรือ?” มู่ไป๋ไป่ถามด้วยความประหลาดใจ “ครั้งที่แล้วท่านยังพาข้าไปที่โรงพนันใต้ดินได้อยู่เลย” 

เธอรู้สึกว่าอวี้เซิ่งเป็นคนที่แปลกมากจริง ๆ บางครั้งก็ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้เงินควบคุมเขาได้ แต่บางครั้งเงินก็ดูเหมือนไม่มีค่าสำหรับตัวเขาเลย

ช่างเป็นคนที่เข้าใจยากยิ่งนัก

 “มันไม่เหมือนกัน” นักฆ่าหนุ่มเริ่มเปลี่ยนท่าทาง “องค์หญิงหก พระองค์ปล่อยหมาป่าตัวนั้นไปเถอะ มันเปลี่ยนเพียงแค่สัตว์ป่าตัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากองค์หญิงชอบข้าจะไปจับตัวอื่นมาให้พระองค์เอง” 

 “แล้วเราก็เอามันมาเลี้ยงให้เชื่องตั้งแต่เด็ก” 

 “มันไม่เหมือนกัน!” มู่ไป๋ไป่กอดอกจ้องมองเขานิ่ง ๆ “เจ้าตัวโตเป็นสหายของข้า มันไม่ใช่สัตว์ป่า” 

เนื่องจากเธอสามารถเข้าใจภาษาสัตว์ได้ เธอจึงค้นพบว่าจริง ๆ แล้วสัตว์ก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์ พวกมันให้ความสำคัญกับมิตรภาพมากกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ

เหมือนกับเจ้าตัวโต

เพียงเพราะเธอเคยช่วยมันเอาไว้ครั้งหนึ่ง เจ้าตัวโตจึงเชื่อใจเธอมาโดยตลอด

ครั้งล่าสุดที่เธอลงเขาไปตามหาเสิ่นจวินเฉา เจ้าตัวโตก็เป็นฝ่ายเสนอตัวที่จะไปช่วย แถมยังยินยอมให้เธอล่ามโซ่มันเหมือนสุนัขอีกด้วย 

 “ในสายตาของท่าน เจ้าตัวโตอาจจะเป็นเพียงแค่สัตว์ป่า แต่สำหรับข้ามันแตกต่างออกไป” ในขณะที่พูดดวงตาของมู่ไป๋ไป่ก็รื้นไปด้วยน้ำตา “ไม่ว่าเจ้าตัวโตจะตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ ข้าก็จะต้องตามหามันให้เจอ!” 

หลังจากพูดจบเธอก็หันหลังวิ่งออกไป

อวี้เซิ่งยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ สักพักหนึ่ง จากนั้นจึงหันหลังกลับไปมองคนตัวเล็กด้วยสีหน้าซับซ้อน

ในเรือนพักของมู่ไป๋ไป่

ทางด้านหลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงต่างกำลังรอฟังข่าวจากองค์หญิงหก เมื่อพวกเขาเห็นนางกลับมาก็รีบเข้าไปถามไถ่ทันที

 “ข้ารู้แล้วว่าเจ้าตัวโตอยู่ที่ไหน” มู่ไป๋ไป่ร้องไห้ในระหว่างที่วิ่งกลับมา จึงทำให้ดวงตาของเธอเป็นสีแดงก่ำเล็กน้อย “มันอยู่ในตลาดผี” 

 “ตลาดผี?” 

หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงต่างก็ไม่รู้ว่าสถานที่ที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน

แม้ว่ามู่ไป๋ไป่จะไม่รู้ที่ตั้งของมัน แต่ในฐานะผู้นำของคนทั้ง 3 เธอไม่อาจแสดงท่าทางไม่มั่นใจออกมาได้ 

เธอพยายามรักษาท่าทีของตัวเองและยิ้มให้ทั้งคู่อย่างมั่นใจ “เตรียมตัวลงภูเขากันเถอะ พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะพาเจ้าตัวโตกลับมาให้ได้” 

เมื่อหลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงได้ยินคำยืนยันขององค์หญิงตัวน้อย พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 “องค์หญิงหก พวกเราเชื่อในตัวพระองค์” หลัวเซียวเซียวจับมือมู่ไป๋ไป่แล้วกระซิบให้กำลังใจ

 “ใช่! ข้าเองก็เชื่อเช่นกัน!” จื่อเฟิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

