บทที่ 11...1/3

จันทร์ซ่อนใจ
คุณกำลังอ่าน: จันทร์ซ่อนใจ

-A A +A

บทที่ 11...1/3

พันธินนั่งรถของดรัณมาที่โรงแรมในเครือของเอ็มไพร์ กรุ๊ป เขานัดตำรวจไว้ที่นี่ มันคงดีกว่าไปที่สถานีตำรวจ พวกนักข่าวคงไปออกันอยู่ที่นั่นแล้ว เขาไม่ชอบการเป็นข่าว แล้วยิ่งเป็นข่าวถูกลอบฆ่าย่อมไม่เป็นผลดีต่อกิจการทั้งหมดของเอ็มไพร์ กรุ๊ป ราคาหุ้นอ่อนไหวแม้ข่าวเพียงน้อยนิด ตำรวจซึ่งเป็นเพื่อนกับลุงดำรงมาพร้อมอยู่ในห้องที่เขาสั่งให้เปิดรับรองแล้ว

พอไปถึงรายงานทุกอย่างก็ประดังเข้ามา เขาฟังทั้งที่ปวดหัวแทบระเบิด  คนร้ายหนีไปได้พร้อมกับรถ ปริญจำหน้าคนร้ายได้ ตำรวจกำลังตามจากกล้องวงจรปิด ต้องรอ แต่...

“ไม่ใช่คนของคุณจิณณ์กับคุณภาวิตหรือครับ เป็นไปได้ยังไง” พันธินเปรยขึ้น แต่ก็ไม่แน่ใจนัก น่าแปลกคนของเขาก็ตอบเรื่องนี้ไม่ได้เช่นกัน หรือการลอบยิงครั้งนี้ไม่ใช่คนของจิณณ์และภาวิต

“ผมบอกว่าไม่น่าใช่คนของสองคนนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าคนร้ายไม่ได้มาจากสองคนนั้นนะครับ ทางตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ว่าใครจ้างพวกมือปืนที่ตามยิงคุณอยู่ ช้าสุดเจ็ดวันน่าจะได้เรื่องที่ชัดเจนกว่านี้” ตำรวจอธิบาย

ปริญเข้ามาสมทบ แขนข้างหนึ่งของเขาคล้องผ้าไว้

“นี่ถูกยิงงั้นหรือปริญ” พันธินไม่ทันคิดเพราะตอนวิ่งมาหาตำรวจไม่เห็นว่าปริญผิดปกติตรงไหน ไม่นึกว่าคนที่บ่นเขาอยู่ตลอดเวลากลับทุ่มเทในงานขนาดนี้

“เล็กน้อยมากครับ คุณธินไม่ได้เป็นอะไรดีก็แล้ว” ปริญเคยคิดว่าคนรวยคงไม่สนใจชีวิตคนอื่น อย่างน้อยพันธินก็ไม่ได้เห็นชีวิตใครไร้ค่า

“ถ้าให้ข้อมูลกับตำรวจเสร็จแล้วก็รีบไปพักผ่อนแล้วกัน”

พันธินคุยกับตรวจอีกครู่หนึ่งก็ขอตัวเดินออกมาจากห้องพร้อมกับดรัณ ตอนนี้คงต้องรอ ถึงใจร้อนไปก็เท่านั้น อย่างน้อยตำรวจก็ได้ข้อมูลเพิ่มจากปริญและหน้าตาของมือปืนเพิ่ม การตามหาตัวจะง่ายขึ้น

“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันดูแลต่อให้เอง นายก็ไปพักเถอะว่ะ แทบจะล้มทั้งยืนอยู่แล้ว พักที่นี่เสียเลยสิ”

ถามว่าเหนื่อยไหม ก็เหนื่อยจริงๆ นั่นแหละ แต่เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่แล้วปล่อยให้ใครอีกคนอยู่เพียงลำพังได้ แม้ว่าเธอจะหลับ เขาก็อยากอยู่เป็นเพื่อน

“คืนนี้ฉันคงไปค้างที่โรงพยาบาล นายจะพักที่นี่ก็ตามสบายนะ เปิดห้องในชื่อฉันเลย”

“ไม่ล่ะ เสร็จเรื่องของนายฉันก็จะกลับกรุงเทพฯ มันคืนนี้แหละ พรุ่งนี้มีงาน” ดรัณตอบ

พันธินนิ่งฟังความคิดของดรัณ เจ้านี่อยากช่วยเขาจากใจจริง ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แถมยังคิดเลยเถิดว่าที่เขาอยากไปค้างโรงพยาบาลเพราะผู้หญิงในข่าวอาจเป็นตัวจริง ดีแล้วที่ดรัณไม่ถาม

“ขอบใจนายมาก”

ดรัณพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง ในขณะที่ปริญวิ่งออกมาถามหาพันธิน พอเขาบอกว่าไปโรงพยาบาลก็รีบวิ่งตามออกไป เดาได้ไม่ยากว่าไปที่ไหน พันธินเฝ้าผู้หญิงคนนั้น ส่วนบอดี้การ์ดก็เฝ้าพันธินอีกที

 

          เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องมีไฟสลัวซึ่งลอดผ่านผ้าม่านพอจะเห็นคนในห้องได้ ห้องเงียบแม้มีพยาบาลอยู่เป็นเพื่อนคนไข้ที่ยังหลับสนิท พันธินคุยกับพยาบาลถึงอาการของอรอินทุ์จึงค่อยเบาใจว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้พอตื่นเธอจะสดชื่นขึ้น คนในข่าวขอเฝ้าไข้เอง พยาบาลเลยออกไปดูแลคนไข้อื่นๆ ต่อ

          พันธินเข้าห้องน้ำอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หยิบติดมือมาจากรถ พอออกมาคนไข้ยังคงหลับอยู่ ร่างสูงเดินเสียงเบาแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง

          มือหนายื่นไปสัมผัสแก้มนุ่มเบาๆ เขารู้สึกได้ถึงความอุ่นจึงค่อยยิ้มได้ กี่ครั้งแล้วที่อรอินทุ์ต้องมาเจ็บตัว ตกบันไดเพราะวิ่งตามเขา จมน้ำเพราะอยากเล่นด้วย ตอนที่มีเรื่องชกต่อยเธอตามไปลากเขากลับ แต่กลับถูกลูกหลงจนแขนต้องเข้าเฝือกเป็นเดือน แล้วมาวันนี้ เธอเกือบตายก็เพราะเขาอีกครั้ง

“ตอนนี้อรคงไม่ได้ยินที่ฉันพูด แต่ฉันอยากบอกอรว่าฉันรับรู้ได้ทุกครั้งในน้ำใจของอร ถึงแม้อรจะชอบพูดบ่อยๆ ว่าทำเพราะพ่อสั่ง แต่ฉันรู้ว่าอรทำเพราะเป็นห่วงฉัน”

อรอินทุ์ขยับตัว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น พันธินดึงผ้าห่มมาห่มให้แล้วเดินมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามซึ่งใหญ่พอจะนอนได้ ภายนอกปริญนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโรงพยาบาล เขายังคงทำหน้าที่แม้ว่าตัวเองจะบาดเจ็บ แม้สงสัยไม่น้อยว่าทำไมคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศถึงได้มีศัตรูปองร้าย

 

อรอินทุ์ไม่แน่ใจว่าหลับไปนานแค่ไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้อยู่ที่ใด แต่ที่เธอรู้ มีเสียงของใครคนหนึ่งกำลังดังอยู่ใกล้ๆ เสียงนั้นช่างทรมานและสามารถกระชากเธอออกมาจากการหลับไหลได้ เธอเปิดเปลือกตามองเพดานที่ไม่คุ้นตาอย่างงงๆ ภายในห้องใดสักแห่งหนึ่งที่สลัวนี้มีใครอีกคนอยู่กับเธอด้วย แต่ว่าอยู่ที่ไหน เธอยันมือกับที่นอนแล้วลุกขึ้นนั่ง ความเจ็บปวดแสนทรมานที่ข้อเท้าเหมือนจะหายไปเหลือเพียงความเจ็บคล้ายเดินชนบางอย่างจนระบมช้ำ

“ไม่ ไม่ หยุดๆ นายอย่าตายนะ”

เสียงคุณธิน!

แต่เขาอยู่ที่ไหนกันนะ ในห้องนี้หรือเปล่า อรอินทุ์เหวี่ยงขาลงจากเตียง ไม่รู้ว่าสวิตช์ไฟอยู่ที่ไหน ทำได้เพียงเดินตามเสียงไปแม้ว่าจะเจ็บข้อเท้า แสงไฟสลัวทำให้พอเห็นร่างหนึ่งบนโซฟาห่างไปไม่กี่ก้าว มือของเขาไขว้าคว้าบางอย่างที่เป็นเพียงอากาศเหนือร่าง มือบางยื่นไปคว้ามือหนาไว้แล้วนั่งลงเพลียๆ ที่พื้นพร้อมกับเรียกเขาไปด้วย

“คุณธิน...คุณธินคะ”

มือหนาหยุดไขว่คว้า ไม่กี่วินาทีพันธินก็รู้สึกตัวแล้วลืมตา มือหนาขยับ มือบางเลยติดตามมือไป เขายกมือที่ว่างไปเปิดสวิตช์ไฟใกล้ๆ อรอินทุ์นั่งพับอยู่กับพื้น เขารีบดึงแกมอุ้มให้เธอขึ้นมานั่งบนโซฟาด้วยกัน แล้วมองที่ข้อเท้าซึ่งถูกงูดกัดซึ่งยังบวม ตอนนี้ยังมาสะดุดล้มอีก

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่าฉันจะได้เรียกหมอ”

“ฉันไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่คุณธินต่างหากที่ฝันร้าย”  เธอบอกเขาเสียงยังเพลียอยู่

“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวฉันก็ผ่านไปได้เอง เธอลงมาจากเตียงทำไม”

“ก็...เสียงของคุณธิน”

พันธินพอจะเข้าใจแล้ว พยาบาลที่ดูแลเขาตอนรักษาตัวเคยบอกว่าเขามักละเมอกลางดึก แต่สำหรับเขามันไม่ใช่การละเมอ แต่เป็นกลไกในสมองที่สั่งให้ห้ามลืมเรื่องที่เกิดและระลึกไว้เสมอว่ากลับมาเพื่อทำอะไรต่างหาก

“ขอโทษที่ทำให้เธอตื่น เดี๋ยวฉันประคองไปส่งที่เตียงให้นะ ตอนนี้ยังเจ็บที่แผลงูกัดมากไหม”

อรอินทุ์ส่ายหน้า ทั้งที่จริงก็เจ็บนั่นแหละ แต่ไม่มากเท่าตอนแรกแล้ว เธอลุกขึ้นไม่อิดออด ขืนเดินกลับเองคงได้พักระหว่างทางให้เขาหัวเราะในความอ่อนแอน่ะสิ เกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้ให้ตายเถอะ...ไอ้งูบ้า!

พันธินประคองอรอินทุ์มาถึงเตียงด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งที่อยากหัวเราะแทบแย่ ผู้หญิงอะไรบ่นได้ทุกเรื่อง อรอินทุ์นอนลงพลางกลั้นเสียงหอบ ผ้าห่มถูกดึงมาห่มให้ พอร่างสูงจะเดินกลับไป มืออุ่นบางกลับคว้ามือหนาอุ่นจัดไว้

“ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าไม่ได้อ่อย นอนด้วยกันตรงนี้เถอะค่ะ ถ้าคุณธินฝันร้ายอีก ฉันคงจะไม่มีแรงเดินไปปลุกแล้ว” เธอให้เหตุผล ตอนนี้แค่พูดยังเหนื่อย

พันธินนั่งลงง่ายๆ บนเก้าอี้ข้างเตียงไม่พูดอะไรให้คนหวังดีไม่สบายใจ อรอินทุ์ถอนใจโล่งอก เขาคงไม่คิดมากแบบเธอหรอกมั้ง

“ฉันยกมือให้คุณจับ แม่ของฉันบอกว่าเวลาที่เราฝันร้าย ถ้ามีใครมาจับมือไว้ ฝันร้ายจะหายไป ฉันเชื่อแม่นะ พอแม่ให้ฉันจับมือไว้ ฉันจะฝันดี ไม่ฝันร้ายเลยล่ะ”

เธอบรรยายสรรพคุณ เขาจะได้เข้าใจเจตนา นานมาแล้วน้องชายของเขาเคยฟังเรื่องเล่าคล้ายๆ แบบนี้ ว่าแต่ทำไมมือของเขาใหญ่จัง มือใหญ่เหมือนมือของคุณแสง

“ขอบใจมากนะ”

คนไข้พยักหน้าแล้วหลับตาลงเพราะความเพลีย พันธินยิ้มให้คนใจดีพลางเอาหลังพิงกับลิ้นชักหัวเตียงแล้วหลับตาลงบ้าง ไม่ว่าการจับมือกันไว้แล้วจะทำให้ฝันร้ายยังอยู่หรือว่าหายไป ไม่สำคัญเท่าน้ำใจของอรอินทุ์ เธอไม่เคยเปลี่ยนไป แล้วความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้เพื่อนร้ายๆ คนนั้นล่ะยังอยู่หรือเปล่า

 

 

ไม่รู้ใครเฝ้าใครกันแน่ ห่วงกันแต่ก็ปากแข็ง

 

แจ้งข่าวนะคะ

1 จันทร์ซ่อนใจ ได้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ (20/11/2023)  ในหมวด นิยายรัก เว็บ/แอพพลิเคชั่น MEB ค่ะ

ลิงค์ค่ะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntz...

2 โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อง จันทร์ซ่อนใจ จากราคาปกติ 249 ลงเหลือ  149 บาท 17 วัน ตอนเหลือเวลา 13 วันค่ะ  สามารถพาอรอินทุ์กับพระเอกของเธอมาไว้ที่ชั้นหนังสือในราคาน่ารักได้แล้วนะคะ

3  โบว์จะลงจันทร์ซ่อนใจให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วหยุดการลงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาด้วยกันค่ะ

  •  

 

จันทร์ซ่อนใจเป็นนิยายที่จะคุณรู้ว่าการรอคอยและไม่หมดหวัง

สักวันคุณจะสมหวัง...

และร่วมกันหาฆาตกรตัวจริงด้วยกัน หวังว่าจะชอบนะคะ

  •  
  • _บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.