บทที่ 71: เจ้าส้มหายตัวไป

-A A +A

บทที่ 71: เจ้าส้มหายตัวไป

“องค์หญิงหก พระองค์ทรงอย่าทำเช่นนั้น” หลัวเซียวเซียวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเมื่อได้ยินคำพูดของมู่ไป๋ไป่ “องค์รัชทายาทตรัสว่าสถานการณ์ภายนอกวังหลวงนั้นซับซ้อนกว่าภายใน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพระองค์เผชิญกับอันตราย?”

“หากตกอยู่ในอันตราย ข้าคนนี้ก็มีแส้อันเล็กที่ท่านพี่รัชทายาทมอบให้” เด็กหญิงตบแส้ที่อยู่รอบเอวของตัวเองพลางพูดติดตลก

“ไม่เพคะ! องค์รัชทายาทตรัสว่าวรยุทธของเรายังตื้นเขินเกินไป สามารถใช้เอาชีวิตรอดยามคับขันเท่านั้น” หลัวเซียวเซียวรู้สึกเป็นกังวลมาก นางกลัวว่าองค์หญิงหกจะแอบออกไปเล่นให้ตัวเองต้องเสี่ยงอันตราย

พอมู่ไป๋ไป่เห็นว่าสหายตัวน้อยเป็นกังวลมาก เธอจึงหยุดล้อเล่นก่อนจะโบกมือยิ้ม ๆ “ข้าแค่ล้อเล่น ข้าดูเป็นคนโง่ขนาดนั้นเลยหรือ?”

“นอกจากนี้ เรากำลังจะมุ่งหน้าไปยังวัดฮู่กั๋ว ดังนั้นคงไม่มีโอกาสให้ข้าได้แอบออกไปเล่นหรอก”

เมื่อหลัวเซียวเซียวได้ยินเช่นนี้ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เจ้าเองก็...” มู่ไป๋ไป่ยิ้มพลางจับไหล่คนข้าง ๆ “เพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่วัน ทำไมเจ้าถึงเอาแต่พูดถึงท่านพี่รัชทายาทของข้าล่ะ?”

หลัวเซียวเซียวหน้าแดงระเรื่อขณะตอบเสียงตะกุกตะกัก “เพราะ… สิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นถูกต้องแล้วต่างหากเพคะ เซียวเซียวจึงจำได้ขึ้นใจ”

มู่ไป๋ไป่มองอีกฝ่ายด้วยสายตามีเลศนัยโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ และยังคงเอนตัวนอนบนเก้าอี้เพื่อมองไปที่ทิวทัศน์ด้านนอก

ในตอนนั้นเอง บังเอิญว่าตอนที่พวกเธอกำลังจะออกจากเมือง รถม้าของไทเฮาเกิดปัญหาบางอย่างจึงทำให้ขบวนต้องหยุดพัก  

“ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นหรือ?” มู่ไป๋ไป่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของซูหว่าน แล้วจู่ ๆ เธอก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังจากข้างนอก

“เรามาถึงวัดฮู่กั๋วเร็วขนาดนี้เลยหรือ?” เด็กหญิงเอ่ยถาม

“ไม่ใช่หรอก” หว่านผินตบหลังกล่อมลูกสาวเบา ๆ และส่งสัญญาณให้นางนอนหลับต่อไป “รถม้าของไทเฮาพัง คนของตำหนักฉือซิ่งเพิ่งส่งคนมาถึง คงจะทำการซ่อมแซมเร็ว ๆ นี้”

“หืม? รถม้าเสียหรือ!” จู่ ๆ มู่ไป๋ไป่ก็ตาสว่าง “เราจะเดินทางต่อไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่เพคะ?”

ซูหว่านรู้สึกขบขันกับท่าทางลูกสาวแล้วกล่าวว่า “ไป๋ไป่ ทำไมเจ้าถึงดูมีความสุขขนาดนั้นล่ะ? ก่อนหน้านี้แม่บอกว่าจะขออนุญาตฝ่าบาทให้ยกเว้นเจ้าไม่ต้องเดินทางไปสวดมนต์ที่วัดฮู่กั๋ว แต่เจ้าก็ไม่ฟัง ดูตอนนี้สิ ไม่รู้ว่าเราจะต้องหยุดพักอยู่ที่นี่นานเพียงใด”

“ไป๋ไป่ไม่ได้มีความสุขสักหน่อย” เด็กน้อยกลอกตาไปมาและความปรารถนาที่อยากจะออกไปเล่นสนุกก็เริ่มถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้เธอได้ล้มเลิกความคิดที่จะออกไปเที่ยวเล่นเพราะไม่มีโอกาสที่เหมาะสมจริง ๆ ตอนนี้ดูเหมือนว่าสวรรค์จะได้ส่งโอกาสอันยิ่งใหญ่มาให้เธอแล้ว

ถ้าเธอไม่ออกไปเดินเล่นสักหน่อย มันคงจะผิดต่อสวรรค์

“ท่านแม่ ข้าเบื่อจังเลย ข้าขอออกไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อยได้หรือไม่เพคะ?”

