บทที่ 10...3/3
“อะไรกัดฉันก็ไม่รู้ค่ะที่ข้อเท้า เจ็บ แล้วก็ปวดมากๆ” เธอบอกเสียงสั่นๆ
พันธินไม่รอช้าใช้เข็มขัดจากกางเกงมาขันชะเนาะให้อรอินทุ์เหนือจากจุดที่เธอชี้ว่าเจ็บมาก หญิงสาวกัดฟันแน่น น้ำตาร่วงพรู แต่ไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่ครั้งเดียว ร่างเพรียวถูกตวัดเข้ามากอดแน่นในวงแขน เจ้าตัวปวดที่แผลจนทำได้เพียงซบหน้ากับอกหนา
“กอดฉันไว้ให้แน่น เราต้องรีบออกไปจากที่นี่ ฉันต้องพาเธอไปหาหมอ อดทนนะ เข้าใจไหม”
เธอพยักหน้าและร้องไห้ออกมา ไม่ใช่เพราะกลัว แต่มันเจ็บจนเธอนึกไม่ออกว่าต้องทำยังไงถึงจะหาย แขนทั้งสองข้างกอดที่คอของเขาไว้แน่น เขาเดินแกมวิ่ง เธอได้ยินเสียงหอบเบาๆ อยากบอกเขาว่าไม่เป็นไรยังพูดไม่ออก ทำได้เพียงอย่าสร้างปัญหาเพิ่ม เธอเริ่มหายใจหอบ ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เป็นเพราะพิษจากอะไรก็ตามที่มากัด
พันธินรีบซอยเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น แสงไฟตรงนั้นเขาใกล้ไปถึงแล้ว เสียงไซเรนรถตำรวจดังระรัว ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว เขากระซิบบอกร่างในอ้อมอก เธอเงียบจนเขาต้องแนบแก้มลงไปใกล้ แก้มของเธอเย็นเฉียบ
จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็สั่นระรัว ปริญโทรมาและรายงานว่าตำรวจมาถึงแล้ว เขารีบตะโกนให้เสียง ตำรวจและบอดี้การ์ดพากันกรูเข้ามา อรอินทุ์ถูกพาขึ้นรถพร้อมกับเขา หลังจากนั้นเราทั้งหมดถูกพาไปที่โรงพยาบาลทันที
พันธินกอดร่างเย็นเฉียบของอรอินทุ์เอาไว้แน่น ความรู้สึกที่เคยมีราวกับตื่นจากหน้ากากที่สร้างไว้ เธอต้องไม่เป็นอะไร เขาทนไม่ได้อีกแล้ว
ตำรวจยังอยู่ที่เกิดเหตุเพื่อหาตัวคนร้ายและหลักฐานเพิ่มเติม โดยมีปริญอยู่ที่นั่นด้วย นักข่าวเริ่มได้ข่าวพากันมาที่โรงพยาบาลทำให้พันธินต้องเข้าไปอยู่ในห้องทำงานของหมอระหว่างรอฟังอาการของอรอินทุ์ การเลิกกับคู่หมั้นที่เป็นดาราดังทำให้เขาถูกจับตามองจากนักข่าวไปด้วย เขาโทรหาพ่อเพื่อบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ยังไม่โทรหาลุงอิชย์เพราะต้องการรู้อาการของอรอินทุ์ก่อน ไม่นานนัก แต่นานมากสำหรับเขา หมอก็เข้ามาในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“อรปลอดภัยดีไหมครับหมอ”
“ปลอดภัยแล้วครับ คุณทำถูกวิธี เพราะรอยเขี้ยวที่เห็นเป็นรอยงูกัด ถ้าทำผิดวิธีหรือมาช้าอีกนิดเดียว คนไข้จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ครับ”
พันธินถอนใจโล่งอก ขอบคุณหมออยู่หลายครั้ง ตอนที่กอดอรอินทุ์จนมาถึงโรงพยาบาลเขากลัวจับใจ ครั้งหนึ่งเขาเคยกอดคนที่รักมากซึ่งตัวเย็นแบบนี้และอีกไม่นานหลังจากหลับไปหลายวัน เขาก็ได้รู้ว่าใครคนนั้นได้จากไปแล้ว เขาไม่มีโอกาสบอกลาด้วยซ้ำเพราะศพถูกนำกลับมาเมืองไทย เราพบกันอีกครั้งหลังจากผ่านไปสิบเอ็ดเดือน โดยเขาเป็นฝ่ายที่นั่งอยู่หน้าแท่นของหลุมศพ!
