บทที่ 617: หูเจียวเจียวเป็นระดู

-A A +A

บทที่ 617: หูเจียวเจียวเป็นระดู

“ฮือ… เสี่ยวเหยาอุตส่าห์เก็บของมาทั้งวัน…”

 

เมื่อเตี๋ยฉ่ายเห็นสีหน้าที่เศร้าหมองของหลงเหยา เธอจึงรีบปลอบใจเขาทันที “ไม่เป็นไรนะเสี่ยวเหยา เดี๋ยวป้าเตี๋ยจะช่วยเจ้าเก็บของเอง ใช้เวลาไม่นานหรอก”

 

นางคุกเข่าลงก่อนจะช่วยเด็กน้อยเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น

 

เป็นครั้งแรกที่หลงเหยามีโอกาสได้ออกไปอาศัยอยู่นอกเผ่าเฟิงโชวเป็นเวลานาน เขาจึงนำของติดตัวมามากมาย แน่นอนว่าเขาขนมันทั้งหมดมาด้วยตัวเอง เพราะตราบใดที่เขารับผิดชอบในการขนย้ายของด้วยตัวเองได้ แม่จิ้งจอกก็จะไม่ห้ามเขา

 

หลังจากอยู่ที่นี่มาหลายเดือน แน่นอนว่าเขาจะต้องมีสัมภาระมากขึ้นจากเดิม

 

ยกเว้นเสื้อผ้า 2-3 ชุด ที่เหลือล้วนเป็นผลไม้อบแห้ง ขนม และขวดที่ภูตสาวเห็นว่ามีสิ่งของแปลก ๆ อยู่ด้านใน

 

“เสี่ยวเหยา นี่คืออะไรงั้นหรือ?” ขณะที่เตี๋ยฉ่ายกำลังช่วยคนตัวเล็กเก็บของที่หล่นกระจายอยู่บนพื้นอยู่นั้น สายตาของนางก็สะดุดเข้ากับตุ๊กตาที่มีลักษณะคล้ายกับเจ้าของ นางจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย 

 

ตุ๊กตาตัวนี้แปลกมาก มันไม่มีแขนขา พอวางมันลงบนพื้นมันก็ไม่ล้มลง และลุกขึ้นมาตั้งตรงได้ด้วยตัวของมันเอง

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ภูตสาวได้เห็นของแปลก ๆ เช่นนี้ ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับมองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

เมื่อหลงเหยาเห็นดังนั้น เขาจึงพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “นี่คือตุ๊กตาล้มลุกที่ท่านลุงสามทำให้เสี่ยวเหยา”

 

“โห ป้าไม่คิดเลยว่าลุงสามของเสี่ยวเหยาจะเก่งกาจขนาดนี้ ถึงกับสามารถสร้างสิ่งแปลก ๆ แบบนี้ได้ด้วย” เตี๋ยฉ่ายอุทานด้วยความเหลือเชื่อ 

 

เจ้ามังกรน้อยที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีประหลาดใจก็ยกคางขึ้นพลางยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ถูกต้องมากขึ้น

 

“จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ผลงานของท่านลุงสามคนเดียวหรอก เพราะท่านลุงสามเรียนรู้เจ้าสิ่งนี้มาจากท่านแม่ของเสี่ยวเหยาอีกที”

 

เตี๋ยฉ่ายผงกหัวรับ

 

พอคนตัวเล็กบอกว่าตุ๊กตานี้เกี่ยวข้องกับหูเจียวเจียว จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ดูแปลกประหลาดมากนัก

 

เพราะไม่ว่าจิ้งจอกสาวจะทำเรื่องที่น่าประหลาดใจสักแค่ไหน ทว่ามันกลับดูเป็นเรื่องปกติสำหรับนางทั้งสิ้น

 

“แต่ไม่ว่ายังไงลุงสามของเจ้าก็ยังสามารถสร้างมันออกมาได้ดีมาก เขาเก่งไม่เบาเลยไม่ใช่หรือ?” เตี๋ยฉ่ายพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความยกย่องต่อคนที่สร้างตุ๊กตาล้มลุกตัวนี้ขึ้นมา

 

