บทที่ 12...2/3
ปรานต์จอดรถกำลังจะลงไปส่งจอมขวัญในร้านขนมลิต้าอยู่แล้ว แต่มีสายสำคัญโทรเข้ามา พอรับแล้วสีหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึมทันที กลายเป็นความโล่งใจของจอมขวัญเพราะเขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญต้องรีบไปจัดการ ทำให้ไม่ได้เข้ามาส่งเธอในร้าน แต่บอกว่าถ้าจัดการเรื่องเสร็จแล้วและลลิตาสะดวกเขาจะมาหาอีกครั้ง ซึ่งหญิงสาวอยากบอกว่าไม่มาอีกเลยก็ได้ เธอยังไม่รู้จะตอบคำถามเรื่องแหวน ถ้าแม่เห็นเข้าอย่างไรเลย
จอมขวัญวางของฝากที่เธอซื้อเองและปรานต์ซื้อมาให้แม่ของเธอ แล้วเก็บมือข้างที่สวมแหวนไว้ในกระเป๋า ให้อย่างไรเธอก็ยังบอกแม่เรื่องนั้นไม่ได้
“ใครมาส่งหรือจอม แม่เห็นหลังอยู่ไวๆ เหมือนจะเป็นปรานต์ใช่ไหม” ลลิตาถามพลางถอดผ้ากันเปื้อนเพราะเพิ่งนำขนมที่อบเสร็จใหม่ๆ มาวางบนชั้น
“ค่ะแม่ พอดีว่าคุณปรานต์กลับกรุงเทพฯ เลยเจอกันบนเครื่อง จอมเลยได้กลับรถฟรีถึงบ้านเร็วขึ้น” จอมขวัญรู้สึกผิดที่ต้องพูดไปแบบนั้น “แม่คะ คืนนี้จอมมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อยนะคะ”
“ได้สิ จอมกลับมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนเถอะ”
จอมขวัญโล่งใจเรื่องปรานต์ แต่กำลังจะหนักใจเรื่องที่จะคุยกับแม่ในคืนนี้แทน หากหนทางนี้แม่ไม่ยอมรับการช่วยจากเธอ เธอจะทำอย่างไรดี แม่ของเธอเป็นผู้หญิงอ่อนโยน แต่ว่าหนักแน่นในสิ่งที่ตัดสินใจมาตลอด หลังจากพ่อตายหากไม่ใช่เพราะความหนักแน่นว่าจะทำงานเลี้ยงลูกด้วยการเปิดร้านขนมให้ได้ ตอนนี้เธอคงไม่ได้เรียนจนจบ แม้กระทั่งระหว่างนั้นมีคนมาจีบแม่หลายคน แต่แม่ไม่เคยใจอ่อนกับใครเพราะบอกเธอว่าสัญญาไว้แล้วจะมีกันแค่สองคนแม่ลูกเท่านั้น จอมขวัญจึงไม่ค่อยแน่ใจว่าจะแม่จะยอมให้เธอใช้วิธีนี้ไหม ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่เลือกปิดบัง แล้วเลือกการรักษาด้วยการกินยาประคองไปแบบนี้หรอก
หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหยิบโทรศัพท์มาเช็คข่าวสารตามประสาคนทำข่าว แต่กลับไปสะดุดตากับข่าวที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ว่ามันเกิดขึ้นที่ระยองระบุว่าชายคนหนึ่งถูกยิงระยะเผาขนแล้วนำมาทิ้งน้ำ ชาวบ้านไปพบศพ ตำรวจระบุจากรอยนิ้วมือพบว่าเป็นมือปืนที่อยู่ในบัญชีดำ มันบังเอิญไปหรือเปล่านะ คราวก่อนปรานต์ถูกลอบยิงที่ระยอง แล้วมีปืนถูกฆ่าที่ระยอง ที่ปรานต์รับสายตอนมาถึงบ้านของเธอแล้วขอตัวบอกว่ามีเรื่องต้องไปจัดการคือเรื่องนี้หรือเปล่า เขาไม่ได้ส่งคนไปตามเก็บมือปืนคนนั้นใช่ไหม? เขาโหดเหี้ยมขนาดนั้นได้หรือเปล่า ว่าแม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายก็ถูกลอบฆ่าก็ตาม
ลลิตากำลังทาครีมก่อนนอน แล้วรอลูกสาวที่บอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วย ภายในห้องของผู้เป็นแม่ถูกทำให้เหมือนเป็นปกติ แม้ว่าจะมียามากมายที่หมอจ่ายให้ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักที่ลลิตามีกุญแจไขเปิดเพียงแค่คนเดียว การป่วยของนางยังคงเป็นความลับ นางไม่อยากให้จอมขวัญไม่สบายใจ การรักษากำลังดำเนินไปอย่างประคับประคองอาการ นางจะไม่ย่อท้อและพยายามมีชีวิตให้ยาวที่สุดเพื่อลูกสาว
จอมขวัญเข้ามาในห้องของแม่ที่เธอเป็นคนเลือกม่านสีฟ้า แล้วนำมาติดให้เมื่อหลายเดือนก่อน ผ้าปูที่นอนที่เราสองคนไปเลือกด้วยกัน โต๊ะเครื่องแป้งที่เธอซื้อให้แม่จากเงินเดือนแรกในชีวิต ทุกอย่างในห้องนี้จะไม่มีความหมายเลยหากว่าแม่ไม่อยู่แล้ว เธอรู้ว่ามนุษย์มีวันต้องตาย แต่หากมีทางรอดที่จะทำให้เวลานั้นห่างไกลออกไป เธอพร้อมจะทำอยู่แล้วเพื่อแม่คนเดียว หญิงสาวนั่งลงข้างเตียงแล้วกอดแม่ไว้ด้วยความกลัวและกังวล ก่อนจะเอ่ยว่า
“จอมรู้เรื่องที่แม่เป็นตับวายเฉียบพลันแล้วนะคะ”
“จอม...”