มู่ไป๋ไป่กะพริบตากลมโตปริบ ๆ พร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้คนเป็นแม่ “ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ไป๋ไป่จะไม่เดินไปไกลจากรถม้า แล้วจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”

“แต่...” ในตอนแรกหว่านผินกำลังจะปฏิเสธ แต่พอคิดได้ว่าเด็กคนนี้ไม่เคยเห็นโลกที่อยู่ภายนอกวังหลวงเพราะนางเกิดและโตอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่เด็ก นางก็ยอมใจอ่อนลงเล็กน้อย

“เถอะน้า~” มู่ไป๋ไป่จับมืออีกฝ่ายแล้วเขย่าเบา ๆ “ไป๋ไป่จะพาเซียวเซียว เจ้าส้ม และองครักษ์ไปด้วย”

“แค่นี้ก็ปลอดภัยแล้วเพคะ”

“นับว่าเจ้ายังมีมโนสำนึก” เจ้าส้มที่อยู่ด้านข้างรู้สึกพอใจมากหลังจากได้ยินว่าเจ้าตัวเล็กจะพามันไปด้วย

หว่านผินเม้มริมฝีปาก และถามนางกำนัลก่อนว่าต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่ารถม้าจะซ่อมเสร็จ

พอหญิงสาวได้ยินว่าอาจจะต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยาม สุดท้ายแล้วนางก็พยักหน้า “เอาเถอะ แม่อนุญาต แต่หลังจากครึ่งชั่วยามเจ้าต้องรีบกลับมาและห้ามไปไหนไกล” 

“ตกลง!” มู่ไป๋ไป่ส่งเสียงหัวเราะดีใจและรีบเข้าไปหอมแก้มผู้เป็นแม่ จากนั้นก็ดึงหลัวเซียวเซียวลงจากรถม้าไปอย่างรวดเร็ว

ทางด้านซูหว่านได้แต่จับแก้มที่ถูกหอมด้วยความมึนงง และดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นน้ำนมจาง ๆ ติดอยู่ข้างแก้ม ก่อนที่นางจะเผยรอยยิ้มมีความสุขออกมา

ไป๋ไป่ของนางหอมแก้มนางด้วย…

ขณะนี้ขบวนเสด็จประพาสอยู่ไม่ไกลจากประตูเมือง ที่นี่จึงไม่คึกคักเท่ากับใจกลางเมืองที่ผ่านมา แต่บริเวณใกล้เคียงยังคงมีตลาดเล็ก ๆ อยู่

มู่ไป๋ไป่สุ่มเลือกองครักษ์มาด้วยแบบไม่ใส่ใจและดึงหลัวเซียวเซียวก้าวเข้าสู่ตลาด 

“นั่นถังหูลู่* ข้าไม่ได้กินถังหูลู่มานานแล้ว เซียวเซียว เจ้าส้ม พวกเจ้าอยากกินหรือไม่?”

*ถังหูลู่ (糖葫芦) คือ ขนมหวานที่นำผลไม้ชนิดต่าง ๆ มาเคลือบน้ำตาล เป็นขนมหวานโบราณของชาวจีน

“ตรงนั้นมีคนปั้นน้ำตาลอยู่ด้วย ข้าอยากได้รูปแมวตัวใหญ่อันหนึ่ง”

“ซาลาเปา! ซาลาเปาเนื้อ! ข้าอยากกินซาลาเปาไส้เนื้อ!”

มู่ไป๋ไป่เป็นเหมือนปลาตัวเล็ก ๆ ที่ถูกปล่อยลงบ่อ เธอเคลื่อนตัวจากแผงนั้นไปแผงนี้อย่างรวดเร็วเพื่อซื้อทุกสิ่งที่ตนเห็น

หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์ 2 คนที่ติดตามมาอยู่ด้านหลังก็ถือของกันเต็มไม้เต็มมือ

หลัวเซียวเซียวถูกองค์หญิงหกลากไปมา สุดท้ายแล้วนางก็ละทิ้งความกังวลและความหวาดระแวงของตัวเองไว้เบื้องหลัง ก่อนจะร่วมสนุกไปกับอีกฝ่ายจนมีเหงื่อผุดขึ้นตามตัว

