บทที่ 13...1/3
หมิวกำลังยื้อยุดไม่ให้แขกที่ไหนก็ไม่รู้ก้าวผ่านฉากกั้นเคาน์เตอร์ไปหลังร้าน แม้จะไม่เข้าใจนักว่าเรื่องราวเป็นมายังไงก็ตามเถอะ แต่มาส่งเสียงดังแบบนี้ ลูกค้าในร้านก็พากันหนีหมด
ภามเดินเร็วๆ อย่างระมัดระวังจนกระทั่งมาถึงชั้นล่าง เมษาบอกให้เขาปล่อยเธอลงแล้วเดินแบบไม่ลงน้ำหนักที่ฝ่าเท้าไปหาผู้หญิงที่ไม่คิดฝันว่าจะมาอยู่ตรงนี้
พริมาเห็นเมษาแล้วก็ปรี่เข้ามา แต่ถูกหมิวดึงแขนไว้ ภามเองก็เข้ามายืนขวางสีหน้าของเขาไม่พอใจ คนที่เจริญแล้วทางด้านอารมณ์ควรคุยดีๆ มากกว่าตะโกนและใช้กำลัง
“คนนี้ใคร ไม่น่าใช่เพื่อนของเม” ภามถาม
เมษากอดอกมองพริมาพลางตอบภามว่า “รุ่นน้อง แฟนใหม่ของแฟนเก่าค่ะ แต่มาเพราะเรื่องอะไร เมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
พริมากลายเป็นผิดคาดเสียเองเพราะผู้ชายที่อยู่กับเมษาไม่ใช่ศรา ถ้าอย่างนั้นว่าที่เจ้าบ่าวของเธอไปไหน
“พี่ศราจะกลับมาหาพี่เมใช่ไหม เขาถึงบอกว่าขอทบทวนว่าจะยังหมั้นกับพริมอยู่หรือเปล่า ทำไมพี่เมทำกับพริมแบบนี้ ไหนว่ามีศักดิ์ศรีไง” ยิ่งพูดเสียงพริมาก็ดังกลายเป็นตะโกน ครั้นจะปรี่เข้าไปหาเมษาแล้วตบสักฉาด พริมาก็ไม่แน่ใจว่าจะผ่านผู้ชายตัวโตๆ คนนี้ได้ยังไง เขาเป็นใคร ญาติหรือว่าแฟนของเมษา
เมษาร้องเฮอะอยู่ในลำคอ “อ้อ เข้าใจแล้ว ศราลังเลที่จะหมั้นกับเธอ เธอเลยหาเหตุผลจนได้ว่าเป็นเพราะฉัน”
ภามจับใจความได้แล้วว่าแฟนเก่าของเมษาชื่อว่าศรา ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนใหม่ จากที่จับน้ำเสียงเป็นไปได้สูงว่าเมษากับศราจบกันไม่สวยเพราะผู้หญิงคนนี้กระมัง
“ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เม แล้วพี่ศราจะเปลี่ยนใจจากพริมได้ยังไงล่ะ” พริมาไม่เข้าใจเลย เมื่อวานเธอกับศรายังคุยเรื่องพิธีต่างๆ ในงานหมั้นกันอยู่ แต่วันนี้เขากลับโทรมาบอกเธอว่าขอทบทวนเรื่องการหมั้น เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง มีคำถามเกิดขึ้นกับพริมามากมาย จนกระทั่งเธอมั่นใจว่าเขามีคนอื่น
“คิดว่าฉันเจ็บแล้วไม่รู้จักจำงั้นหรือ ผู้ชายที่หักหลังแฟนตัวเองอย่างศรา ผู้ชายอย่างนั้นฉันไม่กลับไปหาอีกแล้ว”
ศราที่เข้ามาทันได้ยินคำพูดของเมษาทำให้ชะงักมองอดีตคนรัก เขาเถียงไม่ออก แม้เมษาจะไม่เคยมาอาละวาดเสียใจให้เขาเห็น แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะสาปส่งเขาถึงเพียงนี้
“พริมกลับบ้านจะมาหาเรื่องเมทำไม นี่มันเป็นเรื่องของเราสองคนนะ”
ศราคว้าแขนของพริมาที่หันมาแล้วตกใจไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่ แสดงว่าเขาเคยแอบมาหาเมษาลับหลังเธอใช่ไหม