ลลิตาคิดไว้อยู่เหมือนกันว่าสักวันจอมขวัญจะรู้ว่านางป่วย แต่นางก็โล่งใจที่ไม่ต้องปิดบังลูกสาวอีกแล้ว
“เรามาหาทางรักษาไปด้วยกันนะคะแม่ จอมจะช่วยแม่เอง ผลการตรวจร่างกายของจอมปกติและผ่านสำหรับการบริจาคตับให้ปลูกถ่ายตับให้แม่”
จอมขวัญบอกแม่พร้อมกับมอบเอกสารที่เธอได้รับมาจากแพทย์ที่เธอได้เข้าไปปรึกษา ซึ่งเป็นหมอเฉพาะทางที่แม่ไปรักษาอยู่แล้วนั่นเอง
“ไม่ได้” ลลิตาปฏิเสธทันที แม้จะรู้ว่าทำแบบที่ลูกสาวเสนอมาได้ แต่นางไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเสี่ยง “แม่กินยาทุกวัน อาการค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว จอมไม่รู้หรือว่าถ้าผ่าตัดแล้ว ร่างกายของจอมจะอ่อนแอลง แม่ยอมไม่ได้หรอก”
จอมขวัญคิดไว้อยู่แล้วว่าแม้จะไม่ยอมเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย การที่พ่อจากไปโดยที่ไม่ทันได้บอกลาเพราะหัวใจวาย พ่อผ่าตัดแล้วไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย ทำให้เธอรู้ว่าแม่กลัวการจากลาที่โรงพยาบาลที่สุด แต่การแพทย์ทุกวันนี้ทันสมัยมาก การผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายตับไม่ใช่เรื่องน่ากลัวและเสี่ยงถึงชีวิตอีกแล้ว หากมีการเตรียมตัวที่ดีจากคนให้และคนรับ รวมทั้งทีมแพทย์
“แต่จอมให้แม่เป็นอะไรไปทั้งที่จอมเต็มใจช่วยไม่ได้หรอกนะคะ แม่ไม่อยากอยู่กับจอมไปนานๆ หรือคะ จอมรักแม่มากนะ” จอมขวัญใช้ลูกอ้อน ทั้งกอด ทั้งหอม
ลลิตาเข้าใจลูกสาว แต่นางกลัวถ้าหากผ่าตัดแล้วนางไม่ฟื้นหรือจอมขวัญไม่ฟื้น เราไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอีกจะทำอย่างไร นางยังกลัวจนฝังใจ
“ขอแม่รักษาแบบที่หมอให้ยาไปก่อนดีกว่า ถ้าไม่มีทางแล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้นะจอม จอมรักแม่ แต่แม่ก็รักจอมยิ่งกว่า ถ้ายังมีทางรักษาทางอื่น แม่จะไม่ยอมให้จอมมาเสี่ยงชีวิตเด็ดขาด” ลลิตายังคงไว้ที่คำตอบเดิม แม้จะเห็นสายตาผิดหวังของลูกสาว แต่นางยอมให้ลูกมาเสี่ยงไม่ได้ หรือเป็นนางเองที่อาจไม่ฟื้นขึ้นมา อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น “จอมไปนอนได้แล้วนะลูก แม่อยากพักแล้วเหมือนกัน”
จอมขวัญรู้ดีว่าต่อให้อ้อนมากกว่านี้ ยกเหตุผลมามากมาย แต่ถ้าผู้หญิงที่ชื่อว่าลลิตาตัดสินใจแล้วย่อมเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนใจ แต่ใช่ว่าไม่มีทางอื่น เธอต้องหาใครสักคนหรืออีกหลายๆ คนมาช่วยพูดให้แม่รู้สึกวางใจว่าการผ่าตัดจะปลอดภัย ไม่มีอะไรน่ากังวล นอกจากการชนะใจตัวเองให้ได้ก่อน แต่เธอควรเริ่มจากใครดี
จอมขวัญกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่ 2 เมื่อครบ 12ชั่วโมง หลังจากกินยาเม็ดแรกไปแล้ว เธอกำลังชั่งใจว่าเรื่องในครอบครัวคราวนี้ควรขอให้ปรานต์ช่วยหรือเปล่า แม้ว่าเขาจะเป็นสื่อกลางให้อีกทีก็ตาม เธอคิดว่าคุณคฑาเป็นเพื่อนของแม่มานานน่าจะช่วยโน้มน้าวให้แม่ยอมผ่าตัดได้ เธอกดเบอร์ของปรานต์แล้วรอครู่เดียวเขาก็กดรับสาย แต่เสียงเขาก้องๆ เขาอยู่ที่ไหนงั้นหรือ