หลังจากมู่ไป๋ไป่เดินไปรอบตลาดจนทั่ว เธอก็ถือถ้วยน้ำตาลเย็นชื่นใจที่องครักษ์เพิ่งซื้อมาให้ยกขึ้นจิบเบา ๆ 

ถึงแม้ว่าจะดูน่าเบื่อไปสักหน่อย แต่ก็มีของหลายอย่างที่น่าสนใจดี

มันไม่ต่างจากย่านการค้าสมัยใหม่เลยสักนิด

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือมีดอกไม้ไฟให้ดู และเธอก็ชอบมันมาก

“องค์หญิงหก เราซื้อของใกล้เสร็จแล้ว หลังจากดื่มน้ำชามนี้เสร็จเรากลับกันเลยดีหรือไม่เพคะ?” ยามนี้ใบหน้าของหลัวเซียวเซียวแดงก่ำ เนื่องจากว่านางกลัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยินจึงเข้าไปกระซิบข้างหูอีกคน

“ได้” มู่ไป๋ไป่เหนื่อยล้ากับการเดินซื้อของ เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วยทันที “ในระหว่างที่เดินทางกลับ ข้าจะแวะซื้อไก่ย่างให้เจ้าส้มกินระหว่างทางด้วย”

“เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้าส้มมองไก่ย่างตัวนั้นจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าแน่ะ”

“...”

“เอ๊ะ! เจ้าส้มหายไปไหน!”

มู่ไป๋ไป่หันหัวเล็ก ๆ ไปรอบ ๆ แล้วนึกขึ้นได้ว่าเจ้าแมวอ้วนที่เธอพูดถึงมาตั้งนานได้หายตัวไปแล้ว

มันเป็นแมวที่มีสติปัญญาและรู้ว่าจะต้องติดตามเธอมา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจมันมากนักในระหว่างที่เดินตลาด

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าในขณะนั้นเจ้าส้มจะหายตัวไป

องครักษ์ทั้ง 2 เองก็ไม่รู้ว่าแมวส้มหายไปไหน เพราะพวกเขาเอาแต่ขนของที่ให้เด็กหญิงอยู่ตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงละเลยมันไป

“เจ้าแมวตัวนี้นี่สร้างความยุ่งยากเหลือเกิน” มู่ไป๋ไป่กัดฟันพูด “ถ้าข้าหามันเจอแล้วละก็ ข้าจะให้มันอดอาหาร 3 วัน 3 คืนเป็นการสั่งสอน!”

“พวกท่าน 2 คน ให้คนหนึ่งเอาของกลับไปเก็บก่อน แล้วแจ้งท่านแม่ว่าข้ากำลังตามหาเจ้าส้มและจะรีบกลับไปเร็ว ๆ นี้ ส่วนอีกคนให้แยกไปหาเจ้าส้ม ข้าจะไปกับเซียวเซียว ตลาดแห่งนี้ไม่ได้ซับซ้อนนัก ถ้าเราแยกกันหาไปตามทางที่เราเดินมาคงจะหามันพบเร็วขึ้น”

หลังจากคนตัวเล็กเอ่ยปากสั่ง เธอก็ไม่รีรอให้องครักษ์ทั้ง 2 ตอบรับ เธอรีบดึงหลัวเซียวเซียวเดินเข้าไปในตรอกด้านซ้ายของตลาด

จากที่เธอรู้จักเจ้าส้มมา เจ้าแมวจอมตะกละตัวนี้น่าจะไปหาอะไรกินอยู่แถวแผงขายอาหาร

ตราบใดที่พวกเธอเดินย้อนกลับไปยังแผงขายอาหาร พวกเธอจะพบมันอย่างแน่นอน

ทางด้านองครักษ์ 2 คนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังไม่คาดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องแยกย้ายกันชั่วคราวตามคำสั่งขององค์หญิงหก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะวันนี้มู่ไป๋ไป่โชคร้ายหรือไม่ ทุกคนค้นหาไปทั่วตลาดแล้วแต่ก็ไม่พบร่องรอยของเจ้าส้มเลย

“องค์หญิง เหตุใดเราไม่เสด็จกลับก่อนล่ะพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์เห็นว่าใกล้จะถึงเวลาต้องออกเดินทางแล้ว เขาจึงเอ่ยแนะนำขึ้นมา “พวกกระหม่อมจะเรียกองครักษ์ในวังมาช่วยตามหาแมวทรงเลี้ยงให้เองพ่ะย่ะค่ะ”

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เกิดเรื่องจนได้ เจ้าส้มตัวแสบดันมาหายระหว่างเดินทางซะงั้น โธ่

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.