“ผมไปเยี่ยมได้ไหมครับ”
“ครับ แต่รอสักครู่ พยาบาลกำลังพาคนไข้ไปที่ห้อง ผมคิดว่าคุณน่าจะไปล้างหน้าล้างตาหน่อยนะ ดูเพลียไม่ต่างจากคนไข้เลย” หมอบอกยิ้มๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไป แล้วเข้ามาบอกว่าไม่มีนักข่าวแล้ว
“ขอบคุณครับหมอ”
พันธินออกมาจากห้องแล้วเดินไปยังทางที่หมอเพิ่งชี้ว่าห้องของอรอินทุ์อยู่ตรงไหน เขาแวะเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าตามที่หมอแนะนำ ดรัณโทรมาพอดี แล้วพอออกมาจากห้องน้ำดรัณก็มายืนรอแล้ว เมื่อเห็นว่าเขาปลอดภัยดีจริงๆ ก็หาที่นั่งหอบเพราะวิ่งมาตั้งแต่ลงจากรถที่ขับมาเร็วอย่างกับเหาะ
“ขอเวลาเดี๋ยว ฉันหายใจไม่ทันว่ะ”
พันธินหัวเราะ ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ
“ก่อนไปคุยกับตำรวจ ฉันขอเวลาสักห้านาที นายรอตรงนี้ก่อนแล้วกัน” เขาบอกแล้วเดิมแกมวิ่งไปยังห้องคนป่วยที่พยาบาลเพิ่งพาอรอินทุ์เข้าไปในนั้น
อรอินทุ์ยังหลับอยู่ สีหน้าของเธอซีดเซียว แต่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแล้ว เขาเดินไปหาที่เตียง แล้วจับมือที่ไม่เย็นชืดเหมือนตอนมาโรงพยาบาลมากุมไว้ สายตาที่มองเต็มไปด้วยความห่วงใย ถ้าเธอจะเป็นอะไรไป เขาควรเป็นก่อน
“คนไข้หลับเพราะฤทธิ์ยา สบายใจได้นะคะไม่เป็นอะไรแล้ว” พยาบาลบอกพลางยิ้มให้
พันธินพยักหน้ารับรู้และรอจนพยาบาลเดินออกไป เขาก้มหน้าลงแล้วจูบที่หน้าผากมน ก่อนจะจูบหลังมือเย็น ความรู้สึกในใจเอ่อล้น เป็นครั้งแรกที่เขาดีใจที่รอดชีวิตเพื่อมารู้ใจตัวเองมากขึ้นไปอีกว่ารู้สึกอย่างไรต่ออรอินทุ์ มันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันสะสมพอกพูนมาเรื่อยๆ ราวกับดอกไม้ที่ค่อยๆ ออกดอกงดงามอยู่ในใจของเขา
“ขอโทษนะ เพราะฉันเธอถึงเป็นแบบนี้”
อรอินทุ์ถอนใจเบาๆ ทว่ายังหลับสนิท เรียวปากหนายิ้มเต็มริมฝีปากได้เมื่อเห็นเธอปลอดภัยกับตาตัวเอง เขาปล่อยมือเธอเพื่อที่จะโทรหาลุงอิชย์ ข่าวดีย่อมมาก่อน เขาบอกว่าอรอินทุ์ปลอดภัยแล้ว ก่อนจะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้นบ้าง ชายหนุ่มขอให้ลุงอิชย์ยังไม่ต้องมาเพราะเป็นห่วงถ้าต้องขับรถไกลๆ ในเวลาแบบนี้
พอวางสาย พันธินรีบโทรหาคนของตัวเองที่ต้องบอกให้ได้ว่าเหตุการณ์เมื่อตอนค่ำเกิดขึ้นจากใคร แล้วทำไมเขาไม่ได้รับการบอกล่วงหน้า การถูกกระทำจากคนชั่ว ทำให้เขารู้ว่าเงินซื้อได้เกือบทุกอย่าง รวมทั้งการเป็นคนสองหน้า เขาแค่เลียนแบบความชั่วนั้นกลับไปเท่านั้น