“มีอะไรหรือเปล่า ผมกำลังอาบน้ำอยู่ ไม่คิดว่าคุณจะโทรหาผมเร็วขนาดนี้นะ”
จอมขวัญยู่จมูกใส่ปลายสายที่จะบอกเธอทำไมว่าทำอะไรอยู่ ไม่รู้หรือไงว่าจินตนาการของเธอบางทีก็น่าโมโห
“ฉันขอเบอร์คุณคฑาได้ไหมคะ” เธอรีบบอกเขา
“ได้” ปรานต์ตอบพลางหนีบโทรศัพท์ด้วยแก้มกับไหล่เพื่อที่มือจะได้ว่างไปดึงผ้าเช็ดตัวมาพันกายท่อนล่าง “แต่บอกได้ไหมว่าคุณจะโทรหาพ่อของผมด้วยเรื่องอะไร ไม่ได้อยากจะละลาบละล้วง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ผมช่วยได้ ผมจะช่วยเอง”
“คุณ...ไม่น่าจะช่วยได้” จอมขวัญนึกภาพปรานต์มาช่วยพูดโน้นน้าวแม่ของเธอไม่ออกจริงๆ “แม่ของฉันไม่ยอมให้ฉันบริจาคตับให้ ฉันเลยอยากให้พ่อของคุณช่วยพูดอีกทาง”
“ถ้างั้นผมจะบอกพ่อให้เอง ส่วนเบอร์ผมจะส่งให้ทางแชทนะ คุณใช้เบอร์นี้สมัครแชทใช่ไหม”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” จอมขวัญไม่ได้ยินอะไรจากปรานต์แล้วจึงกดวางสาย
เพียงครู่เดียวเสียงข้อความแชทก็ดังขึ้น ปรานต์ร้องขอเธอให้เป็นเพื่อนในแชทจริงๆ เสียด้วย รูปไปรไฟล์ของเขาเป็นรูปหมาก็เจ้าบักกี้ที่กระโจนใส่เธอจนตกสระน้ำนั่นแหละ เธอกดรับเขาเป็นเพื่อนแล้วเขียนข้อความขอบคุณไปเพราะเขาส่งเบอร์ของคุณคฑามาให้ แล้วพิมพ์บอกว่าเขาจะคุยกับพ่อให้ เธอเลยพิมพ์คำว่า ‘ขอบคุณนะคะ’ กลับไปอีกครั้ง เขาส่งรูปหมาทำหน้ายิ้มกลับมา หญิงสาวยิ้มชอบใจไม่นึกว่าผู้ชายมาดมาเฟียจะมาโหมดมุ้งมิ้งน่ารักแบบนี้ด้วย
ผลเลือดที่จอมขวัญกับปรานต์ไปตรวจด้วยกันออกมาแล้ว พบว่ามีสารที่น่าสงสัยตกค้างอยู่ในเลือดจริงๆ แม้จะน้อยมาก แต่มันคือหลักฐานว่าทั้งสองคนได้ดื่มบางอย่างที่มีสารที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมสติตัวเองเข้าไปจริงๆ
ในขณะที่ผู้หญิงต้องสงสัยคนนั้น คนของปรานต์รู้ชื่อและตามไปที่บ้านแล้ว แต่เหมือนเจ้าตัวจะรู้แกวเดินทางหายไปโดยที่ไม่บอกคนที่บ้าน ทว่าสิ่งผิดปกติที่คนของปรานต์สืบได้นั่นคือผู้หญิงที่ชื่อว่า...หวาน ได้มีการติดต่อกับนิรชา ปรานต์ไม่ได้ให้ความคิดเห็นอะไรในส่วนนี้ จอมขวัญคิดว่าหวานและนิรชาติดต่อกันย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางยา
บางทีเป้าหมายในคืนนั้นอาจเป็นปรานต์เพียงคนเดียว แต่จอมขวัญคิดว่าตัวเองดันซวยไปดื่มน้ำผลไม้ในแก้วที่หวานเตรียมจะนำไปให้ปรานต์ เธอได้แต่สงสัยเพราะไม่รู้แน่ชัดว่าระหว่างปรานต์กับนิรชาคือความสัมพันธ์แบบไหน แม้เขาจะบอกเธอว่าไม่ได้เป็นแฟนกับนิรชา แต่พวกเขามีความสัมพันธ์ในแบบที่คนนอกไม่รู้หรือเปล่า เธอคงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ก่อนเพราะงานเปิดตัวไข่มุกจากฟาร์มมินธราใกล้มาถึงแล้ว ทำให้ทั้งปรานต์และจอมขวัญต่างยุ่ง ไม่มีเวลาว่างสักเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ปรานต์หัวเสียคือจอมขวัญไม่รับโทรศัพท์และไม่ตอบข้อความของเขาตลอด 3 วันที่ผ่านมา เธอไม่กลัวว่าเขาจะหนีหาย เธอเทเขาได้ง่ายๆ จริงหรือ?