จากนั้นเด็กทั้ง 3 ก็มองหน้ากันและอดหัวเราะออกมาไม่ได้ 

ครั้งนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน มู่ไป๋ไป่ไม่สนใจว่าซูหว่านกับไทเฮาจะรู้หรือไม่หากตนแอบลงจากภูเขา เธอได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ที่ห้องของตัวเองแล้วพาทั้ง 2 คนลงจากภูเขาไป

 “ท่านจะไม่ตามไปหรือ?” บนหลังคา เซียวถังอี้เงยหน้าขึ้นมองดูเด็ก 3 คนที่กำลังเดินทางจากภูเขาไปตามถนน

 “ท่านกำลังพูดอะไร? พวกเขาจะกลับมาในไม่ช้า” อวี้เซิ่งยักไหล่อย่างเมินเฉย “หรือท่านคิดว่าเด็ก 3 คนนั้นจะสามารถค้นหาตลาดผีได้จริง ๆ?” 

 “ใครจะไปรู้” เด็กหนุ่มกล่าวยิ้ม ๆ “ท่านไม่คิดว่านางน่าสนใจมากหรือ? สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นตอนที่เราลงจากภูเขาเพื่อตามหาใครสักคน ในตอนที่เราสับสนหมดหนทาง ก็เป็นนางที่ค้นหาคนหายพบโดยบังเอิญ” 

 “...” 

 “บางทีในครั้งนี้นางก็อาจจะหาตลาดผีพบโดยบังเอิญเช่นกัน” เซียวถังอี้ยิ้มมุมปากมองอวี้เซิ่ง “ตลาดผีเป็นสถานที่ที่กลืนกินผู้คนโดยไม่เหลือกระดูก คนพวกนั้นชื่นชอบเด็กตัวเล็ก ๆ เหมือนมู่ไป๋ไป่มากที่สุด” 

 “หากเกิดอะไรขึ้นกับมู่ไป๋ไป่ เสด็จพี่คงไม่มีทางปล่อยท่านไปง่าย ๆ แน่” 

 “ชิ! เซียวถังอี้ ช่วงนี้ท่านว่างมากหรือ?” นักฆ่าหนุ่มลุกขึ้นอย่างฉุนเฉียว “ทำไมท่านถึงมาที่วัดฮู่กั๋วอยู่เรื่อย” 

 “ท่านหาของที่ท่านตามหาพบหรือยัง? จนป่านนี้แล้วยังไม่พบอีกหรือ?” 

 “ที่จริงแล้วท่านทำของหาย หรือมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น?” 

เซียวถังอี้ยกสุราดื่มหมดจอก ทำให้หน้ากากสีเงินของเขาสะท้อนกับแสงแดดที่เจิดจ้า “ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ?” 

 “...” คราวนี้เป็นอวี้เซิ่งที่ต้องพ่ายแพ้

ดูเหมือนว่าเซียวถังอี้กับอวี้เซิ่งจะประเมินมู่ไป๋ไป่ต่ำไป หลังจากที่เธอลงจากภูเขา เธอไม่ได้ออกไปตามหาตลาดผีแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เธอได้มุ่งตรงไปยังจวนตระกูลเสิ่นเพื่อพบเสิ่นจวินเฉา

ขณะนี้เด็กชายยังคงจัดการกับธุระส่วนตัวของตัวเองอยู่ พอเขาได้ยินว่ามู่ไป๋ไป่มาหา เขาก็โยนสมุดบัญชีในมือทิ้งและเดินออกไปอย่างมีความสุข “ไป๋ไป่ เจ้ามาที่นี่ทำไมหรือ?” 

 “พี่จวินเฉา ข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน” คนตัวเล็กไม่พูดอ้อมค้อมให้เสียเวลาและรีบเล่าเรื่องเกี่ยวกับเจ้าตัวโตให้อีกฝ่ายฟังก่อนจะบอกว่า “ข้าอยากไปที่ตลาดผี แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน” 

 “พี่จวินเฉา ท่านทำการค้าในเมืองหลวงมานาน ทั้งซื้อและขายของมากมาย ท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของตลาดผีมาก่อนใช่หรือไม่?” 

 “เจ้าจะไปตลาดผีหรือ?” คำถามนี้ทำให้สีหน้าของเสิ่นจวินเฉาเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ไป๋ไป่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตลาดผีคืออะไร?” 

 “มันแตกต่างจากตลาดทั่วไป และไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมาย” 

 “โดยทั่วไปแล้วคนที่ทำการค้ากับตลาดผีจะเป็นพวกที่ไร้หนทาง” 

สีหน้าของหลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำพูดของเสิ่นจวินเฉา เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าตลาดผีเป็นเพียงสถานที่ธรรมดาแห่งหนึ่ง

 “มันอันตรายเกินไป!” หลัวเซียวเซียวรีบคว้าตัวมู่ไป๋ไป่มากระซิบให้ได้ยินกันเพียง 2 คน “องค์หญิงหก พระองค์จะไปสถานที่แบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด!” 