“พี่ศรากล้าพูดได้เต็มปากไหมล่ะว่าที่ขอเลื่อนงานหมั้นของเราสองคนออกไปไม่มีกำหนดไม่ใช่เพราะพี่กับพี่เมติดต่อกันลับหลังพริม กล้าพูดไหมว่าพี่ศราไม่ได้อยากกลับมาหาพี่เมอีก”
“พอเถอะพริม”
ภามเลื่อนเก้าอี้มาให้เมษานั่งเพราะดูท่าแล้ว ศราคนนั้นกับพริมาน่าจะไม่จากไปง่ายๆ
ตอนนี้เองภามถึงได้เข้าใจเหตุผลที่เมษาปฏิเสธเขาในตอนนั้น เพราะเคยถูกหักหลังจากศรา เธอถึงไม่กล้าเสี่ยงไปรักใครง่ายๆ
ศราถอนใจไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพริมา แต่การทำแบบนั้นย่อมไม่ต่างจากน้ำมันที่ราดลงกองไฟที่เต็มไปอารมณ์โกรธและหึงหวงของพริมา
“พี่ศราไม่ตอบ” พริมาสะบัดแขนกระโจนมาหาเมษา “เพราะพี่เมใช่ไหม 5 ปีของเราไม่มีความหมายกับพี่ศราเลยหรือไง”
หมิวกระโจนตามแต่ไม่ทัน ศราคว้าแขนของพริมาได้ข้างหนึ่ง พริมาเงื้อแขนอีกข้างจะฟาดหน้าเมษา แต่ถูกภามจับข้อมือไว้แล้วผลักออกพลางมองศรากับพริมาอย่างเหลืออด
“ผมเป็นแฟนของเมษา ไม่ว่าแฟนของคุณจะคิดยังไง หรือตัวคุณจะคิดยังไง รบกวนไปคุยกันเองแค่สอง อย่าดึงแฟนของผมเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของพวกคุณอีก”
“จริงหรือเม” ศราถาม
ภามกับพริมาพากันมองอย่างสงสัย ศราจะมาถามเพื่อความแน่ใจไปทำไม เขาไม่มีสิทธิ์ด้วยซ้ำ
“ใช่ คุณภามเป็นแฟนของเม ซึ่งจริงๆ ไม่เกี่ยวกับคุณและพริมเลย” เมษาตอกกลับอดีตคนรักและแฟน วันนี้เธอควรจะได้ปิดร้านด้วยการนั่งคุยกับภามอย่างสบายใจ ไม่ใช่ต้องมาตอบอะไรก็ไม่รู้
พริมาหันไปยิ้มเยาะศรา มีหรือที่เธอจะมองไม่ออกว่าเขายังมีเยื่อใยต่อเมษาอยู่ แม้เขาอยากเลิกกับเธอก็คงไม่มีทางได้สมหวัง แล้วที่สำคัญเธอไม่ยอมเลิกกับเขาหรอก
“ถ้าผมได้ยินหรือเห็นว่าใครมาระรานหรืออาละวาดเมษาอีก ทนายของผมพร้อมทำหน้าที่นะครับ เชิญ” ภามผายมือ หมิวก็รีบไปเปิดประตูไว้รอ
“ไปได้แล้วพริม” คราวนี้ศราจับข้อมือของพริมาเอาไว้แน่น ถ้ายังไม่ไปตอนนี้ บางทีเขาอาจะได้ไปประกันตัวพริมาที่สถานีตำรวจ “ขอโทษด้วยนะเม ขอโทษคุณด้วยครับ”
ศราทั้งดึงทั้งลากกว่าพริมาจะยอมออกไปจากร้าน หมิวรีบปิดประตูแล้วล็อคเพราะไม่มีลูกค้าตั้งแต่หนีเสียงแว๊ดๆ ของพริมา เมษามองภาม สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกว่าโกรธหรือไม่พอใจ แต่เธอไม่อยากให้เขากลับไปพร้อมกับคำถาม
“เรื่องเมื่อกี้ ถ้าคุณมีอะไรสงสัยหรือขัดข้องใจถามเมได้นะคะ เมไม่ได้มีความลับอะไร”