เมื่อหลงเหยาเห็นว่าภูตสาวยังคงชื่นชมตุ๊กตาล้มลุกจนไม่ยอมวางมันลง เขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลังเล “แต่ว่า… เสี่ยวเหยาให้เจ้านี่กับป้าเตี๋ยไม่ได้หรอกนะ เอาไว้พวกเรากลับถึงเผ่าเฟิงโชวเมื่อไหร่ เสี่ยวเหยาจะไปขอให้ท่านลุงสามทำให้ป้าเตี๋ยบ้าง”

 

หัวน้อย ๆ ของเขากำลังคิดหาวิธีเจรจากับนาง เพื่อไม่ให้นางเอาตุ๊กตาตัวโปรดของตนไป

 

เตี๋ยฉ่ายได้ยินดังนั้นจึงยิ้มแล้วลูบหัวเล็ก ๆ ของเด็กน้อยก่อนจะใส่ตุ๊กตามังกรดำตัวจิ๋วกลับเข้าไปในถุงสัมภาระของหลงเหยา

 

“เจ้าเด็กโง่ ป้าเตี๋ยไม่ได้ต้องการตุ๊กตาตัวนี้เสียหน่อย เจ้าไม่จำเป็นต้องไปรบกวนลุงสามของเจ้าหรอก แต่ยังไงก็เถอะ ป้าเตี๋ยก็ต้องขอบคุณเสี่ยวเหยามากนะที่คิดถึงความรู้สึกของป้า”

 

ในความคิดของนาง ภูตชายมักจะมีงานยุ่งมากอยู่แล้ว อีกทั้งยังต้องทำงานหนักเพื่อล่าสัตว์ในทุกวันด้วย

 

ลุงคนที่ 3 ของเขาคงจะสละเวลาอันมีค่าของตัวเองเพื่อทำสิ่งนี้ให้กับหลานชายโดยเฉพาะ แต่เขาอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะทำมันให้กับคนอื่น

 

ดังนั้นเตี๋ยฉ่ายจึงไม่ต้องการทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองเพราะความไม่รู้จักเกรงใจของตัวเอง

 

“มันไม่รบกวนท่านลุงสามหรอก…” หลงเหยาทำหน้ามุ่ยพร้อมกับพูดเบา ๆ

 

นั่นเป็นเพราะท่านลุงสามมักจะหวังให้ทุกคนชื่นชอบในสิ่งที่เขาทำมาก

 

แต่นอกเหนือจากอาวุธแล้ว สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาทำขึ้นมาก็มีแต่ท่านแม่กับพี่น้องของเขาเท่านั้นแหละที่ชื่นชอบ

 

คนตัวเล็กรู้สึกว่าถ้าท่านลุงสามของเขารู้ว่ามีภูตคนอื่นชอบในสิ่งที่เขาสร้าง เขาจะต้องมีความสุขมากแน่ ๆ

 

พอหญิงสาวผู้มีนัยน์ตาสีชมพูได้ยินในสิ่งที่หลงเหยากล่าว นางก็ทำเพียงแค่ยิ้มแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อในหัวข้อนี้

 

หลังจากที่นางช่วยครอบครัวของหูเจียวเจียวเก็บของเสร็จก็เป็นเวลาเย็นแล้ว นางจึงขอตัวกลับบ้านไปก่อน

 

ส่วนหลงโม่ที่ส่งเนื้อแห้งไปให้หูหมินก็แบกผลไม้ 4-5 ถุงใหญ่ไว้บนหลัง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลไม้ที่หูหมินบังคับให้เขานำกลับมาด้วย

 

ชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขนของเหล่านี้มาทั้งหมด 

 

เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขนวัตถุดิบกลับไปให้มากมายนัก หูเจียวเจียวจึงเอาวัตถุดิบพวกนั้นมาทำอาหารเย็นสุดหรู

 

เมื่อเด็ก ๆ เห็นอาหารบนโต๊ะที่แม่จิ้งจอกทำ พวกเขาก็พากันมานั่งรอที่โต๊ะกินข้าวอย่างกระตือรือร้นและรอพ่อมังกรกลับมากินข้าวด้วยกัน 

 

ใช้เวลาไม่นานหลงโม่ก็กลับมาถึงบ้าน หูเจียวเจียวที่เห็นร่างสูงหอบผลไม้หลายถุงใหญ่เข้ามาในบ้านก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วเดินไปหาเขาพร้อมกับถามขึ้นด้วยความสงสัย “ทำไมเจ้าถึงเอาของกลับมามากมายขนาดนี้ ท่านแม่เป็นคนบอกให้เอามางั้นหรือ?”