 “ข้าต้องไป” คนตัวเล็กสูดหายใจเข้าลึก ๆ และมองเสิ่นจวินเฉาอย่างแน่วแน่ “พี่จวินเฉา เจ้าตัวโตเป็นสหายของข้า ข้าต้องไปช่วยมัน” 

ส่วนจื่อเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างดวงตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

เด็กชายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากว่า “เจ้ารอข้าสักครู่” 

หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็หันหลังเดินเข้าไปในจวนเพื่อปรึกษากับคนของตัวเอง เวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ตลาดผียังไม่เปิด เจ้าจะต้องรอจนกว่าจะถึงเวลากลางดึก ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เจ้ามากินข้าวก่อนเถอะ” 

 “ข้าได้สั่งให้คนเตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้เจ้าผลัดเปลี่ยนแล้ว มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ถ้าเจ้าจะทำตัวโดดเด่นในตลาดผี” 

 “หลังจากกินข้าวเสร็จ ค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกัน” 

มู่ไป๋ไป่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณพี่จวินเฉา” 

นอกจากนี้หลัวเซียวเซียวยังพาจื่อเฟิงเข้าไปขอบคุณคุณชายเสิ่นด้วยเช่นกัน

 “ไม่เป็นไร ครั้งที่แล้วเจ้าตัวโตก็มาช่วยข้า ดังนั้นมันก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยข้าไว้เช่นกัน” เด็กชายกล่าวพลางลูบหัวของเด็กหญิงเบา ๆ “ครั้งที่แล้วมันช่วยข้าไว้ คราวนี้ที่ข้าช่วยมันก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของมันด้วย” 

มู่ไป๋ไป่เคยนัดแนะกับเสิ่นจวินเฉาว่าจะมาทานข้าวตามคำเชิญของเขา แต่คราวนี้พอมีโอกาสจริง ๆ กลับกลายเป็นว่าเธอไม่มีกะจิตกะใจจะกินสักเท่าไหร่ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาหารตรงหน้ามีรสชาติเป็นอย่างไร

หลังจากทุกคนกินดื่มจนพอใจ คนรับใช้ในจวนของเสิ่นจวินเฉาก็เข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้ากองใหญ่

 “นายท่าน เราเตรียมทุกอย่างตามที่ท่านสั่งไว้แล้วเจ้าค่ะ” 

มู่ไป๋ไป่ก้าวเข้ามาดูและพบว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ล้วนเป็นสีดำเรียบ ๆ

 “พวกเจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ” เสิ่นจวินเฉาแจกจ่ายเสื้อผ้าให้กับพวกมู่ไป๋ไป่ “เจ้าต้องการให้คนรับใช้เข้าไปช่วยหรือไม่?” 

 “ไม่ต้อง ไป๋ไป่สามารถทำเองได้!” คนตัวเล็กตบหน้าอกตัวเองให้ความมั่นใจแก่อีกฝ่าย “เอ๊ะ ทำไมถึงมีเสื้อผ้าเหลืออยู่อีกล่ะ?” 

เด็กชายมองคนถามยิ้ม ๆ ขณะตอบว่า “นี่เป็นชุดของข้า” 

 “หืม? พี่จวินเฉา ท่านจะไปตลาดผีกับพวกเราด้วยหรือ?” มู่ไป๋ไป่ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีก “ไม่ได้ มันอันตรายมากเกินไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่านล่ะ ข้าจะทำอย่างไร?” 

หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงเป็นคนของเธอทั้งคู่ ดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรแปลกหากพวกเขาจะติดตามเธอเข้าไปในตลาดผีที่อันตรายด้วย

แต่สำหรับเสิ่นจวินเฉา เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ เธอจะขอให้คนอื่นยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อเธอได้อย่างไร?

 “ไป๋ไป่ สิ่งที่เจ้าพูดทำให้ข้ารู้สึกปวดใจยิ่งนัก” เสิ่นจวินเฉาดีดหน้าผากเด็กน้อยเบา ๆ “ในตอนที่เจ้ามาช่วยข้า เจ้าเคยคิดถึงอันตรายบ้างหรือไม่?” 

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ประเมินไป๋ไป่ต่ำไปซะแล้วววว พี่จวินเฉาดีกับไป๋ไป่มากเลย ฮืออออ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.