“ไม่ ตอนที่ผมรู้จักเม เมก็เลิกกับผู้ชายคนนั้นไปนานแล้ว” คำตอบของเมษาทำให้ภามมั่นใจ ศราเป็นแค่อดีตที่เธอจะไม่กลับไปอีก “เพราะฉะนั้นผมจะมองแค่ปัจจุบันและอนาคตที่มีเมอยู่ด้วยเท่านั้น”
หมิวฟังแล้วปลื้มแทนเมษา ก่อนจะรีบผลุบเข้าไปหลังร้าน เมษาสบายใจที่ไม่ต้องปิดบังภามถึงเรื่องในอดีต ภามได้ยินป้าพิสมัยเรียกเลยเดินเข้าไปหลังร้าน ก่อนจะออกมาพร้อมข้าวมันไก่สองจาน เมษาซื้อไว้เมื่อตอนหัวค่ำ แต่เพิ่งได้มาทานกันตอนนี้ สองหนุ่มสาวนั่งทานข้าวกัน ไม่พูดถึงเรื่องยุ่งๆ เมื่อครู่อีก เมษาตักขิงไปใส่จานของภาม ภามเองก็ตักแตงกวามาใส่จานของเมษา การรู้ว่าอีกฝ่ายชอบทานอะไรไม่ต้องใช้ความพยายามเลย แค่สังเกตด้วยความใส่ใจ
รถคันหรูที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิกำลังจะถึงปลายทางอันเป็นบ้านหลังใหญ่ซึ่งในอดีตเป็นเรือนหอของภูมิกับไปรยา หลังจากผู้เป็นสามีจากไป ไปรยาก็ได้รับมรดกเป็นบ้านหลังนี้และเงินอีกจำนวนหนึ่ง แม้จะมีบ้านของตัวเอง แต่หญิงสาวเลือกที่จะกลับมาบ้านหลังนี้ หลังจากไปอยู่ต่างประเทศมาเกือบ 2 ปี ความทรงจำที่ไปรยามีในบ้านหลังนี้ยังทำให้ใจร้อนผ่าวได้ดังเดิม หญิงสาวลงจากรถแล้วเดินเข้าในบ้านที่เงียบและดูอ้างว้าง มีเพียงแม่บ้านที่จ้างไว้ให้ดูแลบ้านมาตลอดกับสาวใช้อีกคนเท่านั้น
หญิงสาวถอดเสื้อโค้ทตัวยาววางลงบนเตียงพลางมองห้องที่ร้างมานาน ห้องที่เงียบเหงามาตั้งแต่ก่อนที่ภูมิจะตายจากไป ความเป็นสามีภรรยาของเราสองคนสิ้นสุดลงก่อนวันที่เขาจะตายเสียด้วยซ้ำ มือบางเลื่อนไปจับกรอบรูป ภายในนั้นมีรูปของภูมิในวัย 16 ปี เขายิ้มดูร่าเริง
“เราไม่น่ามาแต่งงานกันเลยนะภูมิ ไม่อย่างนั้นไปรคงไม่ต้องเสียใจอย่างในตอนนี้”
ไปรยาวางกรอบรูปไว้ที่เดิม แต่กลับเปลี่ยนใจคว่ำลงราวกับไม่อยากเห็นใบหน้าของอดีตสามีอีก หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก รอครู่หนึ่งก็พูดกับปลายสายว่า
“กลับมาแล้วนะคะ ไปรอยากพบคุณค่ะ”
ร่างเลือนรางที่เห็นทุกอย่าง แต่ว่าต่อให้ตะโกนดังๆ ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงเปลี่ยนจากเศร้าเป็นโกรธ ภูมิยังคงอาลัยรักอดีตภรรยา แต่ว่าไปรยาเพิ่งมาถึงก็กลับโทรนัดใคร ชายชู้งั้นหรือ ภูมิมองไปรยาที่ออกไปจากบ้านด้วยการขับรถเอง เขาจะตามไปไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรู้ให้ได้ว่าชายชู้เป็นใคร
ปัญหาของคู่รักคือเงาอดีต ภามจะผ่านไปได้ไหม
ใจดวงนี้สื่อถึงรักลงขายเป็น E-Book ใน MEB แล้วค่ะ หมวดนิยายรัก
โดยโบว์ทำโปรโมชั่นลดเหลือ 149 บาทจาก 329 บาท เหลือเวลา 6 วัน และจะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 190
แสดงความคิดเห็น