ทำให้วันงานที่ปรานต์ควรมีสีหน้ายิ้มแย้ม ในเวลานั้นเขากลับเคร่งขรึมรอคอยการมาถึงของผู้หญิงที่ทำให้เขาโมโหและห่วงในเวลาเดียวกัน จอมขวัญเข้ามาในงานเปิดตัวแบรนด์มินธราอย่างเป็นทางการซึ่งจัดในโรงแรมหรูเพื่อยกระดับเครื่องประดับตามที่วางคอนเซ็ปต์งานโฆษณาที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อเช้า
ปรานต์เห็นจอมขวัญเดินเข้ามาในชุดสูทสีดำเรียบๆ ผมยาวถูกมัดรวบไว้ด้านหลังด้วยโบสีขาวแบบสีของไข่มุก เรียบๆ ดูดีในสายตาของเขา แต่เธอกลับถูกผู้หญิงที่แต่งตัวโก้หรูนินทาถึงความไร้รสนิยมและไม่มีเครื่องประดับแพงๆ สักชิ้น นาฬิกาที่ใส่ก็ดูไม่ใช่ของมีแบรนด์อะไร ชายหนุ่มฟังแล้วถอนใจ แม้คนพวกนี้จะเป็นลูกค้าของเขาก็ตาม แน่ล่ะเขาเข้าไปด่าลูกค้าไม่ได้ แต่ทำอย่างอื่นได้
“ทำไมคนบางจำพวกถึงได้ชอบเหยียดคนอื่นแบบนี้นะ น่าโมโหชะมัด” ปรานต์บ่นกับชานนที่คงได้ยินสิ่งที่สาวๆ กลุ่มนั้นเมาท์กันเหมือนกับเขา “มาหาว่าจอมขวัญซ่อมซ่องั้นหรือ”
ชานนฟังแล้วก็ไม่ชอบใจเหมือนกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนเดี๋ยวนี้มักตัดสินฐานะคนคนหนึ่งทางสังคมจากการแต่งตัว การที่จอมขวัญใส่สูทมาในฐานะนักข่าวก็ดูเรียบร้อยและถูกกาลเทศะดีอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนคงไม่คิดจะทำความเข้าใจ ว่าแต่ปรานต์จ้องเขาแล้วขมวดคิ้วทำไมนะ
“มองผมทำไมครับ”
“ฉันอยากเปลี่ยนโฉมจอมขวัญให้คนพวกนั้นอ้าปากค้าง”
ใครจะมาดูถูกผู้หญิงของเขาไม่ได้เด็ดขาด ปรานต์นึกหมายหมั่นอยู่ในใจแต่ถ้าพูดแบบนั้นออกไป ชานนคงได้บอกพ่อแน่ๆ เขาอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไประหว่างเขากับจอมขวัญ
จีบต่อไป ถึงจะงอนจอมขวัญอยู่ก็เถอะนะปรานต์
ซ้อนกลรักเจ้าสาวมาเฟีย วางจำหน่ายใน MEB แล้วหมวด นิยายโรมานซ์
โบว์ทำโปรโมชั่นราคาหนังสือเต็มๆ 329 เหลือ 149 บาท ตอนนี้เหลือเวลาโปรโมชั่น 11 วันค่ะ
โบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 15 นะคะ แล้วจะหยุดอัพนิยาย
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 149
แสดงความคิดเห็น