 

มังกรหนุ่มพยักหน้าอย่างจนใจ หากเป็นคนอื่นเขายังสามารถปฏิเสธได้ แต่กับแม่ยายที่เอาใจใส่เช่นนี้ เขาทำได้เพียงแค่คล้อยตามเท่านั้น

 

เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นสีหน้าท้อแท้ของผู้เป็นสามี เธอก็รู้ว่าเขาต้องอดทนฟังเสียงจู้จี้จุกจิกของหูหมินไปมากก่อนจะถูกปล่อยตัวกลับมา ทำให้เธออดที่จะยิ้มไม่ได้ 

 

ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนว่าแม่ของเธอน่าจะเป็นคนแรกในหนังสือที่กล้าดุด่าวิพากษ์วิจารณ์เจ้าจอมวายร้ายคนนี้

 

“ขอบคุณที่ทำงานหนักนะหลงโม่/ลำบากเจ้าแล้ว เจ้าไปล้างมือก่อนเร็ว ข้าทำอาหารอร่อย ๆ ไว้เยอะเลย” เธอพูดขึ้นในขณะที่ดึงมือของคนตัวสูงให้ไปล้างมือ

 

“หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว วันนี้เราควรเข้านอนกันเร็ว ๆ พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางกลับเผ่าเฟิงโชวกันแต่เช้า”

 

หากออกเดินทางตั้งแต่ตอนเช้าก็อาจจะถึงเผ่าก่อนเที่ยง

 

ซึ่งแบบนี้จะทำให้ระหว่างเดินทางไม่ร้อนมากเพราะในช่วงเช้าแดดจะไม่แรงมากนัก

 

“ตกลง!” เด็ก ๆ ตอบรับพร้อมกัน

 

จากนั้นเหล่าเด็กตระกูลหลงต่างพากันไปล้างมือก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะอย่างเชื่อฟัง

 

หูเจียวเจียวเองก็เดินไปล้างมือด้วยเช่นกัน เสร็จแล้วจึงเดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร แต่ในขณะที่เธอกำลังจะนั่งลง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย

 

และสิ่งที่ตามมาก็คือความร้อนอุ่น ๆ ที่คุ้นเคย 

 

เมื่อหญิงสาวรู้สึกได้ถึงบางอย่าง ตัวของเธอก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ ก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

 

“เจียวเจียว เจ้าเป็นอะไรไป?” หลงโม่ที่ได้กลิ่นเลือดลอยมาในอากาศก็รีบวิ่งตามหลังภรรยาสาวไปด้วยความกังวลใจ

 

เจียวเจียวได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าร่างสูงตั้งท่าจะตามเธอเข้าไปในห้องน้ำด้วย เธอก็ตะโกนออกมาเพื่อห้ามปรามเขาทันที

 

“อย่าเข้ามา! ข้าไม่เป็นไร!”

 

“แต่เจ้าเลือดออก เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหน? ข้าขอดูหน่อย ข้าจะได้พาเจ้าไปหาหมอ ไม่สิ ข้าจะให้หลิงเอ๋อมารักษาเจ้า” มังกรหนุ่มที่หยุดอยู่หน้าประตูขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

 

จิ้งจอกสาวที่ได้ยินคำพูดของสามีหนุ่มก็รู้สึกปวดขมับขึ้นมาในทันใด

 

“ข้าไม่ได้บาดเจ็บ เจ้าไม่ต้องไปตามใครมานะ” เธออธิบายขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“แต่เจ้ามีเลือดออก!” ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลงโม่ไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับภูตคนอื่น จึงทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงน้อยมาก อีกทั้งเขายังไม่เคยเห็นหูเจียวเจียวมีท่าทางเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นในความคิดของเขาจึงเชื่อว่าการที่ภูตเลือดออกหมายความว่าเขาได้รับบาดเจ็บ