ณ บ้านหรูกลางเมืองกรุง คนบงการมาพักอยู่ที่นั่นโดยไม่มีใครสงสัย คนในสังคมต่างรู้ดีกว่าเขาเป็นใคร แต่ไม่มีวันรู้ว่าเขาทำอะไร การรอคอยตั้งแต่เย็นจนมืดค่ำยังไม่มีข่าวจากมือปืน จะมีก็แต่ข่าวในทีวีที่บอกว่าลูกชายคุณเธียรถูกลอบยิง แต่อาการเป็นยังไงไม่มีข้อมูล
เขายังคงรอจนกระทั่งผ่านไปอีกหลายนาที โทรศัพท์ส่วนตัวอีกเครื่องก็ดังขึ้น สายสำคัญจากตู้โทรศัพท์สาธารณะ มือปืนรีบรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดสองชั่วโมง แต่ไม่บอกว่าตัวเองก็ถูกยิงมาเช่นกัน
“พลาดหรือวะ พวกแกทำงานประสาอะไรกัน” น้ำเสียงของปลายสายบอกชัดว่าไม่พอใจ ถ้าตอนนี้ไอ้คนทำงานไม่ได้เรื่องอยู่ใกล้ๆ เขา คงได้กระสุนเจาะกะโหลก
“มันยิงปืนแม่น ทั้งเจ้านาย ทั้งลูกน้อง ทำไมคุณไม่ให้ข้อมูลตรงนี้กับเรา”
“เป็นไปได้ยังไง” เรียวคิ้วหนาขมวด พันธินยิงปืนไม่เป็น สายของเขาสืบมาดีก่อนที่มันจะเดินทางไปหาน้องของมันที่อเมริกาเสียอีก “งานหน้าอย่าพลาดซ้ำ ฉันไม่ชอบให้โอกาสใครบ่อยๆ รีบหาที่กบดาน อย่าให้ตำรวจตามได้”
“ครับนาย”
แก้วใบสวยราคาแพงลิบใกล้มือถูกปาใส่ผนัง ถึงจะแพงแต่ก็แตกละเอียดร่วงลงพื้นได้เหมือนแก้วราคาถูก เรียวปากหนาแสยะยิ้มทั้งที่หัวเสีย ก่อนจะเดินไปสนามหลังบ้าน ปืนในห้องลับถูกหยิบออกมาใช้ยิงให้หายโมโห เขาเดินต่อไปยังสนามยิงปืนส่วนตัวที่มิดชิดและเก็บเสียง ยิงจนหมดกระสุนไปสองแมกซ์ แต่ให้ตายเถอะ เขายังไม่หายโมโหแม้แต่นิดเดียว
คนร้ายตัวจริงคือใครกันนะ สามารถหาคำตอบแบบไม่ค้างคาใจที่ MEB ค้นหาเรื่อง จันทร์ซ่อนใจนะคะ (ขอขายของนิดนึง) ^_^
แจ้งข่าวนะคะ
1 จันทร์ซ่อนใจ ได้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ (20/11/2023) ในหมวด นิยายรัก เว็บ/แอพพลิเคชั่น MEB ค่ะ
ลิงค์ค่ะ
2 โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อง จันทร์ซ่อนใจ จากราคาปกติ 249 ลงเหลือ 149 บาท 17 วัน ตอนเหลือเวลา 14 วันค่ะ สามารถพาอรอินทุ์กับพระเอกของเธอมาไว้ที่ชั้นหนังสือในราคาน่ารักได้แล้วนะคะ
3 โบว์จะลงจันทร์ซ่อนใจให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วหยุดการลงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาด้วยกันค่ะ
จันทร์ซ่อนใจเป็นนิยายที่จะคุณรู้ว่าการรอคอยและไม่หมดหวัง
สักวันคุณจะสมหวัง...
และร่วมกันหาฆาตกรตัวจริงด้วยกัน หวังว่าจะชอบนะคะ
- อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 163
แสดงความคิดเห็น