 

หญิงสาวหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้บาดเจ็บ ข้าแค่รู้สึกว่าระดูมา”

 

เป็นระยะเวลานานแล้วตั้งแต่ที่เธอทะลุมิติมายังโลกของภูต นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เธอมีประจำเดือน ทำให้เธอเกือบลืมไปว่าการมีประจำเดือนมันเป็นอย่างไร

 

“เป็นระดูงั้นหรือ?” ชายหนุ่มได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่ความคิดในหัวของเขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว

 

การเป็นระดูหมายความว่านางกำลังอยู่ในช่วงที่จะสามารถมีลูกได้ใช่หรือไม่?

 

“แต่ทำไมเป็นระดูถึงมีเลือดออก มันเจ็บมากหรือเปล่า? ถ้ามันทรมานมาก เราไม่เป็นระดูกันแล้วก็ได้” หลงโม่ที่มีสีหน้าวิตกกังวลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูปวดใจ

 

“…” หูเจียวเจียวพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

 

เขาพูดอย่างกับว่าฉันจะห้ามมันได้

 

ไม่ใช่ว่าเธอจะบังคับให้มันมาหรือไปเมื่อไหร่ก็ได้เสียหน่อย!

 

จิ้งจอกสาวหยุดพูดกับคนที่อยู่หน้าประตูแล้วหยิบชุดชั้นในที่สะอาดสะอ้านกับผ้าอนามัยออกมาจากมิติ ก่อนจะสวมมันแล้วเดินออกจากห้องน้ำอย่างสบายใจ

 

เมื่อมังกรหนุ่มที่ยังคงเฝ้าอยู่ข้างนอกเห็นภรรยาของตนเดินออกมา เขาก็รีบเข้าไปพยุงอีกฝ่ายไว้ “เจียวเจียว เจ้ารู้สึกอึดอัดหรือไม่?”

 

ในความคิดของเขา การที่ผู้หญิงมีเลือดออกเป็นเรื่องใหญ่มาก

 

“มันไม่อึดอัดหรอก เจ้าไม่ต้องกังวล นี่เป็นเรื่องปกติ ผู้หญิงทุกคนก็ต้องพบเจอเรื่องแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น” หญิงสาวส่ายหัวเมื่อเห็นท่าทางประหม่าของคนเป็นสามี ก่อนจะอธิบายให้เขาฟัง

 

เธอรีบวิ่งมาที่ห้องน้ำเพราะเป็นประจำเดือน เธอไม่ได้ป่วยหนักสักหน่อย

 

ร่างกายของเธอในตอนนี้ค่อนข้างแข็งแรง มีเพียงแค่อาการปวดท้องน้อย นอกนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงไหนอีก

 

สำหรับหูเจียวเจียวที่เคยทรมานจากการปวดประจำเดือนในโลกก่อน พอเทียบกับความเจ็บปวดที่เธอเจอ ณ ปัจจุบันมันดูเล็กน้อยมาก

 

ทว่าหลงโม่มีสีหน้าไม่เชื่อในคำพูดของเธอเลยสักนิด เขายังคงมองสำรวจภรรยาสาวด้วยสายตาจริงจัง

 

“ไม่ได้ เนื่องจากเจ้าอยู่ในช่วงเป็นระดู งั้นวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้เต็มที่ รอให้เจ้าหายดีก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง”

 

ชายหนุ่มคิดเพียงว่าหญิงสาวแกล้งทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้เขาเป็นกังวล 

 

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นจะต้องเลื่อนเวลากลับ อีกอย่างข้าก็เก็บของเรียบร้อยแล้วด้วย” หูเจียวเจียวพยายามอธิบายให้หลงโม่ฟังว่าตนปกติดี

 

แต่มังกรหนุ่มนั้นได้ปักใจเชื่อความคิดของตัวเองไปแล้ว

 

และไม่ว่าจิ้งจอกสาวจะพูดอย่างไรเขาก็ไม่ยอมออกเดินทางในวันพรุ่งนี้

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นท่าทีดื้อรั้นของสามี เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมอีกฝ่าย

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Right Reserved.